ขอต่ออีกกระทู้เรื่องบาปของทางพุทธทาส
http://ppantip.com/topic/33861298
ชอบที่ท่าน thaithinker แยกแยะบาปของแต่ละศาสนาไว้
------------------------------------------------------------------------------
ศาสนาฮินดู (พราหมณ์) สอนว่า ธรรมคือการทำหน้าที่
ศาสนาพุทธ สอนว่า ธรรมคือการทำตัวให้สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ
ศาสนาไชนะ (ศาสนาเชน) สอนว่า ธรรมคือการไม่เบียดเบียนผู้อื่น
เมื่อสามศาสนานี้นิยามธรรมะต่างกัน หลักการปฏิบัติหรือหลักการสำหรับตัดสินว่าความดีความชั่วคืออะไรก็ต่างกัน
ธรรมตามทัศนะของพุทธศาสนา คือ การทำตัวให้สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ
การฆ่านั้นพุทธศาสนาถือว่าผิด ไม่ว่าจะฆ่าใคร ฆ่าที่ไหน หรือฆ่าภายใต้สถานการณ์เช่นใดก็ตาม ที่พุทธศาสนาเชื่อเช่นนั้นก็เพราะพิจารณาว่าการฆ่าเป็นอกุศลกรรมตามธรรมชาติ และสิ่งที่เป็นอกุศลกรรมตามธรรมชาตินั้นย่อมส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้กระทำเสมอ ไม่ว่าผู้กระทำจะอ้างว่าทำไปเพราะไม่มีทางเลือก เพราะสงสาร หรือเพราะถูกบังคับก็ตาม การไปรบแล้วฆ่าศัตรู การกินยาฆ่าพยาธิ การฆ่าม้าขาหักในทะเลทรายล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ผิดตามหลักการของพุทธศาสนาทั้งสิ้น
แม้ว่าพุทธศาสนาจะมองว่าความผิดถูกเป็นเรื่องตามธรรมชาติ มนุษย์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิดให้ถูกหรือที่ถูกให้ผิด แต่พุทธศาสนาก็มีจารีตในการที่จะไม่ใช้ศาสนาบีบบังคับให้บุคคลทำตามศีลธรรมของศาสนาหากเขาไม่ยินดี ชาวพุทธที่จำเป็นต้องทำบาปเช่นต้องประกอบอาชีพประมงเพื่อเลี้ยงชีพและไม่มีอาชีพอื่นให้ทำในท้องถิ่นนั้น (เช่นบริเวณชายทะเลที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้) พุทธศาสนาก็อนุโลมให้เจ้าตัวพิจารณาเองว่าจะจัดการกับชีวิตตนเองอย่างไร ถ้าเจ้าตัวเขาเห็นว่าต้องทำไม่เช่นนั้นจะอดตายก็ทำได้ แต่พุทธศาสนาก็ยังยืนยันว่าการทำประมงนั้นเป็นบาป และชาวประมงก็ต้องรับกรรมที่กระทำนั้นในอนาคต การต้องทำบาปไม่เช่นนั้นจะอดตายพุทธศาสนาก็ยังถือว่าไม่พ้นความผิด ในขณะที่ศาสนาฮินดูอาจจะมองว่าการทำประมงเป็นหน้าที่ ถ้าไม่มีชาวประมงเราก็ไม่มีปลากิน ดังนั้นการทำประมงจึงไม่ผิด แต่การตกปลาเพื่อความสนุกสนานโดยไม่มีหน้าที่รองรับต้องถือว่าผิด
--------------------------------------------------------------------------------
อย่างนี้บาปของทางพุทธคือกฏธรรมชาติที่นิยามตายตัว ไม่ว่าเจตนาจะเป็นอย่างไร เจตนาอาจมีผลแค่ให้ว่าเป็นกรรมหนัก กรรมเบา (แต่ก็มีหนังสือบอก ไม่รู้ว่าบาป ยิ่งบาปหนักกว่าอีก)
สรุปคือ ถ้านับตามศีล 5
1.คนตาบอด เดินเหยียบสัตว์ ทำสัตว์ ทำแมลงตาย บาปแน่นอน แม้จะไม่รู้
2.คนที่หยิบสิ่งของผิดเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นของตัว เช่นหยิบเสื้อผิด ก็ผือว่าบาป
3. ผู้หญิงโดนผู้ชายหลอกว่ายังไม่มีเมีย หลอกไปจดทะเบียนซ้อน ยอมมีอะไรด้วยกัน ก็ถือว่าบาป ถ้าผู้ชายยังไม่ได้เลิกกับเมียจริงๆ แม้ผู้หญิงจะโดนหลอก
4.พูดเรื่องไม่จริงเจตนาไปเช่นตอนเล่านิทาน คนฟังไปคิดว่าบางส่วนเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าคนพูดบาป
5.กินอาหารที่ผสมแอลกอฮอล์ โดนไม่รู้มาก่อน เช่นตามงานเลี้ยง หรือมีคนจัดไว้ให้ ก็บาป
อย่างนี้เข้าใจถูกไหมครับ
ประเด็นท่าน thaithinker น่าสนใจ เรื่องนิยามบาปท่านพุทธทาส อย่างนี้คนตาบอดเหยียบแมลงตาย บาปหรือเปล่าครับในทางพุทธ
http://ppantip.com/topic/33861298
ชอบที่ท่าน thaithinker แยกแยะบาปของแต่ละศาสนาไว้
------------------------------------------------------------------------------
ศาสนาฮินดู (พราหมณ์) สอนว่า ธรรมคือการทำหน้าที่
ศาสนาพุทธ สอนว่า ธรรมคือการทำตัวให้สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ
ศาสนาไชนะ (ศาสนาเชน) สอนว่า ธรรมคือการไม่เบียดเบียนผู้อื่น
เมื่อสามศาสนานี้นิยามธรรมะต่างกัน หลักการปฏิบัติหรือหลักการสำหรับตัดสินว่าความดีความชั่วคืออะไรก็ต่างกัน
ธรรมตามทัศนะของพุทธศาสนา คือ การทำตัวให้สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ
การฆ่านั้นพุทธศาสนาถือว่าผิด ไม่ว่าจะฆ่าใคร ฆ่าที่ไหน หรือฆ่าภายใต้สถานการณ์เช่นใดก็ตาม ที่พุทธศาสนาเชื่อเช่นนั้นก็เพราะพิจารณาว่าการฆ่าเป็นอกุศลกรรมตามธรรมชาติ และสิ่งที่เป็นอกุศลกรรมตามธรรมชาตินั้นย่อมส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้กระทำเสมอ ไม่ว่าผู้กระทำจะอ้างว่าทำไปเพราะไม่มีทางเลือก เพราะสงสาร หรือเพราะถูกบังคับก็ตาม การไปรบแล้วฆ่าศัตรู การกินยาฆ่าพยาธิ การฆ่าม้าขาหักในทะเลทรายล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ผิดตามหลักการของพุทธศาสนาทั้งสิ้น
แม้ว่าพุทธศาสนาจะมองว่าความผิดถูกเป็นเรื่องตามธรรมชาติ มนุษย์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิดให้ถูกหรือที่ถูกให้ผิด แต่พุทธศาสนาก็มีจารีตในการที่จะไม่ใช้ศาสนาบีบบังคับให้บุคคลทำตามศีลธรรมของศาสนาหากเขาไม่ยินดี ชาวพุทธที่จำเป็นต้องทำบาปเช่นต้องประกอบอาชีพประมงเพื่อเลี้ยงชีพและไม่มีอาชีพอื่นให้ทำในท้องถิ่นนั้น (เช่นบริเวณชายทะเลที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้) พุทธศาสนาก็อนุโลมให้เจ้าตัวพิจารณาเองว่าจะจัดการกับชีวิตตนเองอย่างไร ถ้าเจ้าตัวเขาเห็นว่าต้องทำไม่เช่นนั้นจะอดตายก็ทำได้ แต่พุทธศาสนาก็ยังยืนยันว่าการทำประมงนั้นเป็นบาป และชาวประมงก็ต้องรับกรรมที่กระทำนั้นในอนาคต การต้องทำบาปไม่เช่นนั้นจะอดตายพุทธศาสนาก็ยังถือว่าไม่พ้นความผิด ในขณะที่ศาสนาฮินดูอาจจะมองว่าการทำประมงเป็นหน้าที่ ถ้าไม่มีชาวประมงเราก็ไม่มีปลากิน ดังนั้นการทำประมงจึงไม่ผิด แต่การตกปลาเพื่อความสนุกสนานโดยไม่มีหน้าที่รองรับต้องถือว่าผิด
--------------------------------------------------------------------------------
อย่างนี้บาปของทางพุทธคือกฏธรรมชาติที่นิยามตายตัว ไม่ว่าเจตนาจะเป็นอย่างไร เจตนาอาจมีผลแค่ให้ว่าเป็นกรรมหนัก กรรมเบา (แต่ก็มีหนังสือบอก ไม่รู้ว่าบาป ยิ่งบาปหนักกว่าอีก)
สรุปคือ ถ้านับตามศีล 5
1.คนตาบอด เดินเหยียบสัตว์ ทำสัตว์ ทำแมลงตาย บาปแน่นอน แม้จะไม่รู้
2.คนที่หยิบสิ่งของผิดเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นของตัว เช่นหยิบเสื้อผิด ก็ผือว่าบาป
3. ผู้หญิงโดนผู้ชายหลอกว่ายังไม่มีเมีย หลอกไปจดทะเบียนซ้อน ยอมมีอะไรด้วยกัน ก็ถือว่าบาป ถ้าผู้ชายยังไม่ได้เลิกกับเมียจริงๆ แม้ผู้หญิงจะโดนหลอก
4.พูดเรื่องไม่จริงเจตนาไปเช่นตอนเล่านิทาน คนฟังไปคิดว่าบางส่วนเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าคนพูดบาป
5.กินอาหารที่ผสมแอลกอฮอล์ โดนไม่รู้มาก่อน เช่นตามงานเลี้ยง หรือมีคนจัดไว้ให้ ก็บาป
อย่างนี้เข้าใจถูกไหมครับ