สวัสดีค่ะ วันนี้เรา รู้สึกเหนื่อย เครียด เลยอยากหาคนช่วยรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น อยากระบายความในใจให้ความอึดอัดได้ระบายออกไปบ้าง ขอเริ่มเลยนะคะ
เราเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านค่ะ และปกติจะเป็นคนตามใจแม่ค่ะ ตั้งแต่เรื่องเรียน เรื่องงาน คือไม่อยากขัดใจแม่ ไม่อยากทำให้แม่เสียใจ แต่เรารู้สึกว่าแม่ไม่เคยเข้าใจเราจริง ๆ เลยค่ะ
หลาย ๆ ครั้งที่เราเจอปัญหาหนัก ๆ สิ่งที่เราอยากได้มากที่สุดคือกำลังใจจากแม่ แต่เปล่าเลย แม่กลับยิ่งพูดให้เรารู้สึกแย่ลง อย่างตอนที่เราทำงานครั้งแรกหลังจากที่เรียนจบมา ทำงานได้ปีกว่า ๆ ค่ะ แล้วเรารู้สึกว่าเราอึดอัดกับสภาพแวดล้อมที่ทำงาน เราอยากออกมาหาที่ทำงานใหม่ แม่เราก็พยายามพูดรั้งเราไม่ให้ออกค่ะ จนสุดท้าย เราไม่ไหวแล้วจริง ๆ ก็เลยออกมา ตอนนั้นตัดสินใจแบบไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี คือไม่ได้คิดหางานสำรองไว้ก่อน เลยทำให้เราต้องออกมาอยู่บ้านว่าง ๆ พูดง่าย ๆ คือตกงานอยู่ 6 เดือน ในระหว่างนี้เราก็พยายามหางานทุกเดือนค่ะ เราหวังว่าแม่จะคอยพูดให้กำลังใจเรา แต่ปล่อยเลย แม่กลับพูดประชดประชันเราทุกเดือน ประมาณว่า "เนี่ย อยากอยู่บ้านก็อยู่ไปเลยนะ เดี๋ยวแม่ออกไปทำงานเอง ไปหาเสริฟอาหารตามร้านอาหารกลางคืนก็ได้" คือพูดแบบนี้ตลอด ประชดประชันเราสารพัด เราแอบร้องไห้ทุกคืนเลยค่ะ จนในที่สุดก็ได้งานใหม่ แม่เลยหยุดพูดเรื่องนี้ไป
หลังจากนั้นพอดีมีเพื่อนเสนอให้ร่วมลงทุนด้วยกัน เพื่อนพูดสารพัด ว่ารายได้ดีนะ กำไรดีนะ แต่ตอนนี้ไม่มีเงินลงทุน ซึ่งก็เป็นผลให้เราตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ คือการทำบัตรกดเงินสด เพื่อจะเอาเงินมาลงทุน ซึ่งแรก ๆ ก็ดีค่ะ แต่หลังจากนั้นพอธุรกิจนี้เริ่มมีคนทำมากขึ้น แน่นอนค่ะการแข่งขันก็มากตาม ผลสุดท้าย เราสู้คู่แข่งรายอื่นไม่ได้ ก็ขาดทุนและเลิกธุรกิจไปค่ะ ซึ่งเราก็ต้องใช้หนี้ที่เกิดขึ้นตรงนี้ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เงินเดือนเราก็ให้แม่ใช้ปกติ
แต่แล้วบ้านเราก็เกิดปัญหาครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งค่ะ คือพ่อไปแอบทำบัตรกดเงินสดด้วยเหมือนกัน และช่วงนั้นพ่อเราเกษียณพอดีค่ะ ทำให้เกิดหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกก้อนใหญ่ เราขอไม่พูดถึงนะคะว่าพ่อเอาเงินไปทำอะไร เพราะมันผ่านไปแล้ว แม่เราเครียดกับเรื่องนี้มากค่ะ เพราะรายได้หลักที่พ่อเคยทำได้ ก็ลดลงเหลือแค่นิดเดียว ประกอบกับพ่อเราขายรถโดยที่ไม่ปรึกษาแม่ เพื่อเอาไปใช้หนี้นอกระบบอีกส่วนนึง ช่วงนั้นแม่เราคิดมากจนถึงขั้นป่วยเข้าโรงพยาบาลเลยค่ะ หลังจากนั้นแม่เราจะพูดจาไม่ดีกับพ่อเลย และพาลพูดไม่ดีใส่เราด้วย
แม่จะเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครดูถูก กลัวคนอื่นดูถูก ตอนช่วงที่พ่อขายรถ แม่จะพูดประชดประชันเรื่องรถตลอด ไม่ยอมกลับบ้านยายเพราะกลัวโดนญาติถามว่ารถหายไปไหน ช่วงนี้เองที่เริ่มทำให้แม่เราเปลี่ยนไปค่ะ กลายเป็นคนอารมณ์ร้าย โมโหร้าย พูดจาทำร้ายจิตใจตลอดไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือว่าเรา คือแม่จะบ่นเรื่องรถตลอด แบบ "เนี่ย จะไปไหนก็ไม่ได้ไป ไม่มีรถแล้ว คงต้องขึ้นรถเมล์เอาแล้ว" แล้วคือแบบ อารมณ์อยากไปนู่นไปนี่ขึ้นมาเลย ทั้ง ๆ ที่ตอนที่มีรถ พ่อชวนไปไหนก็ไม่เคยไป บ่นแต่ว่าเหนื่อย ร้อน ไม่อยากออก จนเราตัดสินใจซื้อรถค่ะ เพราะอยากให้แม่สบาย และเลิกบ่นเลิกประชดพ่อกับเราซักที
แต่กลายเป็นว่าเราคิดผิดค่ะ
เมื่อแม่ไม่เคยเข้าใจเราเลย
เราเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านค่ะ และปกติจะเป็นคนตามใจแม่ค่ะ ตั้งแต่เรื่องเรียน เรื่องงาน คือไม่อยากขัดใจแม่ ไม่อยากทำให้แม่เสียใจ แต่เรารู้สึกว่าแม่ไม่เคยเข้าใจเราจริง ๆ เลยค่ะ
หลาย ๆ ครั้งที่เราเจอปัญหาหนัก ๆ สิ่งที่เราอยากได้มากที่สุดคือกำลังใจจากแม่ แต่เปล่าเลย แม่กลับยิ่งพูดให้เรารู้สึกแย่ลง อย่างตอนที่เราทำงานครั้งแรกหลังจากที่เรียนจบมา ทำงานได้ปีกว่า ๆ ค่ะ แล้วเรารู้สึกว่าเราอึดอัดกับสภาพแวดล้อมที่ทำงาน เราอยากออกมาหาที่ทำงานใหม่ แม่เราก็พยายามพูดรั้งเราไม่ให้ออกค่ะ จนสุดท้าย เราไม่ไหวแล้วจริง ๆ ก็เลยออกมา ตอนนั้นตัดสินใจแบบไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี คือไม่ได้คิดหางานสำรองไว้ก่อน เลยทำให้เราต้องออกมาอยู่บ้านว่าง ๆ พูดง่าย ๆ คือตกงานอยู่ 6 เดือน ในระหว่างนี้เราก็พยายามหางานทุกเดือนค่ะ เราหวังว่าแม่จะคอยพูดให้กำลังใจเรา แต่ปล่อยเลย แม่กลับพูดประชดประชันเราทุกเดือน ประมาณว่า "เนี่ย อยากอยู่บ้านก็อยู่ไปเลยนะ เดี๋ยวแม่ออกไปทำงานเอง ไปหาเสริฟอาหารตามร้านอาหารกลางคืนก็ได้" คือพูดแบบนี้ตลอด ประชดประชันเราสารพัด เราแอบร้องไห้ทุกคืนเลยค่ะ จนในที่สุดก็ได้งานใหม่ แม่เลยหยุดพูดเรื่องนี้ไป
หลังจากนั้นพอดีมีเพื่อนเสนอให้ร่วมลงทุนด้วยกัน เพื่อนพูดสารพัด ว่ารายได้ดีนะ กำไรดีนะ แต่ตอนนี้ไม่มีเงินลงทุน ซึ่งก็เป็นผลให้เราตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ คือการทำบัตรกดเงินสด เพื่อจะเอาเงินมาลงทุน ซึ่งแรก ๆ ก็ดีค่ะ แต่หลังจากนั้นพอธุรกิจนี้เริ่มมีคนทำมากขึ้น แน่นอนค่ะการแข่งขันก็มากตาม ผลสุดท้าย เราสู้คู่แข่งรายอื่นไม่ได้ ก็ขาดทุนและเลิกธุรกิจไปค่ะ ซึ่งเราก็ต้องใช้หนี้ที่เกิดขึ้นตรงนี้ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เงินเดือนเราก็ให้แม่ใช้ปกติ
แต่แล้วบ้านเราก็เกิดปัญหาครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งค่ะ คือพ่อไปแอบทำบัตรกดเงินสดด้วยเหมือนกัน และช่วงนั้นพ่อเราเกษียณพอดีค่ะ ทำให้เกิดหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกก้อนใหญ่ เราขอไม่พูดถึงนะคะว่าพ่อเอาเงินไปทำอะไร เพราะมันผ่านไปแล้ว แม่เราเครียดกับเรื่องนี้มากค่ะ เพราะรายได้หลักที่พ่อเคยทำได้ ก็ลดลงเหลือแค่นิดเดียว ประกอบกับพ่อเราขายรถโดยที่ไม่ปรึกษาแม่ เพื่อเอาไปใช้หนี้นอกระบบอีกส่วนนึง ช่วงนั้นแม่เราคิดมากจนถึงขั้นป่วยเข้าโรงพยาบาลเลยค่ะ หลังจากนั้นแม่เราจะพูดจาไม่ดีกับพ่อเลย และพาลพูดไม่ดีใส่เราด้วย
แม่จะเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครดูถูก กลัวคนอื่นดูถูก ตอนช่วงที่พ่อขายรถ แม่จะพูดประชดประชันเรื่องรถตลอด ไม่ยอมกลับบ้านยายเพราะกลัวโดนญาติถามว่ารถหายไปไหน ช่วงนี้เองที่เริ่มทำให้แม่เราเปลี่ยนไปค่ะ กลายเป็นคนอารมณ์ร้าย โมโหร้าย พูดจาทำร้ายจิตใจตลอดไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือว่าเรา คือแม่จะบ่นเรื่องรถตลอด แบบ "เนี่ย จะไปไหนก็ไม่ได้ไป ไม่มีรถแล้ว คงต้องขึ้นรถเมล์เอาแล้ว" แล้วคือแบบ อารมณ์อยากไปนู่นไปนี่ขึ้นมาเลย ทั้ง ๆ ที่ตอนที่มีรถ พ่อชวนไปไหนก็ไม่เคยไป บ่นแต่ว่าเหนื่อย ร้อน ไม่อยากออก จนเราตัดสินใจซื้อรถค่ะ เพราะอยากให้แม่สบาย และเลิกบ่นเลิกประชดพ่อกับเราซักที
แต่กลายเป็นว่าเราคิดผิดค่ะ