เรื่องที่ต้องรู้ก็ได้ไม่ต้องรู้ก็ได้ก่อนอ่าน :
- Butterfinger the movie หนังที่ดัดแปลงจากชื่อขนมที่เดดพูลพูดถึงมีจริงๆนะ แนวสยองขวัญซะด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- แซสควอชเป็นตัวคล้ายเยติขนฟูสีส้มๆ เป็นสมาชิกทีมอัลฟ่าไฟลท์ของแคนาดา เป็นหมอที่เดดพูลเคยไปหาตอนเพิ่งหลุดจากสถานบำบัด เคยสู้กับเดดพูลในตอนแรกของซีรี่ย์เดี่ยวรอบแรก หน้าตาตอนยังไม่แปลงร่างคล้ายบาทหลวงแอนเดอร์เซ่นในเฮลซิ่ง
- เดดพูลเคยสู้กับฮัคแล้ว ส่วนผล...ไม่ต้องถามมั้ง ขนาดพวกดังๆชนกับฮัคยังเละเป็นส่วนใหญ่เลย รอดไปได้แบบไม่เจ็บตัวมากเฉพาะตอนมาขอเลือดฮัคไปทำยาเท่านั้น
- เรื่องสั้นเก่า เขียนไว้ตั้งแต่ปี2010 ไม่เกี่ยวอะไรกับสงครามฟ็อกซ์vsมาร์เวลรอบนี้ แต่อาจจะเขียนขึ้นเพื่อปลอบใจแฟนบอยที่กำลังปวดตับกับบทเดดพูลในหนังวูฟออริจิ้นก้ได้
__________________________________________________
บนเนินเขาฮอลลีวู้ด บ่ายโมงตรง
คนเขียนบท3: อะไรวะเนี่ย?
คนเขียนบท2: หมอนี่มันบ้าไปแล้ว ถ้านายยังวิ่งได้อยู่ล่ะก็รีบหนีไป!!
อย่าเข้าไปในนั้นเด็ดขาดเลยนะ!!
เดดพูล:นายคงเป็นคนที่ฉันนัดไว้ตอนบ่ายสามครึ่งสินะ
เดดพูล: ตัวแทนที่ไปเรียกนายมาคงบอกเรื่องข้อตกลงแล้วใช่ไหม? เดี๋ยวนี้เรื่องอะไรๆก็เอามาทำเป็นหนังได้หมด ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวีเก่าๆ เรื่องหมากกระดาน หรือเรื่องขนมลูกอมอะไรก็ได้ทั้งนั้น ฉันล่ะโคตรตื่นเต้นเลยที่รู้ว่าหนังButterfinger : the movieสร้างเสร็จแล้ว
อีกไม่นานเรื่องของฉันก็คงได้ทำเป็นหนังเหมือนกันล่ะนะ แต่ฉันอยากให้มันเป็นหนังที่เป็นปรากฎการณ์ใหม่ล่าสุดที่ทั้งฮอลลีวู้ดไม่เคยมีใครทำมาก่อน
วันนี้ฉันสัมภาษณ์คนเขียนบทมาทั้งวันแล้ว แต่คุยกับคนที่มาก่อนหน้านายสองคนแล้ว...
ฉันไม่ชอบเลยว่ะ
สามสิบแปดนาทีก่อน
คนเขียนบท1: ฟังนะพวก เราจะทำหนังนายให้มันเป็นแนวบู๊ระเบิดภูเขาเผากระท่อมแบบไมเคิล เบย์เลย สู้กับตัวประหลาดเยอะๆ ฉากแอ็คชั่นเอาให้มันส์สุดๆ เราจะให้นายสู้กับแซสควอช ให้นายสู้กับฮัค ให้นายสู้กับ...
เดี๋ยวๆ ว่าแต่เรามีสิทธิ์เอาฮัคมาใส่ในหนังได้หรือเปล่านะ? ไม่รู้เหมือนกันเว้ย แต่ไม่สำคัญหรอก
เดดพูล: เออ แต่ฉันคิดว่า...
คนเขียนบท1: อย่าทำหน้าแบบนั้นน่า ไอ้น้อง อย่ายึดติดกับต้นแบบนักสิ นี่เป็นการยกระดับให้กับหนังของนายเลยนะ
เดดพูล: ยกมาสูงแค่นี้พอยัง เอาสูงกว่านี้อีกหน่อยมะ?
คนเขียนบท1: เดี๋ยวๆ จะทำอะไรน่ะ?
เดดพูล: ไอ้คนก่อนหน้านายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเล้ย
คนเขียนบท1: เราจะเอายังงี้นะ ตัดเรื่องที่นายเป็นทหารรับจ้างทิ้งไปให้หมดเลย
เดดพูล: ห๊ะ?
คนเขียนบท1: คนดูไม่อยากดูเรื่องชวนหดหู่แบบนั้นหรอก เราจะเปลี่ยนให้นายเป็นนักร้องแนวคันทรี่ แม้แต่เจฟ บริดเจทส์ยังเพิ่งได้ออสการ์จากการดัดแปลงเรื่องซะขนาดนั้นเลยนะ
แล้วนายก็ติดเหล้า แล้วก็ถังแตก แล้วก็พยายามจะทำให้ลูกของนายกลับมาชื่นชมในตัวนายอีกครั้ง
มองแบบนั้นหมายความว่าไง?
เดดพูล: แล้วบทของนายล่ะ?
คนเขียนบท3: ฉันยังไม่ได้เขียน
ฉันมาที่นี่เพื่อฟัง ฉันอยากฟังเรื่องของนาย
เดดพูล: นายจะบอกว่านายจะไม่เขียนเรื่องชีวิตของฉันออกมาจากจากมุมมองของนายเลยยังงั้นเรอะ?
คนเขียนบท3: ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก
เดดพูล: ได้เลย เพื่อนเอ๊ย งั้นฉันจะเล่าให้ฟัง แต่นายฟังแล้วอาจจะเสียใจทีหลังก็ได้นะ
ฉันจะเล่าตั้งแต่เรื่องจุดกำเนิดของฉันเลยก็แล้วกัน...
เดดพูล: มันก็เหมือนๆเรื่องเกี่ยวกับจุดกำเนิดอื่นๆนั่นแหละ สิ่งที่ต้องมีแน่ๆคือฉากเปลือยทั้งตัวและความเจ็บปวดจนแทบคลั่ง
นายอาจจะอยากถามว่าฉันทำอีท่าไหนถึงได้ลงไปอยู่ในแทงค์น้ำ แถมมีเข็มปักไข่และสายยางทิ่มตูดอยู่เต็มไปหมด หรือเรื่องเชี่ยๆอะไรประมาณนั้นล่ะนะ
เอ่อ... จะบอกให้ก็ได้ว่าเพราะฉันเลือกเป็นอาสาสมัครล่ะ
เดดพูล: ตอนนั้นฉันมีทางเลือกแค่สองอย่างระหว่างรอความตายแบบโคตรทรมานจากมะเร็งระยะที่4 กับเป็นอาสาสมัครเข้ารับการทดลองในห้องแล็บลับแห่งนึงในแคนาดา
และคนที่เห็นผลการทดลองนั่นก็พูดกันทั้งนั้นว่าฉันน่าจะเลือกอยู่กับมะเร็งซะยังจะดีกว่า
นักวิทย์: โอ้ พระเจ้า
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
เดดพูล: เป็นอะไรไปน่ะ? นี่ทรงผมฉันน่าเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอ?
ตายล่ะ นี่ผมฉันหายไปไหนหมดแล้วเนี่ย?
เดดพูล: หมอบอกว่าการทดลองนี่มันเหมือนเปิดกล่องสุ่มพลังพิเศษ
ตอนนี้ร่างกายของฉันได้ความสามารถรักษาตัวเองอย่างรวดเร็วมาแล้ว
เฮ้ ที่จริงมันต้องเริ่มจากนิ้วเท้าก่อนไม่ใช่เรอะ
โอ๊ย....นะ...นี่มันเจ็บขนาดนี้เลยเรอะ
ว้าว
นักวิทย์: แต่หมอนี้อัปลักษณ์เป็นบ้าเลย
ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนั้นให้เอง
เดดพูล: อ้ากกกกก
เดดพูล: แต่ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน พอฮีลกลับมาได้ผิวของฉันก็ยังดูเหมือนมนุษย์แฮมเบอร์เกอร์อยู่ดี
ซึ่งไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่สำหรับงานลับๆอย่างงานลอบสังหาร เพราะไม่ว่าจะพรางตัวยังไงก็โคตรเด่นเลย
หมอบอกว่าไม่ต้องห่วง และให้ฉันไปพักในบ้านพักตากอากาศระหว่างที่พวกเขาหาวิธีรักษาให้ฉัน
ที่นั่นฉันจะได้รับการรักษาอย่างดี
หรือพูดให้ถูกคือรักษาไว้อย่างดีในฐานะผลงานที่ล้มเหลวล่ะนะ
ระหว่างที่นอนเน่าอยู่ในห้องแคบๆที่นั่นฉันก็เพิ่งรู้ตัวว่าสิ่งที่ฉันเลือกนี่มันร้ายกว่าเป็นมะเร็งเสียอีก มะเร็งถ้าตายก็จบ แต่ในกรณีของฉันไม่ว่ายังไงสภาพหนูทดลองแบบนี้ก็จะดำเนินต่อไป... อาจจะตลอดกาล...
ฉันต้องหาทางออกไปจากที่นี่
เดดพูล: โอย เจ็บผิวจังเลย เจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บผิวจังเลย เจ็บ เจ็บ เจ็บ
ผู้คุม: หุบปากซะ ไม่งั้นฉันจะหาเรื่องอื่นให้แกบ่นแทน
เดดพูล: พูดงี้มาต่อยกันซักยกมั้ย พ่อตุ้ยนุ้ย
ผู้คุม: ด้วยความยินดีเลยว่ะ
เดดพูล: ยะ...อย่านะ ได้โปรด ยกโทษให้ผมเถอะ มันเจ็บจนทนไม่ไหวจริงๆอ้ะ
ว่าแต่มีวาสลินบ้างป่ะ อ้วนจนตัวจะแตกอย่างเอ็งนี่น่าจะใช้ทาแก้ผิวแตกลายงาประจำอยู่แล้วล่ะนะ
ผู้คุม: ได้เลย
เดี๋ยวเอ็งได้รู้แน่ว่าผิวเอ็งจะเจ็บมากกว่านี้ได้อีก
เดดพูล: พวกเด็กเกเรก็ยังงี้ล่ะน้า เห็นเด็กตัวเล็กอ่อนแอหน่อยเป็นไม่ได้ชอบพุ่งเข้าไปรังแกทุกที
เดดพูล: ฉันเห็นพวกเด็กเกเรแบบนั้นทีไรก็ทนไม่ไหวต้องไล่กระทืบทุกทีเหมือนกัน
นายคงไม่รู้หรอกว่ามันน่ายินดีแค่ไหนที่ได้รู้ว่าไม่ว่าพวกนั้นจะใช้อาวุธแบบไหนก็ฆ่าฉันไม่ได้
บอกตามตรงเลย ตอนนั้นทำเอาฉันตื่นเต้นจนหัวหมุนไปหมด
แหม่ เล่นยัดลูกตะกั่วเข้าตัวฉันไม่ยั้งแบบนั้น
ต่อไปฉันคงใช้กระปู๋เขียนหนังสือแทนดินสอได้แล้วมั้งนี่
เดดพูล: หลังจากที่หนีออกมาได้ ฉันก็กลับมาทำอาชีพทหารรับจ้างอีกครั้ง แต่ตอนนี้ฉันมี...เอ่อ...ข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆอีกเยอะ
(นายเป็นคนเขียนบท ตรงนี้นายคงทำให้เคลียร์ได้นะ)
แล้วฉันก็ใส่หน้ากากเหมือนกับพวกตัวละครในหนังสือการ์ตูน
แต่หลังจากใส่หน้ากากและได้พลังพิเศษมาก็มีแต่งานพิลึกๆทั้งนั้นเลย
อย่างงานแรกๆที่ฉันรับทำก็คือฆ่ามิวแทนต์ไซบอร์กหน้าบูดที่มาจากอนาคตหรืออะไรประมาณนั้น
เดดพูล: ขอบอกไว้ก่อนนะ ว่าที่ฉันตามมาฆ่าตาแก่ครึ่งเหล็กอย่างนายนี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวนเลยซักกะติ๊ด
เคเบิ้ล: เออ ได้เลย
เดดพูล: แล้วหลังจากนั้นเราก็กลายเป็นเพื่อนซี้กัน ก็อย่างที่น่าจะเด้ากันได้อยู่แล้วล่ะนะ
เอิ่ม... ก็อย่างที่ว่ามานั่นล่ะ
คนเขียนบท3: เดี๋ยวๆ นายเล่าข้ามตอนที่สำคัญที่สุดไปนะ
เดดพูล: อ้าว? ตอนไหนล่ะ?
คนเขียนบท3: ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเวด วิลสัน มนุษย์ที่อยู่ใต้หน้ากากนั่น ในช่วงที่ยังไม่ได้ใส่หน้ากาก ก่อนที่จะไปเข้าโครงการweapon-x ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มต้นขึ้นหน่อยได้ไหม?
เดดพูล: นายอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเวด วิลสันงั้นรึ?
สรุปสั้นๆก็คือหมอนั่นมันเป็นคนโง่
เดดพูล: เวด วิลสันเป็นทหารรับจ้างที่ถือคติประจำตัวอยู่อย่างนึง คือจะรับทำแต่งานที่มัน"เชื่อว่า"เป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น หมอนั่นจริงจังกับเรื่องนี้ยิ่งกว่าอะไรซะอีก
ดูเหมือนว่าเวด วิลสันจะเป็นทหารรับจ้างเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ทำงานเพื่อเงินเท่านั้น
หมอนั่นบุกไปฆ่าผู้นำเผด็จการที่ชั่วช้าสมควรตาย
แล้วก็กลับบ้านไปหาแฟนสาวแสนสวยที่รอมันอยู่ในรัฐบอสตั้น
วาเนสซ่า : เวด วันนี้เค้าจะเล่นอะไรกับตัวเองงดีน้า รีบไปอาบน้ำก่อนเถอะจะได้มาเล่นกัน
เดดพูล: จะว่ายังไงดีนะ หมอนั่นยังหนุ่ม ยังไม่รู้เลยว่าชีวิตต่อจากนี้จะมีเรื่องสุดเซอร์ไพรส์รออยู่
Marvel Comic : X-Men Origins : Deadpool (มีฉากเดดพูลเปลือยและถอดหน้ากาก)
- Butterfinger the movie หนังที่ดัดแปลงจากชื่อขนมที่เดดพูลพูดถึงมีจริงๆนะ แนวสยองขวัญซะด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- แซสควอชเป็นตัวคล้ายเยติขนฟูสีส้มๆ เป็นสมาชิกทีมอัลฟ่าไฟลท์ของแคนาดา เป็นหมอที่เดดพูลเคยไปหาตอนเพิ่งหลุดจากสถานบำบัด เคยสู้กับเดดพูลในตอนแรกของซีรี่ย์เดี่ยวรอบแรก หน้าตาตอนยังไม่แปลงร่างคล้ายบาทหลวงแอนเดอร์เซ่นในเฮลซิ่ง
- เดดพูลเคยสู้กับฮัคแล้ว ส่วนผล...ไม่ต้องถามมั้ง ขนาดพวกดังๆชนกับฮัคยังเละเป็นส่วนใหญ่เลย รอดไปได้แบบไม่เจ็บตัวมากเฉพาะตอนมาขอเลือดฮัคไปทำยาเท่านั้น
- เรื่องสั้นเก่า เขียนไว้ตั้งแต่ปี2010 ไม่เกี่ยวอะไรกับสงครามฟ็อกซ์vsมาร์เวลรอบนี้ แต่อาจจะเขียนขึ้นเพื่อปลอบใจแฟนบอยที่กำลังปวดตับกับบทเดดพูลในหนังวูฟออริจิ้นก้ได้
__________________________________________________
บนเนินเขาฮอลลีวู้ด บ่ายโมงตรง
คนเขียนบท3: อะไรวะเนี่ย?
คนเขียนบท2: หมอนี่มันบ้าไปแล้ว ถ้านายยังวิ่งได้อยู่ล่ะก็รีบหนีไป!!
อย่าเข้าไปในนั้นเด็ดขาดเลยนะ!!
เดดพูล:นายคงเป็นคนที่ฉันนัดไว้ตอนบ่ายสามครึ่งสินะ
เดดพูล: ตัวแทนที่ไปเรียกนายมาคงบอกเรื่องข้อตกลงแล้วใช่ไหม? เดี๋ยวนี้เรื่องอะไรๆก็เอามาทำเป็นหนังได้หมด ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวีเก่าๆ เรื่องหมากกระดาน หรือเรื่องขนมลูกอมอะไรก็ได้ทั้งนั้น ฉันล่ะโคตรตื่นเต้นเลยที่รู้ว่าหนังButterfinger : the movieสร้างเสร็จแล้ว
อีกไม่นานเรื่องของฉันก็คงได้ทำเป็นหนังเหมือนกันล่ะนะ แต่ฉันอยากให้มันเป็นหนังที่เป็นปรากฎการณ์ใหม่ล่าสุดที่ทั้งฮอลลีวู้ดไม่เคยมีใครทำมาก่อน
วันนี้ฉันสัมภาษณ์คนเขียนบทมาทั้งวันแล้ว แต่คุยกับคนที่มาก่อนหน้านายสองคนแล้ว...
ฉันไม่ชอบเลยว่ะ
สามสิบแปดนาทีก่อน
คนเขียนบท1: ฟังนะพวก เราจะทำหนังนายให้มันเป็นแนวบู๊ระเบิดภูเขาเผากระท่อมแบบไมเคิล เบย์เลย สู้กับตัวประหลาดเยอะๆ ฉากแอ็คชั่นเอาให้มันส์สุดๆ เราจะให้นายสู้กับแซสควอช ให้นายสู้กับฮัค ให้นายสู้กับ...
เดี๋ยวๆ ว่าแต่เรามีสิทธิ์เอาฮัคมาใส่ในหนังได้หรือเปล่านะ? ไม่รู้เหมือนกันเว้ย แต่ไม่สำคัญหรอก
เดดพูล: เออ แต่ฉันคิดว่า...
คนเขียนบท1: อย่าทำหน้าแบบนั้นน่า ไอ้น้อง อย่ายึดติดกับต้นแบบนักสิ นี่เป็นการยกระดับให้กับหนังของนายเลยนะ
เดดพูล: ยกมาสูงแค่นี้พอยัง เอาสูงกว่านี้อีกหน่อยมะ?
คนเขียนบท1: เดี๋ยวๆ จะทำอะไรน่ะ?
เดดพูล: ไอ้คนก่อนหน้านายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเล้ย
คนเขียนบท1: เราจะเอายังงี้นะ ตัดเรื่องที่นายเป็นทหารรับจ้างทิ้งไปให้หมดเลย
เดดพูล: ห๊ะ?
คนเขียนบท1: คนดูไม่อยากดูเรื่องชวนหดหู่แบบนั้นหรอก เราจะเปลี่ยนให้นายเป็นนักร้องแนวคันทรี่ แม้แต่เจฟ บริดเจทส์ยังเพิ่งได้ออสการ์จากการดัดแปลงเรื่องซะขนาดนั้นเลยนะ
แล้วนายก็ติดเหล้า แล้วก็ถังแตก แล้วก็พยายามจะทำให้ลูกของนายกลับมาชื่นชมในตัวนายอีกครั้ง
มองแบบนั้นหมายความว่าไง?
เดดพูล: แล้วบทของนายล่ะ?
คนเขียนบท3: ฉันยังไม่ได้เขียน
ฉันมาที่นี่เพื่อฟัง ฉันอยากฟังเรื่องของนาย
เดดพูล: นายจะบอกว่านายจะไม่เขียนเรื่องชีวิตของฉันออกมาจากจากมุมมองของนายเลยยังงั้นเรอะ?
คนเขียนบท3: ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก
เดดพูล: ได้เลย เพื่อนเอ๊ย งั้นฉันจะเล่าให้ฟัง แต่นายฟังแล้วอาจจะเสียใจทีหลังก็ได้นะ
ฉันจะเล่าตั้งแต่เรื่องจุดกำเนิดของฉันเลยก็แล้วกัน...
เดดพูล: มันก็เหมือนๆเรื่องเกี่ยวกับจุดกำเนิดอื่นๆนั่นแหละ สิ่งที่ต้องมีแน่ๆคือฉากเปลือยทั้งตัวและความเจ็บปวดจนแทบคลั่ง
นายอาจจะอยากถามว่าฉันทำอีท่าไหนถึงได้ลงไปอยู่ในแทงค์น้ำ แถมมีเข็มปักไข่และสายยางทิ่มตูดอยู่เต็มไปหมด หรือเรื่องเชี่ยๆอะไรประมาณนั้นล่ะนะ
เอ่อ... จะบอกให้ก็ได้ว่าเพราะฉันเลือกเป็นอาสาสมัครล่ะ
เดดพูล: ตอนนั้นฉันมีทางเลือกแค่สองอย่างระหว่างรอความตายแบบโคตรทรมานจากมะเร็งระยะที่4 กับเป็นอาสาสมัครเข้ารับการทดลองในห้องแล็บลับแห่งนึงในแคนาดา
และคนที่เห็นผลการทดลองนั่นก็พูดกันทั้งนั้นว่าฉันน่าจะเลือกอยู่กับมะเร็งซะยังจะดีกว่า
นักวิทย์: โอ้ พระเจ้า
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
เดดพูล: เป็นอะไรไปน่ะ? นี่ทรงผมฉันน่าเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอ?
ตายล่ะ นี่ผมฉันหายไปไหนหมดแล้วเนี่ย?
เดดพูล: หมอบอกว่าการทดลองนี่มันเหมือนเปิดกล่องสุ่มพลังพิเศษ
ตอนนี้ร่างกายของฉันได้ความสามารถรักษาตัวเองอย่างรวดเร็วมาแล้ว
เฮ้ ที่จริงมันต้องเริ่มจากนิ้วเท้าก่อนไม่ใช่เรอะ
โอ๊ย....นะ...นี่มันเจ็บขนาดนี้เลยเรอะ
ว้าว
นักวิทย์: แต่หมอนี้อัปลักษณ์เป็นบ้าเลย
ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนั้นให้เอง
เดดพูล: อ้ากกกกก
เดดพูล: แต่ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน พอฮีลกลับมาได้ผิวของฉันก็ยังดูเหมือนมนุษย์แฮมเบอร์เกอร์อยู่ดี
ซึ่งไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่สำหรับงานลับๆอย่างงานลอบสังหาร เพราะไม่ว่าจะพรางตัวยังไงก็โคตรเด่นเลย
หมอบอกว่าไม่ต้องห่วง และให้ฉันไปพักในบ้านพักตากอากาศระหว่างที่พวกเขาหาวิธีรักษาให้ฉัน
ที่นั่นฉันจะได้รับการรักษาอย่างดี
หรือพูดให้ถูกคือรักษาไว้อย่างดีในฐานะผลงานที่ล้มเหลวล่ะนะ
ระหว่างที่นอนเน่าอยู่ในห้องแคบๆที่นั่นฉันก็เพิ่งรู้ตัวว่าสิ่งที่ฉันเลือกนี่มันร้ายกว่าเป็นมะเร็งเสียอีก มะเร็งถ้าตายก็จบ แต่ในกรณีของฉันไม่ว่ายังไงสภาพหนูทดลองแบบนี้ก็จะดำเนินต่อไป... อาจจะตลอดกาล...
ฉันต้องหาทางออกไปจากที่นี่
เดดพูล: โอย เจ็บผิวจังเลย เจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บผิวจังเลย เจ็บ เจ็บ เจ็บ
ผู้คุม: หุบปากซะ ไม่งั้นฉันจะหาเรื่องอื่นให้แกบ่นแทน
เดดพูล: พูดงี้มาต่อยกันซักยกมั้ย พ่อตุ้ยนุ้ย
ผู้คุม: ด้วยความยินดีเลยว่ะ
เดดพูล: ยะ...อย่านะ ได้โปรด ยกโทษให้ผมเถอะ มันเจ็บจนทนไม่ไหวจริงๆอ้ะ
ว่าแต่มีวาสลินบ้างป่ะ อ้วนจนตัวจะแตกอย่างเอ็งนี่น่าจะใช้ทาแก้ผิวแตกลายงาประจำอยู่แล้วล่ะนะ
ผู้คุม: ได้เลย
เดี๋ยวเอ็งได้รู้แน่ว่าผิวเอ็งจะเจ็บมากกว่านี้ได้อีก
เดดพูล: พวกเด็กเกเรก็ยังงี้ล่ะน้า เห็นเด็กตัวเล็กอ่อนแอหน่อยเป็นไม่ได้ชอบพุ่งเข้าไปรังแกทุกที
เดดพูล: ฉันเห็นพวกเด็กเกเรแบบนั้นทีไรก็ทนไม่ไหวต้องไล่กระทืบทุกทีเหมือนกัน
นายคงไม่รู้หรอกว่ามันน่ายินดีแค่ไหนที่ได้รู้ว่าไม่ว่าพวกนั้นจะใช้อาวุธแบบไหนก็ฆ่าฉันไม่ได้
บอกตามตรงเลย ตอนนั้นทำเอาฉันตื่นเต้นจนหัวหมุนไปหมด
แหม่ เล่นยัดลูกตะกั่วเข้าตัวฉันไม่ยั้งแบบนั้น
ต่อไปฉันคงใช้กระปู๋เขียนหนังสือแทนดินสอได้แล้วมั้งนี่
เดดพูล: หลังจากที่หนีออกมาได้ ฉันก็กลับมาทำอาชีพทหารรับจ้างอีกครั้ง แต่ตอนนี้ฉันมี...เอ่อ...ข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆอีกเยอะ
(นายเป็นคนเขียนบท ตรงนี้นายคงทำให้เคลียร์ได้นะ)
แล้วฉันก็ใส่หน้ากากเหมือนกับพวกตัวละครในหนังสือการ์ตูน
แต่หลังจากใส่หน้ากากและได้พลังพิเศษมาก็มีแต่งานพิลึกๆทั้งนั้นเลย
อย่างงานแรกๆที่ฉันรับทำก็คือฆ่ามิวแทนต์ไซบอร์กหน้าบูดที่มาจากอนาคตหรืออะไรประมาณนั้น
เดดพูล: ขอบอกไว้ก่อนนะ ว่าที่ฉันตามมาฆ่าตาแก่ครึ่งเหล็กอย่างนายนี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวนเลยซักกะติ๊ด
เคเบิ้ล: เออ ได้เลย
เดดพูล: แล้วหลังจากนั้นเราก็กลายเป็นเพื่อนซี้กัน ก็อย่างที่น่าจะเด้ากันได้อยู่แล้วล่ะนะ
เอิ่ม... ก็อย่างที่ว่ามานั่นล่ะ
คนเขียนบท3: เดี๋ยวๆ นายเล่าข้ามตอนที่สำคัญที่สุดไปนะ
เดดพูล: อ้าว? ตอนไหนล่ะ?
คนเขียนบท3: ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเวด วิลสัน มนุษย์ที่อยู่ใต้หน้ากากนั่น ในช่วงที่ยังไม่ได้ใส่หน้ากาก ก่อนที่จะไปเข้าโครงการweapon-x ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มต้นขึ้นหน่อยได้ไหม?
เดดพูล: นายอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเวด วิลสันงั้นรึ?
สรุปสั้นๆก็คือหมอนั่นมันเป็นคนโง่
เดดพูล: เวด วิลสันเป็นทหารรับจ้างที่ถือคติประจำตัวอยู่อย่างนึง คือจะรับทำแต่งานที่มัน"เชื่อว่า"เป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น หมอนั่นจริงจังกับเรื่องนี้ยิ่งกว่าอะไรซะอีก
ดูเหมือนว่าเวด วิลสันจะเป็นทหารรับจ้างเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ทำงานเพื่อเงินเท่านั้น
หมอนั่นบุกไปฆ่าผู้นำเผด็จการที่ชั่วช้าสมควรตาย
แล้วก็กลับบ้านไปหาแฟนสาวแสนสวยที่รอมันอยู่ในรัฐบอสตั้น
วาเนสซ่า : เวด วันนี้เค้าจะเล่นอะไรกับตัวเองงดีน้า รีบไปอาบน้ำก่อนเถอะจะได้มาเล่นกัน
เดดพูล: จะว่ายังไงดีนะ หมอนั่นยังหนุ่ม ยังไม่รู้เลยว่าชีวิตต่อจากนี้จะมีเรื่องสุดเซอร์ไพรส์รออยู่