จนท.ตรวจพื้นที่ทำการเกษตรใน อำเภอสามชุก ดอนเจดีย์  อู่ทอง และอำเภอเมือง พบว่าต้นกล้าในนาข้าว
กำลังยืนเฉา แห้งเหี่ยวตาย เนื่องจากขาดแคลนน้ำเข้าขั้นวิกฤษ!!
แต่เท่าที่เราทราบ และสำรวจด้วยตัวเองพบว่าชาวนาในจังหวัดชัยนาท ยังพอสูบน้ำจากคลองมหาราช มาหล่อเลี้ยงต้นข้าวต้นกล้าได้
ไม่ยืนต้นแห้งเหี่ยว เฉาตาย คล้ายๆชาวนาสุพรรณฯ..
ทำไมเป็นเช่นนั้นนะหรือ เพราะเค้าร่ำเค้าลือกันว่า ผู้ถือกุญแจประตูระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในยุครัฐบาล คสช.
ไม่ใช่เจ้าพ่อในจังหวัดสุพรรณ อีกต่อไปแล้ว...
ตอนน้ำท่วมหนักปี 2554 ก็มีกระแสข่าวลือว่า... คนถือกุญแจประตูระบายน้ำ คือคนสุพรรณ ฯ เลยไม่ยอมผันเปิดประตูระบายน้ำ
คนชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา เลยต้องทนทุกข์ระกำ จมอยู่ใต้น้ำนานเกือบๆ 3 เดือน ไร่นาที่กะลังจะเก็บเกี่ยววินาศสันตะโร
มาวันนี้ชาวสุพรรณฯ ต้องช้ำใจกันบ้าง ในข่าวเห็นว่าถึงขนาดต้องมีกฎเกณฑ์ มีเวรตั้งเครื่งสูบน้ำ  หมุนเวียนสับเปลี่ยนกัน ถึงกระนั้นก็ยังวุ่ยวาย
เพราะไม่มีใครปฎิบัติตามกฏเกณฑ์ ตามเวรที่ตั้ง ต่างแย่งกันสูบจนน้ำแห้งคลอง.. เมื่อวันก่อนในข่าวเห็นท่านประภัทร โพธสุธน  อดีต รมว.เกษตรฯ
ต้องลงมาไกล่เกลี่ยเพราะกลัวว่าชาวนาจะทะเลาะกัน เพราะแย่งกันสูบน้ำ...
งานนี้หนักใจแทนรัฐบาล เพราะกรมอุตุฯ พยากรณ์ว่า ยังอีกนานกว่าฝนจะตก ชาวนาในอีกหลายจังหวัด ที่ถูกรัฐบาลให้ชะลอการทำนาไว้ก่อน
เพื่อรอให้น้ำท่ามีมาอย่างเต็มที่ เสียก่อนจึงค่อยลงมือทำ ต่างรอไม่ไหว เพราะหนี้สิน กับเงินที่จะกินไปในแต่วันก็ต้องอาศัยเงินที่ได้จากการทำนา
เพียงอย่างเดียว. ..ไอ้ที่เงียบๆ ยอมทำตามไม่ใครออกมาเฮี้ยวๆๆ ยืดระยะนานไปนานๆ รัฐบาลอาจมีเสียวได้เหมือนกัน !!