ผมเห็นสมาชิกในพันทิปท่านหนึ่งได้ออกมาวิจารณ์คุณอุ๋ยอย่างองอาจเบี่ยงเบนประเด็นไปถึงปูมหลังของเขาแทนที่จะจับประเด็นที่เขามาวิจารณ์ไชยบูลย์ แต่เขาเบนประเด็นไปอีกประเด็นหนึ่ง ตอนแรกก็อ่านก็พอเห็นด้วย แต่ไปมารู้สึกจะโยงเข้าการเมือง ไหลไปปูมหลัง แล้วย้อนกลับมาวิจารณ์ตัวคุณอุ๋ย ตัดสินด้วยความคิดของตนว่าคุณอุ๋ยไม่ดี บลาๆๆๆๆ เช่นเขาเคยไปม็อบ กปปส เขาไม่วิจารณ์อิสระ และหนักขั้นถึง เกิดวิกิจฉาในพระไตรปิฏก
ผมขอยกท่อนประโยคบางท่อนมาสักนิดนะครับ
"...การที่จะไปกล่าวว่า ใครสอนผิด สอนถูก
การที่จะไปว่า ใครผิดไปจากพระพุทธเจ้าสอน
โดยส่วนตัว คิดว่า นี่มันเป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละคน
เพราะเอาเข้าจริง ใครจะรู้ว่า “ของจริงเป็นอย่างไร”
จะเชื่อตาม ที่สังคายนากันมาสองสามครั้ง แล้วงั้นหรือ ?
จะเชื่อ ตามที่อ้างว่า มีพระนักบวชที่แตกฉาน อย่าง ปยุตโต ให้ความเห็นอย่างนั้นหรือ ?
(แล้วเชื่อได้จริงแท้ อย่างไร ว่า ปยุตโดต คิด เขียน นั้น จริงแท้ ?)
เชื่อได้จริงหรือ ว่า ที่เอามาอ้างๆ นั้น มาจากพระพุทธเจ้าตรัสไว้ทั้งหมด ?
ไม่มีคนมา ต่อ เติม ขยายความใหม่ ?..."
ผมก็เลยเกิดความสงสัยว่า ท่าไม่เชื่อคำสอนในพระไตรปิฏกซึ่งผมว่าต้องมีหลายคนแน่ๆ แล้วจะให้เชื่อใครได้ละครับ การที่เราเชื่อสังคายนาได้หรือไม่ได้ ก็เท่ากับว่าสงสัยในพระไตรปิฏก แล้วเราควรจะเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานของศาสนาพุทธละครับ ท่าเราไม่เชื่อในพระไตรปิฏกเพราะเราอ้างว่ามันถูกสังคายนามาหลายครั้งหลายหน แล้วเราจะเชื่ออะไรได้ครับ ท่าพระไตรปิฏกเราก็ไม่เชื่อ เท่ากับว่าเราสนับสนุนให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่ทำผิดแผกไปจากพระไตรปิฏก เพราะเราเชื่อเราปฏิบัติ เราสอน เราเรียนตามพระไตรปิฏกกันมา ท่าเรายังเกิดวิกิจฉาในพระไตรปิฏกข้อนั้นๆ แล้วเราจะไปถามใครได้ครับ เราจะไปถามใครได้ครับ เพราะคนที่เกิดทันตถาคตล้วนแล้วทุกท่านได้สาบสูญไปหมดแล้ว ศาสดาก็ได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปเนินนานแล้ว หรือจะให้มานั่งเชื่อในคำสอนหลักการปฏิบัติของตน ของครูบาอาจารย์เจ้าลัทธิต่างๆ ซึ่งผมว่าตลกดีครับ ท่านั้นคือความเชื่อของตนที่เชื่อในพระไตรปิฏกไม่ได้ ก็ควรตั้งศาสนาใหม่ครับ เชื่อเถอะครับไม่มีใครกล้าขัดแย้งเลย
อยากถามผู้ที่สงสัยในพระไตรปิฏก ท่าคุณไม่เชื่อคำสอนที่อยู่ในพระไตรปิฏก คุณจะให้เชื่ออะไร เอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน
ผมขอยกท่อนประโยคบางท่อนมาสักนิดนะครับ
"...การที่จะไปกล่าวว่า ใครสอนผิด สอนถูก
การที่จะไปว่า ใครผิดไปจากพระพุทธเจ้าสอน
โดยส่วนตัว คิดว่า นี่มันเป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละคน
เพราะเอาเข้าจริง ใครจะรู้ว่า “ของจริงเป็นอย่างไร”
จะเชื่อตาม ที่สังคายนากันมาสองสามครั้ง แล้วงั้นหรือ ?
จะเชื่อ ตามที่อ้างว่า มีพระนักบวชที่แตกฉาน อย่าง ปยุตโต ให้ความเห็นอย่างนั้นหรือ ?
(แล้วเชื่อได้จริงแท้ อย่างไร ว่า ปยุตโดต คิด เขียน นั้น จริงแท้ ?)
เชื่อได้จริงหรือ ว่า ที่เอามาอ้างๆ นั้น มาจากพระพุทธเจ้าตรัสไว้ทั้งหมด ?
ไม่มีคนมา ต่อ เติม ขยายความใหม่ ?..."
ผมก็เลยเกิดความสงสัยว่า ท่าไม่เชื่อคำสอนในพระไตรปิฏกซึ่งผมว่าต้องมีหลายคนแน่ๆ แล้วจะให้เชื่อใครได้ละครับ การที่เราเชื่อสังคายนาได้หรือไม่ได้ ก็เท่ากับว่าสงสัยในพระไตรปิฏก แล้วเราควรจะเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานของศาสนาพุทธละครับ ท่าเราไม่เชื่อในพระไตรปิฏกเพราะเราอ้างว่ามันถูกสังคายนามาหลายครั้งหลายหน แล้วเราจะเชื่ออะไรได้ครับ ท่าพระไตรปิฏกเราก็ไม่เชื่อ เท่ากับว่าเราสนับสนุนให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่ทำผิดแผกไปจากพระไตรปิฏก เพราะเราเชื่อเราปฏิบัติ เราสอน เราเรียนตามพระไตรปิฏกกันมา ท่าเรายังเกิดวิกิจฉาในพระไตรปิฏกข้อนั้นๆ แล้วเราจะไปถามใครได้ครับ เราจะไปถามใครได้ครับ เพราะคนที่เกิดทันตถาคตล้วนแล้วทุกท่านได้สาบสูญไปหมดแล้ว ศาสดาก็ได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปเนินนานแล้ว หรือจะให้มานั่งเชื่อในคำสอนหลักการปฏิบัติของตน ของครูบาอาจารย์เจ้าลัทธิต่างๆ ซึ่งผมว่าตลกดีครับ ท่านั้นคือความเชื่อของตนที่เชื่อในพระไตรปิฏกไม่ได้ ก็ควรตั้งศาสนาใหม่ครับ เชื่อเถอะครับไม่มีใครกล้าขัดแย้งเลย