พระอาจารย์ลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม
อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
...
อีกอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงจัดว่า ดีเป็นยิ่งยอด ก็คือ "ปัญญา"
เมื่อมีศีล-สมาธิแล้ว ปัญญาก็จักเกิดขึ้นจากใจ
เป็นปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานและจุตถฌาน เป็น"ปญฺญาปโชโต"
ได้แสงสว่างมีดวงตาเห็นธรรมทั้งนอกทั้งใน (ธรรมจักษุ)
ืคือ มองเห็นตัวของเราเองทั้ง ๒ ด้าน มองเห็นว่า
ส่วนที่เกิดมันก็เกิดและส่วนที่ไม่เกิดมันก็มี
ส่วนที่แก่ก็แก่ และส่วนที่ไม่แก่มันก็มี
ส่วนที่เจ็บก็เจ็บ และส่วนที่ไม่เจ็บมันก็มี
ส่วนที่ตายก็ตาย และส่วนที่ไม่ตายมันก็ไม่ตาย
นี้เรียกว่า "โคตรภูญาณ" เห็นได้ทั้ง ๒ ด้าน
เหมือนกับเรามีดวงตาทั้ง ๒ ข้าง จะมองทางด้านไหนก็เห็น
แต่เราไม่ไปติดข้างใดข้างหนึ่ง ให้เพียงแต่รู้
ไปตามสภาพของความเป็นจริงแห่งสังขารเท่านั้น
ว่ามันจะต้อง "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" เป็นธรรมดา
ธรรม ๔ ข้อนี้ทำให้คนสำเร็จเป็น "อรหันต์" มามากแล้ว
เพราะพิจารณารู้แจ้งในความเป็นจริงจนคลายจาก"อวิชชา"ได้
ธรรมจักษุ คือ การเห็นตัวเราทั้ง ๒ ด้าน : ท่านพ่อลี ธัมมธโร
พระอาจารย์ลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม
อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
...
อีกอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงจัดว่า ดีเป็นยิ่งยอด ก็คือ "ปัญญา"
เมื่อมีศีล-สมาธิแล้ว ปัญญาก็จักเกิดขึ้นจากใจ
เป็นปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานและจุตถฌาน เป็น"ปญฺญาปโชโต"
ได้แสงสว่างมีดวงตาเห็นธรรมทั้งนอกทั้งใน (ธรรมจักษุ)
ืคือ มองเห็นตัวของเราเองทั้ง ๒ ด้าน มองเห็นว่า
ส่วนที่เกิดมันก็เกิดและส่วนที่ไม่เกิดมันก็มี
ส่วนที่แก่ก็แก่ และส่วนที่ไม่แก่มันก็มี
ส่วนที่เจ็บก็เจ็บ และส่วนที่ไม่เจ็บมันก็มี
ส่วนที่ตายก็ตาย และส่วนที่ไม่ตายมันก็ไม่ตาย
นี้เรียกว่า "โคตรภูญาณ" เห็นได้ทั้ง ๒ ด้าน
เหมือนกับเรามีดวงตาทั้ง ๒ ข้าง จะมองทางด้านไหนก็เห็น
แต่เราไม่ไปติดข้างใดข้างหนึ่ง ให้เพียงแต่รู้
ไปตามสภาพของความเป็นจริงแห่งสังขารเท่านั้น
ว่ามันจะต้อง "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" เป็นธรรมดา
ธรรม ๔ ข้อนี้ทำให้คนสำเร็จเป็น "อรหันต์" มามากแล้ว
เพราะพิจารณารู้แจ้งในความเป็นจริงจนคลายจาก"อวิชชา"ได้