เหตุผลที่คุณเป็นคนเพื่อนน้อย ?

อยากทราบเหตุผลของคนที่เพื่อนน้อย ค่ะ รู้สึกเป็นปมด้อยบ้างมั้ย

ปล. ใครไม่สะดวกอ่านเรื่องยาวๆของเรา ข้ามไปตอบเลยก็ได้นะคะ ขอบคุณค่ะ

เม่าเหม่อ

ส่วนตัวเราเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงาน จันทร์ ถึง ศุกร์ ตอนนี้เพื่อนที่มีคือ

เพื่อนม.ปลาย
เพื่อนประถม
เพื่อน PARTY EDM
เพื่อนที่อยู่ชมรมวิ่งด้วยกัน
เพื่อนที่อยู่ออสเตรเลียด้วยกัน
เพื่อนที่ทำงานที่เคยทำกีฬาสีด้วยกัน แต่เราไม่ยักกะเป็นเพื่อนกับคนทำงานชั้นเดียวกัน

ปัญหามันอยู่ตรงนี้ เรารู้สึกว่าเรามีเพื่อนน้อยลง ในกลุ่มเพื่อนมหาลัย และ กลุ่มเพื่อนวัยเด็ก
เพื่อนมหาลัย เพื่อนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ทำธุรกิจส่วนตัวเดิมที อยู่กัน 30-40 คน ตอนนี้เหลือคบสนิทจริงๆแค่ 3-4 คน

ทั้งผู้หญฺิง ผู้ชายหลายคนเริ่มมีลูก ล่าสุดไปงานแต่ง เอาลูกมาเล่นกัน คุยเรื่องลูกกัน ถามว่าเราห่างมั้ย? ห่างแน่นอน
เพราะเราไม่มีผัว เลยไม่มีลูกไปเล่นกับเค้า แล้วก็ไม่ได้คุยเรื่องลูกกะเค้า ...

คุณเข้าใจอารมณ์ทุกคนคุยกันเรื่องเด็กมั้ย???
วัย 0-5 ขวบ ทั้งนั้นเลย

ตอนนี้ไม่ได้รวมตัวกันงานแต่ง ก็รวมกันงานวันเกิดลูกแทน
เราเองได้รับเชิญนะ แต่ไปเราก็ไม่สนุก ไม่รู้จะไปคุยอะไรกับใครเค้า

บางคนเมียท้องเค้าก็คุยเรื่องแพ้ท้อง ใครลูกออกมาแล้ว ก็มีปัญหาเรื่องพี่เลี้ยงใหม่ไม่ดีงั้นงี้
พี่เลี้ยงสกปรก พี่เลี้ยงชอบคุยแต่โทรศัพท์ บลาๆๆ

บางทีมีเรื่องลดน้ำหนักหลังคลอด เรื่องพัฒนาสมองของลูก เรื่องเล่นไอแพดไม่ดี เรื่องจะเอาลูกเข้าเรียนที่ไหน
ไปส่งลูกยังไง ใครไปรับ ลูกชั้นแพ้นมแล้วจะกินอะไร ลูกชั้นบางทีชอบอมข้าว

---------------------------------------------------

คือ .. เราอยากเจอเพื่อน แต่ตอนนี้เราไม่อิน

เม่าเซย์โน

เพื่อนมหาลัยที่โสด หรือเพื่อนที่เคยสนิทกัน ที่เลิกคบไปก็มี
อาจเป็นเพราะ ส่วนนึงเราเป็นคนโลกส่วนตัวสูงชอบความคล่องตัวอยากไปไหนไปเลยทำอะไรทำเลย ..
ถ้าเพื่อนจะนัดกัน นัดกันให้เสร็จก่อนแล้วบอกเราคนสุดท้ายก็ได้ ถ้าว่างคือไปไม่ว่างก็ไม่ไป

เคยคบเพื่อนบางคนที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
เช่น มีเพื่อนคนนึง ชีเยอะ เวลาจะไปไหนมักจะถามชีก่อน พอถามชี ชีบอกไงก็ได้
พอตกลงกันเสร็จ มาบอก ไม่เอา ไม่ไป เปลี่ยนที่นั่นที่นี่ เวลานั้นเวลานี้ ความแปลกคือ เพื่อนส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนตามชี กันซะด้วย

ถ้าถามว่าเราน้อยใจมั้ย เราไม่น้อยใจนะ เพียงแต่ พอเปลี่ยนแล้วเราอาจจะไปไม่ได้ ก็ไม่ได้โวยวายอะไร
แค่หายไปจากวงโคจร ทีละนิด ทีละนิด จน ห่างกับกลุ่มนั้นไปเลย ... แล้วเราก็เหนื่อยที่ต้องมานั่งตามใจคนอื่นตลอดเวลา
ไม่เหมือนสมัยเรียนที่ว่างๆ จะเอาเวลาไปเสียมากแค่ไหนก็ได้

วัยทำงานทุกคนก็มีอะไรต้องรับผิดชอบ อย่างเราเองไหนจะตื่นมา
ตีห้า ทำกับข้าว เอามากินที่ทำงานเพราะกินคลีน
หกโมงรีบออกจากบ้านมาลุ้นรถติด  เจ็ดโมงเข้ายิมออกกำลังกาย

แปดโมงครึ่งรีบแต่งตัวมาให้ทันเข้าทำงานเก้าโมง
เลิกงานห้าโมงกลับบ้าน ลุ้นฝน ลุ้นรถติด ถึงบ้าน เล่นกะหมา คุยกะแม่ มันก็หมดวันแล้ว

เสาร์อาทิตย์ จะได้เจอเพื่อนวิ่ง กับเพื่อนที่เคมี เข้ากันได้เป็นส่วนใหญ่ กับเพื่อนกลุ่มเก่าๆ เห็นเค้าไป สังสรรค์กันก็แอบเศร้าบ้าง
แต่ว่าเราก็ได้ค้นพบเพื่อนใหม่ที่เหมาะกับเราเหมือนกัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ให้กำลังใจกัน

----------------------------------------------------------

เพื่อนวัยเด็ก เล่นกันทุกวันตอนเด็ก มาแยกย้ายตอนเข้ามหาลัย
บางครั้งเราสงสัยนะว่าความยาวนานน่าจะทำให้เราสนิทกับเพื่อนมากขึ้นไม่ใช่เหรอ
ส่วนตัวมีเพื่อนกลุ่มที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เราเพิ่งเลิกคบเพื่อนคนนึง เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าไม่ชอบเราที่ตรงไหน

แต่รู้สึกได้ เพราะเพื่อนคนนี้ไม่เคยชื่นชมอะไรเราเลย คือคนเราเป็นมิตรกัน ไม่ชมกันไม่ว่า แต่ ด่า อย่างเดียว เราว่ามันไม่โอเค
ช่วงสามสี่ปีหลังนี่เป็นหนัก กับเพื่อนกลุ่มอื่นเค้าก็เป็น

โดยปกติเราจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวใคร เรารู้สึกว่า ยิ่งโตต้องยิ่งระวังคำพูด
ดังนั้นเรื่องที่ออกจากปากก็ควรจะมีแต่เรื่องดีดี
หากจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีหรืออกแนวติเตียน ก็มักติเตียนเมื่อเพื่อนขอคำปรึกษา
ไม่ใช่ยื่นปากไปติเตียนในทุกๆเรื่อง ของเพื่อน

ไม่ว่าเราจะพูดอะไรจะทำอะไรต้องค้านตลอด ต้องย้อนตลอด เราก็ได้แต่เงียบๆ ไป
และเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เราเลยตัดสินใจ ลีฟกรุ๊ป บางครั้งการลีฟกรุ๊ป ก็เหมือนกับเราไม่ได้อยู่กลุ่มนี้อีกต่อไป

ถามว่าเสียใจมั้ยเพราะนี่คือเพื่อนวัยเด็กของเรา เราก็เสียใจนะ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า
คนเราเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเสมอ เพื่อนวันนี้ บางคนเค้าก็นิสัยเหมือนวัยเด็กที่เล่นกับเราตอนอายุ 12

ในขณะที่บางคนเปลี่ยนไปจนเราสงสัยว่านี่เราเป็นเพื่อนกันมายี่สิบปี จริงๆเหรอ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 105
-อยากทราบเหตุผลของคนที่เพื่อนน้อย ค่ะ รู้สึกเป็นปมด้อยบ้างมั้ย?

-ไม่รู้สึกเลยค่ะว่ามีปมด้อย

อยู่มาหลายปีไม่เคยมีเพื่อนสนิทเลย เคยมีตอนเรียนนะแต่เค้าอาจจะชอบเราแต่เราไม่ได้คิดว่าคือสนิทมากในใจ พอเรียนจบก็หายกันไปไม่เคยคุย เราเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจใครยกเว้นครอบครัวนะ เพราะเราคิดเสมอว่า ครอบครัวอย่างไรก็รักเราและเค้าก็หวังดีกับเรา แต่เพื่อนเนี่ยมันไม่ใช่ เมื่อทะเลาะกันโกรธกันมันสามารถตัดและเป็นปัญหามากกว่าคนในครอบครัวที่อย่างไรเค้าก็ให้อภัยเราเสมอ เราว่าเราได้ความรักและความอบอุ่นสบายใจไม่หักหลังไม่ทอดทิ้งทุกอย่างก็คือพ่อแม่ครอบครัวคนที่รักและเข้าใจเรามากที่สุดเราพอใจแล้วหล่ะ ไม่จำเป็นต้องคบเพื่อนเพื่อมาแทนหรือมาให้ความรักอีก เพราะเมื่อไม่พอใจกันเพื่อนก็คนอื่นและสุดท้ายเค้าก็ต้องเลือกและรักตัวเองมากกว่าที่จะมายอมเราแบบครอบครัวพ่อแม่ เราเลยไม่เคยสนใจเพื่อนเลย มีได้นะเพื่อนผ่านๆคุยๆแต่ไม่ให้ความสนิทมาก แต่บางครั้งเราก็ใจดำไปด้วยความที่เป็นแบบนี้ทำให้เราเสียเพื่อนและคนที่อยากเป็นเพื่อนเราไป แต่ก็ไม่เป็นไรเรามีคนที่รักเราพ่อแม่ครอบครัวแค่นี้ก็พอและดีที่สุดแล้วหล่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เราอายุ ปีนี้ก็ 32 แล้ว ยังไม่มีเพื่อนสนิทเลย มีแต่คนพูดคุยกันผ่านๆ
ที่ทำงานก็มีแต่ที่เรียกว่า คนที่ทำงาน
ตอนสมัยเรียน จบแล้วไม่ไม่ได้มีใครติดต่อมา เราก็ไม่ได้ติดต่อใคร ถ้าเจอทักก็คุยกัน ไม่ทักกันก็ปล่อยเลยไป

มีอยู่คนเดียว เป็นหลายอย่างเลย
ผู้ชายคนนี้ เป็นเพื่อน เป็นสามี เป็นที่ปรึกษา เป็นคนรับใช้ เป็นที่รับฟัง เป็นผู้ปกครอง เป็นพ่อของลูก

สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ คนก็เปลี่ยนตาม เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

เสียใจไหมที่ไม่มีเพื่อน ก็มีบ้างนะ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ เพราะพึ่งตัวเองเป็นหลักอยู่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 2
เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ค่อยเข้าหาใครก่อน
ความคิดเห็นที่ 5
ต้องนิยามคำว่า "เพื่อน" ก่อนค่ะ

แต่ละคนนี่ ให้นิยามไม่เหมือนกันนะ
ของดิฉัน "เพื่อน" มีน้อย (เน้นคุณภาพ มากกว่าปริมาณ อมยิ้ม16) แต่เพื่อนร่วมงานและคนรู้จักมีเยอะค่ะ (เพราะโดยอาชีพ เป็นแม่ค้าค่ะ)

"เพื่อน" ไม่ต้องพบกันบ่อย ไม่ต้องโทร.หาถี่ๆ แต่สบายใจที่ได้คบหากัน และทั้งเราทั้งเขาต่างเป็นตัวของตัวเอง
ถ้าเพื่อนคนไหน เป็นคนแสนงอน น้อยใจเก่ง  ต้องการคนมาคอยเอาใจใส่ดูแลบ่อยๆ ก็จะถอยห่างจากดิฉันไปโดยปริยาย
ที่เหลือคบกันก็เป็นพวกสายโหดเหมือนๆกันค่ะ เม่าอดีต

ส่วนหนึ่งที่เราเพื่อนน้อย เพราะไม่นิยมการพูดถึงบุคคลที่สามในแง่ไม่ดีค่ะ และรังเกียจการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ดังนั้นในหมู่ชนที่ชอบใช้เวลาว่างในการคุยเล่นเจรจาเรื่องของผู้อื่นมากเกินไป  จึงเข้ากันไม่ได้โดยสิ้นเชิง (สมัยทำงานบริษัท มีเยอะมากกกกกก) ผมจะไม่ยุ่ง
ความคิดเห็นที่ 4
เราก็เป็นคนนึงที่มีเพื่อนน้อย
จะบอกว่าไม่มีเพื่อนสนิทเลยก็พูดได้
เหตุผลที่เราไม่ค่อยมีเพื่อน
น่าจะเป็นเพราะเราเองในวัยเด็ก ย้ายโรงเรียนบ่อย
และเป็นเด็กเรียนเร็ว คือเข้า ป 1 ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่น เขาเข้าตามเกณฑ์ จะมีอายุมากกว่าเรา 2 ปี
เลยกลายเป็นน้องเล็กของห้อง พูดอะไรกะเขาไม่รู้เรื่อง  
และมักจะถูกเพื่อนๆ ในกลุ่มใช้ให้ทำโน่นนี่ ตลอด
รวมทั้งการขอยืมเงินแล้วไม่คืน เราก็ไม่กล้าทวงด้วย
หรือเวลามีปัญหากันในกลุ่ม เรามักจะเถียงไม่ทัน กลายเป็นลูกไล่เขาตลอด
จนตอนหลังกลายเป็นคนขี้เกียจคบใคร
ยิ่งตอนทำงานเราค่อนข้างบ้างาน
ไม่มีเวลาไปสังสรรค์กะใคร

อีกอย่างนึงคือ เรามีแม่ที่เป็นเหมือนเพื่อนที่รับฟังและให้คำแนะนำดีๆในชีวิตเสมอ
ท่านเป็นคนฉลาด มีจิตวิทยา เราใกล้ชิดกันมากจน เรากล้าเล่าทุกเรื่องให้แม่ฟัง
แม้กระทั่งเรื่องความรัก

เลยทำให้เราไม่ต้องการเพื่อนมากเท่าไหร่
เพราะมีแล้วคือแม่เราเองและพี่ๆน้องๆเราเอง

รู้สึกไม่เป็นปมด้อยเลย
เราชอบไปไหนมาไหนคนเดียวจนชิน
ตัดสินใจคนเดียว มีความสุขดี
ไปดูคอนเสริทคนเดียว ไปเที่ยว ตปท คนเดียว
สบายมาก
ความคิดเห็นที่ 29
วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้ คือ "อยากทราบเหตุผลของคนที่เพื่อนน้อย ค่ะ รู้สึกเป็นปมด้อยบ้างมั้ย"

ตอบ.. ไม่รู้สึกเป็นปมด้อยแต่อย่างใด

1. เพราะรู้ตัวว่าเป็นคนนิสัยแปลกไม่เหมือนใคร
แต่ก็มีความสุขดี ไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร
และไม่คิดจะให้คนอื่นเปลี่ยนเพื่อให้มายอมรับในตัวเรา
แฟร์ๆ กันไปทั้ง 2 ฝ่าย
ไม่ต้องมีใครทนใคร เพราะอย่าลืมว่า ในขณะที่เราคิดว่า
... ต้องทนคนอื่น ก็มีคนอื่นเยอะเหมือนกันที่ต้องทนเรา..


2. คำว่า "เพื่อน" ของเราต่างกับคำว่า "คนรู้จัก" มากๆๆ
เพื่อนสำคัญกับเรามาก เรียกว่า ใจให้กันสุดๆ ฉะนั้นจะสกรีนมาเต็มที่แล้ว
เน้นคุณภาพ ไม่ได้เน้นปริมาณ

และเป็นเพื่อนกันก็ไม่ได้ต้องตัวติดกันตลอดไป ทุกคนยังมีชีวิตของตัวเองไปตามประสา
แต่ถ้าเมื่อใด ถึงจังหวะว่า ...เฮ้ยยย ได้เวลากระโถน+ทิชชู่ทำงานด่วน!!!...
แบบนี้ก็ได้เวลาร่วมตัวเหล่าเพื่อนฝูงทันที

เอาตรงๆ นะ เวลานัดเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งไรงี้ เพื่อนไม่ค่อยครบหรอก
...ก็มันมีความสุขกันอยู่แล้วนี่ ไม่มีเราให้ครบคน มันก็ยังสุขกันได้..
แต่ถ้าเพื่อนเข้า ICU หรือ พ่อแม่เพื่อนไปวัดแล้วละก็ .. มากันครบ! ตัวไม่มาก็ Live Chat มา!!


ฉะนั้น เมื่อยังมีความสุขดีกับแนวทางในข้อ 1 และ ข้อ 2 ก็ไม่ต้องมีปมด้อยค่าแต่อย่างใด

แต่ถ้ารู้สึกว่า "ไม่สุข" เสียแล้ว คุณก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้ากับคนอื่น
เพราะมันง่ายกว่าจะเรียกร้องให้ใครมาเปลี่ยนเพื่อคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่