“วิชัย ทองแตง” ไม่เข็ด!! จาก CTH สู่ ลิงค์ เน็ตเวิร์ค จะอยู่หรือไป

กระทู้คำถาม
“วิชัย ทองแตง” ไม่เข็ด!! จาก CTH สู่ ลิงค์ เน็ตเวิร์ค จะอยู่หรือไป
http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000072049

29 มิถุนายน 2558 14:41 น.

        “วิชัย ทองแตง” เล่นเกมเดิม ผนึกกำลังกับนักธุรกิจจำหน่ายสินค้าระดับท้องถิ่นรายใหญ่ 28 รายทั่วประเทศ ควัก 100 ล้านบาทผุด “ลิงค์ เน็ตเวิร์ค” หวังเป็นเฮดเซ็นเตอร์สร้างอำนาจต่อรองกับคู่ค้า พร้อมยกระดับร้านโชวห่วยให้มีการจัดการที่ทันสมัยขึ้น มั่นใจต้นทุนลดรับกำไรสูงขึ้น ด้วยรายได้โตเท่าตัวทะลุ 40,000 ล้านบาทในปี 59

       นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลิงค์ เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตนเชื่อในเรื่องของคอนโซลิเดท เพราะผู้ที่อ่อนแอหากไม่รวมตัวกันให้แข็งแกร่งจะอยู่ยาก ส่งผลให้ล่าสุดตนได้ตัดสินใจร่วมทุนกับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้าระดับภูมิภาค จัดตั้ง ลิงค์ เน็ตเวิร์ค ขึ้นมา ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 100 ล้านบาท โดยตนถือหุ้น 25% และกลุ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้า 28 รายร่วมกันถือหุ้นอีก 75% ในการเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการภายในเครือข่าย ด้วยมาตรฐานระดับสากล ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 77 จังหวัด ผ่านช่องทางจำหน่ายสินค้าที่เป็นร้านค้าทั่วไปกว่า 150,000 ช่องทาง
       
       สำหรับโครงสร้างองค์กร จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. ลิงค์ เน็ตเวิร์ค ส่วนกลาง ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย วางยุทธศาสตร์การตลาด สั่งซื้อสินค้า วางระบบไอที เป็นต้น 2. ลิงค์ เน็ตเวิร์ค ส่วนภูมิภาค ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ภูมิภาค คือ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้/ตะวันตก ทำหน้าที่ซัปพอร์ตนโยบาย และกระจายสินค้าที่รับจากส่วนกลาง และ 3. ลิงค์ เน็ตเวิร์ค ส่วนจังหวัด ทำหน้าที่กระจายสินค้าไปสู่ร้านค้าทั่วทั้งจังหวัด
       
       ส่วนสินค้าและธุรกิจที่บริษัทจะเริ่มต้นในการจัดจำหน่ายนั้นมีอยู่ 6 กลุ่ม คือ 1. สินค้าอุปโภคบริโภค 2. เครื่องใช้ไฟฟ้า 3. มือถือและอุปกรณ์สื่อสาร 4. ทีวี/อินเทอร์เน็ต 5. บริการทางการเงิน และ 6. สินค้าเอสเอ็มอีและสินค้าประจำถิ่น หลังจากนั้นจะมีการดึงธุรกิจอื่นๆ เข้ามาร่วมอีก ทั้งสินค้าเอสเอ็มอี และขายตรง เป็นต้น

        “การรวมตัวกันจะก่อให้เกิดพลัง และสามารถลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล ดังนั้น การรวมตัวกันในธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าในครั้งนี้ ในภาพรวมสนามการค้าไม่ได้เปลี่ยนไป แต่องค์ประกอบจะเปลี่ยนแปลง ด้วยความแข็งแกร่งที่จะเกิดขึ้นใน 3 เรื่อง คือ 1. สร้างดุลการค้า มีอำนาจต่อรองกับคู่ค้ายักษ์ใหญ่ เกิดความเป็นธรรมในธุรกิจมากขึ้น 2. กระบวนการระหว่างเส้นทางผู้ผลิตสู่ผู้จัดจำหน่ายจะสั้นลง ต้นทุนลดลง ธุรกิจเดินหน้าต่อเนื่องได้ดีขึ้น และ 3. ช่วยขับเคลื่อนรากหญ้าให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน กับสินค้าระดับเอสเอ็มอีที่ต้องการช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ผ่านทางลิงค์ เน็ตเวิร์ค
       
       นายวิชัยกล่าวต่อว่า การจัดตั้งลิงค์ เน็ตเวิร์ค จะมุ่งสร้างกำไรเพิ่ม และลดต้นทุนให้การจำหน่ายสินค้าทั้ง 6 กลุ่มเป็นหลัก ส่วนรายได้ของลิงค์ เน็ตเวิร์คเองนั้นจะมาจากส่วนต่างของรายได้จากการจัดการภายในระบบทั้งหมด หรือในปีแรกน่าจะมีรายได้เพียง 50-100 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนใน 3 เฟส คือ 1. เน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั้ง 5 ภูมิภาค 2. สร้างความแข็งแกร่งให้เซ็นเตอร์ คือ ลิงค์ เน็ตเวิร์ค ในช่วงปลายปี 59 เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อสู้กับการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียน และ 3. ดึงพันธมิตรใหม่ๆ เข้ามาร่วมธุรกิจมากขึ้น พร้อมต่อยอดพัฒนาศักยภาพช่องทางจำหน่ายสินค้าที่มีอยู่สู่รูปแบบการให้บริการใหม่ๆ เช่น อี-คอมเมิร์ซ เป็นต้น
       
       ด้านนายธนกร วีรชาติยานุกูล ตัวแทนเครือข่ายนักธุรกิจจำหน่ายสินค้าระดับท้องถิ่น กล่าวเสริมว่า หากไม่ร่วมมือกันธุรกิจที่ทำมาอาจจะไม่มีโอกาสส่งต่อให้ลูกหลาน ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง ตลาดการค้าเสรีขึ้น แต่กำไรกลับมีน้อยลง ดังนั้น การทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับช่องทางจำหน่ายด้วยการจัดการที่ดีขึ้น นำระบบไอทีเข้าเสริมเพิ่มให้ทันสมัย เป็นการยกระดับร้านค้าโชวห่วยให้มีศักยภาพ เป็นช่องทางให้เจ้าของสินค้าขายของได้

        “โมเดลการรวมตัวกันครั้งนี้ ได้คุณวิชัย ทองแตงเข้ามาช่วยให้เกิดการรวมตัวกันได้ง่ายขึ้น จากเดิมจะทำได้ยาก ซึ่งคุณวิชัยจะนำความรู้ในเรื่องระบบไอทีและการจัดการ พร้อมวางยุทธศาสตร์ต่างๆ ให้ ส่วนการกระจายสินค้า และเครือข่ายร้านค้า ตัวแทนทั้ง 28 รายยังคงดำเนินการตามเดิม ซึ่งผลดีที่เกิดขึ้นนอกจากจะทำให้ต้นทุนลดลง ส่วนสำคัญคือ กำไรที่จะมีเพิ่มขึ้น จากปกติในปีก่อนรายได้การดำเนินธุรกิจของทั้ง 28 รายรวมกันมีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท และหลังจากรวมกันเป็น ลิงค์ เน็ตเวิร์ค แล้ว ภายในปี 2559 มองว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท”
       
       อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายวิชัย ทองแตง ถือเป็นนักลงทุนที่เชื่อในเรื่องของการคอนโซลิเดท สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ โดยก่อนหน้านี้เคยใช้โมเดลในลักษณะเดียวกันนี้กับการจับมือกับนักธุรกิจเคเบิลท้องถิ่นที่รวมตัวกันกว่า 70 รายสร้างบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ขึ้นมา หวังสร้างความแข็งแกร่งให้กับเคเบิลท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันในธุรกิจเพย์ทีวีกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง ทรู วิชั่นส์ มาแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่