ในการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนี้ เราจะได้ยินข้อมูลข่าวสารหรือคำศัพท์ต่างๆอยู่มากมาย
บ้างก็เป็นศัพท์แสลง บ้างก็เป็นตัวย่อ บ้างก็เป็นศัพท์เชิงวิชาการในทางการเงิน
ซึ่งข้อมูลหรือคำศัพท์เหล่านี้มีอยู่มากมาย จึงต้องทำการรวบรวมเข้ามา
เพื่อให้มือใหม่อย่างเราได้เรียนรู้ เข้าใจ และคุ้นเคยคำศัพท์เหล่านี้ในเบื้องต้นก่อน
ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้
ที่จะไปสู่การปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากมีข้อผิดพลาดประการใด จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย......

เม่า – เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มนักลงทุนรายย่อย โดยเปรียบเปรยเสมือนหนึ่ง
นักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆเป็นแมงเม่าที่เห็นแสงสี เห็นแสงไฟ เป็นไม่ได้
ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมตลอด และก็เจ็บตัวกันทุกราย

หรั่ง – มาจากคำว่า ฝรั่ง หรือ ชาวต่างชาติ เป็นคำที่ใช้เรียกแทน กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ
กอง – เป็นคำที่ใช้เรียกแทนกลุ่มกองทุน
ปอบ – มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Prop Trade เป็นคำที่ใช้เรียกแทน กลุ่มบัญชีหลักทรัพย์

ตลาดหมี – เป็นคำที่ใช้เรียกแทนบรรยากาศของตลาดที่ซบเซา หรือเป็นขาลงนั่นเอง
ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่า Bear Market
ตลาดกระทิง – เป็นคำที่ใช้เรียกแทนบรรยากาศของตลาดที่กำลังคึกคัก รุ่งเรือง หรือเป็นขาขึ้น
ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่า Bull Market

ขายหมู – เป็นคำที่ใช้ตัดพ้อกับตัวเอง ถึงการที่ได้มีการขายหุ้นตอนที่ยังมีกำไรอยู่เล็กน้อยออกไปก่อน
แต่ปรากฏว่าหุ้นตัวที่ขายไปนั้น พุ่งทะยานขึ้นไปสุดขีด ทำให้เราสูญเสียกำไรที่น่าจะได้นี้ออกไป
หรือจะเรียกง่ายๆว่า ขาดทุนกำไรก็ได้
ซื้อควาย - เป็นคำที่ใช้ตัดพ้อกับตัวเอง ถึงการที่ได้มีการซื้อหุ้นที่กำลังร้อนแรง ทะยานขึ้นอย่างสวยงาม
แล้วอยู่ดีๆราคาหุ้นก็ร่วงลงมาหลังจากที่เราซื้อหุ้นตัวนั้นไป

ติดดอย – เป็นอาการของนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นไปแล้ว ปรากฏว่าหุ้นตัวนั้นราคาร่วงลงไปอีก
ทำให้ราคาที่ซื้อมาเป็นราคาที่สูงเกินไป จนรู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บของการได้อยู่บนดอย

รอรถ – เป็นคำที่ให้กำลังใจตัวเองของกลุ่มที่ติดดอย
โดยมีความหวังลึกๆว่าราคาหุ้นจะกลับมาสู่ราคาเดิมที่มีราคาที่สูงอยู่นี้อีกครั้ง
ซึ่งกลุ่มที่ติดดอยจะคอยรถมารับเพื่อลงดอยนั้น ก็คือการรอให้ราคาหุ้นกลับมาเท่าราคาเดิมนั่นเอง

ตกรถ – เป็นอาการของนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นที่ร้อนแรงหรือกำลังพุ่งขึ้น ไม่ทัน
และ รู้สึกเสียดายกับความล่าช้าของตัวเอง เลยอยู่ในอาการเหมือนคนตกรถรอบสำคัญ

ลิ่ง – เป็นคำที่ใช้เรียกกันย่อๆจากภาษาอังกฤษในคำว่า Ceiling
ซึ่งหมายถึง การที่ราคาหุ้นบางตัวได้มีการขึ้นไปที่จุดสูงสุดของเพดานราคาที่กำหนดไว้  
(โดยมีการกำหนดให้ราคาหุ้นที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดปกติแต่ละตัวนั้น จะมีราคาที่สูงเกิน 30% ของราคาปิดในวันก่อนหน้าไม่ได้ )

ฟอร์– เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำจากภาษาอังกฤษในคำว่า Floor
ซึ่งหมายถึง การที่ราคาหุ้นบางตัวได้ลดลงไปที่จุดต่ำสุดของราคาที่กำหนดไว้  
(โดยมีการกำหนดให้ราคาหุ้นที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดปกติแต่ละตัวนั้น จะมีราคาที่ต่ำกว่า 30% ของราคาปิดในวันก่อนหน้าไม่ได้)

จ้าวลาก– เป็นคำที่อธิบายถึงว่า มีนักลงทุนรายใหญ่หรือกลุ่มบางกลุ่มได้เข้ามารับซื้อหุ้นในราคาต่างๆ จนกระทั่งราคาหุ้นตัวนั้นก็วิ่งสูงขึ้นไป
จ้าวทุบ - เป็นคำที่อธิบายถึงว่า มีนักลงทุนรายใหญ่หรือกลุ่มบางกลุ่มได้เข้ามาขายหุ้นในราคาต่างๆ จนกระทั่งราคาหุ้นตัวนั้นต่ำลงไป
กระสุน – คือคำที่ใช้แทนเงินหรือวงเงินในบัญชีหลักทรัพย์ที่เหลืออยู่  
กระสุนหมด จึงเป็นคำบอกเล่าที่ใช้ในตอนที่ราคาร่วงลงไปได้ ตามที่เราต้องการแล้ว แต่เราไม่เหลือเงินที่จะซื้ออีก

วีไอ – เป็นตัวย่อมาจากคำว่า Value Investor คือนักลงทุนที่เน้นคุณค่าจากการลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตที่ดี
ปันผลอย่างต่อเนื่อง หรือหุ้นที่มีพื้นฐานของกิจการที่ดี กลุ่มนักลงทุนเหล่านี้จะมีการวิเคราะห์กิจการอย่างรัดกุม
ก่อนที่จะมีการตัดสินใจลงทุน และจะลงทุนในระยะยาวเป็นหลักเสมือนหนึ่งว่าเข้าซื้อหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ
นักลงทุนกลุ่มนี้จึงไม่ค่อยตื่นตระหนกต่อการขึ้นลงของราคาหุ้นมากนัก
เทคนิค – เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มนักลงทุนที่วิเคราะห์การลงทุนโดยอาศัยเครื่องมือในการคำนวณ การอ่านกราฟ
เพื่อดูทิศทางและจังหวะของตลาด ก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้จะลงทุนในระยะสั้นเป็นหลัก
และการขึ้นลงของราคาหุ้นจะมีผลต่อนักลงทุนกลุ่มนี้มาก

ปอด – เป็นคำที่ใช้เรียกแทน Portfolio หรือบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เรามีการเปิดไว้ เพื่อใช้ในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
เต็มปอด – เป็นคำที่แสดงถึงการซื้อหุ้นเก็บไว้ใน Portfolio แบบเต็มวงเงินที่จะสามารถซื้อได้
ล้างปอด – เป็นคำที่แสดงถึงการขายหุ้นที่มีอยู่ใน Portfolio ออกไปทั้งหมด

         เมื่อเราได้เห็นและเข้าใจคำศัพท์มาบ้างแล้วพอสมควร
คราวนี้เรามาลองผสมคำเหล่านี้ให้อยู่ในประโยคที่คนส่วนใหญ่จะพูดกัน
หรือที่จะออกเป็นข่าวคราวในโลกโซเชียลมาให้เราได้อ่านกัน
ซึ่งหากนักลงทุนท่านใดฟังประโยคพวกนี้แล้วเข้าใจ ท่านก็ไม่ถือว่าเป็นมือใหม่ในวงการแล้วละครับ
ยิ่งถ้าท่านนำคำศัพท์เหล่านี้ไปรวมในประโยคเพื่อสื่อสารกับท่านอื่นได้
ท่านจะดูเป็นนักลงทุนมืออาชีพผู้คร่ำหวอดในวงการเลยทีเดียว

วันนี้กระทิงดุ พรุ่งนี้ระวังโดนหมีตบกันนะ – เป็นสถานการณ์ของทิศทางหุ้นขึ้นอย่างแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
จึงมีการเตือนกันว่า ระวังวันรุ่งขึ้นหุ้นก็จะร่วงลงมาแบบไร้เหตุผลเหมือนกัน

อยู่บนดอยหนาวจุงเบย รอรถมารับนานมาก – เป็นสถานการณ์ที่มีการซื้อหุ้นในราคาที่สูงไว้มานานมากแล้ว
แต่ราคาหุ้นร่วงลงทุกวัน และไม่มีแนวโน้มที่จะดีดกลับมาที่ราคาเดิม

เฮ้ย! หุ้นตัวนั้นเจ้าลาก จนลิ่งเลยว่ะ – เป็นการบอกถึงสถานการณ์ที่หุ้นบางตัว
มีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาซื้อที่ราคาต่างๆ จนราคาขึ้นไปสูงจนถึงเพดานราคาที่กำหนดไว้
(ราคาขึ้นไปไม่เกิน 30% ของราคาปิดวันก่อนหน้า)

อากาศวันนี้แจ่มใสมาก จัดซะเต็มปอดเลย – เป็นสถานการณ์ในการที่นักลงทุนดูแล้วว่า
บรรยากาศในการลงทุนกลับมาคึกคักอีกครั้ง จึงได้ทำการเข้าซื้อหุ้นเต็มวงเงินในบัญชีที่สามารถซื้อได้

ล้างปอดทัน ไม่งั้นโดนจ้าวทุบกระหน่ำ – เป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนตื่นตระหนก หรือได้รับข่าวสารที่ไม่ดีมา
จึงได้ทำการขายหุ้นทั้งหมดที่มีออกไปก่อนที่ราคาหุ้นจะร่วงลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้

หรั่ง ปอบ กอง รวมตัวกันรุมเม่า – เป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนทั้งสามกลุ่มเข้าทำการซื้อหรือขายสุทธิเหมือนกันในวันเดียวกัน
ซึ่งการซื้อหรือขายสุทธินั้น ตรงกันข้ามกับนักลงทุนรายย่อยทั่วไป

ขายหมู มาซื้อควาย – เป็นสถานการณ์ที่หดหู่ใจยิ่งนัก โดยการที่เราเห็นว่าหุ้นที่ถืออยู่มีกำไรแล้วเล็กน้อย
และหุ้นไม่ค่อยขยับเท่าไรนัก จึงตัดสินใจขายหุ้นตัวนี้ออกไป เพื่อไปซื้อหุ้นอีกตัวที่กำลังมาแรง
มีการซื้อขายกันอย่างหนาแน่น แต่ปรากฏว่าหุ้นตัวที่เราขายไปนั้น ราคาสูงขึ้นไปอีก
แต่หุ้นตัวใหม่ที่เราซื้อมาใหม่นี้ ราคาร่วงลงทันที

พวกเทคนิคติดดอยจะบอกว่าเป็นวีไอ – นักลงทุนทางทางเทคนิค
จะวิเคราะห์กราฟและเครื่องมือทางการคำนวณต่างๆในการซื้อหุ้น
เมื่อราคาไม่เป็นไปตามที่มีการวิเคราะห์ และราคาหุ้นก็เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างแรงด้วย
กลุ่มนักลงทุนพวกนี้ก็จะบอกว่า ตนเองเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่า
ซึ่งอาจต้องลงทุนหรือถือครองหุ้นตัวนี้ในระยะยาวต่อไป