ทำอย่างไรดีกับหนี้สิน 7 ล้านบาท เหนือยใจ ท้อใจ หมดกำลังใจ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ จขกท อยากจะมาระบายปัญหาชีวิตอันหนักหน่วง เกินแบกรับไหวค่ะ และอยากได้หนทางดีๆจากเพื่อนๆพี่ๆุทุกคน เพื่อก้าวเดินต่อไปในชีวิตค่ะ

ก่อนอื่นขออธิบายก่อนค่ะว่าหนี้ก้อนนี้ได้มาอย่างไร หนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ที่พ่อกู้มาเพื่อทำธุรกิจค่ะ รวมไปถึงการกู้มาซื้อที่ดินเพื่อเกร็งกำไรด้วยค่ะ ซึ่งแต่ก่อนอะไรๆก็เป็นไปได้ด้วยดี ที่ดินก็ซื้อมาขายไปได้กำไรดี แต่ก็ได้เผชิญกับปัญหาช่วงที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งค่ะ ทำให้เกิดการพลิกผันชีวิตของครอบครัวเราค่ะ

ตอนนี้รายได้จากครอบครัวก็มีอยู่สามทางค่ะ คือ จากพ่อ แม่ และก็ตัวเราค่ะ

พ่อของ จขกท ทำธุรกิจของตัวเองค่ะเป็นสถานตรวจสภาพรถค่ะ ก่อนหน้านี้เคยขายรถมือสอง เป็นนายหน้า และเล่นที่ดินค่ะ แต่ตอนนี้เศรษกิจไม่ดี รายได้หลักตอนนี้จึงมาจากสถานตรวจสภาพรถเท่านั้นค่ะ รวมไปถึงขาย พรบ และประกันรถยนต์ค่ะ รายได้ก็ประมาณ แสนห้าต่อเดือนค่ะ

แต่ถึงอย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้ไม่สามารถเเพียงพอต่อการใช้หนี้ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัวค่ะ เพราะเฉพาะรายจ่ายที่ต้องจ่ายหนี้แต่ละเดือนก็ปาไปแสนนึงแล้ว ซึ่งเหลือประมาณห้าหมื่นต่อเดือน ไม่เพียงพอต่อการจ่ายค่าลูกน้อง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเรียนน้องอีกสองคน และค่าใช้จ่ายอื่นๆของครอบครัวค่ะ และเหตุนี้ทางพ่อเราจึงไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ เพราะลำพังแต่ละเดือนก็จ่ายหนี้ไม่พออยู่แล้ว

และรายได้อีกทางก็มาจากแม่ค่ะ แม่เปิดร้านขายของ มีรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายก็ประมาณไม่เกินสองหมื่นบาทต่อเดือน แต่ในส่วนนี้แม่จะมีเงินเก็บเพื่อใช้หมุนเงินซื้อของในร้าน แต่ว่าในหลายๆเดือน เนื่องจากเงินจ่ายหนี้ไม่เพียงพอก็ต้องมาหยิบยืมเงินในส่วนนี้ไป ครั้งละหลายหมื่น บางทีหมุนเงินไม่ทันมากก็ต้องมาเอาเงินส่วนนี้ไปติดกันหลายเดือน

และส่วนสุดท้ายก็คือของเราเองค่ะ เราอายุเกือบ 27 แล้วค่ะ ทำงานมาสี่ปี่ ปัจจุบันได้เงินเดือนประมาณ สองหมื่นกว่าๆ มีรับงานนอกเหนือจากงานประจำมาทำบ้างในบางครั้ง แต่เชื่อไหมคะ เราเป็นคนประหยัดมาก ไม่ใช้ของหรู ไม่ติดแบรนด์เนม ไม่ติดเทคโนโลยี ไม่แต่งหน้าไม่แต่งตัว ใช้เงินก่อนคิดทุกครั้ง แต่เราไม่มีเงินเก็บเลย เงินเดือนเราสองหมื่น หักค่าหอ ค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางต่างๆ ก็เหลือประมาณเดือนละหนึ่งหมื่นบาท  แต่เราไม่มีเก็บเลย เนื่องจากเราต้องเตรียมเงินก้อนไว้ให้ที่บ้านในเดือนที่ขาด ซึ่งจะให้เป็นก้อนครั้งละ หนึ่งหมื่นบ้าง สองหมื่นบ้าง สามหมื่นบ้าง ในหนึ่งปีรวมๆแล้วก็จะประมาณเกือบแสนบาทต่อปี ซึ่งก็จะหมดไปกับการใช้ดอกเบี้ยธนาคาร และหนี้นอกระบบ ซึ่งเงินต้นแทบไม่ลดเลย และยิ่งวันเวลาผ่านไป ความเครียดเราก็เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเราก็อายุเพิ่มมากขึ้น เริ่มอยากมีเงินเก็บบ้าง อยากมีเงินสร้างอานาคต อยากมีเงินลงทุน อยากมีเงินทำธุรกิจบ้าง แต่ทุกวันนี้ผ่านไปแล้วสี่ปี เราไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ทั้งๆที่เพื่อนๆคนอื่นเริ่มผ่อนรถ ผ่อนบ้าน มีทรัพย์สินเป็นของตัวเองแล้ว แต่เรายังไม่มีอะไรเลย เราอยากมีเงินพาครอบครัวไปเที่ยวบ้าง มีเงินพาที่บ้านไปทานของอร่อยๆบ้าง แต่ว่าเราทำไม่ได้เลยค่ะ เพราะเงินก้อนที่เราเก็บไว้ต้องเป็นทุนสำรองในการใช้หนี้สินเหล่านี้ ซึ่งไม่มีวี่แววเลยว่าจะใช้หนี้หมดได้อย่างไร บางทีเราก็อยากจะแบ่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือนเดือนละเท่าๆกันทุกเดือน จะได้มีเงินไว้เก็บบ้าง แต่ถึงแม้ว่าจะทำอย่างนั้น ในเดือนไหนที่ขาดจริงๆ เงินไม่พอ เราก็จะต้องให้เงินก้อนไปอยู่ดี เราไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ ถ้าที่บ้านเดือนร้อนถึงอย่างไรเราก็ต้องช่วยอยู่ดีจริงไหมคะ

ซึ่งวงจรตอนนี้ที่เป็นอยู่คือกู้ตรงนั้นมาโปะตรงนี้ กู้ตรงนี้มาโปะตรงนั้น หยิบยืมเท่าที่ยืมได้ เพื่อให้ผ่านไปได้แต่ละเดือน ซึ่งวิธีการนี้มันผิด ทำให้หนี้เพิ่มขึ้น แต่มันก็ไม่มีหนทางเพราะว่ารายจ่ายมันเยอะกว่ารายได้ ซึ่งรายได้แต่ละเดือนก็ไม่ต่างกันมากเลย เราก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี เท่าที่ทำทุกวันนี้คือเก็บเงินสำรองไว้ให้จ่าย

ทุกวันนี้มืดแปดด้านมากค่ะ แต่ก่อนก็ไม่หนักเท่าตอนนี้ ยังพอหมุนได้ แต่ช่วงสี่ห้าปีหลัง หมุนแทบไม่ทันทุกเดือน เราไม่รู้จริงๆค่ะว่าต้องทำอย่างไร ตอนนี้โฉนดบ้านที่ดินต่างๆก็เอาไปค้ำไว้กับธนาคารหมด เรารู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย เราจะต้องทำอย่างไรดีคะ ถึงจะพ้นวิกฤติการณ์นี้ไปได้

และทุกวันนี้เรายังมีความหวังอยู่กับสิ่งสิ่งหนึ่งค่ะ สิ่งเดียวเท่านั้น ที่ยังไว้พอปลอบใจตัวเองได้เมื่อเครียดและท้อแท้หนักก็คือ การขายที่ดินที่เหลืออยู่สองแปลงสุดท้ายค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อเรามีที่ดินเยอะมากหลายสิบแปลง แต่ก็ได้ขายออกไปเพื่อปลดหนี้บางส่วนไปแล้ว และตอนนี้ก็เหลือสองแปลงสุดท้ายแล้ว แต่ว่าจนแล้วจนเล่าก็ยังขายไม่ได้สักทีค่ะ เราก็ได้แต่รอคอยว่าเมื่อไหร่วันนั้นจะมาถึงสักที ท้อแท้ใจมากค่ะ ตอนนี้พ่อและแม่ก็อายุมากแล้วเราก็อยากให้ท่านสบาย เราสงสารแม่ค่ะ แม่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ทำงานหนัก ประหยัดเงิน เจ็บป่วยก็ไม่ค่อยกล้าไปโรงพยาบาล นอกจากเราจะออกเงินให้ และแม่ก็ต้องเอาเงินไปคอยช่วยผ่อนหนี้ เราอยากให้แม่ได้มีชีวิตที่สบาย ท่านชอบไปเที่ยว เราก็อยากเอาเงินที่หามาได้พาท่านไปเที่ยวต่างประเทศ อยากพาไปกินของดีๆของอร่อยๆบ้าง  แต่ว่าเงินที่เราหามาได้ไม่ว่าเท่าไหร่ๆมันก็หมดไปกับดอกเบี้ยค่ะ เราท้อแท้ใจมาก เครียดทุกวัน ไม่มีทางออกเลย เราไม่รู้เลยว่าจะต้องเอาเงินที่เราหามาทั้งหมดไปจ่ายหนี้อีกกี่ปี และเมื่อไหร่เราจะสามารถเก็บเงินและตั้งตัวได้สักที วางแผนชีวิตอะไรไว้ก็ทำไม่ได้สักอย่าง ท้อแท้ แลสิ้นหวังมากค่ะ เราอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เราอยากใช้ชีวิตแบบไม่มีหนี้ และเราก็ตั้งใจไว้แล้วว่าชีวิตนี้จะไม่ขอยืมเงินใคร และไม่ยอมเป็นหนี้ใครเด็ดขาดค่ะ

ใครที่เคยผ่านชีวิตการเป็นหนี้ไปได้ รบกวนช่วยแนะนำทางออกให้ จขกท ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่