ผมทำงานในตำแหน่งวิศวกร งานที่ผมทำคือต้องไปทำงานที่ลูกค้า เริ่มงาน 8 โมง - 5 โมง โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ และเราจะเปลี่ยนสถานที่ทำงานตามแผนงานที่หัวหน้าที่เป็นฝรั่งจะส่งแผนงานมาแต่ล่ะอาทิตย์ให้พวกเราดูและไปทำงานตามนั้น
นอกจากเงินเดือน ( salary ) ทุกคนจะมีค่ารถ
( car allowance ) 10,000 ต่อเดือน
ค่าเบี้ยเลี้ยง( food & beverage ) วันล่ะ 100 บาท
เราจะได้ทุกวันที่เราไปทำงาน โดยเขียนใบเบิกทุกๆสิ้นเดือน ค่าน้ำมันและทางด่วนเบิกได้ตามระยะทางที่ไปทำงาน
ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมัน ทางด่วน เราจะเขียนทุกๆสิ้นเดือน ส่งเข้าบริษัท แล้วทางออฟฟิศ จะโอนเงินเข้ามาภายใน 1-2 สัปดาห์
ผมถูกเจ้านายฝรั่งเรียกไปคุยถึง 3 ครั้ง
ครั้งแรกเรียกมาเรียกมาคุยกับเจ้าของบริษัท เราก็อุตส่าดีใจนึก...ว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ กลับขอลดซะงั้น
บริษัทผมเป็นของต่างชาติถือหุ้น 100 % จึงมีวัฒนธรรมว่าใครเข้าเดือนไหนก็จะได้ขึ้นเงินเดือน เดือนนั้นโดยจะเรียกเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวที่ออฟฟิศถึงผลงานที่ผ่านมาว่าสมควรจะได้ขึ้นเงินเดือนเท่าไหร่ ผมทำงานที่นี่มา 4 ปีซึ่งผมถือเป็นพนักงานรุ่นแรกของบริษัท ตั้งแต่อยู่มาไม่เคยขึ้นเงินเดือน และผมก็ไม่เคยถามหรือร้องขอ เพราะรู้ว่าบริษัทพึ่งเปิดใหม่แค่หวังว่าเราจะเติบโตไปด้วยกัน
หลังจากได้ยินจากปากเจ้าของบริษัท ว่าขอลดเงินเดือน 10,000 บาท ก็ได้แต่มึนๆงงๆ ว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง ก็ได้พูดแต่ว่า โอเคผมขอกลับไปคิดก่อนแล้วอาทิตย์ถัดไปค่อยมาคุยกันใหม่
ครั้งที่ 2 เมื่อมาคุยกันผมก็เลยให้ บริษัทจ้างผมออก แค่จ่ายเงินตามกฏหมายแรงงาน ทางฝรั่งก็ไม่ยอมจ่าย และนัดให้มาคุยกันอีกครั้ง
ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมาคุยกับผม ฝรั่งได้เรียกทนายมาคุยก่อนวันที่ผมจะเข้ามาออฟฟิศ พอข้อเสนอสุดท้ายที่ยื่นมาให้คือเซ็นเอกสารยินยอมให้ลดเงินเดือน 10,000 บาท
ซึ่งผมก็ไม่ยินดีที่จะเซ็น กลายเป็นว่า ถูกตัดเงิน ค่ารถ 10,000 บาท ค่าน้ำมันทางด่วน ไม่ให้เบิก เบี้ยเลี้ยงรายวันก็ไม่ได้ เลยกลายเป็นว่าจำนวนเงินที่ถูกลดเกินกว่า 10,000 บาท เพราะเบี้ยเลี้ยงเฉลี่ยเดือนล่ะ 2,000 กว่าบาทก็เบิกไม่ได้
โดยเขาบอกว่าให้ทำงานแค่ลูกค้าที่เดียว ให้มาทำงานวิธีไหนก็เรื่องของคุณ
แบบนี้ผมจะฟ้องศาลแรงงาน ได้มั้ยครับ ผมแค่ต้องการเงินชดเชยตามกฏหมายกำหนดเท่านั้น จะได้มีเงินไว้สำรองเวลาหางานใหม่ อายุผมก็ 36 คงจะหางานยากซักหน่อย เจ้านายเขาบอกว่าเดี๋ยวนี้คนมาสมัครที่บริษัทเยอะแยะเงินเดือนก็ไม่สูง
ตอนนี้ผมก็ทำงานอย่างอึดอัดเหมือนไร้ตัวตนในบริษัท
โอกาศที่จะเติบโตที่นี่ผมได้หมดลงแล้ว แต่ผมมีภาระที่ต้องรับผิดชอบครอบครัว บ้านและรถ ก็ยังผ่อน แค่ทำงานไปวันๆ อย่าให้ผิดพลาดจะได้ไม่โดนไล่ออก และไม่ได้อะไรเลย
ถูกตัดเงินค่ารถและเบี้ยเลี้ยงจะฟ้องศาลแรงงานได้มั้ย
นอกจากเงินเดือน ( salary ) ทุกคนจะมีค่ารถ
( car allowance ) 10,000 ต่อเดือน
ค่าเบี้ยเลี้ยง( food & beverage ) วันล่ะ 100 บาท
เราจะได้ทุกวันที่เราไปทำงาน โดยเขียนใบเบิกทุกๆสิ้นเดือน ค่าน้ำมันและทางด่วนเบิกได้ตามระยะทางที่ไปทำงาน
ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมัน ทางด่วน เราจะเขียนทุกๆสิ้นเดือน ส่งเข้าบริษัท แล้วทางออฟฟิศ จะโอนเงินเข้ามาภายใน 1-2 สัปดาห์
ผมถูกเจ้านายฝรั่งเรียกไปคุยถึง 3 ครั้ง
ครั้งแรกเรียกมาเรียกมาคุยกับเจ้าของบริษัท เราก็อุตส่าดีใจนึก...ว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ กลับขอลดซะงั้น
บริษัทผมเป็นของต่างชาติถือหุ้น 100 % จึงมีวัฒนธรรมว่าใครเข้าเดือนไหนก็จะได้ขึ้นเงินเดือน เดือนนั้นโดยจะเรียกเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวที่ออฟฟิศถึงผลงานที่ผ่านมาว่าสมควรจะได้ขึ้นเงินเดือนเท่าไหร่ ผมทำงานที่นี่มา 4 ปีซึ่งผมถือเป็นพนักงานรุ่นแรกของบริษัท ตั้งแต่อยู่มาไม่เคยขึ้นเงินเดือน และผมก็ไม่เคยถามหรือร้องขอ เพราะรู้ว่าบริษัทพึ่งเปิดใหม่แค่หวังว่าเราจะเติบโตไปด้วยกัน
หลังจากได้ยินจากปากเจ้าของบริษัท ว่าขอลดเงินเดือน 10,000 บาท ก็ได้แต่มึนๆงงๆ ว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง ก็ได้พูดแต่ว่า โอเคผมขอกลับไปคิดก่อนแล้วอาทิตย์ถัดไปค่อยมาคุยกันใหม่
ครั้งที่ 2 เมื่อมาคุยกันผมก็เลยให้ บริษัทจ้างผมออก แค่จ่ายเงินตามกฏหมายแรงงาน ทางฝรั่งก็ไม่ยอมจ่าย และนัดให้มาคุยกันอีกครั้ง
ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมาคุยกับผม ฝรั่งได้เรียกทนายมาคุยก่อนวันที่ผมจะเข้ามาออฟฟิศ พอข้อเสนอสุดท้ายที่ยื่นมาให้คือเซ็นเอกสารยินยอมให้ลดเงินเดือน 10,000 บาท
ซึ่งผมก็ไม่ยินดีที่จะเซ็น กลายเป็นว่า ถูกตัดเงิน ค่ารถ 10,000 บาท ค่าน้ำมันทางด่วน ไม่ให้เบิก เบี้ยเลี้ยงรายวันก็ไม่ได้ เลยกลายเป็นว่าจำนวนเงินที่ถูกลดเกินกว่า 10,000 บาท เพราะเบี้ยเลี้ยงเฉลี่ยเดือนล่ะ 2,000 กว่าบาทก็เบิกไม่ได้
โดยเขาบอกว่าให้ทำงานแค่ลูกค้าที่เดียว ให้มาทำงานวิธีไหนก็เรื่องของคุณ
แบบนี้ผมจะฟ้องศาลแรงงาน ได้มั้ยครับ ผมแค่ต้องการเงินชดเชยตามกฏหมายกำหนดเท่านั้น จะได้มีเงินไว้สำรองเวลาหางานใหม่ อายุผมก็ 36 คงจะหางานยากซักหน่อย เจ้านายเขาบอกว่าเดี๋ยวนี้คนมาสมัครที่บริษัทเยอะแยะเงินเดือนก็ไม่สูง
ตอนนี้ผมก็ทำงานอย่างอึดอัดเหมือนไร้ตัวตนในบริษัท
โอกาศที่จะเติบโตที่นี่ผมได้หมดลงแล้ว แต่ผมมีภาระที่ต้องรับผิดชอบครอบครัว บ้านและรถ ก็ยังผ่อน แค่ทำงานไปวันๆ อย่าให้ผิดพลาดจะได้ไม่โดนไล่ออก และไม่ได้อะไรเลย