1.มีความสงสัยว่า ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เท่าไร ถึงจะ แจ้งตรวจสอบได้ หรือมีกรณีไหนบ้างที่จำเป็นต้องแจ้ง เห็นจากข่าวว่า ควรจะเท่ากับค่าน้ำค่าไฟบ้าน ปกติ และ + ค่าใช้จ่ายหอพักอื่นๆ อย่างละเอียด ซึ่งหอที่ผมอยุ่ ค่าน้ำ 25 บาท ค่าไฟ 10 บาท ขึ้นจาก 8 บาท (ขึ้นเองนอกเหนือสัญญา)

2.มีความสงสัยเรื่องมิเตอร์ค่าไฟของหอ หมุนผิดปกติ (บางห้อง ค่าไฟแพงกว่าค่าหอ เคยเจอแบบ ค่าไฟ 7800 ค่าหอ 5000 ยังไม่รวมค่าน้ำอีก )เมื่อลองเทียบกับ หอของเพื่อนดู ค่าไฟฟ้าต่างกัน ประมาณ 3 เท่า ทั้งที่หอเพื่อนเปิดแอร์ ทุกวัน ตอนที่อยุ่ ตุ้เย็น เครื่องทำน้ำร้อน ทีวี อื่นๆ ส่วนหอผม เปิดแค่ แอร์ บางวัน พัดลมทุกวัน และ ทีวี นานๆๆๆๆๆๆ ที  เราควรทำอย่างไรดีครับ

ปล.ยังไม่อยากย้ายครับ แต่อยากทราบวิธีแก้ปัญหา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้29 มิ.ย. 58 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ระบุว่า รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีศูนย์บริการประชาชนได้รับเรื่องราวร้องเรียนจากประชาชนอย่างไม่เป็นทางการว่าขณะนี้มีประชาชนหลายคนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีการถูกเจ้าของห้องพักและหอพักเอาเปรียบคิดราคาค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าสูงเกินจริงโดยหากเปรียบเทียบราคากับบ้านเรือนธรรมดาพบว่าผู้เช่าหอพักต้องจ่ายราคาสูงกว่า 1-2 เท่า จึงอยากให้รัฐเข้าไปตรวจสอบว่าการคิดราคาค่าน้ำค่าไฟของหอพักมีอัตราราคาที่เหมาะสมหรือไม่หากตรวจแล้วมีราคาสูงเกินจริงก็อยากให้รัฐออกมาตรการมาควบคุมเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกเอาเปรียบมากจนเกินไป
"ค่าน้ำค่าไฟฟ้าที่คนเช่าหอพักต้องจ่ายในเดือน ๆ หนึ่งมีราคาพอ ๆ กับค่าน้ำค่าไฟฟ้าบ้านธรรมดาที่มีคนอยู่หลายคน จึงมองว่าเอาเปรียบมากไปไหมขณะที่บางแห่งยังปิดบังมิเตอร์ไฟอีก ทำให้ไม่รู้ว่าใช้ไฟไปเท่าไหร่สิ่งเหล่านี้ต้องควบคุม เพราะในช่วงนี้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องค่าครองชีพโดยหอพักบางแห่งที่เปิดให้นักศึกษาเช่าคนที่ต้องจ่ายเงินไม่ใช่นักศึกษาแต่เป็นผู้ปกครองที่ต้องจ่ายหากเจอเอาเปรียบต้องจ่ายเงินเยอะโดยเฉพาะผู้ปกครองบางคนที่เป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำกลับต้องเอาเงินมาจ่ายเจ้าของหอพักแบบนี้ก็คงจะดูไม่เหมาะสม"

ร.ต.ไพโรจน์ คนึงทรัพย์ เลขานุการกรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) กล่าวว่า เดิมมีผู้บริโภคเข้ามาร้องเรียนถึงกรณีดังกล่าวแต่ก็มีจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่ก็สงสัยว่า เจ้าของหอพักคิดค่าน้ำ ค่าไฟ สูงเกินจริงหรือไม่โดยเจ้าหน้าที่ สคบ.ก็ได้ทำการตรวจสอบ และเชิญทั้งสองฝ่ายเข้ามาไกล่เกลี่ยหากพบรายการใดไม่ถูกต้องก็เจรจาให้เจ้าของห้องพักลดราคามาจนถึงราคาที่เหมาะสม ซึ่งการคิดค่าน้ำค่าไฟที่สูงนั้น เจ้าของหอพักมักอ้างว่า ในกรณีของค่าน้ำทางหอพักมีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าเพราะต้องสูบน้ำขึ้นไปยังห้องต่าง ๆ ทำให้ต้องคิดราคาสูงกว่าปกติ
ขณะเดียวกัน สคบ. ยังมีกฎหมายที่ควบคุมธุรกิจหอพักโดยออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาของ สคบ. กำหนดให้ธุรกิจการให้เช่าที่อยู่อาศัยที่เรียกเงินประกันเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงินโดยบังคับให้เจ้าของหอพักต้องออกหลักฐานการรับเงินจากผู้บริโภคพร้อมระบุรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน หากไม่ทำตามถือว่ามีความผิด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับหลักฐานการรับเงินที่เจ้าของธุรกิจออกให้นั้นต้องมีข้อความที่เป็นภาษาไทยที่สามารถเห็นและอ่านได้ชัดเจนมีขนาดตัวอักษรไม่เล็กกว่า 2 มิลลิเมตร และต้องใช้ข้อความที่มีสาระสำคัญและเงื่อนไขต่าง ๆ เช่นชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ และของผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน, ชื่อที่อยู่ของผู้เช่า, ชื่อสถานที่ของที่ตั้งของที่อยู่อาศัย, กำหนดระยะเวลาเช่าที่อยู่อาศัยโดยต้องระบุวันเริ่มต้นเช่า และวันสิ้นสุดเช่า, วันเดือนปี ที่รับเงินประกัน
รวมทั้งต้องมีจำนวนเงินประกันและข้อความว่า ผู้เช่ามีสิทธิได้รับเงินคืนทันทีเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่เช่าหรือเมื่อสัญญาเช่าเลิกกัน เว้นกรณีเจ้าของจะตรวจสอบความเสียหายที่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบหากผู้เช่าไม่ได้ทำความเสียหาย ให้ผู้เช่ามีสิทธิได้รับเงินประกันคืนภายใน 7 วัน โดยให้ผู้ประกอบการรับภาระค่าใช้จ่ายในการส่งคืนเงินประกันนั้นตามวิธีการที่ผู้เช่าแจ้งให้ทราบ ขณะเดียวกันในหลักฐานการรับเงินยังต้องมีลายมือชื่อเจ้าของห้องพัก หรือผู้มีอำนาจออกหลักฐานในการรับเงินด้วยและในหลักฐานการรับเงินนั้นต้องไม่มีข้อความในทำนองว่าผู้ประกอบธุรกิจจะไม่คืนเงินประกันให้กับผู้เช่าทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดๆ

นายจิรชัย มูลทองโร่ย หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าว อยากแจ้งเตือนให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาร้องเรียนปัญหากับทางภาครัฐจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น และประชาชนต้องถูกผู้ประกอบธุรกิจเอาเปรียบซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าของห้องพักต้องประกาศราคาค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าให้ผู้เช่ารับทราบอย่างชัดเจนหากพบว่ามีราคาสูงมากเกินไป อาจผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
อ้างอิง http://www.dailynews.co.th/economic/331125