ตามปกติข้าวกล้องทั่วไป จะค่อนข้างแข็งเนื่องจากเมล็ดข้าวไม่โดนขัดสีเปลือกออกไปเยอะ จึงต้องแช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง จึงค่อยหุง แต่การที่แช่ข้าวกล้องทิ้งไว้ วิตามินต่างๆจะสูญสลายได้ง่าย
แป้งทำกับข้าวกินเองประจำ จึงต้องหุงข้าวเอง เคยคิดว่า ถ้าเราเอาน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำที่จะหุงข้าว อาจเหมือนการหุงข้าวญี่ปุ่นที่เค้าทำซูชิได้เปล่านะ เลยลองทำดูค่ะ
เมื่อก่อนที่จะหุงข้าวกล้องให้นุ่มน่ารับประทาน เวลาเคี้ยวไม่บาดเหงือก ต้องแช่น้ำไว้อย่างน้อย 2-3 ชม. โน่นแน่ะ คิดเองว่า ถ้าแช่ข้าวสารไว้ในน้ำนานๆ ข้าวที่หุงสุกจะมีความนุ่มขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ต้องเสียเวลาแช่น้ำทิ้งไว้แล้วนะคะ
เคล็ดลับการหุงข้าวกล้องชนิดต่างๆรวมถึงข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่
1.ล้างข้าวสารด้วยน้ำเปล่าอย่างน้อย 2-3 ครั้งเพื่อขจัดฝุ่นผงอะอองต่างๆที่ติดมาระหว่างสีข้าวให้สะอาด
2.เทน้ำให้ท่วมข้าวสาร ใช้นิ้วชี้จุ่มลงไปบนข้าวเพื่อวัดระดับน้ำ ให้อยู่ประมาณหนึ่งข้อนิ้วครึ่ง
3.จากนั้นเทน้ำส้มสายชูกลั่น 5% ลงไป 1/2 ช้อนโต๊ะ หรือ มะนาวครึ่งลูก คนให้ทั่ว ( แป้งใส่น้ำหมักจากแอปเปิ้ล ซึ่งหมักเก็บไว้ใช้เองค่ะ ) ไม่ต้องกังวลว่า ข้าวจะมีรสเปรี้ยวเหมือนเราปรุงก๋วยเตี๋ยวอะไรเทือกนั้นนะคะ เพราะน้ำส้มสายชูปริมาณน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับข้าวสารที่หุงในหม้อค่ะ
4.เสียบปลั๊กหม้อหุงข้าว รอข้าวสุก ประมาณครึ่งชั่วโมง หลังข้าวสุกแล้ว ทิ้งให้ระอุ 15 นาที เราจะได้รับประทานข้าวกล้องที่เหนียวนุ่มมากๆจากความเป็นกรดของน้ำส้มสายชู
5.สามารถยืดอายุข้าวที่หุงสุก โดยไม่นำเข้าตู้เย็นได้นาน 2-3 วันแล้วแต่สภาพอากาศว่าจะร้อนนรกขนาดไหน
6.แป้งเคยเก็บข้าวที่หุงสุกในตู้เย็นนานถึง 2-3 สัปดาห์ โดยที่ข้าวไม่บูด ไม่ขึ้นรา เป็นเพราะในข้าวมีน้ำตาลบวกกับความเป็นกรดของน้ำส้มสายชู ถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ป้องกันไม่ให้ข้าวบูดเสียง่ายค่ะ
หมายเหตุ
1.โดยปกติ ข้าวกล้องหอมมะลิหรือข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ เวลาหุงโดยที่ไม่ผสมน้ำส้มสายชู เวลาใกล้สุกจะมีกลิ่นหอมข้าวมากๆ แต่หากใส่น้ำส้มสายชูลงไป กลิ่นที่เคยหอมข้าว จะกลายเป็นกลิ่นน้ำส้มสายชูนิดๆแทน แต่บางคนอาจจะไม่ได้กลิ่น เพราะมันเจือจางมาก
2.ข้าวกล้องหรือข้าวทุกชนิด หากเปิดถุงแล้ว ให้มัดปากถุงให้สนิท เก็บไว้ในตู้เย็นได้นานแรมปี โดยไม่มีมอดมารังควานเลยค่ะ
เคล็ดลับการหุงข้าวกล้องให้นุ่มถึงขีดสุดแถมเก็บไว้ได้นาน ไม่บูดง่ายอีกด้วย
แป้งทำกับข้าวกินเองประจำ จึงต้องหุงข้าวเอง เคยคิดว่า ถ้าเราเอาน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำที่จะหุงข้าว อาจเหมือนการหุงข้าวญี่ปุ่นที่เค้าทำซูชิได้เปล่านะ เลยลองทำดูค่ะ
เมื่อก่อนที่จะหุงข้าวกล้องให้นุ่มน่ารับประทาน เวลาเคี้ยวไม่บาดเหงือก ต้องแช่น้ำไว้อย่างน้อย 2-3 ชม. โน่นแน่ะ คิดเองว่า ถ้าแช่ข้าวสารไว้ในน้ำนานๆ ข้าวที่หุงสุกจะมีความนุ่มขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ต้องเสียเวลาแช่น้ำทิ้งไว้แล้วนะคะ
เคล็ดลับการหุงข้าวกล้องชนิดต่างๆรวมถึงข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่
1.ล้างข้าวสารด้วยน้ำเปล่าอย่างน้อย 2-3 ครั้งเพื่อขจัดฝุ่นผงอะอองต่างๆที่ติดมาระหว่างสีข้าวให้สะอาด
2.เทน้ำให้ท่วมข้าวสาร ใช้นิ้วชี้จุ่มลงไปบนข้าวเพื่อวัดระดับน้ำ ให้อยู่ประมาณหนึ่งข้อนิ้วครึ่ง
3.จากนั้นเทน้ำส้มสายชูกลั่น 5% ลงไป 1/2 ช้อนโต๊ะ หรือ มะนาวครึ่งลูก คนให้ทั่ว ( แป้งใส่น้ำหมักจากแอปเปิ้ล ซึ่งหมักเก็บไว้ใช้เองค่ะ ) ไม่ต้องกังวลว่า ข้าวจะมีรสเปรี้ยวเหมือนเราปรุงก๋วยเตี๋ยวอะไรเทือกนั้นนะคะ เพราะน้ำส้มสายชูปริมาณน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับข้าวสารที่หุงในหม้อค่ะ
4.เสียบปลั๊กหม้อหุงข้าว รอข้าวสุก ประมาณครึ่งชั่วโมง หลังข้าวสุกแล้ว ทิ้งให้ระอุ 15 นาที เราจะได้รับประทานข้าวกล้องที่เหนียวนุ่มมากๆจากความเป็นกรดของน้ำส้มสายชู
5.สามารถยืดอายุข้าวที่หุงสุก โดยไม่นำเข้าตู้เย็นได้นาน 2-3 วันแล้วแต่สภาพอากาศว่าจะร้อนนรกขนาดไหน
6.แป้งเคยเก็บข้าวที่หุงสุกในตู้เย็นนานถึง 2-3 สัปดาห์ โดยที่ข้าวไม่บูด ไม่ขึ้นรา เป็นเพราะในข้าวมีน้ำตาลบวกกับความเป็นกรดของน้ำส้มสายชู ถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ป้องกันไม่ให้ข้าวบูดเสียง่ายค่ะ
หมายเหตุ
1.โดยปกติ ข้าวกล้องหอมมะลิหรือข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ เวลาหุงโดยที่ไม่ผสมน้ำส้มสายชู เวลาใกล้สุกจะมีกลิ่นหอมข้าวมากๆ แต่หากใส่น้ำส้มสายชูลงไป กลิ่นที่เคยหอมข้าว จะกลายเป็นกลิ่นน้ำส้มสายชูนิดๆแทน แต่บางคนอาจจะไม่ได้กลิ่น เพราะมันเจือจางมาก
2.ข้าวกล้องหรือข้าวทุกชนิด หากเปิดถุงแล้ว ให้มัดปากถุงให้สนิท เก็บไว้ในตู้เย็นได้นานแรมปี โดยไม่มีมอดมารังควานเลยค่ะ