ลูกค้าเอาโทรศัพท์ไปแล้วไม่ผ่อน

สวัสดีค่ะมีเรื่องมาปรึกษา
มีลูกค้ามาติดต่อขอผ่อนทรศ ไอโฟน11 เป็นรายอาทิตย์นะคะ มีสัญญาเช่าซื้อ มีระบุกฎกติกา และระบุว่าเครื่องจะเป็นของคนขายจนผ่อนหมด โดยปกติจะแจ้งลูกค้าว่าเกิน2วันจะมีค่าปรับวันละ100 และช้าได้ไม่เกิน7วัน ถ้าเกินหรือไม่จ่ายค่าปรับเกิน3วันจะทำการยึดเครื่อง ทีนี้ลูกค้าผ่อนได้มาสัก2งวดได้มีการแจ้งมาว่า เอาให้น้องชายผ่อน ทีนี้ค้างค่าปรับและค่างวดจนเข้าอาทิตย์ที่2 เลยแจ้งว่าจะไปเก็บเครื่องคืน ลูกค้าจึงบอกว่า ขอให้เริ่มใหม่ทั้งหมดได้ไหมเสียดายเครื่องจะเอามาผ่อนเอง ทางคนขายก็ตกลง ทีนี้จนอาทิตย์ที่3 ก็ช้าอีก ไม่ส่งค่างวดและค่าปรับ เลยแจ้งไปว่า ดูเหมือนจะส่งไม่ไหวเดี๋ยวขอเครื่องคืน ทางลูกค้าก็แจ้งมาว่า ถ้าคืนนี้ไม่ได้เรื่องจะคืนให้ในอีกวัน พออีกวันก็แจ้งว่าหลับเช้าจะออกไปโอน จนเที่ยง จนเย็นก็ไม่โอน ทางคนขายจึงได้ไปเก็บเครื่องคืน แต่ว่า ไม่เจอตัวลูกค้า เจอแต่แม่กับน้องชายลูกค้า ทางแม่แจ้งว่าเขาจ่ายค่าผ่อนให้ทุกงวดนะไม่มีค้าง จ่ายให้กับตัวลูกค้าแต่ลูกค้าไม่โอนให้ร้าน และลูกค้าตอนนั้นผ่อนไม่ไหวเอาเครื่องมาให้เขาผ่อนต่อ และเอาเครื่องเขาไปขาย (ลูกค้าได้มาดาวน์เครื่องที่ร้านไปอีกเครื่องทางบ้านลูกค้าเดาว่าพอแม่เอาเครื่องของตนเองให้ลูกไปลูกได้เอาไปขายและมาดาวน์ใหม่กับทางร้าน) ตอนแรกเขาก็แจ้งว่าเครื่องไม่ได้อยู่นี่ แต่ทางคนขายบอกว่าตามจีพีเอสมา ทางแม่เลยบอกว่าให้ไปแจ้งความจับมันไปเลย แต่ไม่คืนเครื่อง ทีนี้ไปที่สภ.พื้นที่เกิดเหตุแล้ว แต่คิวเยอะ เลยไปตามจีพีเอสของทรศเครื่องที่2ที่ลูกค้าได้ผ่อนไป ได้เจอตัวลูกค้าและได้คืนมา1เครื่อง ตอนแรกก็ตกลงกันว่าถ้าทางน้องชายไม่ยอมคืน จะไปแจ้งความนะเพราะในสัญญาเป็นชื่อลูกค้า ไม่สามารถเอาของมาคืนได้ ทีนี้ก็เลยจะตกลงกันว่าไปตามหาเครื่องก่อน ก็ขี่รถตามหาซึ่งตอนนั้นจีพีเอสไม่ขึ้น และจอดรถตกลงคุยกันใหม่ ตอนนั้นลูกค้ายังติดต่อน้องชายได้ เลยบอกไปว่า ถ้าแจ้งความทางคนขายต้องแจ้งคนซื้อว่ายักยอกนะ และคนซื้อต้องไปแจ้งน้องชายว่าลักทรัพย์ (ตรงนี้ผิดเองเข้าใจผิดคิดว่าเอาเครื่องหนีไปจะคือการลักทรัพย์) แต่เจตนาคือต้องการเครื่องคืนไม่ต้องการเป็นคดีอะไรในตอนนั้น ต้องการให้ลูกค้าบอกน้องชายเผื่อน้องชายจะกลัวและยอมคืน ทีนี้จีพีเอสขึ้นอยู่ที่บ้าน เลยตามไปที่บ้าน พอก่อนถึงทางเข้าบ้านทางลูกค้าบอกว่า ขอรอข้างนอกไม่อยากทะเลาะกับแม่ เลยได้เข้าไปขี่รถผ่านและออกมามันดึกแล้ว เลยมาจอดคุยกับลูกค้าว่าจะเอาไงกันดีไม่งั้นไปแจ้งความตามที่เราคุยกันไว้ดีมั้ย ตอนนั้นหมาแถวนั้นเห่าเลยพากันขี่รถออกมาหน้าปากทาง ทางลูกค้าได้เรียกเพื่อนตามมา และแฟนลูกค้าเริ่มโวยวาย ว่าจะแจ้งความอะไรแจ้งไม่ได้หรอก ลูกพี่กูเป็นสารวัตรเดี๋ยวโทรหา เดี๋ยวกูเรียกเพื่อนมากระทืบยิ้มเลย ส่วนข่มขู่ตรงนี้จะไม่มีหลักฐานอะไรนะคะเพราะว่าไม่ได้ถ่ายคลิปไม่ได้คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เพราะคุยกันดีดีมาตลอด ทีนี้ก็เลยขี่รถหนีออกมา เพราะดึกแล้วและก็ไปกันแค่2คน
พอมาถึงสภ.แถวบ้านเลยในคืนนั้นเลยได้ลองเข้าไปสอบถามร้อยเวร เขาก็แจ้งมาว่า คดีนี้ถ้าจะยักบอกก็ยักยอกได้แต่ถ้าเขามีเครื่องมาแสดงก็ไม่เข้าข่าย ถ้าไม่คืนก็ไม่มีสิทธิไปยึด ถึงมีเครื่องมาวางต่อหน้าเราก็ไม่สามารถเรียกคืนได้ถึงแม้จะผ่อนไม่หมดถ้าไม่ยินยอม แนะนำว่าให้ไปแจ้งสายตรวจในพื้นที่ให้ลองเข้าไปเรียกมาไกล่เกลี่ย วันนี้ได้พาสายตรวจไปแต่ไม่ออกมาจากบ้าน จีพีเอสเครื่องก็อยู่ในบ้าน รถลูกค้าก็อยู่ สายตรวจเลยให้ไปหาร้อยเวรที่พท้นที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้รับข้อมูลอะไรเลยสักอย่าง ยังไม่ทันได้เล่าอะไรแค่บอกลูกค้าผ่อนและไม่จ่ายสายตรวจเลยให้มาออกหมายเรียกเพราะเรียกแล้วเขาไม่ออกมา ก็โดนเจ้าหน้าที่ขำใส่บอกว่าเหตุแบบนี้เยอะแล้ว คดีแพ่ง จะให้ทำอะไร ไปหาทนายเลยฟรี ลองสอบถามกับทนายที่โรงพักก็ได้ความว่าฟ้องก็ไม่คุ้มที่ตะเสียค่าทนาย แต่ทางเราคิดว่าถ้าทำอะไรไม่ได้จริงๆจะฟ้องอยู่ดีค่ะ ไม่งั้นเขาคงทำแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ
คำถามคือ
-ถ้าฟ้องจะฟ้องเป็นอาญาได้ไหมคะพวกยักยอกหรืออะไรแบบนี้
-รายละเอียดที่เล่ามาถือเป็นแพ่งหรือเข้าข่ายยักยอกได้ไหมคะ
-สามารถทำอะไรได้บ้างคะในตอนนี้หรือทำอะไรไม่ได้ต้องฟ้องอย่างเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่