ผมว่าคุณพิชัย เค้าไม่เข้าใจคำว่าทฤษฏีกับสมมุติฐาน
ที่จะเรียกทฤษฏีได้ต้องมีหลักการที่ตรวจสอบได้ว่าเป็นไปตามสมมุติฐานอย่างสม่ำเสมอจึงจะยกเป็นทฤษฏีได้
จะลองยกตัวอย่างขึ้นมาอีกตัวอย่างนึง สมมุติว่ามีหุ้น EO (อีโอ) เข้าตลาดมาในราคาหนึ่งบาท
ครึ่งปีผ่านไปอีโอยอดขายโตห้าเปอร์เซ็นต์ ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปหน่อย สมมุติว่า เป็น ๑.๐๕ บาท
หากมีใครขายออกมาก็กำไรห้าเปอร์เซ็นต์ ต่อมาพอครบปี ยอดขายเติบโตอีก ห้าเปอร์เซ็นต์
แถมมีปันผลอีกหุ้นละสิบสตางค์ สมมุติว่าราคาตลาดเป็น ๑.๑๐ บาท ใครที่ขายออกมาก็กำไร
แถมยังรับปันผลอีก ถ้าหุ้น อีโอ ตัวนี้โตสม่ำเสมอและมีปันผลสม่ำเสมอ ผู้ที่ถือหุ้นทุกๆคนจะไม่
มีคำว่าขาดทุนเลยครับ หรือหากขาดทุนก็มีเป็นส่วนน้อยมากอาจจะเป็นไปได้ช่วงที่ซื้อในราคาสูงๆ
แต่หากถือต่อไปเรื่อยๆและหุ้นเติบโตไปเรื่อยๆ ทุกๆคนที่ถือหุ้นตัวนี้จะได้ผลประโยชน์ทั้งหมด
ผมขอยกตัวอย่างหุ้นของจริงในตลาดฯตัวนึงซึ่งในช่วงหลายๆปีมานี่มีปันผลสม่ำเสมอและส่วนใหญ่ผถห
ตัวนี้ทำกำไรคือหุ้น SENA เหตุที่หุ้นตัวนี้ทำกำไรให้กับแทบทุกคนที่ถือก็เพราะหุ้นตัวนี้มีปันผลเกินกว่า
สี่ห้าเปอร์เซ็นต์ต่อปีและเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นสมมุติฐานของคุณพิชัยไม่น่าจะตั้งเป็นทฤษฏีผลประโยชน์ได้
เพราะเห็นได้ชัดEว่าใช้ไม่ได้กับหุ้นที่ลักษณะแบบนี้
ดังนั้นสมมุติฐานของคุณพิชัย จาวลา ไม่ใช่ทฤษฏี และใช้ไม่ได้แน่ๆกับหุ้นที่มีการเติบโตสม่ำเสมอและมีปันผล
สม่ำเสมอนะครับ
QED
ทฤษฏีผลประโยชน์ของคุณพิชัย สมมุติฐานที่พิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่ทฤษฏี
ที่จะเรียกทฤษฏีได้ต้องมีหลักการที่ตรวจสอบได้ว่าเป็นไปตามสมมุติฐานอย่างสม่ำเสมอจึงจะยกเป็นทฤษฏีได้
จะลองยกตัวอย่างขึ้นมาอีกตัวอย่างนึง สมมุติว่ามีหุ้น EO (อีโอ) เข้าตลาดมาในราคาหนึ่งบาท
ครึ่งปีผ่านไปอีโอยอดขายโตห้าเปอร์เซ็นต์ ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปหน่อย สมมุติว่า เป็น ๑.๐๕ บาท
หากมีใครขายออกมาก็กำไรห้าเปอร์เซ็นต์ ต่อมาพอครบปี ยอดขายเติบโตอีก ห้าเปอร์เซ็นต์
แถมมีปันผลอีกหุ้นละสิบสตางค์ สมมุติว่าราคาตลาดเป็น ๑.๑๐ บาท ใครที่ขายออกมาก็กำไร
แถมยังรับปันผลอีก ถ้าหุ้น อีโอ ตัวนี้โตสม่ำเสมอและมีปันผลสม่ำเสมอ ผู้ที่ถือหุ้นทุกๆคนจะไม่
มีคำว่าขาดทุนเลยครับ หรือหากขาดทุนก็มีเป็นส่วนน้อยมากอาจจะเป็นไปได้ช่วงที่ซื้อในราคาสูงๆ
แต่หากถือต่อไปเรื่อยๆและหุ้นเติบโตไปเรื่อยๆ ทุกๆคนที่ถือหุ้นตัวนี้จะได้ผลประโยชน์ทั้งหมด
ผมขอยกตัวอย่างหุ้นของจริงในตลาดฯตัวนึงซึ่งในช่วงหลายๆปีมานี่มีปันผลสม่ำเสมอและส่วนใหญ่ผถห
ตัวนี้ทำกำไรคือหุ้น SENA เหตุที่หุ้นตัวนี้ทำกำไรให้กับแทบทุกคนที่ถือก็เพราะหุ้นตัวนี้มีปันผลเกินกว่า
สี่ห้าเปอร์เซ็นต์ต่อปีและเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นสมมุติฐานของคุณพิชัยไม่น่าจะตั้งเป็นทฤษฏีผลประโยชน์ได้
เพราะเห็นได้ชัดEว่าใช้ไม่ได้กับหุ้นที่ลักษณะแบบนี้
ดังนั้นสมมุติฐานของคุณพิชัย จาวลา ไม่ใช่ทฤษฏี และใช้ไม่ได้แน่ๆกับหุ้นที่มีการเติบโตสม่ำเสมอและมีปันผล
สม่ำเสมอนะครับ
QED