จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้า รวมถึงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) หรือบริการไปหักลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาทนั้น โดยใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 โดยสามารถนำใบกำกับภาษีดังกล่าว ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568 ด้วย

ล่าสุด จากการสำรวจของนักข่าวภูมิภาค ที่ร้าน OTOP แห่งหนึ่งในสุพรรณบุรี เจ้าของร้านกล่าวว่า ที่ร้านไม่เข้าร่วมหรือออก E-Receipt นี้ เนื่องจากไม่มีคนทำ และไม่ได้สมัคร จึงไม่ได้เข้าร่วม จากข้อมูลจังหวัดสุพรรณบุรี มีร้านโอทอปประมาณ 2,600 ราย

ส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มียื่นเข้ามาขอเข้าร่วมประมาณ 80 ราย รอสรรพากรประกาศว่าผ่านหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ประกาศ ส่วนร้านไหนมีออก Easy E-Receipt ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล

ในส่วนของจังหวัดสระแก้ว พัฒนาชุมชนจังหวัด อธิบายมาว่า ในพื้นที่มีร้านจำหน่ายสินค้าจำนวนมาก ในส่วนของการเข้าร่วม Easy E-Receipt ไม่มีร้านใดเข้า เนื่องจากส่วนมากจะเป็นชาวบ้านตามชุมชน ที่ทำมาจากของพื้นถิ่นและจำหน่ายทั่วไป

และจากข้อมูลกระแสโซเชียล พบว่า ร้าน CHITA HOUSE ซึ่งเป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ใช้ประกอบอาหารที่เป็นงาน Otop สินค้าจากชุมชนคนไทย ปลอดภัย ไร้สารเคมี โดยเป็นการจำหน่ายผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยล่าสุดทางเพจ CHITA HOUSE ได้โพสต์ประกาศว่า เนื่องจากเงื่อนไขบางประการของผู้ประกอบการสินค้า Otop จึงทำให้ร้านต้องทำการย้ายสถานประกอบการไปยัง จ.แพร่ แบบถาวร เพื่อเข้าโครงการดังกล่าว ดังนั้นจึงขอเวลาดำเนินการเรื่องลงทะเบียนผู้ประกอบการสินค้า Otop ใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ลูกค้าสามารถแวะมาช้อปสินค้า Otop ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 68 เป็นต้นไป สามารถออก Easy E-Receipt ได้

จากข้อมูลของโลกโซเชียล ที่นำประเด็นการออก Easy E-Receipt ของร้านโอทอป มีการให้ข้อมูลว่า OTOP ร้านใหญ่ๆ ตามภาคเหนือ บางร้านออก Vat ได้ แต่ไม่ร่วม Electronic บางร้านตอบออกไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่ร้านใหญ่โต ขายโปรดักต์โอทอปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 30-40 ตัว ก็ยังออก Tax ยังไม่ได้เลย อยากให้รัฐช่วยลิสต์มาให้หน่อยว่าร้านไหนออกได้ จะได้เปย์ตังค์ถูก ผมอยากช่วยโอทอป (ถ้าผมได้ประโยชน์) นะ ถ้าใช้ดีอาจจะใช้ต่อด้วยซ้ำ... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4265067/

ที่มา  : https://www.dailynews.co.th/news/4265067/