สืบเนื่องจากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/33792266
เมื่อวานได้ไปจัดเต็มอีกรอบเพราะเพื่อนๆ อีกกลุ่ม เรียกร้องให้พาไป พอกลับถึงบ้านเมื่อคืนโพสเฟสบุ้คไปเพื่อนอีกกลุ่มก็ชวนไปอีก ก็เลยบอกว่าขอเบรคสักระยะเดือนนี้ไปติดๆ มา 2 รอบแล้ว เดี๋ยวคอเรสเตอรอลจะพุ่งกระฉูด ฮ่าๆๆ เมื่อวานสั่งอาหารส่วนใหญ่เหมือนเดิม อันที่เหมือนเดิมก็ไม่ขอลงซ้ำแล้วกันนะคะ ดูได้จากกระทู้เก่า
ไปครั้งนี้เมนูที่ตั้งใจไปกินให้ได้คือ "ปลาฉิกขั่ก" หรือที่ภาษาไทยเรียกว่าปลาตะลุมพุก ปลาลุมพุก หลุมพุก แล้วแต่ท้องถิ่น จขกท.ตื่นเต้นมากที่พบว่าที่ร้านนี้มีเมนูนี้ด้วย เพราะปลาฉิกขั่กหายไปจากแผงขายปลาในตลาดสดโดยสิ้นเชิงมา 10 กว่าปีแล้ว ที่จริงมานั่งนึกๆ ก็คิดว่าอาจจะถึง 20 ปีด้วยซ้ำไปที่ไม่ได้กินเพราะมันไม่มีขาย หากใครพบว่าตลาดไหนมีขายกรุณาชี้เป้าด้วยนะคะ คิดถึงปลาฉิกขั่กนึ่งบ๊วยมากเพราะสมัยก่อนได้กินบ่อย แทบทุกสัปดาห์แม่ต้องนึ่งให้กิน ตามประสาคนแต้จิ๋วที่ชอบกินปลา
สาเหตุที่ปลาฉิกขั่กหายไปจากตลาดสดก็เพราะว่ามันหายไปจากทะเลไทยนั่นเอง ไปค้นข้อมูลพบว่าปลาฉิกขั่กเป็นปลาสองน้ำ เป็นปลาทะเลที่ขึ้นมาวางไข่ในแม่น้ำสมัย 60 ปีก่อนเคยพบมากในแม่น้ำเจ้าพระยาและในทะเลสาบสงขลา ปัจจุบันแทบจะไม่พบปลาในทะเลไทยเลย จขกท.ข้องใจมากว่าที่ร้านนี้เขาไปหาปลามาจากไหน ก็เลยถามกุ๊กหมูเจ้าของร้านและพ่อครัวเอกจึงได้รู้ว่าปลาฉิกขั่กที่ขายกันในร้านอาหารซื้อตรงมาจากอวนที่ไปจับมาจากต่างประเทศเป็นการย้ำอีกครั้งว่ามันหายไปจากทะเลไทยแล้วจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
ปลาฉิกขั่กนึ่งบ๊วยใส่น้ำซุปมาท่วมและยังแถมชามน้ำซุปให้เติม รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวานกลมกล่อมกำลังดี ซดแล้วสดชื่นมาก เพื่อนจากลุ่มน้ำปิงที่เกิดมาไม่เคยกินอะไรแบบนี้ถึงกับครางด้วยความพอใจและยกให้เป็นอาหารที่ชอบที่สุดในมื้อนี้ ให้คะแนนสูสีกับแกงคั่วกุ้งใบชะคราม และแกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง สมาชิกร่วมโต๊ะเมื่อวานทั้งโต๊ะไม่มีใครรู้จักปลาชนิดนี้เลย จขกท.ก็เลยต้องเป็นคนแนะนำวิธีกินให้
ปลาฉิกขั่กเป็นปลาที่เนื้อมัน หอม แต่มีก้างอ่อนเยอะมากและก้างเป็นแฉกรูปตัว Y ซึ่งคนจีนกินปลาเก่งอยู่แล้วไม่เป็นปัญหาเขาจะใช้ตะเกียบคีบเอาก้างออกได้ง่าย ใครที่กินปลาไม่เก่งก็ต้องระวังก้างหน่อย ส่วนมากจะเอาไปนึ่งโดยจะนึ่งทั้งเกล็ด ซึ่งเกล็ดปลานี้ถือว่าเป็นของเลอค่า เป็นส่วนที่อร่อย ใครที่กินแต่เนื้อถือว่ากินไม่เป็น วันนี้ได้กินปลาฉิกขั่กให้หายคิดถึง ฟินสุดๆ ค่ะ
อีกเมนูที่คราวก่อนไม่มีคือ "ปลาเนื้อดำทอด" ปลาเนื้อดำก็คือปลากระเบนแดดเดียวนั่นเอง เอามาทอดอร่อยมาก ใครที่ชอบกินหมูแดดเดียวเนื้อแดดเดียวน่าจะชอบ ซึ่งพอมันเป็นปลาก็จะอร่อยกว่าเพราะไม่เหนียวแถมยังมีเอ็นปลาอ่อนๆ ให้เคี้ยวกรุบๆ จานนี้เหมาะเป็นกับแกล้มมาก ปลาเนื้อดำนี่โชคดีถึงได้กินเพราะไม่ได้มีตลอด เมื่อมีก็เลยต้องสั่งแม้ว่าอาหารจะเต็มโต๊ะจนกินกันไม่หมดแล้ว
วันนี้ขอรีวิวเท่านี้ ไว้ถ้าได้ไปอีก หากมีเมนูที่ไม่เคยลงจะมาอัพเดทอีกทีค่ะ แต่ขอเว้นช่วงไปสักระยะเพราะอิ่มไม่หายเลย
[CR] ได้กิน "ปลาฉิกขั่ก" หลังจากที่ไม่ได้กินมาเกือบ 20 ปี ที่ครัวกุ๊กหมู ถ.สหกรณ์-โคกขาม มหาชัย
เมื่อวานได้ไปจัดเต็มอีกรอบเพราะเพื่อนๆ อีกกลุ่ม เรียกร้องให้พาไป พอกลับถึงบ้านเมื่อคืนโพสเฟสบุ้คไปเพื่อนอีกกลุ่มก็ชวนไปอีก ก็เลยบอกว่าขอเบรคสักระยะเดือนนี้ไปติดๆ มา 2 รอบแล้ว เดี๋ยวคอเรสเตอรอลจะพุ่งกระฉูด ฮ่าๆๆ เมื่อวานสั่งอาหารส่วนใหญ่เหมือนเดิม อันที่เหมือนเดิมก็ไม่ขอลงซ้ำแล้วกันนะคะ ดูได้จากกระทู้เก่า
ไปครั้งนี้เมนูที่ตั้งใจไปกินให้ได้คือ "ปลาฉิกขั่ก" หรือที่ภาษาไทยเรียกว่าปลาตะลุมพุก ปลาลุมพุก หลุมพุก แล้วแต่ท้องถิ่น จขกท.ตื่นเต้นมากที่พบว่าที่ร้านนี้มีเมนูนี้ด้วย เพราะปลาฉิกขั่กหายไปจากแผงขายปลาในตลาดสดโดยสิ้นเชิงมา 10 กว่าปีแล้ว ที่จริงมานั่งนึกๆ ก็คิดว่าอาจจะถึง 20 ปีด้วยซ้ำไปที่ไม่ได้กินเพราะมันไม่มีขาย หากใครพบว่าตลาดไหนมีขายกรุณาชี้เป้าด้วยนะคะ คิดถึงปลาฉิกขั่กนึ่งบ๊วยมากเพราะสมัยก่อนได้กินบ่อย แทบทุกสัปดาห์แม่ต้องนึ่งให้กิน ตามประสาคนแต้จิ๋วที่ชอบกินปลา
สาเหตุที่ปลาฉิกขั่กหายไปจากตลาดสดก็เพราะว่ามันหายไปจากทะเลไทยนั่นเอง ไปค้นข้อมูลพบว่าปลาฉิกขั่กเป็นปลาสองน้ำ เป็นปลาทะเลที่ขึ้นมาวางไข่ในแม่น้ำสมัย 60 ปีก่อนเคยพบมากในแม่น้ำเจ้าพระยาและในทะเลสาบสงขลา ปัจจุบันแทบจะไม่พบปลาในทะเลไทยเลย จขกท.ข้องใจมากว่าที่ร้านนี้เขาไปหาปลามาจากไหน ก็เลยถามกุ๊กหมูเจ้าของร้านและพ่อครัวเอกจึงได้รู้ว่าปลาฉิกขั่กที่ขายกันในร้านอาหารซื้อตรงมาจากอวนที่ไปจับมาจากต่างประเทศเป็นการย้ำอีกครั้งว่ามันหายไปจากทะเลไทยแล้วจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
ปลาฉิกขั่กนึ่งบ๊วยใส่น้ำซุปมาท่วมและยังแถมชามน้ำซุปให้เติม รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวานกลมกล่อมกำลังดี ซดแล้วสดชื่นมาก เพื่อนจากลุ่มน้ำปิงที่เกิดมาไม่เคยกินอะไรแบบนี้ถึงกับครางด้วยความพอใจและยกให้เป็นอาหารที่ชอบที่สุดในมื้อนี้ ให้คะแนนสูสีกับแกงคั่วกุ้งใบชะคราม และแกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง สมาชิกร่วมโต๊ะเมื่อวานทั้งโต๊ะไม่มีใครรู้จักปลาชนิดนี้เลย จขกท.ก็เลยต้องเป็นคนแนะนำวิธีกินให้
ปลาฉิกขั่กเป็นปลาที่เนื้อมัน หอม แต่มีก้างอ่อนเยอะมากและก้างเป็นแฉกรูปตัว Y ซึ่งคนจีนกินปลาเก่งอยู่แล้วไม่เป็นปัญหาเขาจะใช้ตะเกียบคีบเอาก้างออกได้ง่าย ใครที่กินปลาไม่เก่งก็ต้องระวังก้างหน่อย ส่วนมากจะเอาไปนึ่งโดยจะนึ่งทั้งเกล็ด ซึ่งเกล็ดปลานี้ถือว่าเป็นของเลอค่า เป็นส่วนที่อร่อย ใครที่กินแต่เนื้อถือว่ากินไม่เป็น วันนี้ได้กินปลาฉิกขั่กให้หายคิดถึง ฟินสุดๆ ค่ะ
อีกเมนูที่คราวก่อนไม่มีคือ "ปลาเนื้อดำทอด" ปลาเนื้อดำก็คือปลากระเบนแดดเดียวนั่นเอง เอามาทอดอร่อยมาก ใครที่ชอบกินหมูแดดเดียวเนื้อแดดเดียวน่าจะชอบ ซึ่งพอมันเป็นปลาก็จะอร่อยกว่าเพราะไม่เหนียวแถมยังมีเอ็นปลาอ่อนๆ ให้เคี้ยวกรุบๆ จานนี้เหมาะเป็นกับแกล้มมาก ปลาเนื้อดำนี่โชคดีถึงได้กินเพราะไม่ได้มีตลอด เมื่อมีก็เลยต้องสั่งแม้ว่าอาหารจะเต็มโต๊ะจนกินกันไม่หมดแล้ว
วันนี้ขอรีวิวเท่านี้ ไว้ถ้าได้ไปอีก หากมีเมนูที่ไม่เคยลงจะมาอัพเดทอีกทีค่ะ แต่ขอเว้นช่วงไปสักระยะเพราะอิ่มไม่หายเลย