กระทู้เก่า ขอยกมาอีกที....ถ้าผมจะแก้ไขพระไตรปิฏกจากชาติเดียวจบ กลายเป็นมีชาติภพนรกสวรรค์ อภิญญา etc

กระทู้ด้านล่างกล่าวถึงความเห็นกรม..วชิรญาน เรื่องจุดสังเกตุของท่านที่มีต่อพระไตร
ซึ่งผมเอง ก็ขอเรียนว่า ไม่แปลก ถ้าพระไตรปิฏก จะมีจุดเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย ตามเวลาที่ผ่านมา 2600 ปี
จะมีจุดให้เห็นเรื่องจีวร เรื่องสำนวนอะไรบ้าง ไม่แปลก
แต่ถ้าเราจะมาพูดกันถึงว่า เดิมทีพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนเรื่องชาติภพเลย
ต่อเมื่อภายหลังจึงสาวกทั้งหลายจึงมาเพิ่มเรื่องชาติภพ นรกสวรรค์
มันแก้ง่ายแบบนั้นอย่างที่พวกตายแล้วสูญเขาบอกจริงๆหรือ
นึกอยากจะแก้ก็แก้ อยากจะเพิ่มก็เพิ่ม ง่ายงั้นเชียว

มาลองสมมติเหตุการณ์กัน
สมมติพระไตรของเดิมเป็นแบบไม่มีชาติภพเลย
สมมติว่ากษัตริย์ยุคนั้นเปิดช่องให้ผมแก้ โดยมีข้อแม้ว่า ต้องเนียน อย่าให้แย้งกันเองกับของเก่า

ถ้าผมเป็นหัวหน้าทีมแต่งนิทานดิสนีย์ ผมจะต้องทำอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างว่าแค่ผมจะแก้ เอาแค่เรื่องระลึกชาติ เรื่องเดียว จับยัดเข้าไปในพระไตร ให้เนียน
สิ่งที่ผมควรจะต้องทำมีอะไร
ท่านใดจะแย้ง กรุณาแสดงปัญญาอันสูงส่งของท่าน แย้งให้เข้าประเด็นด้วยครับ


โชคดีสมัยนี้ มี ระบบค้นหา
ผมพบว่า ในพระไตรปิฏกและอรรถกถา มีเรื่อง"ระลึกถึงชาติ"  มีท้ังหมด 1370 ตำแหน่ง
มี "ระลึกชาติ"อีก 1860 ตำแหน่ง
มี"ระลึกขันธ์" 7 ตำแหน่ง
มี"ระลึกถึงขันธ์" 269 ตำแหน่ง

สรปว่า อย่างน้อยที่สุด มี 3500กว่าตำแหน่งกระจายในพระไตรปิฏก 45 เล่ม
บางส่วนมีข้อความเหมือนกัน บางส่วนมีข้อความต่างกัน
แปลว่า ผมต้องเกลา ชุดข้อความหลายๆแบบนี้ ให้มีความหมายสอดคล้องกัน
แล้วส่งต้นฉบับไปให้พระที่จะมาสังคายนาพระไตรปิฏก คือ อา ปา มะ จุ ปะ ที มะ สัง อัง ขุ สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ  ทั้งหมด 17 ทีม(แบ่งตามนิกาย)
แปลว่าทุกทีมต้องเอากะผมด้วย ไม่งั้นท่องขัดกันแน่

แปลได้อีกว่า ผมเองจะต้องไปเช็คเนื้อหาในพระไตรให้ sync กันโดยไล่ไปทีละสูตร
เช่น ผมต้องไปเพิ่มเนื้อหาเรื่องสัสตทิฏฐิในพรหมชาลสูตร
แล้วต้องเพิ่มเนื้อหาอธิบายความต่างระหว่างระลึกชาติของพวกพราหมณ์และระลึกชาติของพุทธในพรหมชาลสูตร
แล้วตามไปแก้อรรถกถา ไม่งั้นขัดกันตาย
และยังมีแบบนี้อีกหลายพันพระสูตร

นี่แค่เรื่องระลึกชาติ

ถ้าว่าเรื่องอนาคามี เรื่องเทวดา มาร พรหม เรื่องโอปปาติกะ เรื่องนรกสวรรค์
ผมเดาว่ารวมทั้งหมดน่าจะมีราว ๆ แสนตำแหน่งที่ผมจะต้องแก้ แล้วก็ต้องเกลาสำนวนเนื้อหาไม่ให้ขัดแย้งกัน
ยกตัวอย่างเช่น condition การเป็นพรหม
ในบางพระสูตรบอกว่า เจริญฌาน บางพระสูตรบอกว่าเจริญเมตตาเป็นมหัคคตะจิต บางพระสูตรบอกว่าเจริญกรุณาแผ่ไพศาลหาประมาณมิได้
ในอรรถกถาโน่นนั่นนี่อีก
แล้วทีมงานผมต้องปฏิบัติเข้าถึงขั้นสูง เพราะมีการอธิบายสภาวะธรรมแทรกย่อยอยู่ในทั้งพระไตรและอรรถกถา
ยกตัวอย่างเช่น การอธิบายเรื่องวิตก วิจารณ์ ปีติ สุข เอกัคตา ต้องตรงกับประสบการณ์ที่ผู้ปฏิบัติจะได้พบเจอ

ผมต้องแก้พระวินัย แก้ศีลพระหลายข้อ ที่เกี่ยวกับอมนุษย์

สรุปแล้วถ้าผมจะเพิ่มเรื่องราวเหล่านี้เข้าไปในพระไตรปิฏก
ผมคงต้องมีทีมงานอย่างน้อย 500 คน ที่มีความรู้ทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติขั้นสูงลิบลิ่ว เรียกว่าทั้งสมถะและวิปัสสนาญาณต้องผ่านมาหมด
(เพราะผู้ปฏิบัติภายหลังล้วนรับรองสภาวะธรรมในพระไตรและอรรถกถาว่าถูกต้องทั้งนั้น)

เสร็จแล้วผมน่าจะต้องมีการวางแผน เก็บ database ของจุดที่จะต้องแก้ +ระบบตรวจสอบข้อความและความหมาย
มีหลังแก้แล้วก็ต้องมีทีม audit ตรวจความถูกต้องอีกที

ปัญหาคือ
1 ถ้าทีมงานผมปฏิบัติธรรมถึงขั้นสูงเช่นนั้นจริง ผมจะใช้อะไรซื้อใจทีมงาน ให้ยอมมาทำเปลี่ยนพระไตรปิฏกให้เป็ฯแบบที่ผมต้องการ
พระนักปฏิบัติขนาดนี้ ยอมทำความผิดขั้นบิดเบือนพระธรรมวินัย เพื่อเงิน เป็นไปได้หรือ
นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้ว ความผิดขั้นมโหฬารเลยทีเดียว จับคำตัวเอง ยัดพระโอษฐ์พระศาสดาเนี่ยนะ

2 ทั้งหมดนี้ผมต้องทำระหว่างสังคายนาครั้งที่สองกับ สังคายนาครั้งที่สามเท่านั้น
เพราะสังคายนาครั้งที่สอง  ซึ่งยังมีศิษยพระอานนท์อยู่ ท่านไม่ให้แก้แน่ แล้วฝั่งมหาสังฆิกะเองก็มีบันทึกเรื่องราวเหมือนกัน
ผมจะเมคชัวร์ได้ไงว่า ถ้าผมแก้ไป ศัตรูที่ขัดแย้งคือมหาสังฆิกะจะไม่แพลมเรื่องผมออกมา
ในสังคายนาครั้งที่สามมีการเผยแพร่พระไตรออกไปหลายประเทศ ถ้าแก้หลังจากนั้น พระไตรไม่ตรงกันแน่
เพราะผมไม่มีปัญญาไปบังคับประเทศอื่นให้แก้ตามได้แน่

3 ผมต้องกล่อมเจ้าพวก 18 นิกายที่แยกตัวจากเถรวาท แล้วมีพระไตรของตน ให้บันทึกบางส่วนของข้อความที่ผมแก้ลงไปด้วย
เพราะพระไตรของพวกนี้ ต่างจากเถรวาท ในส่วนที่เป็นสาเหตุที่แยก แต่ส่วนอื่นใกล้เคียงกัน หลักฐานยังตรวจสอบได้

ใครคิดว่าไงอีกครับ
พราหมณ์ปลอมปน? แก้พระไตรของง่าย แค่กษัตริย์สั่งก็ทำได้?

ขอผมหัวเราะเป็นภาษาชิลีซักสองนาทีเถอะ
$#$^^%^

ขอเพิ่มเติมอีกหน่อย เพิ่งนึกขึ้นมาได้
ถ้าท่านได้ศึกษาประวัติการทำสังคายนา จะทราบว่า เมื่อครั้งสังคายนาที่2 ได้มีการแยกตัวของนิกายมหาสังฆิกะ ออกจากเถรวาท
ถือได้ว่าเป็นศัตรูคู่แข่งกันก็ว่าได้ ซึ่งนิกายมหาสังฆิกะก็เป็นต้นตอของนิกายมหายานในปัจจุบันนี่เอง
คำถามคือ ถ้าปฐมสังคายนาเป็นเรื่องชาติเดียวจบ
ทำไมเรื่องราวพระสูตรต่างๆของนิกายนี้มีอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่พระไตรเถรวาทมี เช่น
มีเรื่องอภิญญา6 (ดันโผล่มามีเฉย)
ทำไมพระสูตรของนิกายนี้ มีเรื่องพระโพธิสัตว์ (ถ้าชาติเดียวจบ พระโพธิสัตว์มาจากไหน มาทำไม ก็ต้องมีพระพุทธเจ้าองค์เดียวจบสิ)
มีเรื่องปฏิจจสมุปบาทแบบข้ามชาติภพ (มาได้ไง)

นั่นย่อมแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เรื่องชาติภพ อภิญญา เทวดา มาร etc มันมีมาตั้งแต่ก่อน สังคายนาครั้งที่สอง ใช่หรือไม่
เพราะถ้าก่อนนั้นไม่มี แล้วมหาสังฆิกะเอาเรื่องแบบนี้มาได้ไง

ยิ่งย้อนไปดูยิ่งเห็น พระโมคคัลลามีฤทธิ์ โน่นนั่นนี่เหมือนพระไตรเถรวาทเป๊ะ (ต่างกันในรายละเอียด แต่มีฤทธิ์ เช่นเดียวกัน)

หรือว่านิกายนี้ "ลอกการบ้าน" คู่แข่งงั้นหรือ
เป็นไปได้หรือ
ลงว่าถ้าจะลอกการบ้านกัน แล้วพวกเอ็งจะแยกตัวทำแมวน้ำอะไรมิทราบ จริงไหม

ซึ่งย่อมชี้ชัดว่า เป็นไปได้สูงมากว่าสังคายนาก่อนหน้าสังคายนาครั้งที่สอง ได้บรรจุเรื่องชาติภพ etc ลงไปด้วย


ทีนี้ท่านสาวกตายแล้วสูญทั้งหลายควรถามตัวเองแล้วล่ะ
เพราะถ้าเป็นแบบน้ัน คือพระพุทธเจ้าตรัสชาติเดียวจบ
แต่พระมหากัสสปะพระอานนท์และพระอรหันต์500 สรุปกันมาเป็นมีชาติภพนรกสวรรค์ล่ะก็
แปลว่าพระอรหันต์โกหก

ถ้าขนาดต้นทางยังโกหก
ผมถามหน่อยว่าพวกคุณจะนับถือพุทธทำแมวน้ำอะไร
เพราะมันโกหกกันตั้งแต่ระดับพระอรหันต์แล้ว
แปลว่าที่บอกว่าดับทุกข์ได้ จะเชื่อได้ไง โกหกทั้งเพรึปล่าว


หรือ สิ่งที่เป็นไปได้อีกอย่างคือ พระอรหันต์500 ครั้งปฐมสังคายนาไม่ได้โกหก พระศาสดาตรัสแบบนั้นจริง
ทีนี้ก็ถามตัวเองต่อว่า คุณจะเชื่อพระพุทธเจ้าองค์ที่พูดเรื่องชาติภพ เรื่องฤทธิ์ นรกสวรรค์ได้ไหม
ถ้าไม่เชื่อ แล้วพวกคุณจะนับุถือพุทธทำแมวน้ำอะไร
ในเมื่อขนาดศาสดายังโกหกได้


จริงไหมละจ๊ะ สาวกตายแล้ว่สูญ


ปล. ถ้าจะแย้ง กรุณาแย้งให้อยู่ในประเด็นด้วยนะจ๊ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่