สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ออกแถลงการณ์กรณีคดีตากใบ
https://prachatai.com/journal/2024/10/111151

 
สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์ "เสนอต่อทุกภาคส่วน 20 ปีโศกนาฏกรรมตากใบเพื่อ แก้ปัญหาใต้และกระบวนการยุติธรรมไทยในอนาคต" เสนอให้รัฐบาลแก้กฎหมายเรื่องอายุความในคดีอาญา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาในคดี ใช้ช่องว่างหลบหนีไปต่างประเทศ แล้วกลับไทยเมื่อหมดอายุความรวมถึงการแก้กฎหมาย มาตรา 95 ไม่ให้มีอายุความ
 
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2567 สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์ "เสนอต่อทุกภาคส่วน 20 ปีโศกนาฏกรรมตากใบเพื่อ แก้ปัญหาใต้และกระบวนการยุติธรรมไทยในอนาคต" โดยระบุว่า
 
เป็นที่แน่นอนเชิงประจักษ์แล้วว่า 20 ปีคดีตากใบนั้นส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมของรัฐซึ่งส่งผลต่อความพยามของรัฐและต่อทุกภาคส่วนที่ร่วมในการแก้ปัญหาไฟใต้ตลอด 20 ปี สูญเสียทั้งชีวิต ร่างกาย จิตใจและทรัพย์สิน หมดเงินงบประมาณอันเป็นภาษีของประชาชนทั้งประเทศหลายแสนล้าน และจะยังคงต้องรบกวนเงินภาษี ประชาชนต่อไปอีก เพราะถ้าที่ใดไม่มีความยุติธรรม ที่นั้นก็ไม่มีสันติภาพ ในการนี้สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้จึงขอเรียกร้องดังนี้
 
1. ทุกภาคส่วนต้องไม่เงียบ ในคดีตากใบ แม้จะหมดอายุความเพื่อเป็นบทเรียนต่อกระบวนการยุติธรรมไทย กับพลเมืองไทยทุกคนโดยไม่แบ่งชาติพันธุ์และศาสนาโดยคำนึงถึงมนุษยธรรมเป็นหลัก
 
2. ทุกภาคส่วนต้องไม่ใช้กรณีคดีตากใบสร้างความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรง อย่างไร้มนุษยธรรมแก้ปัญหา
 
3. รัฐควรนำผู้ต้องหา กลับมาดำเนินคดีให้ทันหมดอายุความแม้จะเหลือเวลาน้อยนิดก่อนสถานการณ์บานปลาย พร้อม คุ้มครองครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ฟ้องคดี
 
4. เรียกร้องสมาชิกรัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนในระบบประชาธิปไตยซึ่งมีความชอบธรรมมากที่สุดร่วมใช้ช่องทางรัฐสภาแก้ปัญหานี้เพื่อเป็นบทเรียนในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย
 
5. เสนอให้รัฐบาลแก้กฎหมายเรื่องอายุความในคดีอาญา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาในคดี ใช้ช่องว่างหลบหนีไปต่างประเทศ แล้วกลับไทยเมื่อหมดอายุความรวมถึงการแก้กฎหมาย มาตรา 95 ไม่ให้มีอายุความ กรณีความผิดที่เจ้าหน้าที่รัฐ ทำประชาชนจนถึงแก่ความตาย เช่นเดียวกับคดีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งก่อนหน้านี้กฎหมาย ป.ป.ช. เกี่ยวกับคดีทุจริตมีการแก้ไขว่าหากมีการหลบหนีจะไม่นับระยะเวลาเป็นอายุความ จึงชี้ว่าถึงเวลาทีประเทศไทยต้องแก้ไขกฎหมายอาญา
 
ลงชื่อ ดร.ขดดะรี บินเซ็น
นายกสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้
21 ต.ค. 2567

---

นายกฯ​ ปัดตอบ​ ออก พ.ร.ก.ต่ออายุความคดีตากใบหรือไม่​ หลังถูกจี้กระทบความเชื่อมั่นรัฐบาลเพื่อไทย​
https://www.matichon.co.th/politics/news_4860776

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธการแสดงความเห็นถึงข้อเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด หรือ​ พ.ร.ก.​ ต่ออายุคดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ​ ที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้​ โดยระบุสั้นๆ ว่า​

ขอไปก่อนนะคะ.

---

น้ำท่วมสุพรรณฯ ยังไม่จบ! ทะลักเข้าทุ่งต่อเนื่อง ระทึกแม่น้ำท่าจีนระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
https://www.dailynews.co.th/news/4001819/

สถานการณ์น้ำท่วมสุพรรณบุรี ยังไม่จบ ปริมาณน้ำเข้าทุ่งและในแม่น้ำท่าจีน จะเพิ่มขึ้นอีก บ้านเรือนประชาชน อ.สองพี่น้อง ได้รับผลกระทบ รรท.พ่อเมืองสุพรรณบุรี ประสาน ปภ. ติดตั้งเครื่องสูบน้ำด่วน
 
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 67 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี เขต 2 พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ขณะนี้ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และมีฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมในทุ่งเป็นจำนวนมาก การเดินทางสัญจรไปมาไม่สะดวก ประกอบกับประชาชนเร่งสูบน้ำจากทุ่งลงสู่แม่น้ำ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงจำเป็นต้องช่วยเหลือโดยการเร่งสูบน้ำอย่างเร่งด่วน ต้องขอขอบคุณ นางอภิญญา เอี่ยมอำภา รอง ผวจ.สุพรรณบุรี รักษาราชการแทน ผวจ.สุพรรณบุรี ได้ทำหนังสือขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ พร้อมน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 4 เครื่อง จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี เพื่อสูบน้ำช่วยเหลือประชาชนเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำบางสาม ต.บางตะเคียน 2 เครื่อง ประตูระบายน้ำเภาทลาย ต.บางตะเคียน 1 เครื่อง และประตูระบายน้ำบางสะแก ต.บ้านกุ่ม 1 เครื่อง

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำระบายผ่านประตูระบายน้ำจระเข้สามพัน อ.อู่ทอง 140 ลบ.ม./วินาที ได้มีการประสานให้ลดเหลือ 120 ลบ.ม./วินาที และจะมีการเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา 1,500 ลบ.ม/วินาที ส่วนที่เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จะระบายน้ำบางส่วน ลงมาแม่น้ำท่าจีน และประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา จะระบายน้ำเพิ่มลงแม่น้ำท่าจีนด้วย สรุปสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่จบ ปริมาณน้ำเข้าทุ่งและในแม่น้ำท่าจีน จะเพิ่มขึ้นอีก

ด้าน ดร.เอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีฝนตกหนักในพื้นที่ และทางด้านเหนือของเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสุพรรณ (แม่น้ำท่าจีน) เพิ่มขึ้นอีกเกือบ 2 เมตร ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 4.93 เมตร ต่ำกว่าระดับถนนพระพันวษา 67 ซม. ทางเทศบาลฯ ได้เริ่มปิดประตูระบายน้ำที่เชื่อมกับแม่น้ำสุพรรณทุกจุดแล้ว และเดินเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำที่เข้ามาในพื้นที่ออกอย่างต่อเนื่อง งานป้องกันฯ เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ยังคงนำเครื่องสูบน้ำออกไปสูบน้ำออกจากบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำในหลายแห่ง เพื่อลดความเดือดร้อน เช่น ถนนพลายงาม ชุมชนวัดโพธิ์คลาน เณรแก้วซอย 7 ชุมชนเณรแก้ว ซอยวัดน้อย ชุมชนวัดไชนาวาส ถนนสมภารมี ชุมชนวัดป่าเลไลยก์ ซอยวัดผึ้ง ชุมชนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ คูเมืองเหนือ ชุมชนคูเมือง ช่วงนี้อากาศแปรปรวนเนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว อาจมีฝนตกหนักในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ร่องมรสุมอยู่ทางภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน อาจมีฝนตกในพื้นที่ และต้องติดตามทิศทางการเคลื่อนที่ของพายุ จ่ามี ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ฟิลิปปินส์ อย่างใกล้ชิด