[CR] อยู่อย่างเกาหลี ตอน เข้าจิมจิลบังครั้งแรก?(18+)

สวัสดีค่ะ เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ที่ไปสัมผัสมาด้วยตัวเองเมื่อปีที่แล้ว
เคยเล่าเรื่องนี้แล้วหนึ่งครั้งในบล็อกของตัวเอง แต่มีเพื่อนๆ พี่น้องที่สนใจอยากไปลองใช้บริการ
คอยแวะเวียนส่งข้อความมาถามบ่อยๆ เลยขออนุญาตรีวิวใหม่ในกระทู้พันทิปนี้ เผื่อจะเป็นทางเลือก
ใหม่ให้แก่ใครที่คิดจะมาเที่ยวเกาหลี อาจจะมาครั้งแรกหรือหลายครั้ง แต่อยากลองทำอะไรแปลกใหม่
ไม่ซ้ำรอยทัวร์ ขอนำเสนอทริปนี้แด่ผู้กล้าทุกท่านค่ะ ^^ (ทำไมต้องพึ่งความกล้า ลองมาอ่านกันดูฮะ)

- กระทู้แรกในพันทิป พยายามตั้งใจไม่ให้สะกดผิดนะคะ แต่เพื่อความเพลิดเพลินของผู้อ่าน
จึงขออนุญาตใช้คำแปลกๆ บ้าง อย่าถือสาเอาสาระเต็มร้อยที่กระทู้นี้เลยค่ะ
- ติด 18+ เพราะคิดว่าต้องมีคนคิดลึก แต่เอาจริงๆ ที่ประเทศเกาหลีมันไม่จำกัดอายุนะ
- รูปที่ลงในกระทู้ถ่ายเองทั้งหมดด้วยกล้องมือถือบ้านๆ เมื่อปีก่อน ไม่มีภาพสวยงามมาฝาก ขออภัยด้วยค่ะ
- จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ถ้าไม่คอมเม้นท์ด้วยคำหยาบคายนะคะ จขกท รักความสงบค่ะ

^^

ท้าวความไปเมื่อหนึ่งปีก่อนตอนที่เพิ่งย้ายมาอยู่เกาหลีในฐานะแม่บ้านเกาหลีวัยรุ่น
แต่งงานมาได้ไม่นาน ยังไม่พร้อมที่จะมีลูก ยังติดวิถีการใช้ชีวิตแบบกึ่งนักเรียนภาษา กึ่งนักท่องเที่ยว
ถ้าเวลาว่างจากเวลาเรียนเมื่อไหร่ ก็จะชอบไปสำรวจที่เที่ยว ที่กินไปเรื่อย จนเพื่อนแซวว่า
“หนึ่งเดือนเหมือนแกเป็นแม่บ้าน 4 วัน อีกยี่สิบกว่าวันที่เหลือนี่เป็นนักท่องเที่ยวใช่ไหม” ฮ่าๆ

หลังจากที่ไปมาทั้งที่เที่ยวประวัติศาสตร์ วัง หมู่บ้านโบราณ จุดชมวิว สวนสนุก ย่านชอปปิ้ง
ที่เที่ยวกลางคืน ฯลฯ  ไปทั้งแบบที่นักท่องเที่ยวไปกัน ยันที่ๆ เฉพาะคนเกาหลีเท่านั้นที่รู้ก็ไปลองมาเยอะ
จนฝาชี (แปลว่าสามี แต่ไม่อยากเรียกตรงๆ รู้สึกหวานเลี่ยนเกิน ขอแทนว่าฝาชีแทนนะฮะ)
นางบอกว่า ลองทำอะไรมาตั้งเยอะแล้ว ทำไมเธอไม่ไปลองเข้า “จิมจิลบัง” ดูหละ?

สำหรับคนที่ไม่เคยไปจิมจิลบัง และอาจได้ยินถึงชื่อเสียงเรียงนามถึงความสะพรึงของการเข้าใช้บริการ
ณ จิมจิลบัง คงจะมีอารมณ์คล้ายๆ กัน เพราะชาวไทยอย่างเราพอโตมาจนถึงวัยที่ดูแลตัวเองได้ (ประถมปลาย?)
คุณครูผู้ปกครองก็ไม่ให้เราแก้ผ้ารวมกับคนอื่นแล้ว ทำให้พวกเราชาวไทยไม่คุ้นชินกับการ
ที่ต้องปลดเปลื้องผ้าทุกชิ้นต่อหน้าคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งคนรู้จัก เพื่อนสนิท หรือญาติตัวเอง

แต่คนประเทศเกาหลี การไปจิมจิลบังถือเป็นเรื่องปกติ และดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกยามว่างยามพักผ่อน
ช่วงวันหยุดด้วย ที่จะเข้าไปนั่งอาบน้ำ แช่น้ำแร่ ขัดตัว กิจกรรมแก้ผ้าหมู่รวมกันแบบไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น
แค่ฟังอย่างเดียวก็สยิวกิ้ว ขนลุก  ปฏิเสธฝาชีหัวเด็ดตีนขาดว่าจะไม่ไปเด็ดขาด!
แต่หลังจากที่ใช้ชีวิตหลังแต่งงาน เอ็นจอยหมูย่าง ไส้ย่าง สารพัดอาหาร จนร่างแตกถึงขั้นวิกฤติ
ไม่ได้การละ ชั้นต้องไปเข้าฟิตเนส และนั่นคือ  Culture shock  ใหญ่ๆ ที่เปลี่ยนความคิดไปตลอดกาล

ตอนที่เราตระเวนหาฟิตเนสเล่น ก็ยังแอบยึดติดความเคยชิน สมัยตอนอยู่ไทย ที่ตอนนั้นเคยใช้ฟิตเนสของโรงแรม
ที่แม่เป็นเมมเบอร์ มันก็จะสะอาด มีทั้งห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนชุด ห้องอาบน้ำ ห้องซาวน่าสตรีม เป็นสัดส่วน
เราเลยเลือกไปฟิตเนสโครงการอพาทเม้นท์ที่หนึ่งเพราะเห็นว่าเครื่องเล่นทันสมัย กว้างใหญ่ (และเทรนเนอร์ก็แซ่บเฟร่ออ)
รวมๆ บรรยากาศดี ก็เลยตัดสินใจสมัคร จ่ายเงินเสร็จเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า “เอ้อ แล้วห้องน้ำที่นี่หน้าตาเป็นไง”
พอเราถามพนักงานว่า ขอดูห้องน้ำได้ไหมคะ? พนักงานก็ทำหน้ามึนๆ แล้วก็บอกว่า ห้องน้ำอยู่ด้านนอกตรงลิฟท์
เราก็เดินไปดู อ้าว อันนี้มันเป็นแค่ห้องสุขาหนิ แล้วห้องอาบน้ำอยู่ไหนหละ? แต่ขี้เกียจไปถามกับเซลล์อีก เลยคิดเองว่า
ห้องน้ำก็ต้องสะอาดแหละอยู่ข้างใน เค้าคงแยกห้องสุขาไว้ข้างนอก เพราะเรื่องระบายอากาศกับกลิ่นมั้ง
เลยไม่ได้เอะใจอะไร จนวันที่เราตั้งใจมาใช้บริการครั้งแรก…
ชื่อสินค้า:   dragon hill spa
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่