ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีพี่น้องชาวพันทิปทุกคนนะคะ ^^

เป็นครั้งแรกเลยที่เรา(ขอแทนตัวเองแบบนี้แล้วกันนะคะ จะได้รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น) สมัครสมาชิกเพื่อมาเขียนกระทู้แรกของตัวเองในพันทิป ถ้าจะให้พูด จริงๆก็แอบเป็นแฟนคลับพันทิปมานานพอดู แต่ก็เป็นเพียงผู้อ่านทั่วไปที่ใช้พันทิปในการติดตามเรื่องดราม่าต่างๆ ตามกระแสเรื่อยเปื่อย (แต่ครั้งนี้ขอลองเป็นคนเขียนกระทู้มั่ง ให้ความรู้สึกตื่นเต้น แปลกๆ ยังไงไม่รู้ 5555)
ก่อนจะเข้าเรื่องว่าเป็นมายังไง ทำไมถึงเพิ่งจะมาจริงจังในการลดน้ำหนักและเปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเค้าคนนั้นยังไง เราก็ขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองสักเล็กน้อย แล้วก็ประสบการณ์ลดน้ำหนักที่ผ่านมาให้ทุกคนฟังก่อน เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับทุกคนแล้วกันนะคะ
ปัจจุบันอายุ 22 ปี เป็นคนรูปร่างใหญ่ สูง 171 หนัก 100 กิโลกรัม ผิวคล้ำ ไม่ได้หน้าตาดีแต่ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียด กำลังเรียนอยู่มหาลัยปีที่3 แล้ว บุคลิกเป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง เข้ากับคนได้ง่าย มีเพื่อนรู้จักพอสมควร (อาจจะด้วยขนาดตัวที่ไปไหนก็มีแต่คนจำได้ 555) แต่ก็ไม่ใช่คนโดดเด่นอะไร การที่เรามักจะเป็นตัวโจ๊กคอยสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆในกลุ่มเสมอ ทำให้เราเป็นที่รักของเพื่อนๆ(ผู้หญิง) เราไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้ชายที่มีส่วนมากก็ไม่ใช่ชายแท้ อาจจะเป็นเพราะเรามีนิสัยชอบเขินคนที่เป็นเพศตรงข้าม เวลาเจอผู้ชายแปลกหน้า หรือเพื่อนผู้ชายที่ไม่สนิทด้วย เราก็จะไม่กล้าสบตาหรือคุยด้วย เวลาเขินก็ชอบทำหน้าโหดๆ ขรึมๆ ด้วยมั้ง เลยทำให้ใครก็ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วยเพราะกลัว5555 ยกเว้นว่าถ้ารู้จักกันมาแล้วประมาณนึง เราถึงจะสามารถคุยแบบเป็นกันเองด้วยได้
ชีวิตเราโดยรวมแล้วก็มีความสุขดี มีเพื่อนดี ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ มหาลัยที่ชอบ เราแฮปปี้กับทุกอย่างที่เป็นอยู่ ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวคือ เราไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาของเราเท่าไหร่ พูดง่ายๆ ก็คือ เราไม่ชอบที่เราอ้วนการเป็นคนอ้วนทำให้เรารู้สึกแตกต่างจากคนทั่วไป บางครั้งเราก็มักจะคิดติดลลบว่าผู้คนมักจะเลือกปฎิบัติกับเราเพียงเพราะว่าเราอ้วน ส่งผลทำให้เรารู้สึกเครียดกับความอ้วน และรูปร่างหน้าตาของเราเป็นประจำ
เพราะแบบนี้ทำให้เราตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งถ้าทุกคนเห็นน้ำหนักปัจจุบันของเรา ก็ต้องรู้แน่นอนว่าประสบการณ์การลดน้ำหนักที่ผ่านมาของเราคงต้องล้มเหลวแน่นอน... แต่ถึงอย่างนั้นเราก็อยากจะขอเล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักของเราให้ทุกคนได้ฟัง...
ครั้งแรกที่เราตัดสินใจลดน้ำหนักคือช่วงม.ต้น เหตุผลที่เราตัดสินใจลดน้ำหนักก็คือ ในตอนนั้นเรากำลังแอบชอบเพื่อนคนนึงอยู่ เราชอบเขาในขณะที่เรายังเป็นเด็กผู้หญิงอ้วนๆดำๆคนหนึ่ง น้ำหนักตอนนั้นอยากจะบอกว่ามากกว่าน้ำหนักปัจจุบันถึง15 กิโลกรัม ใช่แล้วตอนนั้นเราหนัก 115 กิโลกรัม ...แน่นอนว่า ไม่มีทางที่เขาจะมาสนใจเรา...สัมผัสได้ถึงการแห้วตั้งแต่ยังไม่ได้บอกชอบ... โชคดีที่ช่วงนั้นใกล้ปิดเทอม เป็นโอกาสดีที่เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราเลยได้โอกาสเริ่มปฏิบัติการลดน้ำหนัก เราเริ่มการลดน้ำหนักด้วยการงดของหวานทุกชนิด งดพวกขนม ของทอด น้ำอัดลม ลดแป้ง เปลี่ยนมากินผักผลไม้ให้มากขึ้น ทุกมืออาหารจะต้องมีผักครึ่งหนึ่ง และเริ่มออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ช่วงนั้นเราออกกำลังกายหักโหมมาก เช้า1ชม เย็น 2 ชม เราทำแบบนี้อยู่สักพักใหญ่ จนถึงช่วงเวลาเปิดเทอม ตอนนั้นเราสามารถลดน้ำหนักตัวได้อยู่ที่ประมาณ 85-90 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 1-2เดือน เป็นการลดน้ำหนักที่เราคิดว่าประสบความสำเร็จที่สุดแล้ว เรารู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่และภูมิใจในตัวเองมาก โดยเฉพาะเวลาที่คนอื่นๆ เพื่อนๆ คุณครูในโรงเรียน เอ่ยปากชม... และดูเหมือนว่าเพื่อนคนที่เราแอบชอบก็เริ่มที่จะสนใจเรื่องราวของเราด้วย จากที่ไม่รู้จักกัน เราก็มีโอกาสได้คุยกันบ้าง....แต่ก็อย่างว่า เวลาแห่งความสุขมักจะแสนสั้น เนื่องจากตอนนั้นเราสอบเข้าม.ปลายได้คนละโรงเรียนกัน ต้องย้ายโรงเรียน แล้วเราก็ไม่ได้เจอเพื่อนคนนั้นอีกเลย...แน่นอนว่า เมื่อบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจได้หายไป สิ่งที่มาแทนที่ก็คือน้ำหนักและไขมันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (พิมไปก็ถอนหายใจไป555) และแล้ว ช่วงม.ปลาย เราก็กลับมาอ้วนอีกครั้ง น้ำหนักก็ขึ้นๆลงๆไปตามประสาเด็กที่เรียนโรงเรียนประจำ ที่มีกิจวัตรแค่ กิน นอน และเรียน แต่ก็ใช่ว่าเราเลิกคิดที่จะเลิกลดน้ำหนักแล้วนะ ก็คิดและทำมาตลอด ออกกำลังกายบ้างด้วยการ ตีแบด วิ่ง เรื่อยเปื่อยกับเพื่อน ช่วงไหนอยากผอมก็จะหักโหมจนลด5-10กิโลกรัม แต่ช่วงไหนขี้เกียจไม่อยากทำแล้ว ก็เริ่มกินตามใจปากเหมือนเดิม น้ำหนักก็จะขึ้นมาอีกจากที่ลดไป 5-10 กิโลกรัม และการที่เราทำๆเลิกๆ ผลก็คือน้ำหนักก็ไม่ได้ลด ขนาดตัวก็บิ๊กไซส์เท่าเดิม... เป็นแบบนี้จนเราเรียนจบชั้นม.ปลาย
ประสบการณ์ครั้งที่สองคือ ตอนที่เราอยู่ปี1 น้ำหนักตัวขณะนั้นประมาณ 98-100 กิโลกรัม ครั้งนี้แรงบันดาลใจไฉไลกว่าเดิมมาก เพราะคนที่เราแอบชอบคนนี้ เขาเป็นรุ่นพี่ที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะหนึ่งในมหาลัยของเรา แน่นอนว่าหน้าตาดี เป็นที่ปลาบปลื้ม ชื่นชอบ ของสาวๆเกือบค่อนมหาลัย รวมถึงเพื่อนในกลุ่มเราด้วย แต่ก็ใช่ว่าเราจะแคร์ เพียงแค่รู้ว่าเขายังโสด ไม่มีใครคุยอยู่ ก็ถือว่าทางโล่งสำหรับเราแล้ว ทำให้เรามีแรงฮึดที่จะลดน้ำหนักอีกรอบ และแล้วปฏิบัติการลดน้ำของเราก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เราใช้วิธีออกกำลังกายด้วยการวิ่งตอนเช้าก่อนไปเรียน และรับประทานอาหารแบบนับแคลอรี่ โดยมีเพื่อนๆมาร่วมแท็กทีม คอยออกกำลังกายเป็นเพื่อน (ทั้งที่ก็ผอมกันอยู่แล้ว55) แต่ก็ดีที่มามีคนคอยให้กำลังใจและสนับสนุนด้วยการพาเดินไปเฉียดแถวคณะที่พี่เขาเรียน ทำให้เราได้เจอ และการที่เราไปบ่อยๆทำให้เราสามารถเห็นแรงบันดาลใจของเราเป็นประจำ (รู้สึกเป็นพวกstalkerเบาๆ5555) แต่ก็นั่นล่ะ มันทำให้การลดน้ำหนักของเราเป็นไปอย่างราบรื่น วันไหนได้เจอพี่เขา เราก็จะอมยิ้มมีความสุขทั้งวัน วันไหนไม่เจอก็แอบหวังตลอดว่าวันต่อไปจะได้เจอ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขและบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมรับน้องมากมายในปี1 ...แต่ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่ได้นาน...เพราะพี่เขาอัพเดตสถานะบนFBว่ากำลัง in relationship เราจำความรู้สึกของเราและวันได้แม่นเลย เพราะวันนั้นเป็นวันลอยกระทง หลังกลับจากไปลอยกระทงอย่างลั่นล้ากับเพื่อน กลายเป็นว่ากลับมาแล้วต้องมานั่งเช็คสถานะพี่เขาอย่างคอตกที่หอพักแทน อารมณ์ผู้หญิงดราม่าเข้าสิงเต็มที่ นั่งน้ำตาซึมและฟังเพลงเศร้า (นึกย้อนไปก็รู้สึกตลกตัวเองนะ555) แต่เราเป็นคนที่เศร้าได้ไม่นาน สองสามวันหลังจากนั้นเราก็หายเศร้า เนื่องจากได้เมทในห้องมาปลอบใจว่า "พี่เค้ามีแฟน ก็เลิกกับแฟนได้เหมือนกัน แล้วอีกอย่างพี่เค้าไม่ได้ Tagคนที่มีความสัมพันธ์ด้วยตอนที่อัพสถานะ ก็แสดงว่าแค่อยู่ในช่วงดูใจ ยังไม่ชัดเจน ยังไม่ใช่แฟน" พอได้ฟังที่เพื่อนพูดเราก็รู้สึกดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ความผิดหวังที่มีอยู่เจือจางในใจ ส่งผลทำให้ กิจวัตรของเราก็เริ่มเปลี่ยนมาสู่โหมดคนอ้วนเหมือนเดิม จากที่ออกกำลังกายทุกเช้า ก็เริ่มไม่สม่ำเสมอ จากที่นับแคลอรี่ก่อนกินก็เลิกทำ ทำให้น้ำหนักที่ลดได้ประมาณ 7-8 กิโล ถูกเติมเต็มอีกครั้ง และแล้วชีวิตปี1 ก็ผ่านไป...
ครั้งที่สาม ครั้งนี้เป็นครั้งล่าสุดที่เราแผนการลดน้ำหนัก ...ถึงครั้งก่อนเราจะเลิกลดน้ำหนักไป เพราะรู้ว่าพี่เขามีคนคุย แต่เราก็ไม่ได้เลิกแอบชอบพี่เขานะ เราก็ยังชอบอยู่ เราพยายามแล้วที่จะเลิกชอบ แต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเจอคนที่คล้ายพี่เขาเราก็จะแอบรู้สึกใจเต้น หวั่นไหวตลอด เราเลยคิดว่าเราคงจะยังชอบพี่เขาต่อไป และการขึ้นปี2 ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้เราย้ายหอไปอยู่ข้างนอก ทำให้เรารู้สึกมีอิสระ และพื้นที่ในการทำกิจกรรมใหม่ๆ ได้ง่ายกว่าการอยู่ในหอของทางมหาลัย เช่น การทำอาหาร ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้นด้วยการทานอาหารคลีน และออกกำลังกายด้วยโปรแกรม T25 ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะลองทำตามเทรนใหม่นี่ดู เราเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำอาหารคลีน และเริ่มทำทานเองทุกวัน ทุกมื้อ พร้อมทั้งออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เวลาประมาณ 1-2 เดือน น้ำหนักเราก็ลดประมาณ 10 กิโลกรัม แล้วจากการรับประทานอาหารคลีนก็รู้สึกว่าผิวพรรณดีขึ้นด้วย ในช่วงนั้นเพื่อนก็เริ่มสังเกตว่าเราดูผอมลง แล้วก็มีถามซื้ออาหารคลีนกับเรา เราคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะลองทำขายดู ทำให้ช่วงนั้นที่เราลดน้ำหนักอยู่ เริ่มมีรายได้จากการขายอาหารเข้ามาด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เลิกขายไป เนื่องจากเราเรียนหนัก แล้วก็ไม่มีเวลาไปจ่ายตลาดและทำอาหาร ไม่มีเวลาแม้แต่ไปเดินเฉียดใกล้ๆคณะที่พี่เขาเรียนอย่างเคย ....ไม่นานเราก็ยอมแพ้ เลิกที่จะทำอาหารคลีนรับประทานต่อ....ปฏิบัติการณ์ลดน้ำหนักก็เป็นอันสิ้นสุดลงอีกครั้ง แน่นอน กลับมาตัวพองเหมือนเดิม (ระเบิดตู้มมม 555)
และนี่ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์การลดน้ำหนักที่ผ่านมาของเราตลอด 22 ปี ที่พังไม่เป็นท่า เพราะขาดการเอาจริงเอาจัง ขายวินัยและการเอาใจใส่ ที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แฮ่ะๆ ...
จะเห็นว่าทุกครั้งที่เราลดน้ำหนัก แรงบันดาลใจส่วนมากคือคนที่เราแอบชอบตลอด เราเคยลองเอาตัวเองเป็นที่ตั้งในการลดน้ำหนัก ลดเพื่อตัวเอง เพื่อสุขภาพ แต่ก็ไม่สำเร็จ อาจเป็นเพราะเรายังไม่เจอกับปัญหาสุขภาพหนักๆที่จะดึงเราไปถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนตัวเองอย่างจริงจัง... ในหัวของเรานึกถึงแต่เรื่องรักๆ ฟงแฟน บ้าบอ....เราคาดหวังว่าจะมีสักคนหันมาสนใจหากเราผอมและสวยขึ้น... เราอิจฉาเพื่อนๆ ที่เขามีแฟนกัน... อิจฉาเวลาพวกเขามีโมเม้นกุ๊กกิ๊กน่ารัก.... บางทีอาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมา22ปี เราไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักที่เกิดจากคนสองคนรักกัน มีแค่รักข้างเดียว สุขคนเดียว บ้าคนเดียว เศร้าคนเดียว เลยอาจทำให้เราโหยหาที่จะได้รับประสบการณ์ความรักที่แตกต่างไปจากที่เคยบ้างสักครั้งก็เป็นได้ อีกอย่างชีวิตในรั้วมหาลัยใกล้หมดแล้ว ต้องรีบหาแฟนสักคน จะได้ไม่ต้องนึกย้อนมาเสียดายภายหลัง ที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์รักในวัยเรียนเหมือนใครๆ
อาจจะดูไร้สาระไปบ้าง ไม่สมเหตุสมผล แต่การที่เรามาแชร์ประสบการณ์ความรักกับการลดน้ำหนักของเราครั้งนี้ จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือเราอยากที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง อยากที่จะทำครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และอยากให้การลดน้ำหนักครั้งนี้ขอเราประสบความสำเร็จ อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านเป็นพยาน แล้วก็ช่วยเป็นกำลังใจให้เรา ...เราอยากเริ่มเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตัวเอง อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อตัวเองสักครั้ง.... อยากเอากำลังใจหรือข้อคิดดีๆที่ได้จากทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของเราไปเป็นกำลังใจให้ตัวเองอีกต่อนึง... ถ้าเกิดมันได้ผล...เราจะกลับมาพร้อมกับภาพรีวิวตัวเองในทุกๆสิ้นเดือน รอติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของเราหลังจากที่ผอมแล้ว ว่าจะแตกต่างจากตอนที่ยังอ้วนไปมากน้อยแค่ไหน คนที่เราชอบเค้าจะสนใจเราบ้างมั้ย เราจะมีความมมั่นใจมากขึ้นที่จะแสดงความรู้สึกออกไปมั้ย แล้วจะจริงอย่างที่ใครเขาพูดมั้ยว่าผู้ชายชอบผู้หญิงสวยและหุ่นดีเท่านั้น ...ถ้าเราไปถึงจุดๆนั้นได้แล้ว เราสัญญาว่าจะเอาคำตอบมาเฉลยให้ทุกคนทราบนะคะ
ปล. เราจะกลับไปลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายและกินอาหารคลีนเหมือนเดิมค่ะ เพราะเราเชื่อว่าเป็นวิธีที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพที่สุดแล้ว ถึงจะไม่รวดเร็วทันใจก็ตาม และก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอเรื่องราวคล้ายๆเรา มาเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกันค่ะ ^^ หรือถ้าใครมีประสบการณ์ดีๆ อยากจะแชร์ให้เราฟัง เราก็จะยินดีมากๆ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ *-*

ผู้หญิงผอมเท่านั้นหรอคะถึงจะมีสิทธิ์สมหวังในความรัก? ถ้าผอมแล้วจะมีคนมาชอบจริงๆใช่มั้ย?
ก่อนจะเข้าเรื่องว่าเป็นมายังไง ทำไมถึงเพิ่งจะมาจริงจังในการลดน้ำหนักและเปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเค้าคนนั้นยังไง เราก็ขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองสักเล็กน้อย แล้วก็ประสบการณ์ลดน้ำหนักที่ผ่านมาให้ทุกคนฟังก่อน เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับทุกคนแล้วกันนะคะ
ปัจจุบันอายุ 22 ปี เป็นคนรูปร่างใหญ่ สูง 171 หนัก 100 กิโลกรัม ผิวคล้ำ ไม่ได้หน้าตาดีแต่ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียด กำลังเรียนอยู่มหาลัยปีที่3 แล้ว บุคลิกเป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง เข้ากับคนได้ง่าย มีเพื่อนรู้จักพอสมควร (อาจจะด้วยขนาดตัวที่ไปไหนก็มีแต่คนจำได้ 555) แต่ก็ไม่ใช่คนโดดเด่นอะไร การที่เรามักจะเป็นตัวโจ๊กคอยสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆในกลุ่มเสมอ ทำให้เราเป็นที่รักของเพื่อนๆ(ผู้หญิง) เราไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้ชายที่มีส่วนมากก็ไม่ใช่ชายแท้ อาจจะเป็นเพราะเรามีนิสัยชอบเขินคนที่เป็นเพศตรงข้าม เวลาเจอผู้ชายแปลกหน้า หรือเพื่อนผู้ชายที่ไม่สนิทด้วย เราก็จะไม่กล้าสบตาหรือคุยด้วย เวลาเขินก็ชอบทำหน้าโหดๆ ขรึมๆ ด้วยมั้ง เลยทำให้ใครก็ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วยเพราะกลัว5555 ยกเว้นว่าถ้ารู้จักกันมาแล้วประมาณนึง เราถึงจะสามารถคุยแบบเป็นกันเองด้วยได้
ชีวิตเราโดยรวมแล้วก็มีความสุขดี มีเพื่อนดี ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ มหาลัยที่ชอบ เราแฮปปี้กับทุกอย่างที่เป็นอยู่ ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวคือ เราไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาของเราเท่าไหร่ พูดง่ายๆ ก็คือ เราไม่ชอบที่เราอ้วนการเป็นคนอ้วนทำให้เรารู้สึกแตกต่างจากคนทั่วไป บางครั้งเราก็มักจะคิดติดลลบว่าผู้คนมักจะเลือกปฎิบัติกับเราเพียงเพราะว่าเราอ้วน ส่งผลทำให้เรารู้สึกเครียดกับความอ้วน และรูปร่างหน้าตาของเราเป็นประจำ
เพราะแบบนี้ทำให้เราตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งถ้าทุกคนเห็นน้ำหนักปัจจุบันของเรา ก็ต้องรู้แน่นอนว่าประสบการณ์การลดน้ำหนักที่ผ่านมาของเราคงต้องล้มเหลวแน่นอน... แต่ถึงอย่างนั้นเราก็อยากจะขอเล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักของเราให้ทุกคนได้ฟัง...
ครั้งแรกที่เราตัดสินใจลดน้ำหนักคือช่วงม.ต้น เหตุผลที่เราตัดสินใจลดน้ำหนักก็คือ ในตอนนั้นเรากำลังแอบชอบเพื่อนคนนึงอยู่ เราชอบเขาในขณะที่เรายังเป็นเด็กผู้หญิงอ้วนๆดำๆคนหนึ่ง น้ำหนักตอนนั้นอยากจะบอกว่ามากกว่าน้ำหนักปัจจุบันถึง15 กิโลกรัม ใช่แล้วตอนนั้นเราหนัก 115 กิโลกรัม ...แน่นอนว่า ไม่มีทางที่เขาจะมาสนใจเรา...สัมผัสได้ถึงการแห้วตั้งแต่ยังไม่ได้บอกชอบ... โชคดีที่ช่วงนั้นใกล้ปิดเทอม เป็นโอกาสดีที่เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราเลยได้โอกาสเริ่มปฏิบัติการลดน้ำหนัก เราเริ่มการลดน้ำหนักด้วยการงดของหวานทุกชนิด งดพวกขนม ของทอด น้ำอัดลม ลดแป้ง เปลี่ยนมากินผักผลไม้ให้มากขึ้น ทุกมืออาหารจะต้องมีผักครึ่งหนึ่ง และเริ่มออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ช่วงนั้นเราออกกำลังกายหักโหมมาก เช้า1ชม เย็น 2 ชม เราทำแบบนี้อยู่สักพักใหญ่ จนถึงช่วงเวลาเปิดเทอม ตอนนั้นเราสามารถลดน้ำหนักตัวได้อยู่ที่ประมาณ 85-90 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 1-2เดือน เป็นการลดน้ำหนักที่เราคิดว่าประสบความสำเร็จที่สุดแล้ว เรารู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่และภูมิใจในตัวเองมาก โดยเฉพาะเวลาที่คนอื่นๆ เพื่อนๆ คุณครูในโรงเรียน เอ่ยปากชม... และดูเหมือนว่าเพื่อนคนที่เราแอบชอบก็เริ่มที่จะสนใจเรื่องราวของเราด้วย จากที่ไม่รู้จักกัน เราก็มีโอกาสได้คุยกันบ้าง....แต่ก็อย่างว่า เวลาแห่งความสุขมักจะแสนสั้น เนื่องจากตอนนั้นเราสอบเข้าม.ปลายได้คนละโรงเรียนกัน ต้องย้ายโรงเรียน แล้วเราก็ไม่ได้เจอเพื่อนคนนั้นอีกเลย...แน่นอนว่า เมื่อบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจได้หายไป สิ่งที่มาแทนที่ก็คือน้ำหนักและไขมันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (พิมไปก็ถอนหายใจไป555) และแล้ว ช่วงม.ปลาย เราก็กลับมาอ้วนอีกครั้ง น้ำหนักก็ขึ้นๆลงๆไปตามประสาเด็กที่เรียนโรงเรียนประจำ ที่มีกิจวัตรแค่ กิน นอน และเรียน แต่ก็ใช่ว่าเราเลิกคิดที่จะเลิกลดน้ำหนักแล้วนะ ก็คิดและทำมาตลอด ออกกำลังกายบ้างด้วยการ ตีแบด วิ่ง เรื่อยเปื่อยกับเพื่อน ช่วงไหนอยากผอมก็จะหักโหมจนลด5-10กิโลกรัม แต่ช่วงไหนขี้เกียจไม่อยากทำแล้ว ก็เริ่มกินตามใจปากเหมือนเดิม น้ำหนักก็จะขึ้นมาอีกจากที่ลดไป 5-10 กิโลกรัม และการที่เราทำๆเลิกๆ ผลก็คือน้ำหนักก็ไม่ได้ลด ขนาดตัวก็บิ๊กไซส์เท่าเดิม... เป็นแบบนี้จนเราเรียนจบชั้นม.ปลาย
ประสบการณ์ครั้งที่สองคือ ตอนที่เราอยู่ปี1 น้ำหนักตัวขณะนั้นประมาณ 98-100 กิโลกรัม ครั้งนี้แรงบันดาลใจไฉไลกว่าเดิมมาก เพราะคนที่เราแอบชอบคนนี้ เขาเป็นรุ่นพี่ที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะหนึ่งในมหาลัยของเรา แน่นอนว่าหน้าตาดี เป็นที่ปลาบปลื้ม ชื่นชอบ ของสาวๆเกือบค่อนมหาลัย รวมถึงเพื่อนในกลุ่มเราด้วย แต่ก็ใช่ว่าเราจะแคร์ เพียงแค่รู้ว่าเขายังโสด ไม่มีใครคุยอยู่ ก็ถือว่าทางโล่งสำหรับเราแล้ว ทำให้เรามีแรงฮึดที่จะลดน้ำหนักอีกรอบ และแล้วปฏิบัติการลดน้ำของเราก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เราใช้วิธีออกกำลังกายด้วยการวิ่งตอนเช้าก่อนไปเรียน และรับประทานอาหารแบบนับแคลอรี่ โดยมีเพื่อนๆมาร่วมแท็กทีม คอยออกกำลังกายเป็นเพื่อน (ทั้งที่ก็ผอมกันอยู่แล้ว55) แต่ก็ดีที่มามีคนคอยให้กำลังใจและสนับสนุนด้วยการพาเดินไปเฉียดแถวคณะที่พี่เขาเรียน ทำให้เราได้เจอ และการที่เราไปบ่อยๆทำให้เราสามารถเห็นแรงบันดาลใจของเราเป็นประจำ (รู้สึกเป็นพวกstalkerเบาๆ5555) แต่ก็นั่นล่ะ มันทำให้การลดน้ำหนักของเราเป็นไปอย่างราบรื่น วันไหนได้เจอพี่เขา เราก็จะอมยิ้มมีความสุขทั้งวัน วันไหนไม่เจอก็แอบหวังตลอดว่าวันต่อไปจะได้เจอ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขและบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมรับน้องมากมายในปี1 ...แต่ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่ได้นาน...เพราะพี่เขาอัพเดตสถานะบนFBว่ากำลัง in relationship เราจำความรู้สึกของเราและวันได้แม่นเลย เพราะวันนั้นเป็นวันลอยกระทง หลังกลับจากไปลอยกระทงอย่างลั่นล้ากับเพื่อน กลายเป็นว่ากลับมาแล้วต้องมานั่งเช็คสถานะพี่เขาอย่างคอตกที่หอพักแทน อารมณ์ผู้หญิงดราม่าเข้าสิงเต็มที่ นั่งน้ำตาซึมและฟังเพลงเศร้า (นึกย้อนไปก็รู้สึกตลกตัวเองนะ555) แต่เราเป็นคนที่เศร้าได้ไม่นาน สองสามวันหลังจากนั้นเราก็หายเศร้า เนื่องจากได้เมทในห้องมาปลอบใจว่า "พี่เค้ามีแฟน ก็เลิกกับแฟนได้เหมือนกัน แล้วอีกอย่างพี่เค้าไม่ได้ Tagคนที่มีความสัมพันธ์ด้วยตอนที่อัพสถานะ ก็แสดงว่าแค่อยู่ในช่วงดูใจ ยังไม่ชัดเจน ยังไม่ใช่แฟน" พอได้ฟังที่เพื่อนพูดเราก็รู้สึกดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ความผิดหวังที่มีอยู่เจือจางในใจ ส่งผลทำให้ กิจวัตรของเราก็เริ่มเปลี่ยนมาสู่โหมดคนอ้วนเหมือนเดิม จากที่ออกกำลังกายทุกเช้า ก็เริ่มไม่สม่ำเสมอ จากที่นับแคลอรี่ก่อนกินก็เลิกทำ ทำให้น้ำหนักที่ลดได้ประมาณ 7-8 กิโล ถูกเติมเต็มอีกครั้ง และแล้วชีวิตปี1 ก็ผ่านไป...
ครั้งที่สาม ครั้งนี้เป็นครั้งล่าสุดที่เราแผนการลดน้ำหนัก ...ถึงครั้งก่อนเราจะเลิกลดน้ำหนักไป เพราะรู้ว่าพี่เขามีคนคุย แต่เราก็ไม่ได้เลิกแอบชอบพี่เขานะ เราก็ยังชอบอยู่ เราพยายามแล้วที่จะเลิกชอบ แต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเจอคนที่คล้ายพี่เขาเราก็จะแอบรู้สึกใจเต้น หวั่นไหวตลอด เราเลยคิดว่าเราคงจะยังชอบพี่เขาต่อไป และการขึ้นปี2 ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้เราย้ายหอไปอยู่ข้างนอก ทำให้เรารู้สึกมีอิสระ และพื้นที่ในการทำกิจกรรมใหม่ๆ ได้ง่ายกว่าการอยู่ในหอของทางมหาลัย เช่น การทำอาหาร ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้นด้วยการทานอาหารคลีน และออกกำลังกายด้วยโปรแกรม T25 ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะลองทำตามเทรนใหม่นี่ดู เราเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำอาหารคลีน และเริ่มทำทานเองทุกวัน ทุกมื้อ พร้อมทั้งออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เวลาประมาณ 1-2 เดือน น้ำหนักเราก็ลดประมาณ 10 กิโลกรัม แล้วจากการรับประทานอาหารคลีนก็รู้สึกว่าผิวพรรณดีขึ้นด้วย ในช่วงนั้นเพื่อนก็เริ่มสังเกตว่าเราดูผอมลง แล้วก็มีถามซื้ออาหารคลีนกับเรา เราคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะลองทำขายดู ทำให้ช่วงนั้นที่เราลดน้ำหนักอยู่ เริ่มมีรายได้จากการขายอาหารเข้ามาด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เลิกขายไป เนื่องจากเราเรียนหนัก แล้วก็ไม่มีเวลาไปจ่ายตลาดและทำอาหาร ไม่มีเวลาแม้แต่ไปเดินเฉียดใกล้ๆคณะที่พี่เขาเรียนอย่างเคย ....ไม่นานเราก็ยอมแพ้ เลิกที่จะทำอาหารคลีนรับประทานต่อ....ปฏิบัติการณ์ลดน้ำหนักก็เป็นอันสิ้นสุดลงอีกครั้ง แน่นอน กลับมาตัวพองเหมือนเดิม (ระเบิดตู้มมม 555)
และนี่ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์การลดน้ำหนักที่ผ่านมาของเราตลอด 22 ปี ที่พังไม่เป็นท่า เพราะขาดการเอาจริงเอาจัง ขายวินัยและการเอาใจใส่ ที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แฮ่ะๆ ...
จะเห็นว่าทุกครั้งที่เราลดน้ำหนัก แรงบันดาลใจส่วนมากคือคนที่เราแอบชอบตลอด เราเคยลองเอาตัวเองเป็นที่ตั้งในการลดน้ำหนัก ลดเพื่อตัวเอง เพื่อสุขภาพ แต่ก็ไม่สำเร็จ อาจเป็นเพราะเรายังไม่เจอกับปัญหาสุขภาพหนักๆที่จะดึงเราไปถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนตัวเองอย่างจริงจัง... ในหัวของเรานึกถึงแต่เรื่องรักๆ ฟงแฟน บ้าบอ....เราคาดหวังว่าจะมีสักคนหันมาสนใจหากเราผอมและสวยขึ้น... เราอิจฉาเพื่อนๆ ที่เขามีแฟนกัน... อิจฉาเวลาพวกเขามีโมเม้นกุ๊กกิ๊กน่ารัก.... บางทีอาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมา22ปี เราไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักที่เกิดจากคนสองคนรักกัน มีแค่รักข้างเดียว สุขคนเดียว บ้าคนเดียว เศร้าคนเดียว เลยอาจทำให้เราโหยหาที่จะได้รับประสบการณ์ความรักที่แตกต่างไปจากที่เคยบ้างสักครั้งก็เป็นได้ อีกอย่างชีวิตในรั้วมหาลัยใกล้หมดแล้ว ต้องรีบหาแฟนสักคน จะได้ไม่ต้องนึกย้อนมาเสียดายภายหลัง ที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์รักในวัยเรียนเหมือนใครๆ
อาจจะดูไร้สาระไปบ้าง ไม่สมเหตุสมผล แต่การที่เรามาแชร์ประสบการณ์ความรักกับการลดน้ำหนักของเราครั้งนี้ จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือเราอยากที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง อยากที่จะทำครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และอยากให้การลดน้ำหนักครั้งนี้ขอเราประสบความสำเร็จ อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านเป็นพยาน แล้วก็ช่วยเป็นกำลังใจให้เรา ...เราอยากเริ่มเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตัวเอง อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อตัวเองสักครั้ง.... อยากเอากำลังใจหรือข้อคิดดีๆที่ได้จากทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของเราไปเป็นกำลังใจให้ตัวเองอีกต่อนึง... ถ้าเกิดมันได้ผล...เราจะกลับมาพร้อมกับภาพรีวิวตัวเองในทุกๆสิ้นเดือน รอติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของเราหลังจากที่ผอมแล้ว ว่าจะแตกต่างจากตอนที่ยังอ้วนไปมากน้อยแค่ไหน คนที่เราชอบเค้าจะสนใจเราบ้างมั้ย เราจะมีความมมั่นใจมากขึ้นที่จะแสดงความรู้สึกออกไปมั้ย แล้วจะจริงอย่างที่ใครเขาพูดมั้ยว่าผู้ชายชอบผู้หญิงสวยและหุ่นดีเท่านั้น ...ถ้าเราไปถึงจุดๆนั้นได้แล้ว เราสัญญาว่าจะเอาคำตอบมาเฉลยให้ทุกคนทราบนะคะ
ปล. เราจะกลับไปลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายและกินอาหารคลีนเหมือนเดิมค่ะ เพราะเราเชื่อว่าเป็นวิธีที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพที่สุดแล้ว ถึงจะไม่รวดเร็วทันใจก็ตาม และก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอเรื่องราวคล้ายๆเรา มาเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกันค่ะ ^^ หรือถ้าใครมีประสบการณ์ดีๆ อยากจะแชร์ให้เราฟัง เราก็จะยินดีมากๆ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ *-*