แมวไม่อยู่ หนู(ไม่)ร่าเริง

"4-5 วันเองที่รัก เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว" ภรรยาผมพูดคืนก่อนจะออกเดินทางไปญี่ปุ่นกับแม่ของเขา

"โอเคครับ..." ผมตอบไปอย่างนั้นก่อนที่เราสองคนจะคล้อยหลับไป

ฟังดูแล้วคล้ายกับว่าผมเองจะไม่ได้แคร์อะไรมากนักกับการไม่มีหญิงที่รักอยู่ข้างๆในช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยสักนิดเดียว นับจำนวนวันตั้งแต่เช้าที่เราสวมแหวนแต่งงานก็ขยับเข้าใกล้เลขหลักพันเข้าไปทุกขณะ ช่วงเวลาเหล่านั้นตัวแทบจะติดกันไปทุกที่ มีเธอต้องมีผม มีผมก็ต้องมีผู้หญิงคนนี้ แม้จะมีห่างกันก็วันสองวันไม่เกินไปกว่านั้น ที่บอกว่า "โอเคครับ" ก็เป็นการคล้ายการทำใจดีสู้เสือ แม้จะรู้ตัวว่าความเหงาและความคิดถึงคงจะคอยเป็นเพื่อนนอนข้างๆในค่ำคืนของแต่ละวันแทนเธอคนนั้นก็ตาม

"ถึงแล้วนะ...เหนื่อยมากเลย" ข้อความในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเด้งขึ้นมาในช่วงเช้าตรู่ของเช้าวันแรก

แม้จะรู้สึกโชคดีที่เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้โลกแคบลง อยู่ใกล้กันเพียงแค่หน้าจอคั่นกลาง แต่ความเป็นจริงที่เราสองคนอยู่ห่างกันไกลเกินค่อนโลก ทำให้รู้สึกว่าความสะดวกสบายในการติดต่อกันเป็นเพียงภาพมายาที่หลอกลวงให้เรารู้สึกดีขึ้นเท่านั้น ความเงียบเหงาที่คั่นกลางระหว่างหน้าจอยังคงอยู่และดูเหมือนจะไม่ได้ลดลงตามความเร็วของคลื่นสามจีที่เร็วและชัดขึ้นทุกวัน

"ดีแล้วครับ ไปหลับต่อในรถ เที่ยวให้สนุกนะ" ผมกดแป้นพิมพ์ตอบกลับไป แม้ว่าข้างในอยากจะเขียนบอกว่า "กลับมาได้แล้วคิดถึง" แต่ก็ดูคล้ายเป็นการเอาแต่ใจตัวเองและเห็นแก่ตัวชะมัดยาด

ระหว่างวันช่วงที่นั่งพักในรถทัวร์ ภรรยาก็จะคอยส่งเมสเสสมาเล่าเรื่องราวต่างๆ รูปอาหารที่กิน สถานที่ที่ไป เรื่องแปลกๆที่ได้เจอ ผมคอยจินตนาการภาพตามก็สนุกไปด้วยกับสิ่งเหล่านั้น แต่ในใจก็ยังไม่วายที่จะคอยเป็นห่วงว่าเขาจะเหนื่อยรึเปล่า จะมีไข้ไม่สบายเพราะอากาศที่แตกต่างกันระหว่างไทยกับญี่ปุ่นไหม? เป็นห่วงแต่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เป็นอาการของผมในช่วงเวลานั้น มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

ช่วงเวลากลางวันยังพอมีอะไรให้ทำแก้เหงาไปเรื่อยๆ งานบนโต๊ะที่คอยทำให้สมองคิดมือขยับได้ทั้งวันพอรู้ตัวอีกทีก็ใกล้พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ช่วงเวลาแห่งราตรีกำลังย่างกรายมา จุดเริ่มต้นของความรู้สึกเดียวดายกำลังจะมาเยือนในไม่กี่อึดใจ

"ความคิดถึง" ทวีคูณตามจำนวนดวงดาวบนฟ้ารึเปล่า? ผมไม่แน่ใจว่ามีใครเคยคิดแบบเดียวกันกับผมบ้างไหม?

หลังจากกลับมาจากไปทานข้าวเย็นกับครอบครัวที่ร้านอาหารใกล้บ้าน ผมก็ถือโอกาสเดินเล่นย่อยอาหารที่ลานหน้าบ้าน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ความจริงคือยังไม่อยากกลับเข้าไปในห้องนอนของ "เรา" ที่ตอนไม่มี "เขา" อยู่ มันเป็นเรื่องแปลกแต่ห้องเดิมกลับดูอ้างว้างและกว้างเกินไปสำหรับการอยู่คนเดียว แม้ว่าจำนวนตารางเมตรในห้องก็เท่าเดิม เฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายหรือจัดเรียงใหม่ ห้องที่คับแคบกลับว่างเปล่า ห้องที่เดินสวนกันแทบไม่ได้กลายเป็นถนนสี่เลนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

นั่งมองดาวได้สักพักจนเสียงโทรศัพท์ที่กำลังรอคอยดังขึ้นมา "ติ้งงงง..."

ผมรีบกดดูข้อความ "ถึงโรงแรมแล้วววว....เหนื่อยจังเลย ที่รักทำอะไรอยู่?"

ถ้าผมจะตอบไปว่านั่งมองดาวเพราะไม่อยากเข้าไปในห้อง นอกจากจะทำให้คนปลายสายเป็นห่วงโดยใช่เหตุแล้ว ผมยังคงจะต้องอธิบายอีกยาวเหยียดแน่นอน จึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน

"เพิ่งกลับมาถึงบ้าน เดี๋ยวโทรหานะ" ผมพิมพ์ตอบพร้อมกับก้าวขาเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง มือควานหาสวิตช์ไฟที่คุ้นเคย ห้องนอนเดิมที่มักจะมีเสียงเจี้ยวจ้าวของเราสองคนคุยกันระหว่างที่เปิดประตูเข้ามาด้วยกันกลับเงียบเชียบ ผมปิดประตูแล้วเดินลงไปนอนที่เตียงแล้วกดโทรหาเจ้าของเมสเสสเมื่อตะกี้

ผมจำไม่ได้ว่าเนื้อความของการสนทนานั้นเป็นยังไงบ้าง แต่รู้สึกดีเหลือเกินที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เราคุยกันได้สักพักก่อนที่เธอจะขอตัวไปพักผ่อนก่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ตามสไตล์ของการเดินทางกับทัวร์

"คิดถึงเค้ารึเปล่า?" เธอถามขึ้นมาก่อนที่จะวางสาย

"คิดถึงครับ กลับมาได้แล้วนะ" ผมพูดทีเล่นทีจริง  แม้จะหมายความอย่างที่พูดแต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

"สบายเลยดิ...แมวไม่อยู่หนูร่าเริงเลย" เธอหยอกผมอีกรอบ

"ไม่จริงหรอก ร่าเริงอะไร อยากให้กลับมาแล้ว" ผมตอบไปโดยไม่ทันได้คิด

"อืม...อีกสามสี่วันก็กลับแล้ว ไปนอนก่อนนะ" เธอบอกก่อนจะเสียงกดวางหูจะดังขึ้น

ผมลุกไปอาบน้ำ ก่อนที่จะเดินไปปิดไฟเตรียมตัวเข้านอน แม้ความมืดมิดจะปลกคลุมทั้งห้อง แต่ผมก็เดินกลับไปนอนบนเตียงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

"เฮ้ออ..." ผมถอนหายใจหลังจากทิ้งตัวลงบนฟูกนอนอันคุ้นเคย

ผมคิดต่อไปในใจ "เมื่อกี้ห้องที่ว่ากว้าง เตียงที่เคยรู้สีกว่าแคบๆนี้กว้างกว่าอีก ยังกับสนามฟุตบอลเวลานอนคนเดียว"

"แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง" เป็นคำคมของเหล่าชายที่ยังรักสนุกและต้องการเริงร่าเมื่อสบโอกาส

แต่ผมคงจะเป็นหนูที่แปลกเพราะดันไปตกหลุมรักแมวเข้าเต็มเปา พอแมวที่รักไม่อยู่หนูตัวนี้ก็อยากให้กลับมานอนข้างๆด้วยใจจะขาด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่