ยุ่นปี่ คือ กรีซ รายต่อไป?

กระทู้คำถาม
ผู้นำญี่ปุ่นมั่นใจไม่ย่ำรอยกรีซ แม้หนี้สาธารณะพุ่งสูงถึง 230%


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์        
30 มิถุนายน 2558 09:44 น.

ผู้นำญี่ปุ่นมั่นใจไม่ย่ำรอยกรีซ แม้หนี้สาธารณะพุ่งสูงถึง 230%

        นายกรัฐมนตรีชินโสะ อะเบะ ประกาศว่าญี่ปุ่นจะไม่พบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนกับประเทศกรีซ ถึงแม้สัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีของญี่ปุ่นจะสูงกว่ากรีซที่กำลังใกล้จะล้มลายในขณะนี้
       
       รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงมั่นใจว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า “อะเบะโนมิกส์” จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัยที่ซบเซามากกว่า 10 ปีได้ ถึงแม้ว่าแผนดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนหนี้สินสาธารณะของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ตลาด โดยญี่ปุ่นมีหนี้สินต่อจีดีพีในปี 2014 สูงถึง 230% ซึ่งมากกว่ากรีซที่มีสัดส่วนหนี้สาธารณะราว189%
       
       นายอากิระ อะมาริ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ระบุว่า มาตรการรัดเข็มรัดและลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกรีซ ตามเงื่อนไขเงินกู้ของสหภาพยุโรป ทำให้เศรษฐกิจของกรีซทรุดหนักยิ่งกว่าเดิม และรัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ทำแบบเดียวกัน
       
       รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตเพื่อลดหนี้สิน มากกว่าจะตัดลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ โดยตั้งเป้าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัว 3% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่เคยทำได้มาก่อนในรอบ 15 ปี  แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ “อะเบะโนมิกส์” ทำให้ญี่ปุ่นมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็ยังล่าช้า และทำไม่ได้ตามเป้าหมาย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ผมเปรียบเทียบให้ฟัง   ประเทศก็เหมือนบ้านนี่ล่ะครับ

บ้านกรีซเงินไม่ค่อยมี   แต่อยู่กันหรูหรา   คนในบ้านก็หาเงินไม่ค่อยได้แต่ใช้กันไม่ประหยัด  
แต่จมไม่ลงยังไปกู้มากินเที่ยว    ซื้อเฟอร์นิเจอร์  ซื้อรถ  ซื้อไอโฟน
แถมชอบชอบจ้างโชว์มาแสดงอีก  จัดโอลิมปิคก็เหมือนจัดโชว์ให้เพื่อนบ้านดูฟรี
ยิ่งกู้มากขึ้นๆ เครดิตก็แย่ลงๆ   ดอกเบี้ยก็สูงเอาๆไปๆมาๆ  29%   
ตอนนี้ทบต้นทบดอกยอดเงินกู้ไปเกือบ  180% ของรายได้ต่อปีของทั้งบ้าน
ถามว่าบ้านนี้เดือดร้อนไหม    คำตอบคือเดือดร้อนมาก   ต่อไปจะกินอะไรเข้าไป

ส่วนบ้านญี่ปุ่นนั้นต่างกัน   บ้านนี้เขารวย  ลุงป้าน้าอาเงินเก็บเต็มไปหมด   แถมนิสัยประหยัดมัธยัสถ์
แต่พ่อบ้านเห็นว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะเฉื่อยชากันหมด   ลูกหลานก็ไม่มีเงินไปต่อเงิน
พ่อบ้านก็เลยตัดสินใจกู้เงินลุงป้าน้าอาในบ้านมาให้เด็กๆเปิดร้านขนม  ร้านไอติม  หารายได้กัน
แถมเอาไปปล่อยกู้ให้บ้านใกล้เรือนเคียงด้วย   แต่ลุงป้าน้าอาก็ไม่รู้จะเอาเงินไปลงที่ไหน   ก็เลยคิดพ่อบ้านแบบดอกเบี้ยต่ำๆ  1-2%
ผลก็คือพ่อบ้านติดหนี้ลุงป้าน้าอา 270% ของรายได้ต่อปีของทั้งบ้าน
ถามว่าทำไมมันเยอะจังก็เพราะแรงงานในบ้านมีแต่คนแก่    ค่าแรงมันเลยแพง   เทียบกับฐานเงินเดิมเลยดูเยอะ
แต่ถามว่าใครเดือดร้อน   คำตอบคือไม่มี  ลุงป้าน้าอาก็ไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร   กินดอก 1-2% ก็อิ่มแล้วก็อยู่กันไปสบายๆ
พ่อบ้านคนใหม่มาก็มีแนวคิดจะคืนเงินลุงป้าน้าอาให้เร็วขึ้น   ก็เร่งลงทุนเพิ่มเข้าไปอีกหวังจะให้เด็กๆเร่งกันทำมาหากิน
ทั้งเปิดการท่องเที่ยว   เปิดร้านอาหารครัวในบ้าน   เปิดสวนสนุกในบ้านเก็บค่าผ่านประตูเสียอีก

ส่วนบ้านเรานั้น   เคยเดินทางเดียวกับบ้านกรีซมาแล้ว   จนใครๆเรียกว่าบ้านต้มยำกุ้ง
ก็ได้บทเรียนกันมาสบักสบอมจนหลังๆก็เริ่มรู้จักขยันหมั่นเพียร  ประหยัดอดออมกันมากขึ้น   
แต่ก็ไม่วายมีลูกหลานติดอู้ฟู่   ใช้เงินกันฟุ่มเฟือย   เทรนด์อะไรมาต้องมีเหมือนเพื่อน
หลานชายก็ติดเกม   ติดหญิง  ติดคาร์บอนเฟรม   บิ๊กไบค์   ฟลูเฟรม
หลานสาวก็ติดพราด้า   คริสเตียนลูบูแตง   ติดเซลฟี่   อินสตราแกรม   
ผู้ใหญ่ก็แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน   คอยแต่จ้องจะช่วงชิงมรดก   
ฝ่ายขวาก็กลัวนั้นกลัวนี้    พอได้เป็นใหญ่ก็ไม่ทำไรมัวแต่คอยกันท่าฝ่ายซ้าย   
ฝ่ายซ้ายพอได้ที   ก็มาเป็นใหญ่ในบ้าน   คอยให้ท้ายลูกๆหลานๆ   
คอยเอาเงินกงสีมาถลุงมาแจก   แจกเงินให้คนละแสนไปดาว์นรถเก๋งขับ
สุดท้ายฝ่ายกลางเข้ามาไล่ออกไปทั้งซ้ายขวา    เริ่มกันใหม่
แต่ก็ไม่ใช้งานง่ายๆ จะดัดนิสัยทั้งลูกหลานและลุงป้าน้าอา  มันอีรุงตุงนังไปหมด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่