งูสวัด .. อสรพิษร้าย

นานแล้วนะครับ เหตุการณ์นี้ ผมเขียนไว้นานแล้ว แต่ทำภาพหายไปหมด เพิ่งรื้อมาเจอ เลยเอามาเล่าสู่กันฟังนะครับ .. ก็ตาม Topic เลยครับผม ใครได้เป็นสักครั้ง จะไม่ลืมอีกเลย .. มาว่ากันที่ตัวงูสวัด ก่อนนะครับ .. ว่ามันคืออะไร และเกิดมาจากอะไร ( ทั้งหมดเป็นความเข้าใจของผม ที่ได้จากการหาข้อมูล และได้พูดคุยกับหมอ เบื้องต้นนะครับ อาจจะไม่ครบถ้วนตามหลักวิชาการ ใครมีอะไร สามารถเสริมได้เลยนะครับ )

ขอ tag ห้องชานเรือน เพื่อให้คุณแม่ เห็นความสำคัญในการฉีดวัคซีนให้ลูกๆ ตั้งแต่เล็กๆ ด้วยนะครับ

งูสวัด เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซ้ำ ของ  เชื้องูสวัดที่ชื่อว่า varicella-zoster virus (VZV) ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในร่างกายทำให้เกิดตุ่มพองที่ผิวหนัง ปวดแสบร้อนมาก .. ไอ่ที่บอกกว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซ้ำเนี่ย มันซ้ำจากอะไร ???

สมัยเด็กๆ  หลายๆ ท่านน่าจะเคยเป็นอีสุกอีสัย กันมาก่อน เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีวัคซีน หรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ลำพังเป็นตอนนั้นก็ลำบากพอดู สมัยเด็กๆ ใครเป็นนี่ บอกได้เลย อาย มากกว่าเจ็บ ไม่กล้าออกจากบ้านกันหรอก ขนาดหายแล้ว เหลือแค่แผลตกสะเก็ด บางคนยังไม่กล้าออกเลย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่านั่นมันแค่เริ่มต้นครับ  งูสวัดเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า Hepes Varicella Zoster ซึ่งมันก็คือชนิดเดียวกับที่ทำให้เป็นอีสุกอีสัย พอเมื่อเราเป็นอีสุกอีสัยแล้ว เจ้าเชื้อตัวนี้จะไปซ่อนตัวเงียบๆ อยู่ที่ปมประสาทสันหลัง สะสมกองกำลัง รอวันที่จะกลับมาทวงคืนความเจ็บปวดอีกครั้ง ถ้าจะให้เปรียบเทียบแล้ว .. อีสุกอีสัยนี้เด็กๆ ไปเลยครับ เหมือนเป็นแค่เด็กเกเรคนนึง .. แต่พอโตขึ้น ไอ่เด็กเกเรคนนี้ มันพกมีด พกปืน ติดตัวมาด้วย  และมาจำนวนมากขึ้นอีก แล้วมันจะกลับมาเมื่อไหร่ ???

มันจะกลับมา .. ในเวลาที่เราร่างกายอ่อนเพลีย ภูมิคุ้มกันลดลง อดหลับอดนอน ซึ่งเป็นสภาวะที่ทำให้เชื้อ เพิ่มจำนวนมากขึ้น มากขึ้น สะสมไปเรื่อยๆ ถ้าเรายังแข็งแรงอยู่ มันยังสู้ไม่ไหว มันก็จะสะสมตัวเองต่อไปเงียบๆ อย่างอดทน ส่วนใหญ่จะใช้เวลานานเป็นสิบ ๆ ปี  จะพบมากในคนแก่ เพราะแก่บางคนจะมีภูมิต้านทานลดต่ำลงหรืออ่อนแอลง .. และในคนที่เป็นโรคเอดส์ ซึ่งเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก็จะทำให้มีโอกาสเป็นได้ง่าย เช่นกัน ทำให้เวลาเป็นงูสวัด ทางหมอ ก็จะแนะนำให้ตรวจเลือดควบคู่ไปด้วย

อาการก่อนที่จะเป็น ผมตามอ่าน .. จากหลายๆที่ บอกตรงๆ ในตอนที่มีอาการแรกเริ่ม ไม่มีใครจะรู้ว่าจะเป็นแน่นอน เพราะอาการหลายๆอย่าง เช่น เป็นไข้ ตัวร้อนรุมๆ ปวดเมื่อย ก็เป็นอาการทั่วๆไปที่เกิดได้จากหลายๆสาเหตุ แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกผิดปกติ จนเริ่มรู้สึกว่า ไม่ได้การละ คือ ตัวผม จะมีอาการปวดจี๊ด ในหูมาก ปวด แล้วหาย .. ชั่วโมงนึง จะมีอาการประมาณ ครั้ง สองครั้ง .. และเวลาปวดแต่ละครั้ง ต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่างที่ทำทันที เพราะปวดมากจริงๆ  รวมทั้งกล้ามเนื้อบริเวณปลายริมฝีปาก เริ่มมีอาการตึงๆ .. และกระตุกเป็นระยะ  เหมือนคนปากเบี้ยว ตอนนั้น เริ่มคันที่หนังศรีษะ และรู้สึกแสบบ้างแล้ว แต่ยังไม่เอ่ะใจ เพราะผมทำงานเกี่ยวกับพวกสารเคมี เลยคิดว่า อาจจะมีการแพ้ หรือ เกิดจากสารเคมี หรือเหงื่อ จากการทำงาน แต่ก็คิดแล้ว่าต้องไปหาหมอแล้วล่ะ ..



แล้วมันก็สายไป ... แค่คืนเดียว หลังจากตัดสินใจว่า พรุ่งนี้เช้าจะไปหาหมอ .. อาการมันก็ออกเร็วมากขึ้น เริ่มปวดแสบ ปวดร้อน เลยตัดสินใจโกนหัวก่อน เพื่อที่จะดูว่าเป็นอะไร คือตอนนี้เริ่มนอนไม่ได้เเล้ว เพราะแสบมาก เป็นการตัดผมที่ทรมานมาก คือดดนนิดเดียว แต่เจ็บมากๆ จากภาพถ้าสังเกตุดู จะเห็นชัดเจนว่า หัวแดงไปครึ่งนึงเลย ด้านขวา และมีตุ่มใสๆ เริ่มขึ้นแล้ว .. ตอนนั้นก็ยังไม่เอ่ะใจว่าคือ งูสวัด คือยังคิดว่าแพ้สารเคมีแน่ๆ .. ภาพด้านล่างขวา เกิดจากผู้หวังดี รุมเอาเข็ม มาเจาะตุ่มน้ำใสๆ ออก อย่างเมามันส์แล้วก็เอาเจนเชี่ยนไวโอเล็ท มาแต้ม .. อารมณ์ตอนนั้น นี่กุเป็นขี้เรื้อนเหรอนี่ T_T



วันนี้ .. ตัดสินใจไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลโรคผิวหนัง ราชเทวี คือตอนนี้ หัวม่วงไปครึ่งหัวแล้ว เข้าไป เด่นมาก มีแต่คนมอง .. วิเคราะห์ ตรวจเชื้อ สรุป เป็นงูสวัด บอกตรงๆ ตอนนั้น ดีใจนะ เพราะหาอ่านมาทั้งคืน อาการประมาณนี้ เป็นได้ 2 อย่างคือ เริม และ งูสวัด .. คือถ้าตรวจมาแล้วเป็นเริมนี่ ต้องร่ายยาวแน่ๆ เหอๆ ได้ยาทา และยากินมา สำหรรับประมาณ 10 วัน .. และแล้วคืนแรกที่ทายา ..ดูภาพเอาเอง นี่เองที่เค้าเรียกว่า หมาหัวเน่า ตั้งแต่วันนี้จนกว่าจะหาย ต้องนอนท่านี้ตลอด ซึ่งบอกตามตรง ตื่นขึ้นมา ปวดหน้าผากมาก อย่างกับไปโหม่งตะกร้อมาก่อนนอน ต้องกินยานอนหลับช่วย



อาการเริ่มเยอะขึ้น แล้วก็มีปัญหาตามมา .. ต้องตัดผมให้สั้นกว่านี้ เพราะเวลาทายา จะได้โดนที่ผิวหนังได้มากที่สุด ..  สังเกตุตอนนี้ได้ลามไปครึ่งหัวแล้ว เริ่มไปบริเวณหลังหู และสังเกตุว่าเจนเชี่ยนไวโอเล็ท มันไม่ได้ล้างออกง่ายๆ  



แผลเริ่มดีขึ้น  และเจนเชี่ยนก็เริ่มออกแล้ว แต่อาการปวดแสบปวดร้อน ยังไม่ลดลงไปเลย .. วันนี้ ต้องไปงานศพญาติผุ้ใหญ่แถวบ้าน ไม่ไปก็ไม่ได้ และ แน่นอน เมื่อเจอ คนเฒ่าคนแก่ ก็เกิดการสัมภาษณ์และแนะนำให้ไป พ่นยา เค้าว่าหายชัวร์ ผมก็อยากรู้ว่า มันเป็นยังไง เลยลองหาข้อมูลดู



ไปเจอคลิปนี้ พ่นยาแก้งูสวัด คือลำพัง ถ้าเป็นที่แขน ขา รึตัว ผมอาจจะไปนะ แต่นี่เป็นที่หัวไง แบบว่า พ่นมาทีนี่ เต็มหัวเต้มหน้าเลยนะ ลึงกินอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ เหมือนบ้วนปากแล้วมาพ่นใส่หน้าเลย -*- เลยตัดสินใจไม่ไปดีกว่า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

วันนี้ แผลเริ่มดีขึ้นมาก เริ่มแห้ง และตกสะเก็ดบ้างแล้ว  กินข้าวนอกบ้านได้แล้ว แต่ก็ยังคงต้องนอนโหม่งตะกร้ออยู่



แผลแห้ง .. เจนเชี่ยน เริ่มหมด



กลับบ้านได้ ..



สิ่งที่สงสัย ??? ผมว่า หลายๆ ท่าน น่าจะเคยได้ยินมาว่า ถ้าเป็นแล้ว มันพันรอบหัว รอบตัว อะไรก็ว่ากันไป ตายแน่ มันจริงมั้ย .. จากที่ผมหาข้อมูลมา ตัวโรค มันจะเกิดขึ้น เพียงด้านใด ด้านหนึ่งของร่างกาย เว้นแต่ถ้าคุณมีความต้านทาน หรือภูมิคุ้มกันต่ำมากๆ จนแพ้ตัวเชื้อ ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นทั้งสองด้าน หรือรอบร่างกายได้ ซึ่งมีโอกาส แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อยมาก ในผู้ป่วยเอดส์ ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก็มีน้อยที่เป็นทั้งสองด้านของร่างกาย ขอฟันธงว่า อันตรายมากแน่นอนถ้ามีรอบตัว เพราะแสดงให้เห็นว่าร่างกายของท่านอ่อนแอจนถึงขีดสุดแล้วครับ

จากประสบการณ์ครั้งนี้ .. บอกกับตัวเองเลย จะไม่ยอมเป็นอีกแล้ว ทรมานมาก ต้องกลับมาดูแลตัวเองอย่างหนัก นอนให้เร็ว พักผ่อนให้มาก หมอว่า ความเครียดเองก็มีผล ด้วยนะครับ ใครที่ชีวิตประจำวัน ไม่ค่อยได้ดุแลตัวเอง ยังไง หวังว่าสิ่งที่เล่าให้ฟัง จะเป็นประโยชน์ และทำให้หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้นนนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่