ติดตามตอนอื่นๆได้ที่
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 0::การเตรียมตัว : http://ppantip.com/topic/33824688
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 2::Singapore : http://ppantip.com/topic/33837026
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 3::Germany(Part1) :
http://ppantip.com/topic/33999802
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 4::Austria : http://ppantip.com/topic/33999998
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 5::Hungary : http://ppantip.com/topic/34017218
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 6::Czech Republic :http://ppantip.com/topic/34029583
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 7::Germany(Part2) :http://ppantip.com/topic/34076250
Phase I : South East Asia (Malaysia+Singapore)
Chapter 1 : Malaysia Truly Asia (ประเทศมาเลเซีย)
4 มิยุนายน 2558 : สัญญาณหน้าฝน
ขึ้นเครื่องจากหาดใหญ่ เราจึงมุ่งหน้าสู่กัลลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย (เนื่องจากมีกิจกรรมของมหาลัยจึงทำให้ผมและเพื่อนต้องมาเยือนหาดใหญ่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผมเอง) เครื่องของเราออกเดินทางเวลา 12.10 น. ไปถึงกัลลาลัมเปอร์ 14.45 โดยประมาณ
เมื่อมาถึงสนามบิน KLIA2 ของกัวลาลัมเปอร์ เราก็จัดการซื้อซิมInternetเพื่อใช้ในมาเลเซียจากร้าน Digi ราคา 28 ริงกิต (1ริงกิตประมาณ9บาท) และซื้อตั๋วรสบัสเข้าตัวเมืองในราคา 10 ริงกิต
ภาพตั๋วรถเข้าเมือง
ระบบขนส่งมวลชนที่ประเทศมาเลเซียถือว่าดีมาก ภายในเมืองมีระบบ monorail รถเมย์และรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้การเดินทางระหว่างเมืองก็มีระบบรถบัสที่ดีมากๆ
ภาพนี้ถ่ายบนMonorail
ส่วนชิมอินเทอร์เน็ต+โทรศัพท์ที่เราซื้อราคา 28 ริงกิต เป็นโปรโมชั่นที่ให้เราโทรออกจากมาเลเซียกลับไทยได้ประมาณ 40 นาที และเล่นอินเทอร์เน็ตได้อีก 500 MB คุ้มค่าคุ้มราคามาก
นั่งรถประมาณ 50 นาทีก็จะเข้ามาถึงตัวเมือง ณ บริเวณ KL Sentral สถานที่ซึ่งเป็นชุมสายของรถไฟสายต่างๆ
จากจุดๆนี้จะเดินทางไปไหนก็สะดวกมากๆครับ ยิ่งไปกว่านั้นผมจองโรงแรมไว้ใกล้ๆ KL Sentral อยู่แล้ว จึงเดินจากสถานีไปยังโรงแรมได้เลยครับ โรงแรมในวันนี้ชื่อ Westree เป็นโรงแรมที่โดดเด่นจากอาคารข้างๆมากตรงที่ดูใหม่ สะอาด ทันสมัย ปลอดภัย (อาคารข้างๆจะเก่าๆหน่อย)
สภาพภายในห้อง
17.00น. หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จเรียบร้อย เราก็รีบนั่งรถไฟไปสถานี Bandar Tasik Selatan เพื่อไปจองตั๋วรถบัสที่จะเดินทางไปมะละกาเมืองมรดกในวันรุ่งขึ้น (ถึงแม้ KL Sentral จะเป็นชุมสายรถไฟ แต่หากต้องการจะเดินทางไปเมืองอื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้รสบัส ซึ่งสถานีขนส่งจะอยู่คนละที่กับ KL Sentral //เปรียบเสมือนสถานีหัวลำโพงและขสบก.หมอซิต2)
....เราสับสน และหลงทางอยู่กับสายรถไฟในกัวลาลัมเปอร์ เป็นเวลาถึง1ชั่วโมงจึงมาถึงสถานีขนส่ง Bersepadu Selatan ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ Bandar Tasik Selatan ที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ (จริงๆมีรถไฟวิ่งตรงใช้เวลาเพียง 25 นาที)
(อาคารด้านซ้ายคือ Bersepadu Selatan สถานีขนส่ง)
เมื่อมาถึงแล้ว ผมก็ต่อคิวจองรถบัสไปมะละการอบ 9 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงจากกัวลาลัมเปอร์ก็จะถึงมะละกา
บริษัทรถบัสที่เราใช้บริการในครั้งนี้เป็นของ Metrobus ราคาคนละ 10 ริงกิต
19.00น. เรานั่งรถไฟกลับมาถึง KL Sentral พร้อมที่จะไปชมสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย นั้นก็คือ.....
ตึกแฝด หรือ ตึกปีโตรนัส (Twin / Petronas Tower)
Credit : http://www.hdwallpaperscool.com/petronas-towers-desktop-wallpapers/
แต่ด้วยความไม่เข้าใจแผนที่รถไฟ ผมจึงเลือกใช้บริการรถไฟชนิดMonorail ที่ไม่มีสถานีใดจอดใกล้ตึกแฝด แต่ไม่เป็นไร เราเดินเอาได้.............ทันใดนั้น ฝนก็เริ่มลงเม็ด โชคยังดีที่เราเร่งฝีเท้า จนสามารถเข้าหลบภายในตัวอาคารตึกแฝดได้ทันเวลา
สภาพข้างในตึกแฝดก็คือห้างดีๆนี้เองครับ โดยห้างโซนตรงกลางมีชื่อว่า “Suria” และมีห้างโซนอื่นๆรายล้อมอยู่
เมื่อเข้ามาในห้าง เรา2คนก็มุ่งตรงไปยัง food court เพื่อหาอะไรมาบรรเทาความหิวบ้าง สำหรับมื้อค่ำในวันนี้ประกอบได้ด้วย ข้าวราดเนื้อตุ๋น1ที่ ส่วนเพื่อนผมรับประทานก๋วยเตี๋ยวอะไรสักอย่าง รสชาติUnidentified มากๆ
ภาพก๋วยเตี๋ยวและข้าวเนื้อตุ่นที่Foodcourt
ต่อมา เราก็เดินดูรอบๆห้าง ดูBrandnameบ้าง ดูไอทีเทคโนโลยีบ้าง ก็ไม่เห็นว่าจะมีสินค้าชิ้นไหนที่ราคาแตกต่างจากประเทศไทย เราจึงหาทางไป Supermarketที่อยู่ชั้นล่าง
Supermarketที่นี้โดดเด่นเรื่องผลิตภัณฑ์นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งผมก็ได้ทราบในภายหลังว่าเป็น Supermarket ของ Isetan นั้นเอง
ที่supermarket ผมซื้อน้ำอัดลมกลิ่นขิงชื่อ "Ginger beer" ซึ่งก็อร่อยดีครับ แนะนำให้นำมาทำขายในประเทศไทย
เดินในห้างรอฝนตกจนฝนหยุดตกแล้วเราจึงออกมาถ่ายรูปตึกแฝดกันครับ // แต่ปรากฏว่าออกประตูผิดทาง
ถือว่าเป็นโชคดีที่ออกประตูผิดทาง ทำให้ได้ชมการแสดงน้ำพุ ที่จัดแสดง ณ ด้านหลังของห้างพอดี
รอบๆการแสดงแน่นขนัดไปด้วยผู้คน แม้ว่าฝนจะกำลังตกอยู่ปรอยๆ//เป็นการแสดงแสงสีกับน้ำพุและเสียงเพลง
ส่วนวิวด้านหน้า (ประตูที่ถูกต้อง) ก็ประมาณนี้ครับ // อลังการงานก่อสร้างมาก
ลักษณะของตึกแฝดเมื่อมองใกล้ๆจะเห็นเป็นโลหะแวววาวซ้อนกันหลายๆชั้น สะท้อนแสงแวววาวระยิบระยับจับตา
22.30น. ผมเดินทางกลับที่พักด้วยรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง ในราคาเพียง 1.6 ริงกิต
วันต่อไปเราไปเมืองMalaccaเมืองมรดกโลกครับ
[CR] EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 1::Malaysia
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 0::การเตรียมตัว : http://ppantip.com/topic/33824688
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 2::Singapore : http://ppantip.com/topic/33837026
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 3::Germany(Part1) : http://ppantip.com/topic/33999802
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 4::Austria : http://ppantip.com/topic/33999998
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 5::Hungary : http://ppantip.com/topic/34017218
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 6::Czech Republic :http://ppantip.com/topic/34029583
EU with 2 mens [ยุโรป+สิงคโปร์+มาเลเซีย:14วัน6ประเทศ]::Chapter 7::Germany(Part2) :http://ppantip.com/topic/34076250
Phase I : South East Asia (Malaysia+Singapore)
Chapter 1 : Malaysia Truly Asia (ประเทศมาเลเซีย)
4 มิยุนายน 2558 : สัญญาณหน้าฝน
ขึ้นเครื่องจากหาดใหญ่ เราจึงมุ่งหน้าสู่กัลลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย (เนื่องจากมีกิจกรรมของมหาลัยจึงทำให้ผมและเพื่อนต้องมาเยือนหาดใหญ่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผมเอง) เครื่องของเราออกเดินทางเวลา 12.10 น. ไปถึงกัลลาลัมเปอร์ 14.45 โดยประมาณ
เมื่อมาถึงสนามบิน KLIA2 ของกัวลาลัมเปอร์ เราก็จัดการซื้อซิมInternetเพื่อใช้ในมาเลเซียจากร้าน Digi ราคา 28 ริงกิต (1ริงกิตประมาณ9บาท) และซื้อตั๋วรสบัสเข้าตัวเมืองในราคา 10 ริงกิต
ภาพตั๋วรถเข้าเมือง
ระบบขนส่งมวลชนที่ประเทศมาเลเซียถือว่าดีมาก ภายในเมืองมีระบบ monorail รถเมย์และรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้การเดินทางระหว่างเมืองก็มีระบบรถบัสที่ดีมากๆ
ภาพนี้ถ่ายบนMonorail
ส่วนชิมอินเทอร์เน็ต+โทรศัพท์ที่เราซื้อราคา 28 ริงกิต เป็นโปรโมชั่นที่ให้เราโทรออกจากมาเลเซียกลับไทยได้ประมาณ 40 นาที และเล่นอินเทอร์เน็ตได้อีก 500 MB คุ้มค่าคุ้มราคามาก
นั่งรถประมาณ 50 นาทีก็จะเข้ามาถึงตัวเมือง ณ บริเวณ KL Sentral สถานที่ซึ่งเป็นชุมสายของรถไฟสายต่างๆ
จากจุดๆนี้จะเดินทางไปไหนก็สะดวกมากๆครับ ยิ่งไปกว่านั้นผมจองโรงแรมไว้ใกล้ๆ KL Sentral อยู่แล้ว จึงเดินจากสถานีไปยังโรงแรมได้เลยครับ โรงแรมในวันนี้ชื่อ Westree เป็นโรงแรมที่โดดเด่นจากอาคารข้างๆมากตรงที่ดูใหม่ สะอาด ทันสมัย ปลอดภัย (อาคารข้างๆจะเก่าๆหน่อย)
สภาพภายในห้อง
17.00น. หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จเรียบร้อย เราก็รีบนั่งรถไฟไปสถานี Bandar Tasik Selatan เพื่อไปจองตั๋วรถบัสที่จะเดินทางไปมะละกาเมืองมรดกในวันรุ่งขึ้น (ถึงแม้ KL Sentral จะเป็นชุมสายรถไฟ แต่หากต้องการจะเดินทางไปเมืองอื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้รสบัส ซึ่งสถานีขนส่งจะอยู่คนละที่กับ KL Sentral //เปรียบเสมือนสถานีหัวลำโพงและขสบก.หมอซิต2)
....เราสับสน และหลงทางอยู่กับสายรถไฟในกัวลาลัมเปอร์ เป็นเวลาถึง1ชั่วโมงจึงมาถึงสถานีขนส่ง Bersepadu Selatan ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ Bandar Tasik Selatan ที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ (จริงๆมีรถไฟวิ่งตรงใช้เวลาเพียง 25 นาที)
(อาคารด้านซ้ายคือ Bersepadu Selatan สถานีขนส่ง)
เมื่อมาถึงแล้ว ผมก็ต่อคิวจองรถบัสไปมะละการอบ 9 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงจากกัวลาลัมเปอร์ก็จะถึงมะละกา
บริษัทรถบัสที่เราใช้บริการในครั้งนี้เป็นของ Metrobus ราคาคนละ 10 ริงกิต
19.00น. เรานั่งรถไฟกลับมาถึง KL Sentral พร้อมที่จะไปชมสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย นั้นก็คือ.....
ตึกแฝด หรือ ตึกปีโตรนัส (Twin / Petronas Tower)
Credit : http://www.hdwallpaperscool.com/petronas-towers-desktop-wallpapers/
แต่ด้วยความไม่เข้าใจแผนที่รถไฟ ผมจึงเลือกใช้บริการรถไฟชนิดMonorail ที่ไม่มีสถานีใดจอดใกล้ตึกแฝด แต่ไม่เป็นไร เราเดินเอาได้.............ทันใดนั้น ฝนก็เริ่มลงเม็ด โชคยังดีที่เราเร่งฝีเท้า จนสามารถเข้าหลบภายในตัวอาคารตึกแฝดได้ทันเวลา
สภาพข้างในตึกแฝดก็คือห้างดีๆนี้เองครับ โดยห้างโซนตรงกลางมีชื่อว่า “Suria” และมีห้างโซนอื่นๆรายล้อมอยู่
เมื่อเข้ามาในห้าง เรา2คนก็มุ่งตรงไปยัง food court เพื่อหาอะไรมาบรรเทาความหิวบ้าง สำหรับมื้อค่ำในวันนี้ประกอบได้ด้วย ข้าวราดเนื้อตุ๋น1ที่ ส่วนเพื่อนผมรับประทานก๋วยเตี๋ยวอะไรสักอย่าง รสชาติUnidentified มากๆ
ภาพก๋วยเตี๋ยวและข้าวเนื้อตุ่นที่Foodcourt
ต่อมา เราก็เดินดูรอบๆห้าง ดูBrandnameบ้าง ดูไอทีเทคโนโลยีบ้าง ก็ไม่เห็นว่าจะมีสินค้าชิ้นไหนที่ราคาแตกต่างจากประเทศไทย เราจึงหาทางไป Supermarketที่อยู่ชั้นล่าง
Supermarketที่นี้โดดเด่นเรื่องผลิตภัณฑ์นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งผมก็ได้ทราบในภายหลังว่าเป็น Supermarket ของ Isetan นั้นเอง
ที่supermarket ผมซื้อน้ำอัดลมกลิ่นขิงชื่อ "Ginger beer" ซึ่งก็อร่อยดีครับ แนะนำให้นำมาทำขายในประเทศไทย
เดินในห้างรอฝนตกจนฝนหยุดตกแล้วเราจึงออกมาถ่ายรูปตึกแฝดกันครับ // แต่ปรากฏว่าออกประตูผิดทาง
ถือว่าเป็นโชคดีที่ออกประตูผิดทาง ทำให้ได้ชมการแสดงน้ำพุ ที่จัดแสดง ณ ด้านหลังของห้างพอดี
รอบๆการแสดงแน่นขนัดไปด้วยผู้คน แม้ว่าฝนจะกำลังตกอยู่ปรอยๆ//เป็นการแสดงแสงสีกับน้ำพุและเสียงเพลง
ส่วนวิวด้านหน้า (ประตูที่ถูกต้อง) ก็ประมาณนี้ครับ // อลังการงานก่อสร้างมาก
ลักษณะของตึกแฝดเมื่อมองใกล้ๆจะเห็นเป็นโลหะแวววาวซ้อนกันหลายๆชั้น สะท้อนแสงแวววาวระยิบระยับจับตา
22.30น. ผมเดินทางกลับที่พักด้วยรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง ในราคาเพียง 1.6 ริงกิต
วันต่อไปเราไปเมืองMalaccaเมืองมรดกโลกครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น