ฮาโหลลล ทุกท่าน นนนนนนนน
วันนี้ อยากจะเล่าเรื่องของตัวเอง แบบ ยาวๆๆๆๆ ฉบับ ตรูอยากพิมพ์อยากเล่าค่ะ

ขอเกริ่นก่อนว่า พ่อแม่ เนี่ย จบแค่ป.4 ลูกชาวนา สกุลไม่ใช่ราชนิกูลอะไร (เขียนถูกไหมน่ะ 555)
ก็แม่มีความเชื่อว่าเอา อะไรก็ได้ที่เป็นภาษาอังกฤษไว้ใต้หมอน แล้วลูกจะเก่ง อิ้งลิชชชช หุหุ

แต่ตอนเด็กๆ เราก็ชอบภาษาอังกฤษนะ อยากมีเพื่อนที่แปลกๆ แบบนั้น ( คือคนละเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ อ่ะ )
พอเราอายุสัก 7-8 ขวบ เราก็หยิบหนังสือบทสนทนา 72 ชม. (ปกแดงๆ เก่าๆ สมัยก่อนอะคะ)
มาอ่าน (ตอนนั้นพวก น้าๆ นั่งเล่นไพ่อยู่เราว่างเลย อ่านๆ)  เราอ่านออกเสียงดังมากก สำเนียงนี่ก็มาอ่ะคะ

คือเราก็เคยดูภาพยนตร์ของต่างชาติ (แต่ก่อนมี จาน UBC ที่โด่งดั่งสมัยนั้น)
อ่ะ เราก็อ่าน บลาๆๆๆ เลียนเสียงเขาแต่เด็ก จนน้ารำคาญ เราเลยหยุดอ่านนน


พอขึ้นป.2 ไปดูแฮรร์รี่ พอตเตอร์ ค่ะ ทันใดนั้น ก็เห็นหน้าพระเอก จังๆ ในนหนัง คือแบบบบบ
อ๊ากกกกกกก จาอาววววว หนูจะอาววว คนนี้ อ่าาาาาาาา ( แก่ แดด แต่เดกกกเลย ตรู)

เราเลยมีแรงบันดาลใจ + เพ้อเจ้อค่ะ ว่าฉันจะไปงานพรมแดง ที่แฮร์รี่มา ให้ได้ (หนูจาบอก เลิฟยูววว)
แค่คำว่า เลิฟยูวอ่ะคะ แค่นั้น สั้นๆๆๆ love you มันทำให้เด็กวัย 8 ขวบแบบเรา
ต้อง self-study แบบ hard version ขนาดดดดดด

สาเหตุ **** (ดอกไว้หนาๆเลยยย)
1. บ้านบอกเงินไม่มีพอ เรียนพิเศษเพิ่ม

เนี่ย ปัจจัยตัวเดียว เงิน เงิน เแล้วก็เงิน
จากนั้นเราก็เลิกเพ้อถึง ตา แฮร์รี่ สักพักก ( ระหว่างที่จะโตมา จน 14-15 ปี เนี่ย เราเป็นเอามากค่ะ)

จนวันนึง รู้สึก อยากนินทา คนอื่นได้แบบที่ฝ่ายศัตรูไม่รู้ (พร้อมหัวเราะข่มขวัญขู่ต่อสู้ไปเร๊ยยยย คร่า)
เราก็ ไปซื้อมาเลยจ้าาาา Grammar English Book ซื้อเยอะมากก
สอบ O-Netอะไร พวก NETๆ อ่ะ บอกเลยว่า ชั้นเน้นวิชาเดียวย่ะ ฮี่ๆๆๆๆ

อ่ะ พอย้าย รร. เรามาต่อ พาณิชย์ ค่ะ เป็นพาณิชย์หญิงล้วน อยู่ฝั่งพระนคร ใกล้กับมหาวิทยาลัยชื่อดังที่อยู่ติดกันสองแห่ง ......
เราเข้ามา เราดีใจมากที่เลือกถูกสาขา #สาขาภาษาต่างประเทศธุรกิจ  คือบับบบบ
เรียนแต่อังกฤษ ๆๆๆๆๆๆกับครูฝรั่ง ครูไทยนิดหน่อย แต่ครูไทยที่นั้นเปะมาก วิชาพื้นฐานนิดหน่อย พอเป็นกะไสย แล้วเราก็เริ่ม
เล่น MSN บ้านเริ่มมีเน็ตละ ตอนนั้น 3 เม็ก = 590.- จ้าาาาา
เราเล่นแชท กับฝรั่งเลยค่ะ เราได้แฟนเป็นฝรั่ง อยู่โรมาเนีย คนนึง ..... (หล่อสุดๆๆๆๆๆ)

เราต้องมานั่งเขียน บันทึกประจำวันเป็นไทย ตกเย็นแปลอังกฤษ เพื่อพิมพ์ใส่หน้า M ของหนุ่มคนนั้น
และเราก็พก Talking Dic เน่าๆ ตกทอดจากพี่ชายเราเครื่องเดียว แต่มันเจ๋งดีนะ
อ่ะเราก็คบมาหกเดือน แล้วเราก็เลิกกัน เขาบอกเราไม่สามารถลึกซึ้งกันได้ ToT

ไหนยูว บอกว่าจะมาไทยไง ฟรักกกกิ้ง พรอมมิสสสสส  #ร้องไห้แบบตีลังกาหนักมากกกกกก
อ่ะ เลิกเล่นเอ็มสักแปป มาเล่น แคมฟอกจ้าา ( ในนามว่า เล่นกบนั้นเอง 888888888888 )

เราเจอผู้ชายเป็นคนไทยอยู่ต่างแดน ..??? ฮีแกอยู่ ออสเตรีย ย้ำ** ออสเตรีย แต่พูดเยอรมันนะสิ ไม่พูดอิ้งลิชชช เลอออค่าาาา
ก็คบนะ จนรู้จักกับแฟนเก่าของเพื่อนเขา ชีเป็น คนไทย และนางก็สนิทกับเรามาก

เพราะนางแนะนำแฟนนางให้รู้จักกับเรา เราก็คุยกะแฟนนางนะ (นางอยู่เบลเยี่ยม โนวอิ้งลิช เป็นฝรั่งเศส ซะงั้น -*-)
//// คือไม่ได้หักหลังนะ แต่อยากได้ภาษาอังกฤษ อ่ะ  ฮีแกพูดอิ้งลิชได้

ต่อมาเราก็เลิกกับคนที่ออสเตรียยย เสียใจอีกละตรู รักแท้นี่แพ้ อัลไลค่ะ ????

เราคุยกะแฟนของนาง คุยไปคุยมา ชายคนนั้นต้องการ จะ Do love  ......!!!!????

โนววว เลยแมนนน สาต๊อปปปปๆ ๆ ๆ  ๆ  ทำไม่ได้ค่ะ
รับไม่ได้ (จขกท. ยังเดก ณ ตอนนั้น บอบบางเรื่อง ทรยศมากค่ะ)

บอกน้องนางเลย ว่า ผู้บ่าวจ้าวว่าจะอี้ๆๆๆๆๆๆ ล่าวยาวๆๆๆ ปายเร๊ยยยย
นางบอกว่า ที่ผ่านมา หนูจับได้แล้วว่ามีคนอื่น และยังมาพูดกับพี่งี้อีก

นางตัดสินใจเลิก แล้วแฟนนางคือ ด่านางแล้วก็ด่าเราด้วย
( ตรูผิดตรงหนายยยย บัก ฟรัคคค)

**** คุยรู้เรื่องได้ไง ในเมื่อตอนนั้นไม่เก่งอิ้ง
1. เราใช้กูกเกิลค่ะ
2.ลองหาในหนังสือบทสนทนาอังกฤษที่น่าสนใจ
3. ข้องใจอะไร ในภาษา กูกเกิลรวดเดียว
4. จดคำถามที่ข้องใจไป ถามครู ที่ รร. หรือ สงสัยเวลาเรียนก็ถามค่ะ
// คือที่ รร. พาณิชย์เขาจะสอนทุกอย่างตามตำรามหา'ลัยอ่ะคะ ออกเสียง แกรมม่า บลาๆๆๆ ที่สำคัญ เขาให้เด็กลงพื้นที่จริงทำจริงค่ะ มากกว่าตำรา

แล้ววันนึง เราก็มาฝึกงานที่ตรอกข้าวสารจ้าาาา
ตำแหน่ง Receptionist เลยค่าาาา พี่เลี้ยงปล่อยให้เราจัดการกับลูกค้า ตั้งแต่วันแรก จนวันฝึกเสร็จค่ะ
นั้นคือความสำเร็จที่ทำให้เราเห็นแล้วว่า เราพูดอังกฤษ สื่อสารกับต่างชาติได้แล้ส
ถึงแม้อาจจะไม่เข้าใจบ้าง แต่ต่างชาติบอกว่า อิ้งลิช ยูวกู๊ดดดน๊าาาาาา

เอ๊ะ ๆๆ   ทำไมถึงฟังเข้าใจในเมื่อเรียนแต่แกรมม่าอ่านรวดเดียววว

1. ที่รร. เราเน้น สอน Toeic ค่ะ
2.ชอบดูภาพยนตร์ต่างชาติ แบบ ซาวด์แทร็ก คือ มันได้อรรถรสกว่านะ ไม่เชื่อลอง
3.เวลา เราเจอซับไทย เด็ดๆ เราจะกอกลับไป ฟังเขาพูดอีกครั้ง พร้อมเลือก ซับอังกฤษ ด้วยค่ะ *จำไว้ใช้อ่า
4.ฟังเพลงสากล เยอะขึ้นนน
รวมทั้ง การศึกษาวัฒนธรรมบ้านเมืองเขาด้วยนะคะ

สรุปง่ายๆ ไม่ต้องเสียงเงินเป็นแสน ในการเรียนอังกฤษเพิ่ม
1. หาฝรั่งคุยสะ จะจับมาเป็น ฮัสเบิ่น หรือ จัส เฟรนด์ หรือบอยเฟรน เกิร์ลเฟรน ก็ได้ // เอาที่สบายใจ
2. ทำตัวประนึง ชั้นอยู่ ต่างประเทศจำลองง // ศึกษา เสพสม วัฒนธรรมเขา ไปเที่ยวที่ฝรั่งไปบ่อยๆ
3. ฟังเพลงสากล บ้างไหม ชอบเพลงไหน ก็พิมพ์ lyrics เข้าไป จะได้รู้ว่า พูดอะไร ยังไง ความหมายคืออะไร
4. ดูภาพยนตร์ต่างชาติแบบซาวด์แทร็คบ้าง ดูแต่พากย์ไทยก็ไม่ค่อยได้อังกฤษหรอก // สบายมากไป ไม่ดีน๊าาาา
5. อย่ากลัวที่จะพูด พูดๆมันออกไปเหอะ ต่างชาติไม่เอาระเบิดอุนจิ ยัดปากแน่นอนค่ะ // พยายามเลียนเสียงหน่อย ใครว่าเรา กราาเดะ ช่างเขา เขาไม่กล้าเหมือนเราหรอก
6. ถามพี่กูลเกิล เวลาไม่เข้าใจสิ เดี๋ยวนิ กูลเกิลเขาพัฒนาแล้วนะ มั่นใจในตัวเขาหน่อยยย
... ถ้าจะให้ดี หางานทำที่ฝรั่งเยอะๆๆๆแล้วลุยยย โลดดดดดดด

เมื่อสองปีก่อน ไม่คิดอยากได้ แฟนต่างชาติเลยนะ คือเป็นเพื่อนกันนะ ดีแล้วยูวว
ถามตอนนี้สิ พอมาทำงานในถิ่นบุรุษต่างแดน กรีดดดด
ล่ำ ล่ำ และล่ำ คือ หล่ออ่ะ แบบบบ ตอนนี้อยากได้ค่ะ ขอสักคนจะตั้งใจเรียนน 5555
(เบ้าหน้าของเค้าฝรั่งชอบบ // เขาว่ากันมางี้อะ แต่ทำไมยังบ่มี???)

ปล. ต่อให้คุณเรียนพิเศษ แพงแสนแพง ดีแสนดี ก็ไม่ได้ผล เท่ากับตัวคุณไม่พยายามและฝึกตลอดเวลา ทุกอย่างต้องใช้เวลา ขนาดเรียนยังใช้เวลาเลย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และเมื่อได้มาไม่ง่าย มันก็ไม่สามารถจากไปได้ง่ายเช่นกัน