มักมีคนบอกว่าอาตมาสอนว่า ตายแล้วสูญ
อาตมาขอบอกว่า อาตมาไม่ได้สอนว่าตายแล้วสูญ แต่สอนว่า "มันสูญแล้วตั้งแต่ยังไม่ตาย" หรือ "มันสูญก่อนตาย"
คำว่า ตายแล้วสูญ มันหมายถึงว่า มันมีสิ่งที่เป็นสิ่งนั้นจริงๆอยู่ก่อนแล้ว (อัตตา) และหลังจากนั้นสิ่งนั้นได้หายไป อย่างเช่น เรามีเงินแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทอยู่ก่อน แล้วต่อมาเงินแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทนั้นหายไป ก็แสดงว่า ค่าเงิน ๑.๐๐๐ บาทของเรานั้นได้สูญไป
แต่อาตมาบอกว่า มันสูญก่อนตาย หมายถึงว่า มันไม่มีสิ่งที่เป็นสิ่งนั้นจริงๆอยู่ก่อนแล้ว (อนัตตา) และหลังจากนั้นสิ่งที่ไม่มีจริงๆนั้นได้หายไป อย่างเช่น เรามีแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทของปลอมอยู่ แล้วต่อมาแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทปลอมนั้นได้หายไป ก็แสดงว่า เราไม่ได้สูญเสียค่าเงินอะไรไปเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะเราไม่ได้มีเงิน ๑,๐๐๐ บาทมาตั้งแต่ต้นแล้ว
จากความเป็นจริงก็เหมือนกัน คืออาตมาสอนว่า ชีวิต (ขันธ์ ๕) ของเราทุกคนนี้ มันไม่ได้มีสิ่งที่เป็นตัวตนของเราเองจริงๆอยู่ในขันธ์ ๕ นี้เลย ส่วนความรู้สึกว่ามีเราอยู่ในชีวิตนี้ก็เพราะขันธ์ทั้ง ๕ พร้อมกับอวิชชา (ความรู้ว่ามีตัวเรา) ได้ร่วมกันปรุงแต่งให้เกิดขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น และเมื่อขันธ์ ๕ นี้แตกแยกกันไป (ที่เราสมมติเรียกกันว่าตาย) ความรู้สึกว่ามีตัวเราชั่วคราวนี้ก็ย่อมที่จะหายตามไปด้วย
สรุปคือจากเดิมมันไม่มีเรามาก่อน แต่เพราะขันธ์ ๕ มาปรุงแต่งจึงเกิดเราขึ้นมา เมื่อขันธ์ ๕ แตกแยกกันไป ก็จะทำให้เรานี้หายไปตามขันธ์ ๕ ที่มาปรุงแต่งทันที (ไม่มีการเกิดเราขึ้นมาใหม่อีก) ซึ่งอย่างนี้จะเรียกว่าตายแล้วสูญไม่ได้ เพราะมันไม่มีเราจริงๆมาให้สูญ แต่สมมติว่าถ้ามันมีตัวเราจริงๆ (อัตตา) มาอาศัยอยู่ในขันธ์ ๕ นี้ แล้วอาตมาสอนว่า เมื่อขันธ์ ๕ นี้แตกแยกกันไป (ตาย) แล้วตัวเราจริงๆนี้หายไป (สูญ) อย่างนี้จึงจะเรียกว่าตายแล้วสูญ
ปล. ก็อยากถามคนที่ชอบพูดว่า อาตมาสอนว่าตายแล้วสูญว่า "อะไรที่บอกว่ามันสูญ?"
เมื่อบอกว่า "อาตมาสอนว่าตายแล้วสูญ" ก็อยากถามว่า "อะไรที่บอกว่ามันสูญ?"
อาตมาขอบอกว่า อาตมาไม่ได้สอนว่าตายแล้วสูญ แต่สอนว่า "มันสูญแล้วตั้งแต่ยังไม่ตาย" หรือ "มันสูญก่อนตาย"
คำว่า ตายแล้วสูญ มันหมายถึงว่า มันมีสิ่งที่เป็นสิ่งนั้นจริงๆอยู่ก่อนแล้ว (อัตตา) และหลังจากนั้นสิ่งนั้นได้หายไป อย่างเช่น เรามีเงินแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทอยู่ก่อน แล้วต่อมาเงินแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทนั้นหายไป ก็แสดงว่า ค่าเงิน ๑.๐๐๐ บาทของเรานั้นได้สูญไป
แต่อาตมาบอกว่า มันสูญก่อนตาย หมายถึงว่า มันไม่มีสิ่งที่เป็นสิ่งนั้นจริงๆอยู่ก่อนแล้ว (อนัตตา) และหลังจากนั้นสิ่งที่ไม่มีจริงๆนั้นได้หายไป อย่างเช่น เรามีแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทของปลอมอยู่ แล้วต่อมาแบ็งค์ ๑,๐๐๐ บาทปลอมนั้นได้หายไป ก็แสดงว่า เราไม่ได้สูญเสียค่าเงินอะไรไปเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะเราไม่ได้มีเงิน ๑,๐๐๐ บาทมาตั้งแต่ต้นแล้ว
จากความเป็นจริงก็เหมือนกัน คืออาตมาสอนว่า ชีวิต (ขันธ์ ๕) ของเราทุกคนนี้ มันไม่ได้มีสิ่งที่เป็นตัวตนของเราเองจริงๆอยู่ในขันธ์ ๕ นี้เลย ส่วนความรู้สึกว่ามีเราอยู่ในชีวิตนี้ก็เพราะขันธ์ทั้ง ๕ พร้อมกับอวิชชา (ความรู้ว่ามีตัวเรา) ได้ร่วมกันปรุงแต่งให้เกิดขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น และเมื่อขันธ์ ๕ นี้แตกแยกกันไป (ที่เราสมมติเรียกกันว่าตาย) ความรู้สึกว่ามีตัวเราชั่วคราวนี้ก็ย่อมที่จะหายตามไปด้วย
สรุปคือจากเดิมมันไม่มีเรามาก่อน แต่เพราะขันธ์ ๕ มาปรุงแต่งจึงเกิดเราขึ้นมา เมื่อขันธ์ ๕ แตกแยกกันไป ก็จะทำให้เรานี้หายไปตามขันธ์ ๕ ที่มาปรุงแต่งทันที (ไม่มีการเกิดเราขึ้นมาใหม่อีก) ซึ่งอย่างนี้จะเรียกว่าตายแล้วสูญไม่ได้ เพราะมันไม่มีเราจริงๆมาให้สูญ แต่สมมติว่าถ้ามันมีตัวเราจริงๆ (อัตตา) มาอาศัยอยู่ในขันธ์ ๕ นี้ แล้วอาตมาสอนว่า เมื่อขันธ์ ๕ นี้แตกแยกกันไป (ตาย) แล้วตัวเราจริงๆนี้หายไป (สูญ) อย่างนี้จึงจะเรียกว่าตายแล้วสูญ
ปล. ก็อยากถามคนที่ชอบพูดว่า อาตมาสอนว่าตายแล้วสูญว่า "อะไรที่บอกว่ามันสูญ?"