ยอมรับได้ไหม ถ้าเป็นลูกที่เกิดจากการถูกข่มขืน และแม่ไม่เคยเห็นเราเป็นลูกเลย

กระทู้คำถาม
ถ้าเกิดมา 25 ปี อาศัยอยู่กับแม่และน้องสาว
แต่เพิ่งมารู้ความจริงว่าว่าแม่ถูกผู้ชายคนอื่นข่มขืน แล้วก็พาลเกลียดเรามาจนถึงทุกวันนี้
(แม่รักน้องสาว เพราะเกิดกับคนที่แต่งงานด้วยทีหลัง)
เป็นคุณจะยอมรับได้ไหมคะ ที่รู้ว่าโดนแม่เกลียดมาตลอดชีวิตเพราะแม่ถูกข่มขืน
ควรรู้ หรือไม่รู้ความจริงจะดีกว่า ?



ขอความเห็นหน่อยค่ะ
ปล. ไม่ใช่เรื่องจริงนะคะ แต่ต้องการข้อมูลไปทำงานค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เพื่อนสมัยมัธยมของเราเคยมีนะ แบบที่คุณว่า แต่แม่ถูกข่มขืนจากเพื่อนของพี่ชาย
เพื่อนเราออกแนวเก็บกดและใช้ความรุนแรงโดยไม่รู้ตัวบ่อยๆ  ทั้งชั้นเรียนแทบไม่มีใครคบ
ปลีกวิเวกอยู่คนเดียว เราเป็นคนเดียวที่คอยอยู่ด้วยกับเพื่อนคนนี้ แต่ตัวเราเองมีเพื่อนอีกกลุ่มอยู่แล้ว

ตอนอยู่ในคาบเรียนก็จะเอาแต่เรียนอย่างเดียวไม่สนใจใคร มีงานกลุ่มก็ออกตัวขออยู่คนเดียว
เราเพิ่งรู้ทีหลังตอนที่เพื่อนบอกว่า กลัวคนอื่นไม่อยากได้นาง กลัวสายตาที่ทุกคนมองแปลกๆ
นางไว้ใจเรา ดีกับเราคนเดียว แต่พอโมโหนางจะหลุดทุกอย่าง  กับเรานางยังลืมตัวเหวี่ยงใส่

พฤติกรรมแปลกๆจนครูต้องเชิญผู้ปกครองมาพบ  พอแม่เพื่อนมาก็ตบลูกโชว์อาจารย์หน้าห้อง
ปกครองเลยจ้า  ครูที่อยู่ในห้องตะลึงกันเลย  คุยกันจนเข้าใจ ยังมีคาดโทษก่อนกลับบ้านด้วย
เราก็ไปคุยกับเพื่อน นางเล่าว่าแม่มีลูก 3 คน นางเป็นพี่สาวคนโตเป็นลูกที่อาภัพมากๆ  เรายังว่า
น้องๆทนได้เหรอที่แม่ดุแบบนี้  นางบอกไม่ใช่หรอก เป็นกับนางคนเดียวเท่านั้น  เพราะนางเป็นลูก
ที่แม่ไม่ได้ตั้งใจให้มี ถ้าไม่โดนเพื่อนลุงข่มขืน จนท้อง นางเล่าไปน้ำตาไหลไป

แม่ด่านางทุกครั้งที่โมโหไม่ว่าจะโมโหอะไรมา ก็จะด่า นังตัวซวยเกิดมาผลาญแท้ๆ ถ้าไม่ใช่ลูก
ป่านนี้นอนข้างถนนแล้ว เราเคยคุยโทรศัพท์ถามการบ้านกับนางได้ยินเสียงแม่เพื่อนเข้ามาเลย
ว่ายิ้มคุยกับใครดึกๆ ผู้ชายใช่ไหม อินรก สันดานเลือดชั่ว เราก็ถามว่าเห้ยยยย เสียงไรเนี่ย
สายถูกตัดไปเลย

ทุกๆวันตื่นเช้ามาต้องออกไปซื้อโจ๊ก ข้าว ขนม ให้น้องก่อนไปเรียน น้องสาวคนกลาง ไม่ค่อยถูกกับนาง
แต่น้องชายคนเล็กจะรักนางมาก แม้แต่พ่อเลี้ยงที่เห็นนางมาตั้งแต่เล็กๆก็รักนาง มีแต่แม่คนเดียวที่
ทำท่าทางไม่พอใจที่เห็นพ่อเลี้ยงซื้อของให้เพื่อนเรา

เพื่อนของเรามาโรงเรียนด้วยรถรับส่ง แต่น้องๆแม่จะขับรถมาส่งทุกวัน โดยให้เหตุผลว่าเป็นพี่ต้องเริ่มรู้จัก
ดูแลตัวเองให้เป็น เราก็งงนะมีงี้ด้วย   แม่เพื่อนเราขี้โมโหมาก ขนาดตอนนั้นเราเรียนอยู่ ม 2 แล้ว
เพื่อนเรายังมีรอยตบตี ทั้งรอยเล็บหยิกหลังหูบ่อยๆ เรานึกภาพตามเลย น่าจะเอามือ2ข้างจิกหัวเขย่าๆ

ครูบางคนก็เข้าใจ บางคนก็มองเพื่อนเราเป็นตัวปัญหา เคยโดนครูบางคนด่าว่าเด็กเหลือขอ แกะดำในห้อง
เราก็ฟังอยู่ยังพูดกับครูเลยว่า ชีวิตเพื่อนเราน่าสงสารนะ ที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะแม่เขาหล่อหลอมมา
แบบนี้  ครูก็พูดอีกว่า  คนที่พ่อแม่มีปัญหา บางคนเขายังเอาดีได้  นิสัยเพื่อนเราเกินเยียวยาแล้ว
แถมบอกเราอย่าไปยุ่งกับเขาสิ เขาทนไม่ได้ก็เข้าหาคนอื่นเองแหละ เราฟังนิเกลียดครูคนนี้จนถึงปัจจุบันเลย

เพื่อนเราก็หลายอารมณ์เป็นแบบนี้จนจบ ม 3 เราก็ย้ายโรงเรียน ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก หลังๆมาเราเจอเพื่อนคนนี้จากเฟสบุค
ก็ถามข่าวคราวว่าเป็นยังไงบ้าง นางก็บอกว่าตอนนี้แม่ต้องเข้ารับการรักษาทางจิตเวชเพราะเครียดเกินไป
ได้ยามากินเป็นกำๆ หูแว่ว ย้ำคิดย้ำทำ บางครั้งก็ลืมปิดไฟ ปิดบ้าน ได้ยินชาวบ้านคุยกันก็เดินไปด่าเขา
หาว่าเขานินทามั่ง จะตบเขามั่ง งานที่ทำอยู่แม่เพื่อนก็ต้องออกเพราะทำบัญชีเขาคลาดเคลื่อนเป็นล้าน เงินน่ะอยู่
แต่ลงตัวเลขหายบ่อยๆ พอนักตรวจสอบมาก็เจอข้อผิดพลาดตัวเลขหาย บริษัทเกือบโดนฟ้องเขาเลยเชิญออก

น้องๆก็แยกไปทำงานที่อื่นกันหมดนานๆกลับมาบ้านสักที กลายเป็นเพื่อนเราต้องดูแลแม่ไป แม่ก็เริ่มดีขึ้นเริ่มไม่ด่า
ไม่ว่าเพื่อนเรา คงสำนึกได้มั้ง แต่ก็หลุดทุกครั้งที่โมโห  เพื่อนเราก็เป็นเหมือนกัน นางบอกโกรธแล้วควบคุมไม่ได้
ทุกวันนี้มีแฟนกี่คนก็งี่เง่าใส่จนเขาเลิกหมด ทั้งที่นางสวยมาก เราว่าคนที่มีปมกับครอบครัว แม่ไม่รัก พ่อไม่รัก
พอมีแฟนก็อยากให้แฟนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ไม่เคยได้ พอได้สัมผัสกับคำว่ารัก อาการโหยหาก็มาไม่รู้จักจบสิ้น

เพื่อนเราเป็นซึมเศร้า เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง กลัวสายตาคน ชอบอยู่คนเดียวออกแนวเก็บตัว(ตอนไม่มีแฟนนะ)
บางครั้งนั่งอ่านหนังสือนิยายก็ร้องไห้ พอเราถามเป็นไร นางก็ว่า ครอบครัวคนอื่นเขาก็ดีกันทั้งนั้นไม่เห็นเหมือนนางเลย
ปล่อยโฮยาวๆ เราสังเกตุพฤติกรรมนางนานมาก สมัยนั้น คือ หลายอารมณ์จริงๆ ถ้าดีก็ดีใจหายแต่อย่าให้เครียด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่