จุดผิดพลาดใหญ่หลวงที่พุทธทาสลืมไป ตอนใส่ร้ายพระพุทธโฆสะ

พุทธทาสได้กล่าวใส่ร้ายพระพุทธโฆสะไว้ว่า
ได้เผาบาลีพระไตรปิฏกแล้วเขียนขึ้นใหม่ โดยเพิ่มเติมเรื่องฤทธิ์เทวดานรกสวรรค์ เข้าไปทั้งภายในพระไตรปิฏกและอรรถกถา
ตามข้อมูลที่ผมยกมาไว้ในคห 1

แต่จริงๆแล้วพุทธทาส ลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดไปเสียสนิทคือ
ช่วงเหตการณ์พระพุทธโฆสะแปลอรรถกถานั้น(สังเกตุว่าแปลอรรถกถานะครับ ไม่ใช่เผาพระไตรแล้วเขียนขึ้นใหม่ตามที่พุทธทาสใส่ร้ายไว้)
ช่วงนั้นคือพศ ประมาณ 900
ย้ำอีกที พศ ประมาณ 900 หรือ หลังพระพุทธเ่จ้าปรินิพพานไปแล้ว900 ปี

ทีนี้ก่อนพระพุทธโฆสะเกิด600 ปี มันมีเหตุการแตกแยกนิกายเกิดขึ้นกลายเป็นพระพุทธศาสนามีหลายสิบนิกาย
เกิดขึ้นราวพศ 2xx -3xx ช่วงการสังคายนาครั้งที่สองและสาม


ซึ่งแปลว่า ถ้าสมมติว่าเป็นจริงตามที่พุทธทาสว่า
คือพระพุทธโฆสะเป็นผู้เพิ่มเติมเรื่องฤทธิ์ นรกสวรรค์เทวดา etc ลงไปในพระไตรปิฏกเถรวาทจริง
คำสอนในนิกายอื่นๆที่แยกตัวออกไปจากเถรวาทตั้งแต่ก่อนพระพุทธโฆสะเกิด ต้องไม่มีเรื่องฤทธิ์ นรกสวรรค์ เทวดาอยู่ในนั้น

หลักคิด commonsense ง่ายๆ ในเมื่อแยกไปเป็นหลายร้อยปีแล้ว
พระพุทธโฆสะก็ยังไม่เกิด
พระพุทธโฆสะจะไปมีปัญญาไปแก้พระไตรของนิกายอื่นได้อย่างไร จริงไหม


มาดูกัน ผมยกข้อมูลจากมหายานคือ http://www.mahayana.in.th/p/buddhismintro.html




นิกายวัชชีบุตร
อิทธิพลของนิกายวัชชีบุตร เจิดจ้าอยู่ในอินเดียเป็นเวลาหลายศตวรรษจากมคธได้แผ่ขยายไปสู่อินเดียสภาคตะวันตกและใต้ แต่เนื่องด้วยนิกายนี้ มีหลักธรรมยอมรับว่า  มีอาตมันหรืออัตตา จึงถูกโจมตีจากนิกายอื่นๆ เช่นนิกายมหาสังฆิกะ นิกายเถรวาท นิกายสรวสติวาท และนิกายเสาตฺรนฺติกวาท มาก
            หลักธรรมของนิกายนี้มือยู่ดังนี้คือ
1 ถือว่ามีบุคคลหรือัตตาปรมัตถ์
2 สังขารทั้งหลายบางเหล่าตั้งอยู่ได้ชั่วคราว บางเหล่าดับทุกขณะไม่เว้นว่าง
3 ถือว่าปัญจวิญญาณเป็นวิราคะและก็ไม่อื่นจากสราคะ
4 ถือว่าพาหิรศาสดาก็อาจบรรลุอภิญญา 5 ได้







อภิญญา 5 เป็นเรื่องฤทธิ์ไหมครับ ติ่งพุทธทาสทั้งหลาย
แล้วพระพุทธโฆสะมีปัญญาไปแก้คำสอนของนิกายวัชชีบุตรได้อย่างไรครับ?


นิกายมหาสังฆิกะถือว่า
พระพุทธองค์ทรงประกอบด้วยพระกาย3 ที่เรียกว่าตรีกาย คือธรรมกาย สัมโภคกายและนิรมานกาย
            เมื่อถือว่า พระพุทธองค์เป็นโลกุตตระเช่นนี้ จึงทำให้เกิดการนับถือพระโพธิสัตว์ขึ้น และถือว่า พระโพธิสัตว์ก็เป็นโลกุตตระเช่นกัน ตามหลักมีว่า พระโพธิสัตว์จุติเป็นมนุษย์สามัญไม่เกิด4 ครั้ง เมื่อจุติลงสู่ครรภ์มารดาย่อมมีช้างเผือกเป็นนิมิต ออกจากครรภ์มารดาทางสีข้างเบื้องขวา ไม่มีความรักใคร่ ไม่มีความพยาบาท ไม่มีความเบียดเบียน จะอฐิษฐานเกิดเป็นอะไรก็ได้ เพื่อช่วยสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากทุกข์






ใช่เรื่องนรกสวรรค์ เรื่องเทวดาเรื่องฤทธิ์ไหมครับติ่งพุทธทาส
มหาสังฆิกะเกิดตั้งแต่300 ปีหลังพุทธกาล พระพุทธโฆสะยังไม่ทันเป็นวุ้นเลย
ท่านมีปัญญาไปเขียนเรื่องฤทธิ์ นรกสวรรค์ เทวด ใส่พระไตรปิฏกของนิกายมหาสังฆิกะได้ไหมครับ



จริงๆไล่ไปเถอะ อีก 17 นิกายที่แยกย่อย ตั้งแต่พศ 2xx มีเรื่องฤทธิ์ เทวดานรกสวรรค์ทั้งนั้น


ชัดเจนถึงจุดผิดพลาดของพุทธทาสไหมครับ
เพราะเหตุที่ต้องการคงไว้ซึ่งทิฏฐิตายแล้วสูญของตัวเอง

พุทธทาสได้ใส่ร้าย พระที่มึคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาเถรวาทมากที่สุดในช่วงพันห้าร้อยปีหลัง
คือได้ช่วยให้อรรถกถาเถรวาทรอดพ้นจากการสูญหาย และเป็นแนวทางในการศึกษาของพระโยคาวจร รุ่นหลังๆสืบต่อมาทั้งสิ้น

พุทธทาสได้ใส่ร้ายพระพุทธโฆสะด้วยข้อหาแทบจะเกือบเป็นอนันตริยกรรม
ไม่ว่าจะเพียรพยายามอธิบายว่าหวังดี หรืออะไรก็ตามเพื่อให้ดูเหมือนตัวเองกล่าว soft ลง
แต่การเผาบาลีพระไตรทิ้งแล้วเขียนขึ้นใหม่
ก็คือการเผาพระพุทธพจน์ทิ้ง แล้วเขียนธรรมที่ตัวเองต้องการขึ้นมาใหม่
ไม่ต่างอะไรกับการบิดเบือนพระสัทธรรม โดยจงใจแม้แต่น้อย

ชัดเจนในเหตุผลที่ผมแสดงนะครับ ว่าพุทธทาสได้ใส่ร้ายพระพุทธโฆสะ จริง!!!!
ไม่ใช่ว่าคันโตน่า ใส่ความพุทธทาสแต่ประการใด
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ก๊าก

น่าสมเพชติ่งพุทธทาส
ไม่มีแม้แต่คนเดียวเลยหรือ ที่สามารถแย้งได้ว่า พุทธทาสไม่ได้ใส่ร้ายพระพุทธโฆสะ

อย่างที่บอก ต่อให้เบลมจนคนอื่นเห็นว่าคันโตน่าขี้แข็งขี้เหลว งมงายเชื่อง่าย หรือไม่อย่างไร

ตราบใดที่บทความที่พุทธทาสเขียนไว้เป็ฯตามคันโตน่าพูดจริง
ประวัติศาสตร์และหลักฐานต่างๆที่คันโตน่ายกมาเป็นตามนั้นจริง

ต่อให้เบลมผมยังไงก็ไม่ได้มีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ว่า พุทธทาสใส่ร้ายพระพุทธโฆสะจริงๆได้


น่าสงสารจัง
แทนที่จะมุ่งเน้นแก้ข้อกล่าวหาว่าเหล่าซือไม่ได้ทำเพราะ 1,2,3,4
กลับทำได้แค่แกะเม็ดสิว แคะรังแค คันโตน่า มาให้คันๆเล่นแค่นั้นเอง

ก็เรื่องมันจริงนี่เนอะ แล้วจะให้แย้งยังไงล่ะ

เข้าใจน่า
ความคิดเห็นที่ 1
ข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่า เรื่องฤทธิ์นี้เป็นเรื่องของพุทธศาสนาโดยตรงหรือเป็นส่วนหนึ่ง
ของพุทธศาสนา

ในบาลีมัชฌิมนิกาย มีพุทธภาษิตว่า
พระตถาคต สอนแต่เรื่องความทุกข์ กับ ความพ้นทุกข์ เท่านั้น
ทั้งเรื่อง ของฤทธิ์ ก็ไม่เข้า หลักโคตมีสูตรแปดหลักแต่หลักใดหลักหนึ่ง
การที่เรื่องของฤทธิ์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับ พุทธศาสนาได้ ก็เป็น การเทียบเคียง
โดยส่วนเปรียบว่า ผู้ที่ฝึกจิตของตน ให้อยู่ในอำนาจ อาจที่จะ บรรลุมรรคผล ได้
ในทันตาเห็น นี้แล้ว จิตชนิดนั้น ก็ย่อมสามารถ ที่จะ แสดงฤทธิ์ เช่นนั้นๆ ได้
ตามต้องการ เมื่อต้องการ, และ อีกประการหนึ่ง ฤทธิ์ เป็นเครื่องมือ อย่างดี ที่จะ
ทรมานบุคคล ประเภทที่ไม่ใช่นักศึกษา หรือนักเหตุผล ให้มาเข้ารีตถือศาสนาได้,
ในยุคพุทธกาล ยังเป็น ยุคแห่งจิตศาสตร์ ไม่นิยมพิสูจน์ค้นคว้า กันในทางวัตถุ
เช่น วิทยาศาสตร์แผนปัจจุบัน มหาชนหนักไปในทางนั้น บรรดาศาสดา จึงจำเป็น
ที่จะต้องมี ความรู้ ความสามารถ ในเรื่อง ฤทธิ์นี้เป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งด้วย
เราอาจกล่าวได้ว่า ฤทธิ์ เป็นของคู่กันกับ ลัทธิคำสอน มาตั้งแต่ ดึกดำบรรพ์
ก่อนพุทธกาล ซึ่งศาสดานั้น ใช้เป็นเครื่องมือ เผยแพร่ ศาสนาของตน
แม้พระพุทธองค์ ซึ่งปรากฏว่า เป็นผู้ที่ทรง เกลียดฤทธิ์ ก็ยังต้องทรงใช้บ้าง
ในบางคราวเมื่อจำเป็น ดังที่ปรากฏอยู่ในบาลี หลายแห่ง

ครั้ง ก่อนพุทธกาล นานไกล
ในยุคพระเวท พระเวทยุคแรกๆ ก็มีแต่คำสั่งสอนในการปฏิบัติและบูชาเท่านั้น

ครั้นตกมายุคหลัง เกิดพระเวทที่สี่ (อรรถวนเวท) ซึ่งเต็มไปด้วยเวทมนต์
อันเป็นไปในการให้ประหัตประหารล้างผลาญกัน หรือต่อสู้ต้านทาน
เวทมนต์ของศัตรู ขึ้นด้วยอำนาจความนิยมของมหาชน หรือ อาจกล่าวได้
อีกอย่างว่า ตามอำนาจสัญชาตญาณของปุถุชนนั่นเอง นับได้ว่ายุคนี้เป็น
มูลราก ของสิ่งที่เรียกกันว่า "ฤทธิ์" และนิยมสืบกันมา ด้วยเหตุที่ว่า
มหาชนชอบซื้อ "สินค้า" ที่เป็นไปทำนองฤทธิ์ มากกว่าเหตุผลทางปรัชญา
ถ้าศาสนาใด ด้อยในเรื่องนี้ ก็จะมีสาวกน้อยที่สุด จะได้แต่ คนฉลาดเท่านั้น
ที่จะเข้ามาเป็นสาวก ถ้าเกิดการแข่งขัน ในระหว่างศาสนา ก็เห็นจะเป็น
ฤทธิ์ อย่างเดียวเท่านั้น ที่จะนำความมีชัยมาสู่ตนได้ ในเมื่อให้
มหาชนทั้งหมด เป็นกรรมการตัดสิน คือ ให้พวกเขา หันเข้ามาเลื่อมใส

และเพราะเหตุนี้เอง ในบาลี จึงมีกล่าวประปรายถึง ฤทธิ์
ส่วนในอรรถกถา ได้กล่าวอย่าง ละเอียดพิสดาร
พระพุทธโฆษาจารย์ ได้กล่าว วิธีฝึกฤทธิ์ ไว้ใน คัมภีร์วิสุทธิมรรค
ซึ่งเป็นหนังสือที่แต่งขึ้น เพื่อเอาชนะน้ำใจ ชาวเกาะลังกา
นับตั้งแต่ พระสังฆราช แห่งเกาะนั้น ลงมา อันนับว่า เป็นหนังสือเล่มสำคัญที่สุด
ของท่านผู้นี้ และได้กล่าวไว้ใน อรรถกถาขุททกนิกาย ว่า พระศาสดาของเรา
ทรงแสดงฤทธิ์ หรือ ปาฎิหาริย์ แข่งกับ ศาสดานิครนถเดียรถีย์
อันเรียกว่า ยมกปาฎิหาริย์ และเล่าเรื่องพระศาสดาทรงแสดงปาฎิหาริย์ย่อยๆ
อย่างอื่นอีก เป็นอันมาก นี่ชี้ให้เห็นชัดทีเดียวว่า จะอย่างไรก็ตาม ได้มีการต่อสู้
และแข่งขัน ในระหว่างเพื่อนศาสดา ด้วยใช้ฤทธิ์เป็นเครื่องพิสูจน์
ตามความนิยมของมหาชน เป็นแน่แท้ในยุคนั้น,
แต่นักต่อสู้นั้นๆ จะเป็น องค์พระศาสดาเอง ดังที่ท่านผู้นี้กล่าว
หรือ ว่าเป็นพวกสาวกในยุคหลังๆ หรือ ยุคของท่านผู้กล่าวเอง
หรือ ราว พ.ศ. ๙๐๐ ก็อาจเป็นได้ ทั้งสองทาง






อาจมีผู้แย้งว่าถ้าเป็นยุคหลัง ทำไมเรื่องนี้จึงไปอยู่ในบาลีเดิมเล่า?  
พึงเข้าใจว่า บาลีพระไตรปิฎกของเรานี้ ปรากฏว่ามีอยู่คราวหนึ่ง
ซึ่งถูกถ่ายจากภาษาสิงหลกลับสู่ภาษาบาลีแล้วเผาต้นฉบับเดิมเสีย
และผู้ที่ทำดังนี้ก็คือ ท่านพระพุทธโฆษาจารย์ ผู้เป็นเอกอัครแห่ง
พระอรรถกถาจารย์ทั้งหลายนั่นเอง,









ท่านผู้นี้เป็นพราหมณ์โดยกำเนิด จึงนำให้นักศึกษาหลายๆ คน
เชื่อว่า ถ้าเรื่องของพราหมณ์หลายเรื่อง (เช่น เรื่องนรก สวรรค์
เรื่องพระราหู จับพระอาทิตย์ พระจันทร์ ในสังยุตตนิกาย เป็นต้น)
ได้เข้ามาปนอยู่ในพระไตรปิฎก ถึงกับบรรจุเข้าในพระพุทธโอษฐ์
ก็มีนั้น ต้องเป็นฝีมือของท่านผู้นี้ หรือบุคคลประเภทเดียวกับ
ท่านผุ้นี้ แต่ที่ท่านบรรจุเข้า ก็ด้วยความหวังดี ให้คนละบาป
บำเพ็ญบุญ เพราะสมกับความเชื่อถือของคนในครั้งนั้น














เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่า พระศาสดามิได้ทรงสอนเรื่องฤทธิ์ หรือ
เรื่องฤทธิ์มิได้เข้าเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาในครั้งพุทธกาลแล้ว
มันก็น่าจะได้เข้าเกี่ยวข้องในครั้งนี้ เป็นแน่.
ท่านผู้ที่ดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ได้ทำไปด้วยความหวังดี
เพื่อให้ พุทธศาสนาอันเป็นที่รักของท่าน ต้านทานอิทธิพล
ของศาสนาอื่น ซึ่งกำลังท่วมทับเข้ามานั่นเอง มิฉะนั้น น่ากลัวว่า
พุทธศาสนาจะเหลืออยู่ในโลกน้อยกว่าที่เป็นอยู่ ในบัดนี้มาก

http://www.buddhadasa.com/shortbook/patihan.html
ความคิดเห็นที่ 37
ขอหลักฐานมาหลายปีแล้ว ....


เมือจะพูดว่าพระไตรปิฎกฉบับนี้ เป็นของปลอม เป็นการจับยัดพระโอษฐ์

ผู้พูดควรจะได้ไต่สวนหาหลักฐานตามสมควร ก่อนพูด หรือไม่ ??

หากพูดอะไร โดยไม่มีหลักฐาน  คนไทยเราเรียกว่าอะไร ...

เขาเรียกว่า ปากพล่อย ใช่หรือไม่ ???



เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะมีผลกระทบต่อคนที่ไม่รู้ ทำให้อาจเข้าใจผิดว่า
ต้นฉบับพระไตรปิฎกเดิมถูกเผาทำลายไปนานแล้วโดย.. เป็นฝีมือ ของ พระพุทธ
โฆษาจารย์ ผู้เป็น เอกอัคร แห่ง พระอรรถกถาจารย์ ทั้งหลาย หรือ บุคคล
ประเภท เดียวกับท่านผู้นี้...

คำกล่าวที่ว่า พระพุทธโฆษาจารย์ได้กระทำปลอมปนพระไตรปิฎกถึงกับบรรจุอยู่
ในพระโอษฐ์ และเผาพระไตรปิฎกเดิมทิ้ง

หลักฐานอยู่ไหน ???


หลักฐานอยู่ไหน ???


หลักฐานอยู่ไหน ???
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่