สวัสดีครับ ผมอยากจะแชร์เหตุการณ์เรื่องรถยนต์และเป็นไปได้ขอคำปรึกษาจากชาว Pantip ด้วยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า แฟน(เก่า)ด้วยที่เราคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จึงมีความคิดที่อยากจะมีทรัพย์สินที่จะพาเราไปไหนมาไหนด้วยกัน เเฟน(เก่า)จึงอยากที่จะได้รถยนต์สักคัน จึงขอร้องให้ผมพาไปซื้อที่เต็นท์รถแห่งหนึ่งย่านทางไปเส้นพัฒนาการ เขาขอให้ผมออกเงินดาวน์ให้ก่อน 60,000.- โดยใช้ชื่อผมซื้อเพราะเขายังไม่ทำงาน แล้วจะเอาเงินมาคืนให้ภายหลัง ตื๊อไปตื๊อมา ผมเลยใจอ่อนยอมออกเงินดาวน์ให้ก่อน 60,000 บาท (ตุลาคม 2556) เป็น TOYOTA Prius สีขาว ราคา 8 แสนกว่าบาท แล้วตกลงกัน(ทางวาจา) ว่าคุณต้องผ่อนเองนะ หากทะเลาะหรืออะไรก็ตามห้ามเบี้ยว เขาก็บอกว่า “เออน่า ฉันแยกแยะเป็น” พอออกรถมาได้เขาก็ตะเวรเลยครับ รับเพื่อน ส่งเพื่อน ไปเที่ยว ขับอวดขับโชว์ บอกญาติว่า “แฟนซื้อให้” .......(แหม่ ไม่ใช่มั้ง)
6 ธันวา 2556 เขาขับรถไปส่งผมที่ทำงาน ระหว่างทางทะเลาะกันแรงมาก เขาเปิดประตูเดินหนีกลางแยกไฟแดงเลย ผมตาลีตาเหลือกรีบย้ายฝั่งไปขับต่อแล้วเอารถไปจอดแถวออฟฟิส สายๆเขาก็มาหาที่ทำงาน ถามหารถ แต่ผมยังไม่ให้เพราะกลัวเตลิดหนีไปเที่ยว กลับดึก ทะเลาะกันอีก เขาโมโหมากก็เลยกลับคอนโดของผมขนของหนี แล้วเลิกกับผมเลย พอผมถามเรื่องรถว่าจะทำไงต่อ?
ผม : โทรไปถามธนาคาร ยังไม่เคยผ่อนรถเลยสักงวดนี่ ถึงรถเป็นชื่อเราแต่เธออยากได้ แสดงความรับผิดชอบหน่อยสิ
เขา :
เอาไปผ่อนต่อเองเถอะ
ชิบล่ะ...ไหนบอกว่าแยกแยะเป็น????
ชีวิตหลังจากนั้นเกิดความเป็นทุกข์อย่างมาก เสียใจกับความรักไม่พอ ทุกข์ในเรื่อง น้อง Prius คันนี้อีก เนื่องจากชื่อรถเป็นชื่อผม เเล้ว เลิกกันเเบบนี้ภาระมันไม่ตกที่ใคร มันตกที่ผมครับ เพราะชื่อมันโชว์หราในสัญญาเป็นชื่อของผม ทีนี้คนที่ต้องรับผิดชอบมันคือผมเเล้วครับ เนื่องจากคำว่ารัก สัญญาใจด้วยวาจา(ช่วยกันผ่อน) มันได้จบลงเเล้ว หลังจากนั้นเเฟน(เก่า)หายไปไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
ด้วยความที่เรามีภาระเยอะพอสมควร เป็นพนักงานออฟฟิศคนนึง การเเบกรับภาระหนี้สินรถยนต์คันนึงเกือบล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายที่มากเกินกว่าที่เราจะรับผิดชอบได้ จึงพยายามหาทางออกโดยการหาคนมาผ่อนต่อ สิ่งที่คิดขึ้นมาได้ คือการหาคนที่มาผ่อนต่อให้เร็วที่สุด เนื่องจากวันๆใช้ชีวิตไปเป็นทุกข์อย่างมาก จนมาเจอเพื่อนที่เราสนิทเเละรู้จักด้วยคนนึง ซึ่งผมขอเรียกชื่อว่าหมูละกันครับ โดยหมูอยากได้รถเรามาก เเละ ต้องการที่จะช่วยเหลือเรา ในการผ่อนต่อ
โดยด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเพราะคำว่า " เพื่อน " เพื่อนคนนี้อยากที่จะได้รถยนต์คันนี้ไปขับต่อ เนื่องจากชื่นชอบ เเละเห็นเรามีภาระที่หนักหน่วงจึงอยากที่จะช่วยเหลือ เค้าจึงมาขอซื้อรถต่อโดยทำสัญญาโอนลอยกัน โดยสัญญาระบุคือ หมูจะให้เงินมา 30,000ตามที่ระบุไว้ในสัญาโอนลอย แล้วหมูจะจ่ายค่างวดรถเองจนกว่าจะหมด ง่ายๆก็เป็นเหมือนสัญญาใจกันครับ
เเรกๆการผ่อนก็เป็นไปอย่างไม่มีปัญหา เรารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เราดีใจมากๆที่ไม่ต้องรับภาระนี้อีกต่อไปเเล้ว เเต่เเล้วอยู่ๆก็มีธนาคารโทรมาตามงวด ซึ่งผมก็จะโทรไปถามหมู หมูบอกว่า เดี๋ยววันนั้น วันนี้จะจ่าย พอผมโทรไปเช็คกับธนาคารอีกครั้ง ทางธนาคารก็บอกชำระเข้ามาแล้วค่ะ ผ่านไปหลายเดือนก็ไม่มีปัญหา อ่ะ....ผมก็สบายใจ แต่จนวันนึงเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นพอมาช่วงปลายปีที่ 2557 ทางไฟแนนซ์เริ่มโทรมาตามผมถี่ขึ้น แล้วบอกว่า ชำระมาแค่ 6 งวดเอง (ตั้งแต่ ตุลาคม 2556 อ่ะนะ!!!!!!!!) ผมจึงรีบโทรหาหมูให้รีบชำระค่างวดรถ
ธันวา 57
ผม :
ไฟแนนซ์ตามอีกแล้ว เขาบอกว่าชำระแค่ 6 งวด
หมู : ก็กรูยังไม่มีตังนี่ เดี๋ยวกรูไปขอพ่อก่อนที่โคราชอีก 50,000ก่อน ตอนนี้กรูมีแค่ 50,000 เป็นเงินเบี้ยเลี้ยงทหาร เดี๋ยวกรูจ่ายวันนั้นวันนี้...
ผม :
ห้ามเบี้ยวนะเว้ย เค้าบอกว่าถ้าไม่จ่าย กรูต้องขึ้นศาล กรูจะร้องไห้ละเนี่ย
หมู : เอออออออออออออออออ เดี๋ยวกรูกลับ กทม ก่อน อีก 2 อาทิตย์เอง กรูก็ดิ้นรนอยู่ เครียดมากเหมือนกัน
(แต่ไฟแนนซ์ตามกรูทุกวันนะเว้ย โคตรจะไม่แฟร์เลยที่ต้องมาตามกรูฝ่ายเดียว)
พอจนถึงวันนัด ซึ่งผ่านมาติดต่อหมูมาได้ตลอด เเต่เเล้วเมื่อผมกดโทรศัพท์โทรหาก็จะเหมือกับการบล๊อกเบอร์ ติดต่อผ่านเฟสบุ๊คก็ปรากฎว่าโดนบล๊อกไปเเล้วครับ ผมไม่รู้จะทำไง ผมเลยติดต่อกับพี่สาวของหมูแทน (ขอเรียวว่าแมว)
มกรา-กุมภา 58
ผม : พี่ ผมติดต่อหมูไม่ได้เลย
แมว : ที่บ้านก็ติดต่อไม่ได้เลยเนี่ย หมูมันอยู่เชียงใหม่ ไปทำงาน (งานไรวะ หมูเคยบอกว่าเป็นทหาร ฝึกพวกทหารเกณฑ์)
ผม : อ้าว เค้านัดผมอาทิตย์นี้นะ ทำไมเค้าเบี้ยวอีกแล้ว ไฟแนนซ์ก็ตามผมทุกวัน เค้าจะฟ้องผมแล้วเนี่ย
แมว : เข้าใจค่ะ!! สงสารค่ะ!! แต่ที่บ้านติดต่อไม่ได้ แล้วให้พี่ทำไง (น้อง
ทั้งคนนะครัชช
จะติดต่อกันไม่ได้หรอครัช) ก็ตามให้อยู่ไม่ได้นิ่งนอนใจ หมูก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ มันก็หาวิธีทางออกอยู่ (ดราม่าใส่ผมซะงั้น..)
ผม : งั้นพี่ติดต่อได้แล้ว บอกผมด้วยนะครับ ผมขอล่ะ ผมเดือดร้อน ไม่อยากให้เรื่องถึงหูพ่อแม่ กลัวเค้าผิดหวังในตัวผม (ที่มีลูกโง่) แล้วเดี๋ยวเค้าก็จะไม่สบายใจ ล้มป่วยกันอีก พี่ต้องช่วยผมนะ
.....1 เดือนผ่านไป ไม่มีความคืบหน้า แม้ผมจะโทรถามพี่แมว ไลน์หา จนต้องปรึกษาเพื่อนๆ เพื่อนๆ แนะนำให้ผมไปแจ้งความ หลังจากปรึกษาทนาย ทนายก็ให้ผมไปแจ้งความซะ โดยทางทนายได้เเนะนำว่า
1. โอนลอยใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลไม่ได้
2. ยังไงไฟแนนซ์ก็เอาผิดกับเราเพราะชื่อรถเป็นของเรา เค้าไม่สนใจเราหรอกว่ามีที่มาที่ไปยังไง
3. ไม่มีทางเอาผิดหมูหรือให้หมูมันชดใช้ได้เลยเพราะเหตุผลข้างต้น
4. แต่ยังไงก็ให้แจ้งความไว้ ไม่ใช่ลงบันทึกประจำวัน
จริงๆแล้วผมพอเดาเกมส์ของหมูออกแล้วล่ะว่ามันจะทำอะไรกับรถ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน + จิตใจด้านเทวดาบอกว่าเค้าคงไม่หักหลังกันหรอก เลยยังคงเชื่อใจอยู่นิดๆ
18 มีนา
แล้วผมกับเพื่อนก็พากันไป สน.ดอนเมือง ทาง ตร. ก็บอกให้ไปแจ้งที่ทุ่ง 2 ห้อง เพราะผมไปทำเรื่องรถกับหมูที่ ไอที สแควร์ พอผมไป สน.ทุ่งสองห้อง ตร. 2 นายก็บอกว่า “ไม่รับแจ้งความ เพราะเป็นคดีทางแพ่ง ต้องไปฟ้องศาลแพ่งเอา แต่โอนลอยก็ใช้ประโยชน์ไรไม่ได้ ต้องเข้าใจทาง ตร. นะ เพราะทางเราทำอะไรให้ไม่ได้ ให้ไปแจ้งกับทางศูนย์ร้องเรียนการโจรกรรมรถยนต์เอา ดังนั้น ทางสน. จะทำได้แค่ลงบันทึกให้เท่านั้นเผื่อหมูเอารถไปทำสิ่งไม่ดี เราจะได้มีหลักฐานว่ารถไม่อยู่กับเรา แต่ถ้าคุณแจ้งความก็อาจจะแจ้งได้ แต่ก็จะโดนแจ้งความเท็จนะ มีโทษ บลาๆๆๆๆ แต่เอาเบอร์ผู้หมวดไปก่อนละกัน เดี๋ยวจะหาว่า ตร. ไม่ช่วยอะไรเลย ” (แลดูมีคุณค่าทางจิตใจ) ผมใช้สัญญาเอาผิดกับหมูไม่ได้ แต่ถ้าผมแจ้งความหรืออะไรไป หมูสามารถเอาสัญญาฟ้องผมกลับได้ ชีวิตตอนนั้นรู้สึกไปทางไหนไม่ถูกเลยครับ
หลังจากนั้นผมจึงไปศูนย์ร้องเรียนการโจรกรรมรถยนต์ ได้คำตอบง่ายๆมาว่า “คุณต้องมีใบแจ้งความจาก ตร. ก่อนนะ ไม่งั้นเราก็จะทำไรไมได้เลย” T^T
และช่วงก่อนสงกรานต์ ก็ได้บุกไปบ้านหมู 2 ครั้งเพื่อถามความคืบหน้าครับ
ครั้งที่ 1 ผมและเพื่อน เจอพ่อ กับแม่ของหมู
ผม : มาหาหมูครับ จะคุยเรื่องรถ
แม่ของหมูก็ไปเรียกหมูมา บอกว่ามันนอนหลับอยู่ ( หมูคงดิ้นรนหาทางออกอยู่ เครียดมากสินะ)
หมู : เออ กรูเอารถไปจำนำแล้ว มันหลุดจำนำไป ส่งดอกช้าไป 2 วันเอง พวกรับจำนำมันเอารถไปแล้วนะ
ผม : เอ่อ ช๊อคโลก...แล้วยังไงต่อครับ
หมู : กรูก็ไม่รู้จะตามที่ไหน พวกนี้มันลึกลับ กรูเอารถไปส่งนายหน้าเค้าที่ รพ.ภูมิพล จำนำไป 50,000 แล้วกรูแค่ส่งดอกช้า มันก็เลยเอารถไปปล่อย จะติดต่อมันก็ไม่ได้แล้ว พวกมันเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์กัน จำนำเถื่อนก็เป็นแบบนี้แหละ และรถเป็นชื่อ กรูเลยต้องจำนำเถื่อนไป
พ่อหมู แม่หมู : เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ (เริ่มดราม่าอีกแล้ว) ก็ช่วยๆกัน พยายามตามกลับมา จะเอาเงิน 50,000 ไปคืนมัน มันก็บอกว่าปล่อยไปแล้ว (ไหนบอกว่ามันเปลี่ยนเบอร์ติดต่อมันไม่ได้?)
เพื่อนผม : งั้นเราติดต่อพวกรับจำนำเองก็ได้
หมู : จะติดต่อไรล่ะ! สุดท้ายมันก็ต้องมาติดต่อเราอยู่ดี บลาๆๆ (มันพยายามพูดวนๆ ให้เรางงๆ)
คือคุยกันเยอะมากแต่ก็ได้ข้อสรุปว่า รถหลุดจำนำไป ให้เรารอว่า ฝ่ายหมูจะตามรถให้ได้มั้ย ความรู้สึกตอนนั้น สตั๊นท์ไป 10 วิ คือในใจทำไมชีวิตเราจะต้องมาพบเจอปัญหาเเบบนี้ เเล้วรถผมตอนนี้มันอยู่ตรงไหนของประเทศ ไฟเเนนซ์ก็โทรตามตลอด ไม่รู้ว่าไอพวกจำนำเถื่อนที่ว่านี่รถผมไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านรึเปล่าก็ไม่รู้ครับ จำนำเถื่อนถึงผมจะรู้ว่ารถอยู่ไหนเเต่ผมไปตามเเคพูดว่าเถื่อน ผมก็ไม่คิดว่าจะตามได้เเล้วครับ
ครั้งที่ 2 ก็บุกไปบ้านหมูอีก เจอพี่แมว พ่อ แม่
ผม/เพื่อน : มาหาหมูครับ
พี่แมว : ไม่อยู่ค่ะ
ผม : จะมาถามเรื่องรถครับว่าตามถึงไหนกันแล้ว ผมไม่รู้จะตอบไฟแนนซ์ว่ายังไง
แมว : กำลังหาให้อยู่ค่ะ ใช้เวลานิดนึง
แม่ : เอาไปจำนำเค้าไม่บอกอะไรเลยว่าเอาไปไหนมันระบบนอกไง ขาดส่งช้าไป 2 วันก็เอารถไปเลย
ผม : เค้าส่งเรื่องสู่ขั้นตอนของกฎหมายแล้วครับ แล้วที่บอกว่าตามให้อยู่นี่ คือตามยังไงครับ
พ่อ : หมูตามกับคนชื่อ เอก เป็นคนที่ติดต่อมาจากพวกนี้มั้ง เค้าไม่ให้เห็นหน้า
เพื่อน : คือ ถ้าเกิดหมูไม่ไหวยังไงก็น่าจะบอก พอเกิดปัญหาเราก็โดนข้อหายักยอก เราแก้ปัญหาตั้งแต่แรกได้ถ้ามาบอกกัน
แมว : เราก็ต้องมาคุยอีกที คุยกันทั้งหมดเลย มีอะไรจะได้แก้ทัน (ทัน?) นี่ก็ไม่ได้ทิ้งนะ สนใจตลอด เดี๋ยวนัดอีกทีดีกว่า ต้องรีบเคลียร์ เดี๋ยวก็จะเสียกันทั้ง 2 ฝ่าย
สรุปไม่ได้อะไร!! ไม่ว่าจะไป สน. หรือหาทางให้หมูชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะวันที่ 15 ธันวา 56 หลังจากทำสัญญาโอนลอย (สัญญาใจ) หมูเอารถผมไปขับเลย
เหตุการณ์ที่ทำให้เราคับเเค้นใจมากกว่าเดิมกับเพื่อนคนนี้ โดยเมื่อวันที่ 25 เมษา 58 ผมแอบเข้าไปดู Facebook หมู หมูโพสสเตตัสว่า “ลาก่อนนะจ๊ะน้องอูส หนูทำให้พี่มีปัญหาเยอะเกิ๊น ขอต้อนรับน้องใหม่เดือนหน้าจ๊า ดีใจ ขอบคุณ คุณพ่อที่รัก” พร้อมโพสรูปรถ Prius ของผมซึ่งในรูปเหมือนคนมาดูๆรถอยู่
แล้วพอหัวค่ำก็โพสข้อความว่า “คืนนี้โชว์กี่คนจัดมาพี่พร้อม คืนใช้เงินนี่หว่า” พร้อมโพสรูปตัวเองโชว์ปึกแบ็งค์ 1,000 ผมว่าหมูคงเอารถไปขายแล้วเอาเงินมาเที่ยวซะแล้วล่ะ
แล้ว27/4/2558 โพสข้อความว่า “App คืนเดียว 5,000 กว่า งดเท่วอีก 1 เดือน จน”
พอเห็นรูปเหล่านี้รู้สึกว่า มันไปใช้ชีวิตความสุขในความทุกข์ของคนอื่น
ผมไม่รู้จะทำยังไงดีครับ มืดแปดด้านไปหมด นอนไม่เต็มตามาหลายเดือนแล้ว หัวคิดแต่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เคยถูก(อดีต)เพื่อนหักหลังกันแบบนี้เลย เอารถผมไปขับ ไม่ผ่อน เอาไปขาย โกหกร่วมกันทั้งบ้านเลย เอาความเป็นเพื่อนมาซื้อใจ วันนั้นพอมันนอนเพิ่งสร่างเมาก็โพสสเตตัสอีกว่า “เพิ่งสร่างเมา” ไม่ทำงาน แต่ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงที่ต้องเลี้ยงพ่อแม่ น้องสาว ผ่อนคอนโด ผ่อนบัตรเครดิต (ที่แฟนเก่าผมขอซื้อนั่นนี่แล้วผมก็รูดให้ก่อนด้วย) ผมไม่สามารถหาเงินเหยียบล้านมาได้แบบสบายๆเลยครับ ผมต้องไปทางไหนต่อดี ใครพอมีคำแนะนำให้ผมผ่านวิกฤติชีวิตตอนนี้ผมได้มั่งครับ และผมอยากเล่าให้ทุกคนไว้เป็นอุทาหรณ์ แม้ว่าเป็นเพื่อนกันยังไง เงิน ทรัพย์สินมันก็ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
ขอบคุณครับที่รับฟังและขอความเห็นที่ผมจะต้องทำต่อจากนี้ครับ ทุกข์ใจมากๆไม่รู้จะทำยังไงดีครับ
Edit รูปครับ กลัวมีปัญหากับคู่กรณี
ชีวิตที่เเสนทุกข์ทรมาน การผิดพลาดจากการโอนลอยกับภาระรถที่หายไปเเละไม่ได้กลับคืน!!!
เรื่องมีอยู่ว่า แฟน(เก่า)ด้วยที่เราคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จึงมีความคิดที่อยากจะมีทรัพย์สินที่จะพาเราไปไหนมาไหนด้วยกัน เเฟน(เก่า)จึงอยากที่จะได้รถยนต์สักคัน จึงขอร้องให้ผมพาไปซื้อที่เต็นท์รถแห่งหนึ่งย่านทางไปเส้นพัฒนาการ เขาขอให้ผมออกเงินดาวน์ให้ก่อน 60,000.- โดยใช้ชื่อผมซื้อเพราะเขายังไม่ทำงาน แล้วจะเอาเงินมาคืนให้ภายหลัง ตื๊อไปตื๊อมา ผมเลยใจอ่อนยอมออกเงินดาวน์ให้ก่อน 60,000 บาท (ตุลาคม 2556) เป็น TOYOTA Prius สีขาว ราคา 8 แสนกว่าบาท แล้วตกลงกัน(ทางวาจา) ว่าคุณต้องผ่อนเองนะ หากทะเลาะหรืออะไรก็ตามห้ามเบี้ยว เขาก็บอกว่า “เออน่า ฉันแยกแยะเป็น” พอออกรถมาได้เขาก็ตะเวรเลยครับ รับเพื่อน ส่งเพื่อน ไปเที่ยว ขับอวดขับโชว์ บอกญาติว่า “แฟนซื้อให้” .......(แหม่ ไม่ใช่มั้ง)
6 ธันวา 2556 เขาขับรถไปส่งผมที่ทำงาน ระหว่างทางทะเลาะกันแรงมาก เขาเปิดประตูเดินหนีกลางแยกไฟแดงเลย ผมตาลีตาเหลือกรีบย้ายฝั่งไปขับต่อแล้วเอารถไปจอดแถวออฟฟิส สายๆเขาก็มาหาที่ทำงาน ถามหารถ แต่ผมยังไม่ให้เพราะกลัวเตลิดหนีไปเที่ยว กลับดึก ทะเลาะกันอีก เขาโมโหมากก็เลยกลับคอนโดของผมขนของหนี แล้วเลิกกับผมเลย พอผมถามเรื่องรถว่าจะทำไงต่อ?
ผม : โทรไปถามธนาคาร ยังไม่เคยผ่อนรถเลยสักงวดนี่ ถึงรถเป็นชื่อเราแต่เธออยากได้ แสดงความรับผิดชอบหน่อยสิ
เขา : เอาไปผ่อนต่อเองเถอะ
ชิบล่ะ...ไหนบอกว่าแยกแยะเป็น????
ชีวิตหลังจากนั้นเกิดความเป็นทุกข์อย่างมาก เสียใจกับความรักไม่พอ ทุกข์ในเรื่อง น้อง Prius คันนี้อีก เนื่องจากชื่อรถเป็นชื่อผม เเล้ว เลิกกันเเบบนี้ภาระมันไม่ตกที่ใคร มันตกที่ผมครับ เพราะชื่อมันโชว์หราในสัญญาเป็นชื่อของผม ทีนี้คนที่ต้องรับผิดชอบมันคือผมเเล้วครับ เนื่องจากคำว่ารัก สัญญาใจด้วยวาจา(ช่วยกันผ่อน) มันได้จบลงเเล้ว หลังจากนั้นเเฟน(เก่า)หายไปไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
ด้วยความที่เรามีภาระเยอะพอสมควร เป็นพนักงานออฟฟิศคนนึง การเเบกรับภาระหนี้สินรถยนต์คันนึงเกือบล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายที่มากเกินกว่าที่เราจะรับผิดชอบได้ จึงพยายามหาทางออกโดยการหาคนมาผ่อนต่อ สิ่งที่คิดขึ้นมาได้ คือการหาคนที่มาผ่อนต่อให้เร็วที่สุด เนื่องจากวันๆใช้ชีวิตไปเป็นทุกข์อย่างมาก จนมาเจอเพื่อนที่เราสนิทเเละรู้จักด้วยคนนึง ซึ่งผมขอเรียกชื่อว่าหมูละกันครับ โดยหมูอยากได้รถเรามาก เเละ ต้องการที่จะช่วยเหลือเรา ในการผ่อนต่อ
โดยด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเพราะคำว่า " เพื่อน " เพื่อนคนนี้อยากที่จะได้รถยนต์คันนี้ไปขับต่อ เนื่องจากชื่นชอบ เเละเห็นเรามีภาระที่หนักหน่วงจึงอยากที่จะช่วยเหลือ เค้าจึงมาขอซื้อรถต่อโดยทำสัญญาโอนลอยกัน โดยสัญญาระบุคือ หมูจะให้เงินมา 30,000ตามที่ระบุไว้ในสัญาโอนลอย แล้วหมูจะจ่ายค่างวดรถเองจนกว่าจะหมด ง่ายๆก็เป็นเหมือนสัญญาใจกันครับ
เเรกๆการผ่อนก็เป็นไปอย่างไม่มีปัญหา เรารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เราดีใจมากๆที่ไม่ต้องรับภาระนี้อีกต่อไปเเล้ว เเต่เเล้วอยู่ๆก็มีธนาคารโทรมาตามงวด ซึ่งผมก็จะโทรไปถามหมู หมูบอกว่า เดี๋ยววันนั้น วันนี้จะจ่าย พอผมโทรไปเช็คกับธนาคารอีกครั้ง ทางธนาคารก็บอกชำระเข้ามาแล้วค่ะ ผ่านไปหลายเดือนก็ไม่มีปัญหา อ่ะ....ผมก็สบายใจ แต่จนวันนึงเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นพอมาช่วงปลายปีที่ 2557 ทางไฟแนนซ์เริ่มโทรมาตามผมถี่ขึ้น แล้วบอกว่า ชำระมาแค่ 6 งวดเอง (ตั้งแต่ ตุลาคม 2556 อ่ะนะ!!!!!!!!) ผมจึงรีบโทรหาหมูให้รีบชำระค่างวดรถ
ธันวา 57
ผม : ไฟแนนซ์ตามอีกแล้ว เขาบอกว่าชำระแค่ 6 งวด
หมู : ก็กรูยังไม่มีตังนี่ เดี๋ยวกรูไปขอพ่อก่อนที่โคราชอีก 50,000ก่อน ตอนนี้กรูมีแค่ 50,000 เป็นเงินเบี้ยเลี้ยงทหาร เดี๋ยวกรูจ่ายวันนั้นวันนี้...
ผม : ห้ามเบี้ยวนะเว้ย เค้าบอกว่าถ้าไม่จ่าย กรูต้องขึ้นศาล กรูจะร้องไห้ละเนี่ย
หมู : เอออออออออออออออออ เดี๋ยวกรูกลับ กทม ก่อน อีก 2 อาทิตย์เอง กรูก็ดิ้นรนอยู่ เครียดมากเหมือนกัน
(แต่ไฟแนนซ์ตามกรูทุกวันนะเว้ย โคตรจะไม่แฟร์เลยที่ต้องมาตามกรูฝ่ายเดียว)
พอจนถึงวันนัด ซึ่งผ่านมาติดต่อหมูมาได้ตลอด เเต่เเล้วเมื่อผมกดโทรศัพท์โทรหาก็จะเหมือกับการบล๊อกเบอร์ ติดต่อผ่านเฟสบุ๊คก็ปรากฎว่าโดนบล๊อกไปเเล้วครับ ผมไม่รู้จะทำไง ผมเลยติดต่อกับพี่สาวของหมูแทน (ขอเรียวว่าแมว)
มกรา-กุมภา 58
ผม : พี่ ผมติดต่อหมูไม่ได้เลย
แมว : ที่บ้านก็ติดต่อไม่ได้เลยเนี่ย หมูมันอยู่เชียงใหม่ ไปทำงาน (งานไรวะ หมูเคยบอกว่าเป็นทหาร ฝึกพวกทหารเกณฑ์)
ผม : อ้าว เค้านัดผมอาทิตย์นี้นะ ทำไมเค้าเบี้ยวอีกแล้ว ไฟแนนซ์ก็ตามผมทุกวัน เค้าจะฟ้องผมแล้วเนี่ย
แมว : เข้าใจค่ะ!! สงสารค่ะ!! แต่ที่บ้านติดต่อไม่ได้ แล้วให้พี่ทำไง (น้องทั้งคนนะครัชช จะติดต่อกันไม่ได้หรอครัช) ก็ตามให้อยู่ไม่ได้นิ่งนอนใจ หมูก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ มันก็หาวิธีทางออกอยู่ (ดราม่าใส่ผมซะงั้น..)
ผม : งั้นพี่ติดต่อได้แล้ว บอกผมด้วยนะครับ ผมขอล่ะ ผมเดือดร้อน ไม่อยากให้เรื่องถึงหูพ่อแม่ กลัวเค้าผิดหวังในตัวผม (ที่มีลูกโง่) แล้วเดี๋ยวเค้าก็จะไม่สบายใจ ล้มป่วยกันอีก พี่ต้องช่วยผมนะ
.....1 เดือนผ่านไป ไม่มีความคืบหน้า แม้ผมจะโทรถามพี่แมว ไลน์หา จนต้องปรึกษาเพื่อนๆ เพื่อนๆ แนะนำให้ผมไปแจ้งความ หลังจากปรึกษาทนาย ทนายก็ให้ผมไปแจ้งความซะ โดยทางทนายได้เเนะนำว่า
1. โอนลอยใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลไม่ได้
2. ยังไงไฟแนนซ์ก็เอาผิดกับเราเพราะชื่อรถเป็นของเรา เค้าไม่สนใจเราหรอกว่ามีที่มาที่ไปยังไง
3. ไม่มีทางเอาผิดหมูหรือให้หมูมันชดใช้ได้เลยเพราะเหตุผลข้างต้น
4. แต่ยังไงก็ให้แจ้งความไว้ ไม่ใช่ลงบันทึกประจำวัน
จริงๆแล้วผมพอเดาเกมส์ของหมูออกแล้วล่ะว่ามันจะทำอะไรกับรถ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน + จิตใจด้านเทวดาบอกว่าเค้าคงไม่หักหลังกันหรอก เลยยังคงเชื่อใจอยู่นิดๆ
18 มีนา
แล้วผมกับเพื่อนก็พากันไป สน.ดอนเมือง ทาง ตร. ก็บอกให้ไปแจ้งที่ทุ่ง 2 ห้อง เพราะผมไปทำเรื่องรถกับหมูที่ ไอที สแควร์ พอผมไป สน.ทุ่งสองห้อง ตร. 2 นายก็บอกว่า “ไม่รับแจ้งความ เพราะเป็นคดีทางแพ่ง ต้องไปฟ้องศาลแพ่งเอา แต่โอนลอยก็ใช้ประโยชน์ไรไม่ได้ ต้องเข้าใจทาง ตร. นะ เพราะทางเราทำอะไรให้ไม่ได้ ให้ไปแจ้งกับทางศูนย์ร้องเรียนการโจรกรรมรถยนต์เอา ดังนั้น ทางสน. จะทำได้แค่ลงบันทึกให้เท่านั้นเผื่อหมูเอารถไปทำสิ่งไม่ดี เราจะได้มีหลักฐานว่ารถไม่อยู่กับเรา แต่ถ้าคุณแจ้งความก็อาจจะแจ้งได้ แต่ก็จะโดนแจ้งความเท็จนะ มีโทษ บลาๆๆๆๆ แต่เอาเบอร์ผู้หมวดไปก่อนละกัน เดี๋ยวจะหาว่า ตร. ไม่ช่วยอะไรเลย ” (แลดูมีคุณค่าทางจิตใจ) ผมใช้สัญญาเอาผิดกับหมูไม่ได้ แต่ถ้าผมแจ้งความหรืออะไรไป หมูสามารถเอาสัญญาฟ้องผมกลับได้ ชีวิตตอนนั้นรู้สึกไปทางไหนไม่ถูกเลยครับ
หลังจากนั้นผมจึงไปศูนย์ร้องเรียนการโจรกรรมรถยนต์ ได้คำตอบง่ายๆมาว่า “คุณต้องมีใบแจ้งความจาก ตร. ก่อนนะ ไม่งั้นเราก็จะทำไรไมได้เลย” T^T
และช่วงก่อนสงกรานต์ ก็ได้บุกไปบ้านหมู 2 ครั้งเพื่อถามความคืบหน้าครับ
ครั้งที่ 1 ผมและเพื่อน เจอพ่อ กับแม่ของหมู
ผม : มาหาหมูครับ จะคุยเรื่องรถ
แม่ของหมูก็ไปเรียกหมูมา บอกว่ามันนอนหลับอยู่ ( หมูคงดิ้นรนหาทางออกอยู่ เครียดมากสินะ)
หมู : เออ กรูเอารถไปจำนำแล้ว มันหลุดจำนำไป ส่งดอกช้าไป 2 วันเอง พวกรับจำนำมันเอารถไปแล้วนะ
ผม : เอ่อ ช๊อคโลก...แล้วยังไงต่อครับ
หมู : กรูก็ไม่รู้จะตามที่ไหน พวกนี้มันลึกลับ กรูเอารถไปส่งนายหน้าเค้าที่ รพ.ภูมิพล จำนำไป 50,000 แล้วกรูแค่ส่งดอกช้า มันก็เลยเอารถไปปล่อย จะติดต่อมันก็ไม่ได้แล้ว พวกมันเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์กัน จำนำเถื่อนก็เป็นแบบนี้แหละ และรถเป็นชื่อ กรูเลยต้องจำนำเถื่อนไป
พ่อหมู แม่หมู : เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ (เริ่มดราม่าอีกแล้ว) ก็ช่วยๆกัน พยายามตามกลับมา จะเอาเงิน 50,000 ไปคืนมัน มันก็บอกว่าปล่อยไปแล้ว (ไหนบอกว่ามันเปลี่ยนเบอร์ติดต่อมันไม่ได้?)
เพื่อนผม : งั้นเราติดต่อพวกรับจำนำเองก็ได้
หมู : จะติดต่อไรล่ะ! สุดท้ายมันก็ต้องมาติดต่อเราอยู่ดี บลาๆๆ (มันพยายามพูดวนๆ ให้เรางงๆ)
คือคุยกันเยอะมากแต่ก็ได้ข้อสรุปว่า รถหลุดจำนำไป ให้เรารอว่า ฝ่ายหมูจะตามรถให้ได้มั้ย ความรู้สึกตอนนั้น สตั๊นท์ไป 10 วิ คือในใจทำไมชีวิตเราจะต้องมาพบเจอปัญหาเเบบนี้ เเล้วรถผมตอนนี้มันอยู่ตรงไหนของประเทศ ไฟเเนนซ์ก็โทรตามตลอด ไม่รู้ว่าไอพวกจำนำเถื่อนที่ว่านี่รถผมไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านรึเปล่าก็ไม่รู้ครับ จำนำเถื่อนถึงผมจะรู้ว่ารถอยู่ไหนเเต่ผมไปตามเเคพูดว่าเถื่อน ผมก็ไม่คิดว่าจะตามได้เเล้วครับ
ครั้งที่ 2 ก็บุกไปบ้านหมูอีก เจอพี่แมว พ่อ แม่
ผม/เพื่อน : มาหาหมูครับ
พี่แมว : ไม่อยู่ค่ะ
ผม : จะมาถามเรื่องรถครับว่าตามถึงไหนกันแล้ว ผมไม่รู้จะตอบไฟแนนซ์ว่ายังไง
แมว : กำลังหาให้อยู่ค่ะ ใช้เวลานิดนึง
แม่ : เอาไปจำนำเค้าไม่บอกอะไรเลยว่าเอาไปไหนมันระบบนอกไง ขาดส่งช้าไป 2 วันก็เอารถไปเลย
ผม : เค้าส่งเรื่องสู่ขั้นตอนของกฎหมายแล้วครับ แล้วที่บอกว่าตามให้อยู่นี่ คือตามยังไงครับ
พ่อ : หมูตามกับคนชื่อ เอก เป็นคนที่ติดต่อมาจากพวกนี้มั้ง เค้าไม่ให้เห็นหน้า
เพื่อน : คือ ถ้าเกิดหมูไม่ไหวยังไงก็น่าจะบอก พอเกิดปัญหาเราก็โดนข้อหายักยอก เราแก้ปัญหาตั้งแต่แรกได้ถ้ามาบอกกัน
แมว : เราก็ต้องมาคุยอีกที คุยกันทั้งหมดเลย มีอะไรจะได้แก้ทัน (ทัน?) นี่ก็ไม่ได้ทิ้งนะ สนใจตลอด เดี๋ยวนัดอีกทีดีกว่า ต้องรีบเคลียร์ เดี๋ยวก็จะเสียกันทั้ง 2 ฝ่าย
สรุปไม่ได้อะไร!! ไม่ว่าจะไป สน. หรือหาทางให้หมูชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะวันที่ 15 ธันวา 56 หลังจากทำสัญญาโอนลอย (สัญญาใจ) หมูเอารถผมไปขับเลย
เหตุการณ์ที่ทำให้เราคับเเค้นใจมากกว่าเดิมกับเพื่อนคนนี้ โดยเมื่อวันที่ 25 เมษา 58 ผมแอบเข้าไปดู Facebook หมู หมูโพสสเตตัสว่า “ลาก่อนนะจ๊ะน้องอูส หนูทำให้พี่มีปัญหาเยอะเกิ๊น ขอต้อนรับน้องใหม่เดือนหน้าจ๊า ดีใจ ขอบคุณ คุณพ่อที่รัก” พร้อมโพสรูปรถ Prius ของผมซึ่งในรูปเหมือนคนมาดูๆรถอยู่
แล้วพอหัวค่ำก็โพสข้อความว่า “คืนนี้โชว์กี่คนจัดมาพี่พร้อม คืนใช้เงินนี่หว่า” พร้อมโพสรูปตัวเองโชว์ปึกแบ็งค์ 1,000 ผมว่าหมูคงเอารถไปขายแล้วเอาเงินมาเที่ยวซะแล้วล่ะ
แล้ว27/4/2558 โพสข้อความว่า “App คืนเดียว 5,000 กว่า งดเท่วอีก 1 เดือน จน”
พอเห็นรูปเหล่านี้รู้สึกว่า มันไปใช้ชีวิตความสุขในความทุกข์ของคนอื่น
ผมไม่รู้จะทำยังไงดีครับ มืดแปดด้านไปหมด นอนไม่เต็มตามาหลายเดือนแล้ว หัวคิดแต่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เคยถูก(อดีต)เพื่อนหักหลังกันแบบนี้เลย เอารถผมไปขับ ไม่ผ่อน เอาไปขาย โกหกร่วมกันทั้งบ้านเลย เอาความเป็นเพื่อนมาซื้อใจ วันนั้นพอมันนอนเพิ่งสร่างเมาก็โพสสเตตัสอีกว่า “เพิ่งสร่างเมา” ไม่ทำงาน แต่ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงที่ต้องเลี้ยงพ่อแม่ น้องสาว ผ่อนคอนโด ผ่อนบัตรเครดิต (ที่แฟนเก่าผมขอซื้อนั่นนี่แล้วผมก็รูดให้ก่อนด้วย) ผมไม่สามารถหาเงินเหยียบล้านมาได้แบบสบายๆเลยครับ ผมต้องไปทางไหนต่อดี ใครพอมีคำแนะนำให้ผมผ่านวิกฤติชีวิตตอนนี้ผมได้มั่งครับ และผมอยากเล่าให้ทุกคนไว้เป็นอุทาหรณ์ แม้ว่าเป็นเพื่อนกันยังไง เงิน ทรัพย์สินมันก็ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
ขอบคุณครับที่รับฟังและขอความเห็นที่ผมจะต้องทำต่อจากนี้ครับ ทุกข์ใจมากๆไม่รู้จะทำยังไงดีครับ
Edit รูปครับ กลัวมีปัญหากับคู่กรณี