==ก่อนบิ๊กแบง (BEFORE THE BIG BANG)==
ทฤษฎีบิกแบง ทฤษฎีกำเนิดเอกภพ

วงโมเดิร์นด็อก
อยู่ดีๆก็คิดถึง พี่ป๊อด คิดถึงวงโมเดิร์นด็อก และคิดถึงเพลง “ก่อน”
อย่ากระนั้นเลย ลองมาเขียนอะไรที่มันเกี่ยวกับ ก่อน ดีกว่า
จะเขียนแล้วก็ย้อนกลับไปให้มากที่สุด เพราะถือคติจากนวนิยายกำลังภายในที่อ่าน
"ช่วยคนช่วยถึงที่สุด ส่งพระส่งถึงชมพูทวีป" ทำอะไรก็สุดๆไปเลย
นี้จึงกลายมาเป็นกระทู้ ก่อนบิ๊กแบงซะเลย 555+

ปกซิงเกิลเพลงก่อน เพลงในอัลบัมแรกที่ทำให้ Moderndog เป็นที่รู้จัก ออกในปี พ.ศ.2537
ออกแบบโดย ธนา โกสิยพงษ์ เป็นผลงานชิ้นแรกของเขา โดยต้องการให้เหมือนงานในยุคปี 80
ท้องฟ้าสีเหลืองให้ความรู้สึกล่องลอย มีคำว่า ...ก่อน ลอยอยู่บนอากาศ และมีตัว R ในชื่อวง Moderndog กลับด้านอยู่
ใครอ่านกระทู้ก็อยากให้เปิดเพลงก่อนไปด้วยนะครับ เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ 555+
เนื้อร้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด
ก่อนดอกไม้จะผลิบาน ก่อนความฝันอันแสนหวาน
ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา
ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด
จนความรักเธอเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป
บนโลกที่โหดร้าย เหลือเกิน
ก่อนดวงดาวจะเต็มฟ้า ก่อนชีวิตจะรู้คุณค่า
ก่อนสิ้นศรัทธาจากหัวใจ ก่อนที่คนอย่างฉันจะหมดไฟ
ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา
ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด
จนความรักเธอเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป
บนโลกที่โหดร้าย เหลือเกิน
ทั้งวิญญาณและหัวใจ ให้เธอครอบครอง
ทั้งชีวิตให้สัญญา จะอยู่ จะสู้เพื่อเธอ
ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา
ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด
จนความรักเธอเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป
บนโลกที่โหดร้าย เหลือเกิน
อ้า คลิกเปิดเพลงกันแล้วใช่ไหม โอเค เรามาเข้าเนื้อหากันเลยนะ
---------------------------------------------------------
==ก่อนบิ๊กแบง (BEFORE THE BIG BANG)==
หลายท่านอาจจะสับสน ผมจะอธิบายให้ฟัง เบงเบงนั้นเป็นขนม แบงบัสนั้นเป็นเว็บไซท์ ส่วนบิ๊กแบงคล้ายๆกับการเริ่มต้นของเอกภพ จริงๆแล้วมันไม่ใช่การเริ่มต้นของเอกภพ แต่หมายถึงช่วงเวลาแรกๆสุดของเอกภพ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของอัลเบริต ไอนสไตน์และการสำรวจเอกภพทำให้เราสามารถไปสู่ช่วงเวลาที่เป็นศูนย์ ที่ซึ่งปัจจุบันเราเรียกว่าซิงกุลาริตี้ ซึ่งมีความหนาแน่นเป็นอนันต์

ขนมเบงเบง

แบงบัส

บิ๊กแบง
ไอนสไตน์คิดทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปเสร็จในปี 1915 ทฤษฎีนั้นเป็นชุดของสมการที่อธิบาย space กับ เวลาและสสาร โดยเกี่ยวข้องกับเรื่องของแรงดึงดูด แต่ทว่าตอนนั้นที่คิดกันเอกภพยังเป็นแบบหยุดนิ่ง แต่สมการของไอสไตน์กลับไม่ได้บอกแบบนั้น กลับบอกว่ามีการขยายตัวของ space เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวเขาจึงเพิ่มพจน์ใหม่ขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง คือ ค่าคงที่ของจักรวาล (cosmological constant) เพื่อที่จะทำให้เอกภพในทฤษฎีนั้นหยุดนิ่ง
สนใจอ่านต่อได้ที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Cosmological_constant

แลมดาใช้เป็นตัวแทนหมายถึง ค่าคงที่ของจักรวาล (cosmological constant)
ต่อมานักคณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย Alexander Friedmann เขาได้ไอเดียการอธิบาย space และเวลาจากสมการของไอนสไตน์ ผลงานของเขาไม่ถูกตีพิมพ์จนกระทั่งปี 1922 เพราะการปฏิวัติรัสเซียและต่อมากลายเป็นสงครามกลางเมืองส่งผลให้งานวิจัยถูกตีพิมพ์ช้าลง

การปฏิวัติรัสเซียและต่อมากลายเป็นสงครามกลางเมืองส่งผลให้งานวิจัยถูกตีพิมพ์ช้าลง
Friedmann ตระหนักว่าทฤ๋ษฎีสัมพัทธภาพของไอนสไตน์ไม่ได้อธิบายเอกภพแบบเดียว แต่มันเป็นไปได้หลายแบบ เขายอมรับแนวคิดที่ว่าเอกภพนั้นมีการยืดหรือหดตัว แบบจำลองเอกภพบางอย่างของเขาบอกว่าตอนแรกมันเล็กๆและก็ขยายออกไปตลอดการ แบบจำลองบางอันบอกว่า จากเล็กๆแล้วก็ขยายใหญ่จนถึงระดับหนึ่งและก็พังทลาย อีกแบบจำลองหนึ่งก็เป็นวัฎจักรของมัน จากเล็กๆขยายใกญ่ๆและก็กลายกลับมาเล็กๆ วนไปอย่างนี้เรื่อยๆ

Alexander Friedmann
ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Alexander_Friedmann
แต่จำกันได้ไหมครับในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีการตั้งคำถาม สร้างสมมติฐาน และทำการทดลองและถึงจะสรุปผล ถ้าเป็นการคิดคำนวณอย่างเดียวก็อาจยังไม่ดีนัก ต้องมีหลักฐานมาสนับสนุนด้วย แล้วการขยายตัวของเอกภพหล่ะมีหลักฐานมาสนับสนุนไหม คำตอบคือ มีครับ
ก่อนอื่นมารู้จักคำนี้กันก่อน เนบิวลามาจากภาษาละติน nebula หมายถึง หมอก เป็นกลุ่มเมฆหมอกของฝุ่น แก๊ส และพลาสมาในอวกาศ เดิมคำว่า "เนบิวลา" เป็นชื่อสามัญ ใช้เรียกวัตถุทางดาราศาสตร์ที่เป็นปื้นบนท้องฟ้าซึ่งรวมถึงดาราจักรที่อยู่ห่างไกลออกไปจากทางช้างเผือก ตัวอย่างเช่น ในอดีตเคยเรียกกาแลคซีแอนดรอเมดาว่าเนบิวลาแอนดรอเมดา

ตัวอย่างเนบิวลา เนบิวลาคาลิน่า สวยมากๆเลย
ในตอนนั้นที่ Friedmann ตีพิมพ์ผลงานของเขา นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อ Vesto Slipher พบหลักฐานว่าวัตถุที่ตอนหลังเรียกกันว่าเนบิวลา หรือปัจจุบันเรียกว่ากาแลคซี กำลังถอยห่างจากโลกของเรา ซึ่งตรงกับเรื่องของการขยายตัวของเอกภพ การวัดของ Slipher เกี่ยวข้องกับการวัดเรื่องของ Redshift หรือ การเคลื่อนไปทางแดง ซึ่งอธิบายได้ว่าเป็นผลลัพธ์ของการขยายตัวของระยะทางของคลื่นแสงที่เดินทางมาหาเรา

Vesto Slipher
สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Vesto_Slipher
การเคลื่อนไปทางแดง เกิดขึ้นเมื่อการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมากเป็นแสงที่ตามองเห็น มีการเปล่งแสงหรือสะท้อนกับวัตถุ แล้วเกิดปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ทำให้คลื่นเคลื่อนตัวไปในทางฝั่งสีแดงของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีพลังงานน้อยกว่า การเคลื่อนไปทางแดงจึงหมายถึงการที่ผู้สังเกตหรืออุปกรณ์ตรวจจับได้รับรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับแหล่งกำเนิด การที่ความยาวคลื่นเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับการที่ความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลดลง ดังนั้นในทางตรงกันข้าม หากตรวจพบว่าความยาวคลื่นลดลงก็จะเรียกปรากฏการณ์นั้นว่า การเคลื่อนไปทางน้ำเงิน

Redshift หรือ การเคลื่อนไปทางแดง
การเคลื่อนไปทางแดงที่เกิดจากปรากฏการณ์ดอปเพลอร์เกิดขึ้นเมื่อแหล่งกำเนิดแสงเคลื่อนที่ห่างออกไปจากผู้สังเกต เช่นเดียวกับการเคลื่อนดอปเปลอร์ซึ่งความถี่จะเปลี่ยนแปลงลดลงเมื่อต้นกำเนิดเสียงเคลื่อนห่างออกไป ฟิสิกส์ดาราศาสตร์สเปกโตรสโกปีอาศัยปรากฏการณ์ดอปเพลอร์เช่นนี้ในการคำนวณการเคลื่อนที่ของวัตถุทางดาราศาสตร์ที่อยู่ในที่ห่างไกลได้

ถ้างงลองดูภาพนี้ การเคลื่อนไปทางแดงและการเคลื่อนไปทางน้ำเงิน
---------------------
ขอตัดเข้าโฆษณาก่อนยังเขียนไม่เสร็จครับ
ถ้าถูกใจกระทู้รบกวนกดบวกด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
==ก่อนบิ๊กแบง (BEFORE THE BIG BANG)==
ทฤษฎีบิกแบง ทฤษฎีกำเนิดเอกภพ
วงโมเดิร์นด็อก
อยู่ดีๆก็คิดถึง พี่ป๊อด คิดถึงวงโมเดิร์นด็อก และคิดถึงเพลง “ก่อน”
อย่ากระนั้นเลย ลองมาเขียนอะไรที่มันเกี่ยวกับ ก่อน ดีกว่า
จะเขียนแล้วก็ย้อนกลับไปให้มากที่สุด เพราะถือคติจากนวนิยายกำลังภายในที่อ่าน
"ช่วยคนช่วยถึงที่สุด ส่งพระส่งถึงชมพูทวีป" ทำอะไรก็สุดๆไปเลย
นี้จึงกลายมาเป็นกระทู้ ก่อนบิ๊กแบงซะเลย 555+
ปกซิงเกิลเพลงก่อน เพลงในอัลบัมแรกที่ทำให้ Moderndog เป็นที่รู้จัก ออกในปี พ.ศ.2537
ออกแบบโดย ธนา โกสิยพงษ์ เป็นผลงานชิ้นแรกของเขา โดยต้องการให้เหมือนงานในยุคปี 80
ท้องฟ้าสีเหลืองให้ความรู้สึกล่องลอย มีคำว่า ...ก่อน ลอยอยู่บนอากาศ และมีตัว R ในชื่อวง Moderndog กลับด้านอยู่
ใครอ่านกระทู้ก็อยากให้เปิดเพลงก่อนไปด้วยนะครับ เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ 555+
เนื้อร้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ้า คลิกเปิดเพลงกันแล้วใช่ไหม โอเค เรามาเข้าเนื้อหากันเลยนะ
---------------------------------------------------------
==ก่อนบิ๊กแบง (BEFORE THE BIG BANG)==
หลายท่านอาจจะสับสน ผมจะอธิบายให้ฟัง เบงเบงนั้นเป็นขนม แบงบัสนั้นเป็นเว็บไซท์ ส่วนบิ๊กแบงคล้ายๆกับการเริ่มต้นของเอกภพ จริงๆแล้วมันไม่ใช่การเริ่มต้นของเอกภพ แต่หมายถึงช่วงเวลาแรกๆสุดของเอกภพ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของอัลเบริต ไอนสไตน์และการสำรวจเอกภพทำให้เราสามารถไปสู่ช่วงเวลาที่เป็นศูนย์ ที่ซึ่งปัจจุบันเราเรียกว่าซิงกุลาริตี้ ซึ่งมีความหนาแน่นเป็นอนันต์
ขนมเบงเบง
แบงบัส
บิ๊กแบง
ไอนสไตน์คิดทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปเสร็จในปี 1915 ทฤษฎีนั้นเป็นชุดของสมการที่อธิบาย space กับ เวลาและสสาร โดยเกี่ยวข้องกับเรื่องของแรงดึงดูด แต่ทว่าตอนนั้นที่คิดกันเอกภพยังเป็นแบบหยุดนิ่ง แต่สมการของไอสไตน์กลับไม่ได้บอกแบบนั้น กลับบอกว่ามีการขยายตัวของ space เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวเขาจึงเพิ่มพจน์ใหม่ขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง คือ ค่าคงที่ของจักรวาล (cosmological constant) เพื่อที่จะทำให้เอกภพในทฤษฎีนั้นหยุดนิ่ง
สนใจอ่านต่อได้ที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Cosmological_constant
แลมดาใช้เป็นตัวแทนหมายถึง ค่าคงที่ของจักรวาล (cosmological constant)
ต่อมานักคณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย Alexander Friedmann เขาได้ไอเดียการอธิบาย space และเวลาจากสมการของไอนสไตน์ ผลงานของเขาไม่ถูกตีพิมพ์จนกระทั่งปี 1922 เพราะการปฏิวัติรัสเซียและต่อมากลายเป็นสงครามกลางเมืองส่งผลให้งานวิจัยถูกตีพิมพ์ช้าลง
การปฏิวัติรัสเซียและต่อมากลายเป็นสงครามกลางเมืองส่งผลให้งานวิจัยถูกตีพิมพ์ช้าลง
Friedmann ตระหนักว่าทฤ๋ษฎีสัมพัทธภาพของไอนสไตน์ไม่ได้อธิบายเอกภพแบบเดียว แต่มันเป็นไปได้หลายแบบ เขายอมรับแนวคิดที่ว่าเอกภพนั้นมีการยืดหรือหดตัว แบบจำลองเอกภพบางอย่างของเขาบอกว่าตอนแรกมันเล็กๆและก็ขยายออกไปตลอดการ แบบจำลองบางอันบอกว่า จากเล็กๆแล้วก็ขยายใหญ่จนถึงระดับหนึ่งและก็พังทลาย อีกแบบจำลองหนึ่งก็เป็นวัฎจักรของมัน จากเล็กๆขยายใกญ่ๆและก็กลายกลับมาเล็กๆ วนไปอย่างนี้เรื่อยๆ
Alexander Friedmann
ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Alexander_Friedmann
แต่จำกันได้ไหมครับในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีการตั้งคำถาม สร้างสมมติฐาน และทำการทดลองและถึงจะสรุปผล ถ้าเป็นการคิดคำนวณอย่างเดียวก็อาจยังไม่ดีนัก ต้องมีหลักฐานมาสนับสนุนด้วย แล้วการขยายตัวของเอกภพหล่ะมีหลักฐานมาสนับสนุนไหม คำตอบคือ มีครับ
ก่อนอื่นมารู้จักคำนี้กันก่อน เนบิวลามาจากภาษาละติน nebula หมายถึง หมอก เป็นกลุ่มเมฆหมอกของฝุ่น แก๊ส และพลาสมาในอวกาศ เดิมคำว่า "เนบิวลา" เป็นชื่อสามัญ ใช้เรียกวัตถุทางดาราศาสตร์ที่เป็นปื้นบนท้องฟ้าซึ่งรวมถึงดาราจักรที่อยู่ห่างไกลออกไปจากทางช้างเผือก ตัวอย่างเช่น ในอดีตเคยเรียกกาแลคซีแอนดรอเมดาว่าเนบิวลาแอนดรอเมดา
ตัวอย่างเนบิวลา เนบิวลาคาลิน่า สวยมากๆเลย
ในตอนนั้นที่ Friedmann ตีพิมพ์ผลงานของเขา นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อ Vesto Slipher พบหลักฐานว่าวัตถุที่ตอนหลังเรียกกันว่าเนบิวลา หรือปัจจุบันเรียกว่ากาแลคซี กำลังถอยห่างจากโลกของเรา ซึ่งตรงกับเรื่องของการขยายตัวของเอกภพ การวัดของ Slipher เกี่ยวข้องกับการวัดเรื่องของ Redshift หรือ การเคลื่อนไปทางแดง ซึ่งอธิบายได้ว่าเป็นผลลัพธ์ของการขยายตัวของระยะทางของคลื่นแสงที่เดินทางมาหาเรา
Vesto Slipher
สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Vesto_Slipher
การเคลื่อนไปทางแดง เกิดขึ้นเมื่อการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมากเป็นแสงที่ตามองเห็น มีการเปล่งแสงหรือสะท้อนกับวัตถุ แล้วเกิดปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ทำให้คลื่นเคลื่อนตัวไปในทางฝั่งสีแดงของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีพลังงานน้อยกว่า การเคลื่อนไปทางแดงจึงหมายถึงการที่ผู้สังเกตหรืออุปกรณ์ตรวจจับได้รับรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับแหล่งกำเนิด การที่ความยาวคลื่นเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับการที่ความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลดลง ดังนั้นในทางตรงกันข้าม หากตรวจพบว่าความยาวคลื่นลดลงก็จะเรียกปรากฏการณ์นั้นว่า การเคลื่อนไปทางน้ำเงิน
Redshift หรือ การเคลื่อนไปทางแดง
การเคลื่อนไปทางแดงที่เกิดจากปรากฏการณ์ดอปเพลอร์เกิดขึ้นเมื่อแหล่งกำเนิดแสงเคลื่อนที่ห่างออกไปจากผู้สังเกต เช่นเดียวกับการเคลื่อนดอปเปลอร์ซึ่งความถี่จะเปลี่ยนแปลงลดลงเมื่อต้นกำเนิดเสียงเคลื่อนห่างออกไป ฟิสิกส์ดาราศาสตร์สเปกโตรสโกปีอาศัยปรากฏการณ์ดอปเพลอร์เช่นนี้ในการคำนวณการเคลื่อนที่ของวัตถุทางดาราศาสตร์ที่อยู่ในที่ห่างไกลได้
ถ้างงลองดูภาพนี้ การเคลื่อนไปทางแดงและการเคลื่อนไปทางน้ำเงิน
---------------------
ขอตัดเข้าโฆษณาก่อนยังเขียนไม่เสร็จครับ
ถ้าถูกใจกระทู้รบกวนกดบวกด้วยนะครับ ขอบคุณครับ