ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้รู้กฎหมายในพันธ์ทิพย์มาก ซึ่งได้ให้ความรู้ จนโจทย์ได้นำไปฟ้องคดีแล้ว แต่ตอนนี้ โจทย์ไม่สบายใจ เพราะถามทนาย ๆ บอก ว่า โอกาสไม่ถึง 50 เปอร์เซ็น หรือ 50/50 จึงอยากจะขอความรู้เพิ่มเติมในการฟ้องคดีต่อไป
ข้อเท็จจริง (ย่อใจความ)
ปี 2516 จำเลยที่ 1 แบ่งขายที่ดินใน นส.3ก แก่พี่สาวโจทย์จริง มีหนังสือสัญญาทำกันเองต่อหน้าผู้ใหญ่บ้าน พยานตายหมดแล้ว แต่เอกสารสัญญายังมีอยู่
ปี 2531 จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้นำเจ้าหน้าที่ที่ดินมาสำรวจสอบเขต เพื่อออกโฉนด ทั้งส่วนของตนและส่วนของโจทย์ เป็นใบเดียวกัน ตาม นส.3ก โดยมีเพียงชื่อจำเลยที่ 1 เท่านั้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในใบโฉนด
โจทย์ (ผู้ซื้อต่อจากพี่สาว 2523) ยังไม่เคยมีชื่ออยู่ในเอกสารสิทธิ์ใดๆ เลย ทั้งในที่ดินข้างเคียง เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยในที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นของพี่เขย
ปี 2534 จำเลยที่ 1 เมื่อได้ใบโฉนดมา ก็รีบนำไปจำนองไว้กับธนาคารทันที โดยโจทย์ไม่รู้เห็นด้วยแต่อย่างใด (ปกปิดมาตลอด)
ปี 2542 ถูกธนาคารฟ้องร้องบังคับจำนอง จนศาลพิพากษาให้นำทรัพย์ขายทอดตลาด (ถามจำเลย ๆ บอกว่าจะเอาออกมาอยู่ตลอดเวลา)
ปี 2547 จำเลยที่ 2 ธนาคารผู้รับจำนอง เป็นผู้ซื้อทรัพย์ไว้เอง จากจำเลยที่ 3 สำนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาด
ปี 2550 จำเลยที่ 1 ได้ให้ตัวแทนที่1 (คนหมู่บ้านเดียวกัน) ไปซื้อมาเก็บไว้ก่อน แล้วก็รีบนำไปจำนองไว้กับอีกคน (ตัวแทนที่2) ทันที
ปี 2556 ตัวแทนที่1 ก็ได้ไถ่ถอนคืนกลับมา แล้วโอนเป็นชื่อลูกสะใภ้จำเลยที่ 1
เอกสารต่าง ๆ ดูได้ที่ www.ipmlink.net/law
โจทย์ ติดตามทวงถามตลอด แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพราะอีกฝ่ายอ้างว่าติดจำนองตลอดเวลา สัญญาว่าเอาออกมาเมื่อไรจะโอนให้
ล่าสุด ทวงเมื่อ มกราคม 2558 จำเลยก็อ้างว่าจำไปจำนองต่ออีก 15 ปี โจทย์ไปเช็คที่สำนักงานที่ดินแล้ว เป็นชื่อจำเลยที่ 4 (ลูกสะใภ้)
จึงคิดว่าโดนโกง แล้ว จึงฟ้องเป็นคดี (ศาลยังไม่ชี้สองสถาน)
เพราะที่แห่งนี้ จำเลยไม่เคยเข้ามาทำกินเลย ตั้งแต่ ปี 2516-2558 ปัจจุบัน โจทย์ครอบครองทำมาหากินมาตลอดฝ่ายเดียว อีกฝ่ายเป็นผู้สร้างกำแพงรั้วปูนเองด้วย เพื่อแบ่งเขตกันชัดเจน หากไม่ได้ไปตรวจสอบสนง.ที่ดิน คงคิดว่าเขาไม่โดนยึดอะไรเลย เพราะ อยู่ปกติสุขดีทุกอย่าง
ประเด็นคำถาม
1. โจทย์ มีสิทธิติดตามเอาคืนได้หรือไม่ ใช้ มาตราใด ประกอบบ้าง ? จำเลยใช้ ปพพ.1330 สู้
2. การออกโฉนดชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด ? จำเลยอ้างว่า โจทย์ลงชื่อรับรองเขตแล้ว
3. เมื่อโจทย์ฟ้องเป็นคดีแล้ว โอกาสจะชนะคดี ขึ้นอยู่กับอะไร?
4. ฟ้องเพิกถอนนิติกรรมได้หรือไม่ เพราะเหตุใด? จำเลยอ้างขาดอายุความฟ้องเกิน 10 ปี
5. หากเป็นท่านจะแก้ไขคำฟ้องหรือไม่ หรือ แก้เฉพาะบางคำเท่านั้น ข้อความใดบ้าง?
6. ทนายทั้งสองฝ่าย รู้จักกัน เห็นควรเปลี่ยนทนายหรือไม่ (ฝั่งโจทย์ พูดไม่เก่งก้มหน้าก้มตาเล่นแต่โทรศัพท์ ฝั่งจำเลย พูดเก่งมาก)
ขอบคุณครับ
www.ipmlink.net/law (เอกสารคำฟ้องและคำให้การ)
ที่ดินมือเปล่า ซื้อแล้วไม่ยอมโอน จนศาลบังคับจำนองให้ขายทอดตลาด เกิน 10 ปี ติดตามเอาคืนได้ไหม
ข้อเท็จจริง (ย่อใจความ)
ปี 2516 จำเลยที่ 1 แบ่งขายที่ดินใน นส.3ก แก่พี่สาวโจทย์จริง มีหนังสือสัญญาทำกันเองต่อหน้าผู้ใหญ่บ้าน พยานตายหมดแล้ว แต่เอกสารสัญญายังมีอยู่
ปี 2531 จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้นำเจ้าหน้าที่ที่ดินมาสำรวจสอบเขต เพื่อออกโฉนด ทั้งส่วนของตนและส่วนของโจทย์ เป็นใบเดียวกัน ตาม นส.3ก โดยมีเพียงชื่อจำเลยที่ 1 เท่านั้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในใบโฉนด
โจทย์ (ผู้ซื้อต่อจากพี่สาว 2523) ยังไม่เคยมีชื่ออยู่ในเอกสารสิทธิ์ใดๆ เลย ทั้งในที่ดินข้างเคียง เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยในที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นของพี่เขย
ปี 2534 จำเลยที่ 1 เมื่อได้ใบโฉนดมา ก็รีบนำไปจำนองไว้กับธนาคารทันที โดยโจทย์ไม่รู้เห็นด้วยแต่อย่างใด (ปกปิดมาตลอด)
ปี 2542 ถูกธนาคารฟ้องร้องบังคับจำนอง จนศาลพิพากษาให้นำทรัพย์ขายทอดตลาด (ถามจำเลย ๆ บอกว่าจะเอาออกมาอยู่ตลอดเวลา)
ปี 2547 จำเลยที่ 2 ธนาคารผู้รับจำนอง เป็นผู้ซื้อทรัพย์ไว้เอง จากจำเลยที่ 3 สำนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาด
ปี 2550 จำเลยที่ 1 ได้ให้ตัวแทนที่1 (คนหมู่บ้านเดียวกัน) ไปซื้อมาเก็บไว้ก่อน แล้วก็รีบนำไปจำนองไว้กับอีกคน (ตัวแทนที่2) ทันที
ปี 2556 ตัวแทนที่1 ก็ได้ไถ่ถอนคืนกลับมา แล้วโอนเป็นชื่อลูกสะใภ้จำเลยที่ 1
เอกสารต่าง ๆ ดูได้ที่ www.ipmlink.net/law
โจทย์ ติดตามทวงถามตลอด แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพราะอีกฝ่ายอ้างว่าติดจำนองตลอดเวลา สัญญาว่าเอาออกมาเมื่อไรจะโอนให้
ล่าสุด ทวงเมื่อ มกราคม 2558 จำเลยก็อ้างว่าจำไปจำนองต่ออีก 15 ปี โจทย์ไปเช็คที่สำนักงานที่ดินแล้ว เป็นชื่อจำเลยที่ 4 (ลูกสะใภ้)
จึงคิดว่าโดนโกง แล้ว จึงฟ้องเป็นคดี (ศาลยังไม่ชี้สองสถาน)
เพราะที่แห่งนี้ จำเลยไม่เคยเข้ามาทำกินเลย ตั้งแต่ ปี 2516-2558 ปัจจุบัน โจทย์ครอบครองทำมาหากินมาตลอดฝ่ายเดียว อีกฝ่ายเป็นผู้สร้างกำแพงรั้วปูนเองด้วย เพื่อแบ่งเขตกันชัดเจน หากไม่ได้ไปตรวจสอบสนง.ที่ดิน คงคิดว่าเขาไม่โดนยึดอะไรเลย เพราะ อยู่ปกติสุขดีทุกอย่าง
ประเด็นคำถาม
1. โจทย์ มีสิทธิติดตามเอาคืนได้หรือไม่ ใช้ มาตราใด ประกอบบ้าง ? จำเลยใช้ ปพพ.1330 สู้
2. การออกโฉนดชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด ? จำเลยอ้างว่า โจทย์ลงชื่อรับรองเขตแล้ว
3. เมื่อโจทย์ฟ้องเป็นคดีแล้ว โอกาสจะชนะคดี ขึ้นอยู่กับอะไร?
4. ฟ้องเพิกถอนนิติกรรมได้หรือไม่ เพราะเหตุใด? จำเลยอ้างขาดอายุความฟ้องเกิน 10 ปี
5. หากเป็นท่านจะแก้ไขคำฟ้องหรือไม่ หรือ แก้เฉพาะบางคำเท่านั้น ข้อความใดบ้าง?
6. ทนายทั้งสองฝ่าย รู้จักกัน เห็นควรเปลี่ยนทนายหรือไม่ (ฝั่งโจทย์ พูดไม่เก่งก้มหน้าก้มตาเล่นแต่โทรศัพท์ ฝั่งจำเลย พูดเก่งมาก)
ขอบคุณครับ
www.ipmlink.net/law (เอกสารคำฟ้องและคำให้การ)