สวัสดีค่ะ
โอ้ย ห่างหายไปน๊านนาน จนคอมพิวเตอร์เป็นที่เก็บฝุ่น
(อ่อ นางสุโดว์ยังคงใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์ค่ะ)
(ไม่ iphone)
(ซื้อ iPad มาใช้แล้วเหมือนกัน แต่พิมพ์ไม่ทันใจวัยรุ่น จิ้มทีนิ้วชี้จะหักเอา เม๊าท์ไม่ทันใจค่ะ)
เนื่องจากนางสุโดว์ คลอดเด็กหญิงยูว์ริ อย่างปลอดภัย
(ชื่อจริง ยูริ โค้ดเนม ยูว์ริ)
(อย่าสับสนกับ ยุรี คนนั้นคือเจ้คุมซอยโรงฟิล์ม ย่านบางพลัด)
(พี่ยุรี คือ..มารดาของนางสุโดว์เองค่ะ)
(กลัวคนอ่านคาใจ ใครนะพี่ยุรี)
เลี้ยงลูกคนแรก เลี้ยงคนเดียว ไม่ธรรมดา
คิดถึงแรงงานพม่าขึ้นมาทันใจ
เมื่อก่อน เคยไม่ชอบแรงงานพม่า กลัวมันจะมาปล้น เหมือนตอนที่มันมาตีกรุงศรีอยุธยา
(ก็กลัวเกินไปป่าววะ)
(ช่วยไม่ได้ ผู้หญิงหลังคลอดลูก ฮอร์โมนมันไม่มั่นคง)
แต่ตอนนี้ จุดนี้ อยากจะขอซัก 5 แรงงานพม่า
ขอแบบมี Passport ด้วยนะ ทำวีซ่ามาเจแปนด่วนๆ
วันนี้เลยขอย้อนนนนนนนน เล่าไปถึงตอนคลอด ตอนหมอผ่าคลอดดีกว่า
ย้อนยาวไปนิด 8-9เดือนเอง
ผ่าคลอด 帝王切開 ていおうせっかい เทโอเซกไก
ตอนได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรกก็ถามหมอเหมือนกันค่ะว่า "แปลว่าอะไรหรอคะ"
หมอ(คนเดิม หน้าเซ็ง) "おなかを切って、赤ちゃん出す"
ง่ายๆมาก "ผ่าแล้วเอาเด็กออกมา"
อธิบายซะเหมือนมาทำแท้ง
โรงพยาบาลเจแปน มีระบบระเบียบชัดเจน
จะแอดมิดเข้าห้องพักรอผ่า มาก่อนไม่ได้ ผิดนะคะ
ต้องไปให้เป๊ะๆ บ่ายสอง
(นี่มันโรงแรมหรืออะไร check in บ่ายสอง)
เนื่องจากเป็นวันธรรมดา เฮียโทโมะทำงาน ไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล
ไม่เป็นไร นางสุโดว์สามารถ เรียกแท๊กซี่มารับที่บ้าน แล้วก็ไปโรงพยาบาลเองได้
(แท๊กซี่นี่ใช้ประจำ ระบบมันเว่อร์ แค่โทรไปยังไม่ทันจะสวัสดีทักทาย มันถามว่าให้ไปรับหน้าบ้านเดี๋ยวนี้เลยไหม คุณสุโดว์)
ไปถึงแล้ว เก็บกระเป๋าเข้าที่พักแล้ว
(นี่ทำอย่างกับมาแบกเป้เที่ยวเจแปนเอง)
นางพยาบาลพาไปตรวจท้องนะ เผื่อเบบี้คิดได้กลับหัวกระทันหันนะ
และแล้วคุณนายเบบี้หัวสูง ไม่กลับค่ะ นางพยาบาลหันมาทำหน้าตาเครียดใส่
"สงสัยเราต้องผ่ากันพรุ่งนี้แล้วหละ"
.
.
แกทำหน้าเครียดใส่ ฉันยิ่งจะเครียดตามแก
ที่ไทยแลนด์เขาผ่ากันเป็นว่าเล่นเลยย่ะๆ
ที่โรงพยาบาลนี้เขาให้เลือกด้วยนะ จะผ่าแนวนอน หรือจะผ่าแนวตั้ง
หมอยื่นเอกสารมาให้เซ็นด้วยว่ารับรู้ เลือกแล้วว่าแกจะผ่าแบบไหน
นางสุโดว์ก็คาใจ มันต่างกันอย่างไร ไหนขอถามหมออีกซักข้อสองข้อ
นางสุโดว์ "มะมะมะมะมะมันต่างกันอย่างไรคะ แนวนอนแนวตั้ง"
คุณหมอ คนเดิม หน้าเดิม เซ็งเหมือนเดิม "ไม่ต่างกัน แล้วแต่ชอบ"
.
.
.
กริบ
คนส่วนใหญ่เลือกแนวนอน
นางสุโดว์แนวนอนด้วยละกัน ไม่อยากเป็นคนส่วนน้อยในจุดนี้
อาหารมื้อแรกค่ะ มื้อเย็นวันก่อนผ่า
แนวฝรั่งเศส
แล้วนางพยาบาลก็มาบอกว่า คิวนางสุโดว์พรุ่งนี้นะ คิวที่4นะ
เริ่มผ่ากันตั้งแต่เช้า คนละประมาณ2ชั่วโมงนะ อืมมมมมมมมมม คุณสุโดว์ก็คงจะประมาณๆเที่ยงๆค่ะ
ได้ยินแค่นี้ นางสุโดว์ก็รีบเมลบอกทุกคนว่าพรุ่งนี้ฉันผ่าเที่ยงๆนะคะ มาให้ถูกนะคะ
โอ้ยยยยยยยยย กว่าจะได้เข้าห้องผ่า โน้นนนนนน 5โมงเย็นโน้นนนนนนนนนนนน
รอจนมดลูกเคือง
พ่อเฮีย แม่เฮียก็มาแล้ว
ป้าแมรี่ก็มาแล้ว
(ไม่รู้ป้ามาทำไร ป้าบอกว่าอยากเห็นหน้าหลาน แต่ดูถุงที่ป้าถือเป็นถุงปลาไหล)
(เมืองที่นางสุโดว์อยู่ ปลาไหลอร่อยขึ้นชื่อ เดาว่าที่ป้ามาเพราะป้าอยากแทะปลาไหล)
เฮียทนไม่ไหว ไปถามนางพยามารว่าทำไมไม่ผ่าเมียกูซักกะที
ได้ใจความมาว่า เป็นคิวที่ "5"
เฮ้ยยยยยย โดนแซงเด่ะ เมื่อวานบอก4 อย่ามามั่ว
นางพยามารไปตรวจเอกสารคิว ยังไงยังไงก็ 5 นะคะ ไม่ 4
คำตอบจากนางพยามารที่นี่ไม่ธรรมดา คิดได้ ให้โล่ห์สุดๆ
"สงสัยนางพยาบาลคนเมื่อวานบอกว่า เป็นคิวที่4 นับจากคนแรก ถือว่าเป็นคิวที่5ค่ะ"
.
.
.
.
.
.
คนปกติไม่พูดอย่างงั้น
กูเบื่อภาษาญี่ปุ่น อยากจะกรี๊ดเป็นภาษาอาหรับจริงๆ
ตอนซัก5โมงก็มีนางพยามารมาเข็นนันทิชีไปจากห้อง
เฮียยืนโบกมือให้
ที่นี่ระบบดีมากกกกกกกก ห้ามญาติออกจากห้องพัก
ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ไทยเป็นอย่างไร ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล
แต่นี่หน้าห้องผ่าตัด นางพยาบาล ผู้ช่วย ผู้ผ่า ผู้จิ้ม ผู้ถือสายน้ำเกลือ มาแนะนำตัวทีละคน ทุกคน โชว์ป้ายชื่อให้ดูด้วย อย่างกับดิฉันจะอ่านออก กว่าจะแนะนำตัวกันเสร็จ ผ่านไป15นาทีได้ กูลืมไปแระว่าจะผ่าคลอดกันวันนี้
เริ่มด้วยการฉีดยาชา บล๊อคหลัง
"สวัสดีครับ ผม $%#)$("0&
ทำหน้าที่ดูแลและบล๊อคหลังครับ" พร้อมโชว์ป้ายชื่อ
โอ้ยยยยยย ยังจะแนะนำตัว ทุกคนก็ปิดปากปิดจมูก ใส่หมวก กูเห็นแต่ตา2ข้างมาจะ10กว่าคนแระ จะจำได้ไหมยะ
เออๆ จะฉีดก็ฉีด รีบๆหน่อย เดี๋ยวดิฉันหลับ
เขาจับนันทิชานอนตะแคงซ้าย
โอ่ววววววว เผลอมองไปที่พื้น
เจอ
คราบเลือดดดดดดดดดดดด
(ของคนที่แล้วหรือป่าวไม่รู้ แต่ช่วยเช็ดให้สะอาดกว่านี้ได้ไหมมมมมมมม)
บล๊อคเสร็จ ชาทันใจ นันทิชาโดนนอนขึง กางแขนเป็นไม้กางเขน โดนมัดแขนไม่ให้ขยับด้วยนะ
ปิดผ้าไม่ให้เห็นท้องแระ สงสัยจะผ่าแระ
อืมมมมมมมมมม
อยู่ดีๆ มีเสียงเพลงเด่ะ
โรงพยาบาล เปิดเพลงให้ฟัง.....
เพลง EXILE วัยรุ่น แดนส์กระจุยกระจาย
นอนฟังเพลงไปซักพัก ถามหมอว่า "จะเริ่มผ่าเมื่อไหร่คะ"
หมอคนเดิม
(จำหมอคนเดิมที่เล่าให้ฟังได้ป่าว หมอหน้าตาเย็นชา ที่ชอบตอบคำถามแบบ "แค่นี้กูก็รู้ฟะ")
หมอคนเดิม หันมา ส่งสายตาเซ็งใส่นันทิชี
"ตอนนี้ผ่าอยู่ค่ะ"
เอ๊าาาา ก็พวกฉีดยาชากู กูจะรู้ไหมว่ากรีดแล้ว
ถ้ากูรู้สิแปลกกกกกกกกก
ระหว่างนั้น หมอยาชาก็ยื่นหน้ามา ส่งสายตาสุดตี่มาให้ชวนหาลูกตาดำจริงๆ
หมอชวนคุย
"สวัสดีครับ ผมเคยไปประเทศไทยมาด้วยแหละ"
.
.
.
.
.
มาชวนคุยอะไรตอนเน้
เนื่องจากดิฉันไม่มีอะไรทำเลยต้องคุยกับมัน หนีไม่ได้ โดนผึ่งอยู่
"อ่ออออออ ส่วนไหนของไทยคะ"
หมอยาชา "กรุงเทพครับ ผมไปเรียนแลกเปลี่ยนมา"
นันทิชี "โอ้ววววววววว"
หมอยาชา "ที่….ศิริราช ไม่สิๆ มหิดล"
นันทิชี "อ่อออออ ที่เดียวกัน"
หมอยาชา "ผมพักที่แถว วิคุตอรี่ โมนาเม้นโตะ"
นันทิชี "อ่อออออ เสาวรีย์"
หมอยาชา "แล้วผมก็ไปประจำที่โรงพยาบาลแถบภาคเหนือ ชื่อ $)%#()$(&"0#$)&0#"
นั่นแหละ กูฟังไม่ออกแล้วว่าโรงพยาบาลชื่ออะไร
และแล้วก็มีนางพยามารมาช่วยตัดบท
"ขาออกมาแล้วค่ะ"
.
.
.
ขาออกมาแร้ววววววววววว ไม่รู้สึกอะไรเลยยยยยย
ซักแป๊ปปปปป ก็ได้ยินเสียงเบบี้ร้อง โอ้ยยยยยยยย จุดนี้ต้องดราม่าน้ำตาซึม ซึ้งจับใจ ลูกคนแรกกกกก
แต่
โรงพยาบาล เปิดเพลง "แฮปปี้เบิร์ดเดย์" ให้ฟัง
น้ำตากูหายเลย กูขำเพลง
แล้วหมอเด็กก็เอาเบบี้มาวางไว้ที่หน้าอก
โรงพยาบาลนี้ใช้ระบบ คันคารู แคร์
(จิงโจ้ เจแปนเรียก คันคารู)
(กูหละเบื่อภาษาต่างชาติของเจแปนจริงๆ คันคารูกันไป)
เด็กแรกเกิดต้องมานอนบนหน้าอกกี่นาทีๆของมันก็ไม่รู้เพื่อให้เบบี้รู้สึกปลอดภัยอะไรซักอย่าง ฟังอธิบายไม่ออกเท่าไหร่ แต่เอามานอนก็ดีจะได้เห็นใกล้ๆ
แล้วไหนหละที่สัญญากันไว้
นางพยาบาลสัญญากับดิฉันไว้ว่า "ตอนนี้ต้องถอดแว่นของคุณสุโดว์ก่อนนะคะ ปลอดเชื้อโรคค่ะ ใส่ถุงกันเชื้อโรคแขวนไว้ที่หัวเตียงนะคะ และเมื่อเบบี้ออกมาแล้วจะรีบใส่แว่นให้คุณสุโดว์เลยนะคะ จะได้เห็นเบบี้ชัดๆ"
ตอนนี้ไม่มีใครสนใจจะใส่แว่นให้กูเลย ไอ้นางพยาบาลที่ทำหน้าที่เป็นพี่ดีเจเปิดแผ่น ช่วยมาหยิบแว่นใส่ให้กูก่อนได้หรือไม่?
จนเขาเข็นดิฉันขึ้นกลับไปที่ห้องก็ยังไม่มีใครใส่แว่นให้กูเลยยยยยยยย
กลับไปที่ห้อง พ่อ แม่ เฮีย ป้าแมรี่
แอบนั่งกินเบียร์กัน
กูหละเบื่อ
พอเขาเข็นเบบี้มาก็ลืมดิฉัน ไปแชะรูปเบบี้กัน
นันทิชาเอากล้องโอลิมปัสสุดจ๊าบไปให้เฮียถ่ายรูปเบบี้ให้หน่อยเด๊ะ เอาเจ๋งๆสวยๆเลยนะ
เฮียได้แต่สะพายกล้องไว้ที่คอ แล้วก็หันมาบอกว่า "ใช้ไม่เป็น"
แล้วก็หยิบ iPhone มาแชะรูป
.
.
.
.
เฮ้อออออ
แต่คลอดปลอดภัยเป็นโอเค
แล้วทุกอย่างนางพยาบาลก็จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกแม่ลูกค่ะ
น้ำหนักเท่าไหร่ กี่โมงๆ
ตอนเอาเบบี้ไปเทส หูได้ยินนะ ตรวจโน้นนี่นั่นเท่าไหร่ยังไง ตรวจแล้วนะยะ
(คือ ตรวจไรบ้างก็ไม่รู้หรอกค่ะ แค่ถามว่าปกติไหม ครบไหม เป็นพอค่ะ)
24 กันยายน ปี2014 แฮปปี้ค่ะ
**ไว้มาต่อ ตอนหน้า ช่วงระหว่างนอนโรงพยาบาลค่ะ**
ปล. เรื่องเล่าก่อนหน้านี้ ชักเยอะแล้วค่ะ
เรื่องเล่าเฮฮาก่อนหน้านี้ตามlinkด้านล่างเลยค่ะ เผื่อใครอยากอ่านเรียงตั้งแต่แรก จะได้รู้จักกัน^^
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**นิวเยียร์ที่บ้านสุโดว์ ตอนป้าแมรี่สอนทำอาหาร**
http://ppantip.com/topic/33550999
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน นิวเยียร์บ้านสุโดว์ วันจริง!!**
http://ppantip.com/topic/33564436
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน กินเลี้ยงปีใหม่ ตอนป้าแมรี่กับพระเจ้า**
http://ppantip.com/topic/33612600
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.1**
http://ppantip.com/topic/33626409
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.2**
http://ppantip.com/topic/33636682
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.3**
http://ppantip.com/topic/33654086
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.4**
http://ppantip.com/topic/33675931
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.5**
http://ppantip.com/topic/33719858
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.6**
http://ppantip.com/topic/33752395
Facebook ค่ะ
https://www.facebook.com/mrs.sudoinjapan
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.7 ตอนผ่าคลอดแล้วนะ
โอ้ย ห่างหายไปน๊านนาน จนคอมพิวเตอร์เป็นที่เก็บฝุ่น
(อ่อ นางสุโดว์ยังคงใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์ค่ะ)
(ไม่ iphone)
(ซื้อ iPad มาใช้แล้วเหมือนกัน แต่พิมพ์ไม่ทันใจวัยรุ่น จิ้มทีนิ้วชี้จะหักเอา เม๊าท์ไม่ทันใจค่ะ)
เนื่องจากนางสุโดว์ คลอดเด็กหญิงยูว์ริ อย่างปลอดภัย
(ชื่อจริง ยูริ โค้ดเนม ยูว์ริ)
(อย่าสับสนกับ ยุรี คนนั้นคือเจ้คุมซอยโรงฟิล์ม ย่านบางพลัด)
(พี่ยุรี คือ..มารดาของนางสุโดว์เองค่ะ)
(กลัวคนอ่านคาใจ ใครนะพี่ยุรี)
เลี้ยงลูกคนแรก เลี้ยงคนเดียว ไม่ธรรมดา
คิดถึงแรงงานพม่าขึ้นมาทันใจ
เมื่อก่อน เคยไม่ชอบแรงงานพม่า กลัวมันจะมาปล้น เหมือนตอนที่มันมาตีกรุงศรีอยุธยา
(ก็กลัวเกินไปป่าววะ)
(ช่วยไม่ได้ ผู้หญิงหลังคลอดลูก ฮอร์โมนมันไม่มั่นคง)
แต่ตอนนี้ จุดนี้ อยากจะขอซัก 5 แรงงานพม่า
ขอแบบมี Passport ด้วยนะ ทำวีซ่ามาเจแปนด่วนๆ
วันนี้เลยขอย้อนนนนนนนน เล่าไปถึงตอนคลอด ตอนหมอผ่าคลอดดีกว่า
ย้อนยาวไปนิด 8-9เดือนเอง
ผ่าคลอด 帝王切開 ていおうせっかい เทโอเซกไก
ตอนได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรกก็ถามหมอเหมือนกันค่ะว่า "แปลว่าอะไรหรอคะ"
หมอ(คนเดิม หน้าเซ็ง) "おなかを切って、赤ちゃん出す"
ง่ายๆมาก "ผ่าแล้วเอาเด็กออกมา"
อธิบายซะเหมือนมาทำแท้ง
โรงพยาบาลเจแปน มีระบบระเบียบชัดเจน
จะแอดมิดเข้าห้องพักรอผ่า มาก่อนไม่ได้ ผิดนะคะ
ต้องไปให้เป๊ะๆ บ่ายสอง
(นี่มันโรงแรมหรืออะไร check in บ่ายสอง)
เนื่องจากเป็นวันธรรมดา เฮียโทโมะทำงาน ไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล
ไม่เป็นไร นางสุโดว์สามารถ เรียกแท๊กซี่มารับที่บ้าน แล้วก็ไปโรงพยาบาลเองได้
(แท๊กซี่นี่ใช้ประจำ ระบบมันเว่อร์ แค่โทรไปยังไม่ทันจะสวัสดีทักทาย มันถามว่าให้ไปรับหน้าบ้านเดี๋ยวนี้เลยไหม คุณสุโดว์)
ไปถึงแล้ว เก็บกระเป๋าเข้าที่พักแล้ว
(นี่ทำอย่างกับมาแบกเป้เที่ยวเจแปนเอง)
นางพยาบาลพาไปตรวจท้องนะ เผื่อเบบี้คิดได้กลับหัวกระทันหันนะ
และแล้วคุณนายเบบี้หัวสูง ไม่กลับค่ะ นางพยาบาลหันมาทำหน้าตาเครียดใส่
"สงสัยเราต้องผ่ากันพรุ่งนี้แล้วหละ"
.
.
แกทำหน้าเครียดใส่ ฉันยิ่งจะเครียดตามแก
ที่ไทยแลนด์เขาผ่ากันเป็นว่าเล่นเลยย่ะๆ
ที่โรงพยาบาลนี้เขาให้เลือกด้วยนะ จะผ่าแนวนอน หรือจะผ่าแนวตั้ง
หมอยื่นเอกสารมาให้เซ็นด้วยว่ารับรู้ เลือกแล้วว่าแกจะผ่าแบบไหน
นางสุโดว์ก็คาใจ มันต่างกันอย่างไร ไหนขอถามหมออีกซักข้อสองข้อ
นางสุโดว์ "มะมะมะมะมะมันต่างกันอย่างไรคะ แนวนอนแนวตั้ง"
คุณหมอ คนเดิม หน้าเดิม เซ็งเหมือนเดิม "ไม่ต่างกัน แล้วแต่ชอบ"
.
.
.
กริบ
คนส่วนใหญ่เลือกแนวนอน
นางสุโดว์แนวนอนด้วยละกัน ไม่อยากเป็นคนส่วนน้อยในจุดนี้
อาหารมื้อแรกค่ะ มื้อเย็นวันก่อนผ่า
แนวฝรั่งเศส
แล้วนางพยาบาลก็มาบอกว่า คิวนางสุโดว์พรุ่งนี้นะ คิวที่4นะ
เริ่มผ่ากันตั้งแต่เช้า คนละประมาณ2ชั่วโมงนะ อืมมมมมมมมมม คุณสุโดว์ก็คงจะประมาณๆเที่ยงๆค่ะ
ได้ยินแค่นี้ นางสุโดว์ก็รีบเมลบอกทุกคนว่าพรุ่งนี้ฉันผ่าเที่ยงๆนะคะ มาให้ถูกนะคะ
โอ้ยยยยยยยยย กว่าจะได้เข้าห้องผ่า โน้นนนนนน 5โมงเย็นโน้นนนนนนนนนนนน
รอจนมดลูกเคือง
พ่อเฮีย แม่เฮียก็มาแล้ว
ป้าแมรี่ก็มาแล้ว
(ไม่รู้ป้ามาทำไร ป้าบอกว่าอยากเห็นหน้าหลาน แต่ดูถุงที่ป้าถือเป็นถุงปลาไหล)
(เมืองที่นางสุโดว์อยู่ ปลาไหลอร่อยขึ้นชื่อ เดาว่าที่ป้ามาเพราะป้าอยากแทะปลาไหล)
เฮียทนไม่ไหว ไปถามนางพยามารว่าทำไมไม่ผ่าเมียกูซักกะที
ได้ใจความมาว่า เป็นคิวที่ "5"
เฮ้ยยยยยย โดนแซงเด่ะ เมื่อวานบอก4 อย่ามามั่ว
นางพยามารไปตรวจเอกสารคิว ยังไงยังไงก็ 5 นะคะ ไม่ 4
คำตอบจากนางพยามารที่นี่ไม่ธรรมดา คิดได้ ให้โล่ห์สุดๆ
"สงสัยนางพยาบาลคนเมื่อวานบอกว่า เป็นคิวที่4 นับจากคนแรก ถือว่าเป็นคิวที่5ค่ะ"
.
.
.
.
.
.
คนปกติไม่พูดอย่างงั้น
กูเบื่อภาษาญี่ปุ่น อยากจะกรี๊ดเป็นภาษาอาหรับจริงๆ
ตอนซัก5โมงก็มีนางพยามารมาเข็นนันทิชีไปจากห้อง
เฮียยืนโบกมือให้
ที่นี่ระบบดีมากกกกกกกก ห้ามญาติออกจากห้องพัก
ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ไทยเป็นอย่างไร ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล
แต่นี่หน้าห้องผ่าตัด นางพยาบาล ผู้ช่วย ผู้ผ่า ผู้จิ้ม ผู้ถือสายน้ำเกลือ มาแนะนำตัวทีละคน ทุกคน โชว์ป้ายชื่อให้ดูด้วย อย่างกับดิฉันจะอ่านออก กว่าจะแนะนำตัวกันเสร็จ ผ่านไป15นาทีได้ กูลืมไปแระว่าจะผ่าคลอดกันวันนี้
เริ่มด้วยการฉีดยาชา บล๊อคหลัง
"สวัสดีครับ ผม $%#)$("0& ทำหน้าที่ดูแลและบล๊อคหลังครับ" พร้อมโชว์ป้ายชื่อ
โอ้ยยยยยย ยังจะแนะนำตัว ทุกคนก็ปิดปากปิดจมูก ใส่หมวก กูเห็นแต่ตา2ข้างมาจะ10กว่าคนแระ จะจำได้ไหมยะ
เออๆ จะฉีดก็ฉีด รีบๆหน่อย เดี๋ยวดิฉันหลับ
เขาจับนันทิชานอนตะแคงซ้าย
โอ่ววววววว เผลอมองไปที่พื้น
เจอ
คราบเลือดดดดดดดดดดดด
(ของคนที่แล้วหรือป่าวไม่รู้ แต่ช่วยเช็ดให้สะอาดกว่านี้ได้ไหมมมมมมมม)
บล๊อคเสร็จ ชาทันใจ นันทิชาโดนนอนขึง กางแขนเป็นไม้กางเขน โดนมัดแขนไม่ให้ขยับด้วยนะ
ปิดผ้าไม่ให้เห็นท้องแระ สงสัยจะผ่าแระ
อืมมมมมมมมมม
อยู่ดีๆ มีเสียงเพลงเด่ะ
โรงพยาบาล เปิดเพลงให้ฟัง.....
เพลง EXILE วัยรุ่น แดนส์กระจุยกระจาย
นอนฟังเพลงไปซักพัก ถามหมอว่า "จะเริ่มผ่าเมื่อไหร่คะ"
หมอคนเดิม
(จำหมอคนเดิมที่เล่าให้ฟังได้ป่าว หมอหน้าตาเย็นชา ที่ชอบตอบคำถามแบบ "แค่นี้กูก็รู้ฟะ")
หมอคนเดิม หันมา ส่งสายตาเซ็งใส่นันทิชี
"ตอนนี้ผ่าอยู่ค่ะ"
เอ๊าาาา ก็พวกฉีดยาชากู กูจะรู้ไหมว่ากรีดแล้ว
ถ้ากูรู้สิแปลกกกกกกกกก
ระหว่างนั้น หมอยาชาก็ยื่นหน้ามา ส่งสายตาสุดตี่มาให้ชวนหาลูกตาดำจริงๆ
หมอชวนคุย
"สวัสดีครับ ผมเคยไปประเทศไทยมาด้วยแหละ"
.
.
.
.
.
มาชวนคุยอะไรตอนเน้
เนื่องจากดิฉันไม่มีอะไรทำเลยต้องคุยกับมัน หนีไม่ได้ โดนผึ่งอยู่
"อ่ออออออ ส่วนไหนของไทยคะ"
หมอยาชา "กรุงเทพครับ ผมไปเรียนแลกเปลี่ยนมา"
นันทิชี "โอ้ววววววววว"
หมอยาชา "ที่….ศิริราช ไม่สิๆ มหิดล"
นันทิชี "อ่อออออ ที่เดียวกัน"
หมอยาชา "ผมพักที่แถว วิคุตอรี่ โมนาเม้นโตะ"
นันทิชี "อ่อออออ เสาวรีย์"
หมอยาชา "แล้วผมก็ไปประจำที่โรงพยาบาลแถบภาคเหนือ ชื่อ $)%#()$(&"0#$)&0#"
นั่นแหละ กูฟังไม่ออกแล้วว่าโรงพยาบาลชื่ออะไร
และแล้วก็มีนางพยามารมาช่วยตัดบท
"ขาออกมาแล้วค่ะ"
.
.
.
ขาออกมาแร้ววววววววววว ไม่รู้สึกอะไรเลยยยยยย
ซักแป๊ปปปปป ก็ได้ยินเสียงเบบี้ร้อง โอ้ยยยยยยยย จุดนี้ต้องดราม่าน้ำตาซึม ซึ้งจับใจ ลูกคนแรกกกกก
แต่
โรงพยาบาล เปิดเพลง "แฮปปี้เบิร์ดเดย์" ให้ฟัง
น้ำตากูหายเลย กูขำเพลง
แล้วหมอเด็กก็เอาเบบี้มาวางไว้ที่หน้าอก
โรงพยาบาลนี้ใช้ระบบ คันคารู แคร์
(จิงโจ้ เจแปนเรียก คันคารู)
(กูหละเบื่อภาษาต่างชาติของเจแปนจริงๆ คันคารูกันไป)
เด็กแรกเกิดต้องมานอนบนหน้าอกกี่นาทีๆของมันก็ไม่รู้เพื่อให้เบบี้รู้สึกปลอดภัยอะไรซักอย่าง ฟังอธิบายไม่ออกเท่าไหร่ แต่เอามานอนก็ดีจะได้เห็นใกล้ๆ
แล้วไหนหละที่สัญญากันไว้
นางพยาบาลสัญญากับดิฉันไว้ว่า "ตอนนี้ต้องถอดแว่นของคุณสุโดว์ก่อนนะคะ ปลอดเชื้อโรคค่ะ ใส่ถุงกันเชื้อโรคแขวนไว้ที่หัวเตียงนะคะ และเมื่อเบบี้ออกมาแล้วจะรีบใส่แว่นให้คุณสุโดว์เลยนะคะ จะได้เห็นเบบี้ชัดๆ"
ตอนนี้ไม่มีใครสนใจจะใส่แว่นให้กูเลย ไอ้นางพยาบาลที่ทำหน้าที่เป็นพี่ดีเจเปิดแผ่น ช่วยมาหยิบแว่นใส่ให้กูก่อนได้หรือไม่?
จนเขาเข็นดิฉันขึ้นกลับไปที่ห้องก็ยังไม่มีใครใส่แว่นให้กูเลยยยยยยยย
กลับไปที่ห้อง พ่อ แม่ เฮีย ป้าแมรี่
แอบนั่งกินเบียร์กัน
กูหละเบื่อ
พอเขาเข็นเบบี้มาก็ลืมดิฉัน ไปแชะรูปเบบี้กัน
นันทิชาเอากล้องโอลิมปัสสุดจ๊าบไปให้เฮียถ่ายรูปเบบี้ให้หน่อยเด๊ะ เอาเจ๋งๆสวยๆเลยนะ
เฮียได้แต่สะพายกล้องไว้ที่คอ แล้วก็หันมาบอกว่า "ใช้ไม่เป็น"
แล้วก็หยิบ iPhone มาแชะรูป
.
.
.
.
เฮ้อออออ
แต่คลอดปลอดภัยเป็นโอเค
แล้วทุกอย่างนางพยาบาลก็จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกแม่ลูกค่ะ
น้ำหนักเท่าไหร่ กี่โมงๆ
ตอนเอาเบบี้ไปเทส หูได้ยินนะ ตรวจโน้นนี่นั่นเท่าไหร่ยังไง ตรวจแล้วนะยะ
(คือ ตรวจไรบ้างก็ไม่รู้หรอกค่ะ แค่ถามว่าปกติไหม ครบไหม เป็นพอค่ะ)
24 กันยายน ปี2014 แฮปปี้ค่ะ
**ไว้มาต่อ ตอนหน้า ช่วงระหว่างนอนโรงพยาบาลค่ะ**
ปล. เรื่องเล่าก่อนหน้านี้ ชักเยอะแล้วค่ะ
เรื่องเล่าเฮฮาก่อนหน้านี้ตามlinkด้านล่างเลยค่ะ เผื่อใครอยากอ่านเรียงตั้งแต่แรก จะได้รู้จักกัน^^
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**นิวเยียร์ที่บ้านสุโดว์ ตอนป้าแมรี่สอนทำอาหาร** http://ppantip.com/topic/33550999
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน นิวเยียร์บ้านสุโดว์ วันจริง!!** http://ppantip.com/topic/33564436
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน กินเลี้ยงปีใหม่ ตอนป้าแมรี่กับพระเจ้า** http://ppantip.com/topic/33612600
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.1** http://ppantip.com/topic/33626409
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.2** http://ppantip.com/topic/33636682
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.3** http://ppantip.com/topic/33654086
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.4** http://ppantip.com/topic/33675931
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.5** http://ppantip.com/topic/33719858
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.6** http://ppantip.com/topic/33752395
Facebook ค่ะ https://www.facebook.com/mrs.sudoinjapan