ผมสงสัยทำไมในห้องนี้ถึงบอกพระไตรปิฏกไม่ถูกต้อง

กระทู้คำถาม
คำสอนของพระพุทธเราก็เอามาจากพระไตรปิฏก ผมเห็นตัวอย่างเช่นพระศึกฤทธิ์ท่านก็สอนโดยเอาแต่พุทธวจน แต่เห็นท่านก็พูดถึงเรื่องภพภูมิบ่อยๆ หลวงตามหาบัว พระราชพรหมยาน พระพุทธทาสท่านก็พูดอยู่บ้างเหมือนผมไปอ่านเจอมาในเว็บ ท่านเหล่านี้ก็พูดว่ามีจริง มีลูกศิษย์ลูกหามากมายต่างยอมรับนับถือปฏิบัติจนรู้แจ้งเฉพาะตนมากมายจนออกมาเป็นหนังสือบ้าง บทความบ้าง กระผมสับสนตามอ่านหลายกระทู้แล้วครับ เถียงกันเยอะมากเรื่องสวรรค์ นรกอ่ะครับ เพราะว่าเรื่องนี้รู้ได้เฉพาะตนเลยไม่รู้จะบอกให้คนไม่เชื่อทราบยังไงใช่ไหมครับ เพราะศาสนาพุทธสอนให้ศึกษาตนเอง เลยบอกกันในเรื่องของผลพลอยได้จากการฝึกสมาธิและการภาวนาได้ยาก  แล้วท่านที่เป็นพุทธแต่ไม่เชื่อเพราะว่าท่านศึกษาจากใครมาเหรอครับ ไม่ใช่จากพระพุทธเจ้าใช่ไหมครับ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
รวม ๆ บางเรื่องละกันครับ

1. มีข้อแสดงให้ทราบว่าในพระไตรปิฎกบันทึกถึงการสังคยนาครั้งที่ 2 และ 3 ดังนั้นจึงมีผู้แสดงให้ทราบว่าจะบอกว่าพระไตรปิฎกไม่มีการบันทึกเพิ่มเติมภายหลังได้อย่างไร (รวมถึงเรื่อง กถาวัตถุซึ่งมักจะถูกยกมาอ้างว่านี่ไงพระไตรปิฎกมีการเพิ่มเติมในชั้นหลัง)

ความเห็น: การเพิ่มเรื่องสังคยนาครั้งที่ 2 และ 3 ไม่ได้ทำให้ต้อง "เลิก ไม่ใส่ใจ" ศึกษาพระไตรปิฎก เพราะก็ปรากฏอยู่ชัดว่าการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรท่านทำประมาณ พ. ศ. 400-+500 ที่ศรีลังกา ไม่นับกรณีที่มีผู้เถียงหัวชนกำแพงว่าไม่มีการบันทึกอะไรเพิ่มมา ก็ในพระไตรปิฎกท่านบันทึกเหตุการณ์การสังคยนาครั้งที่ 2 และ 3 ไว้

สำหรับพุทธศาสนานิกที่ทราบถึงคุณของพระสงฆ์ (เฉพาะเจาะจงพระอรหันต์ตามบันทึกที่ว่าท่านเหล่านั้นคือผู้ทำการสังคยนาพระไตรปิฎก) เราท่านก็มีความเห็นตามที่เราท่านทราบ ถ้าเข้าใจเรื่องสังฆคุณ และคุณแห่งความเป็นพระอรหันต์ส่วนนี้ก็เชื่อโดยไม่ยากว่ามุขปาฐะโดยพระอริยสงฆ์ขั้นพระอรหันต์นั้นมี เรื่องที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรก็ว่าไปตามนั้นครับ

ส่วนความเห็นตรงกันข้ามก็เป็นไปแบบนั้น ห้ามกันไม่ได้

2. เรื่องภาษาที่บันทึก บางท่านจะยกว่าภาษาที่บันทึกในพระไตรปิฎก เขาเรียกว่าปรากฤติซึ่งเป็นภาษาชั้นหลัง แต่ปรากฏว่าแม้นแต่ผู้ที่กล่าวว่าภาษานั้นเป็นปรากฤติ ท่านก็ว่าต้องศึกษากันต่อไป  ส่วนผมก็เข้าใจตามนี้ http://www.cybervanaram.net/index.php/2010-05-25-08-17-50/87-2010-03-29-07-30-43

3. เรื่องพระอภิธรรม ก็จะมีฝ่ายคัดค้านว่าพระอภิธรรมนั้นแต่งเพิ่มเติมทีหลัง ผมก็ว่าใครจะไปแต่งพระอภิธรรมได้ครับ ถ้าท่านใดกล่าวเช่นนี้ก็รบกวนแสดงหน่อยละกันว่าตรงไหน  ขนาดพระอภิธรรมมัต ฯ ที่ย่อเฉพาะอภิธรรมให้ชนชั้นหลังศึกษา ถ้าไม่ได้ศึกษามาดี ๆ ยังก๊งเลยท่าน  ผมยังไม่พบ (ในพันทิปนี่ละกัน) ว่าใครจะบอกว่าพระอภิธรรมปิฎกมีตรงไหนที่ไปแย้งกับพระสูตร เป็นต้น เรื่องพระอภิธรรมนี่หลัก ๆ ประการหนึ่ง (อาจจะมีมากกว่ารอผู้รู้ (ผู้แย้ง) มาแสดงละกัน)  อย่างหนึ่งที่เห็นประจำคือเขาจะว่าบอกว่า เดิมมีแต่พระวินัยและพระธรรม ไม่เห็นมีคำว่าพระอภิธรรม ท่านก็แยกออกเป็นสามปิฎก ("ไตร" อ่ะครับ ไม่ใช่ ทวิปิฎก) เมื่อท่านว่าแค่คำว่าวินัย พระธรรม ไม่มีอภิธรรมก็ตามแต่ความเห็นของแต่ละท่านละกัน

ถ้าอ่านเข้าใจให้ดีส่วนของปรมัตธรรมธรรมในพระอภิธรรมท่านก็ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน ก็ไม่ได้ไปขัดแย้งกับปรมัตธรรมของพระสูตร เช่นขันธ์ ธาตุ อายตนะแต่อย่างไร  

3. ในพันทิปที่พบ (ผมไม่ทราบว่าที่อื่นมีไหม) บางท่านมักจะยกบทความของชาวตะวันตกมาบอกว่าพระไตรปิฎกมีเพิ่มเติมมาทีหลัง (ดูข้อหนึ่ง) เฉพาะที่ผม ย้ำ "ผม" "เท่าที่" ทราบ 1. ตะวันตกเริ่มมาทราบพุทธศาสนาเถรวาทไม่เกิน 200 ปีนี้ การสั่งสมความรู้ยังไม่มาก ยังไม่ลึกซึ้ง (มั๊ง) ตามแต่จริตของผู้อ่านละกัน 2. การอ้างเรื่องภาษาบาลีที่ใช้ ความหนึ่งคือคำสั่งสอนในพุทธศาสนามีที่เก่ากว่าพุทธศาสนาเถรวาทที่เรารู้จัก (พระไตรปิฎก) ท่านก็ว่าเช่นสารีปุตสูตร (มั๊ง ไม่แน่ใจครับว่าภาษาอังกฤษทับภาษาบาลีไม่ถ้วนนะครับ) แต่ที่ผมทราบคือสูตรที่อ้างถึงนั้นเป็นสูตรที่แพร่ไปในแคว้นคันธาระ อินเดียฝ่ายเหนือ ซึ่งเถรวาทเผยแพร่ทางอินเดียฝ่ายใต้ แล้วก็ "ไม่" ย้ำ "ไม่" ปรากฏเป็นหลักฐานในภาษาบาลี ถ้าหากให้ค้นกันจริง ๆ ผมว่าคงไม่สามารถหาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่เขาว่ามีใน เช่น "จีน" (จีนนี่คือเป็นภาษาจีน หรือที่มีในภาษาสันสกฤต ซึ่งถ้าเป็นผู้ที่ได้ศึกษาพุทธศาสนาเถรวาทมาพอสมควรจะทราบว่าในพุทธศาสนาเถรวาท จะไม่ใช้ภาษาสันสกฤต) เอามาเปรียบเทียบกับพระไตรปิฎกบาลีที่มีในพุทธศาสนาเถรวาท

ยกมาแต่เพียงนี้  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็รอว่าใครจะมีอะไรเพิ่มขึ้นมา  ในพุทธศาสนาเถรวาทท่านก็ว่าเป็นไปตามบันทึกที่เป็นมุขปาฐะ  ผู้ทำสังคยนาคือพระอรหันต์ ท่านที่จะแย้งก็แสดงความเห็นของท่านก็ว่ากันไป เท่าที่อ่าน ๆ เจอมา นักภาษาศาสตร์เกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ท่านก็ได้แค่ "คาดว่า" ไว้รอให้มีผู้รู้ หรือนักภาษาศาสตร์มาฟันธงจริง ๆ ก็ว่ากันไป

ในฐานะพุทธศาสนาเถรวาท ณ ตอนนี้เราท่านก็ว่ากันตามพระไตรปิฎกครับ เอาให้แน่ใจเถอะว่าถ้าเป็นไปในทาน ศีล ภาวนา เป็นไปในอริยสัจ (เป็นหลัก) ใครที่จะว่าอะไรอย่างเราท่านก็รอดูกันไป ณ เวลานี้ยังไม่ได้เปลี่ยนความมั่นใจว่าสิ่งที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเป็นการสังคยนา (จนบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร) โดยพระอรหันต์ และการเพิ่มมา (เช่นประวัติการสังคยนาครั้งที่ 2 หรือกถาวัตถุ) ก็ไม่ได้ทำให้พระไตรปิฎกคลาดเคลื่อนไป

บางทีในชั้นหลัง ๆ ไปเข้าใจว่าการสังคยนาหมายถึงการเขียนขึ้นใหม่ เลยเข้าใจผิด ทั้ง ๆ ที่เขาก็แจงให้ทราบว่าเป็นการชำระอักษร เรื่องเหล่านี้ก็อย่างที่เรียนให้ทราบแล้ว อยากจะยังไงก็ตามสะดวก

ก็รอให้ปรากฏแน่นอนแบบไม่ "คาดว่า" "สันนิฐาน" ว่าแล้วถึงขนาดโยกคลอนความเข้าใจในการศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งสอนที่มีมา ถ้าแสดงได้ขนาดนั้นเราท่านก็มาพิจารณากันใหม่ตามข้อมูลที่ปรากฏ ก็รอตอนนั้นละกันครับ

ป.ล. มีเข้ามาแก้ไขข้อ 3 เพิ่ม"เท่าที่"/ แก้ไขคำพิมพ์ผิด เพิ่มปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาเล็กน้อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่