เราเคยไปสังขละบุรีมาแล้วครั้งหนึ่ง....ถ้าจำไม่ผิดคงจะประมาณ 3 ปีทีแล้ว
ตอนนั้นเราไปกับแฟนแล้วก็เพื่อนแฟนอีก 3 คน ความรู้สึกตอนกลับมาจากเที่ยวครั้งนั้น บอกกับตัวเองไว้ในใจเลยว่า
"ฉันจะต้องกลับไปเที่ยวเมืองเล็กๆที่แสนจะสมถะเมืองนี้อีกให้ได้"
ก็ไม่แน่ใจว่าอะไรในเมืองเล็กๆที่เหมือนจะเป็นเมืองธรรมดาๆเมืองนี้กันแน่ที่ดึงดูดให้เราอยากกลับไปอีกครั้ง
ครั้งนี้จะเรียกว่าโอกาสเหมาะก็ไม่น่าจะใช่ เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่กระทันหันมากว่าเราจะต้องไปเที่ยวคนเดียวให้ได้แล้วล่ะ มันถึงเวลาแล้ว (เวลาอะ...ไร?)
แล้วเมืองไหนล่ะที่เรารู้สึกว่าเหมาะสมกับการเดินเที่ยวเตร็ดเตร่คนเดียว นั่งอ่านหนังสือสบายๆ นั่งไขว่ห้างในร้านกาแฟเล็กๆที่คนไม่พลุกพล่าน พลางฟังเพลงจาก list เพลงโปรดในมือถือไปเรื่อยๆ พอรู้สึกเบื่อก็ค่อยบิดขี้เกียจอย่างเชื่องช้า เดินไปจ่ายเงินค่ากาแฟ แล้วบึ่งรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กกะทัดรัดที่เช่ามา ขับเอื่อยๆไปตามทางให้ลมเย็นๆปะทะใบหน้า....
เกาะเสม็ด….คนคงเยอะเกินไป และหมั่นไส้คนที่พากันจูงมือเดินไปเป็นคู่
เกาะล้าน....คนคงไปกองกันอยู่บนนั้นเป็นล้านสมชื่อเกาะ
หัวหิน....ต่างกับสองที่ข้างบนตรงไหนหรือ? คนค่อนประเทศไทยคงจะไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่นเป็นแน่
………………
……………..
………………
สังขละบุรีสิ....ใช่แล้วสังขละบุรี ใครจะนิยมไปสังขละบุรีช่วงนี้ล่ะ ช่วงนี้ฝนน่าจะตกบ่อยๆ คงไม่ค่อยมีใครไป
หลังจากตัดสินใจแน่วแน่และมุ่งมั่นแล้วว่าจุดหมายปลายทางที่จะพาหัวใจดวงเล็กๆดวงนี้ไปพักพิงคือที่ไหน
ก็เริ่มหาข้อมูลเรื่องการเดินทาง และที่พัก หมายมั่นว่าจะหาที่พักที่ได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ และได้บรรยากาศของป่าเขาลำเนาไพร ไม่ต้องอาศัยแอร์คอนดิชชั่น แล้วเราก็เจอที่หนึ่งที่ตรงใจ “ชื่นใจเฮาส์” ซึ่งมันท้าทายตรงที่ว่า ที่นี่ไม่รับจองห้อง
ถ้าอยากจะมีโอกาสได้นอนที่นี่น่ะเหรอ....เธอต้องเสี่ยงดวงวัดใจ เดินไปถามเจ้าข้องในวันที่เธอจะเข้าไปพักนั่นแหละว่า
“พี่คะ ห้องพักยังเหลืออยู่มั้ยคะ”
เฮ้ย!!นี่มันที่พักในฝันชัดๆ เหมาะกับอารมณ์ศิลปินที่มีอยู่อย่างท่วมท้นตอนนี้ยิ่งนัก
เลือกที่พักได้แล้ว...ต่อไปเรื่องเดินทาง จะไปสังขละฯ อย่างไรดี? เดินทางอย่างไรให้ประหยัดเวลา ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า
‘ไปนอนได้แค่คืนเดียว เพราะไม่ได้เตรีมการณ์ไว้ล่วงหน้า และยังมีอีกสองชีวิตที่เราต้องทิ้งไว้ที่ห้องให้หุงหาอาหารเอง สองคืนนานเกินไป เราทิ้งสองชีวิตนั้นไว้ไม่ได้’
แน่นอนว่า ‘รถตู้’ ตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด
ที่พักพร้อม เรื่องการเดินทางสบายหายห่วง เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน และแวะทำธุระกับเพื่อนเล็กน้อยเสร็จสรรพเรียบร้อย
เรารีบกลับห้องมาเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมอุปกรณ์ยังชีพทุกอย่างที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ส่วนสูงเพียงร้อยห้าสิบต้นๆ ซึ่งต้องเดินทางไปต่างถิ่นเพียงคนเดียวพึงจะมี จัดแจงเตรียมอาหารให้สองชีวิตน้อยๆที่ต้องทิ้งไว้ที่ห้อง 2 วัน แล้วอาบน้ำนอน
นอน......
นอน......
นอน.....
นอนไม่หลับ....กระสับกระส่าย พลิกไปพลิกมาจนตีสองโดยประมาณ จึงข่มตาหลับลงได้
ตึ่ง ตึ๊ง ตึง ตึ่ง ตึ๊ง เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในมือถือดังขึ้น เราหยิบมือถือขึ้นมาดูอย่างงัวเงีย
ตีสาม.....เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีสาม เพราะตั้งใจว่าจะไปให้ทันขึ้นรถตู้เที่ยวไม่เกินตีห้า เพื่อที่ว่าจะได้ไปถึงสังขละบุรีก่อน 11 โมง และสามารถเข้าไปนอนที่ ‘ชื่นใจเฮาส์’ ได้อย่างสบายอุราฟ้าบันเทิง
อาบน้ำแต่งตัว สะพายเป้ กระเป๋ากล้องและบอกลาลูกน้อยทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วก็ออกเดินทางไปขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต รถตู้จอดอยู่ที่ชานชาลาที่เก้า เศษสามส่วนสี่.....เพื่อนเล่นเหรอ รถตู้จอดอยู่ที่ชาลาที่สี่เศษสามส่วนเก้า
เอาจริงๆแล้ว...รถตู้จอดอยู่ที่ชานชาลาที่ 2 หมายเลข 206 เราเดินไปถึงก็ขอซื้อตั๋ว “ไปเมืองกาญฯค่ะพี่” จากนั้นควักเงินในกระเป๋าตามจำนวนที่พี่คนขับสุดเท่ห์บอก “120 บาทครับ”
....รถเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาตอนเกือบๆตีห้า หัวใจดวงน้อยๆเต้นเป็นจังหวะแทงโก้ด้วยความตื่นเต้น
ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา เราหยิบมือถือขึ้นมา เสียบหูฟัง แล้วเปิดเพลงดังของศิลปินวงโปรดเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของนักเดินทางที่มีอยู่ในตัวให้ตื่นขึ้นมา “ออกไปมองฟ้าแล้วน้ำที่กว้างใหญ่....”
การเดินทางในฝันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
โปรดกดฟังเพลงเพื่อความสมจริงทางอารมณ์และได้สุนทรียะแห่งการเดินทาง
สองลูกน้อยของเรา
[CR] แบกเป้ตะลุยเดี่ยว เที่ยวสังขละบุรี ไม่เน้นสถานที่ เน้นแต่คุณภาพของความรู้สึก
ตอนนั้นเราไปกับแฟนแล้วก็เพื่อนแฟนอีก 3 คน ความรู้สึกตอนกลับมาจากเที่ยวครั้งนั้น บอกกับตัวเองไว้ในใจเลยว่า
"ฉันจะต้องกลับไปเที่ยวเมืองเล็กๆที่แสนจะสมถะเมืองนี้อีกให้ได้"
ก็ไม่แน่ใจว่าอะไรในเมืองเล็กๆที่เหมือนจะเป็นเมืองธรรมดาๆเมืองนี้กันแน่ที่ดึงดูดให้เราอยากกลับไปอีกครั้ง
ครั้งนี้จะเรียกว่าโอกาสเหมาะก็ไม่น่าจะใช่ เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่กระทันหันมากว่าเราจะต้องไปเที่ยวคนเดียวให้ได้แล้วล่ะ มันถึงเวลาแล้ว (เวลาอะ...ไร?)
แล้วเมืองไหนล่ะที่เรารู้สึกว่าเหมาะสมกับการเดินเที่ยวเตร็ดเตร่คนเดียว นั่งอ่านหนังสือสบายๆ นั่งไขว่ห้างในร้านกาแฟเล็กๆที่คนไม่พลุกพล่าน พลางฟังเพลงจาก list เพลงโปรดในมือถือไปเรื่อยๆ พอรู้สึกเบื่อก็ค่อยบิดขี้เกียจอย่างเชื่องช้า เดินไปจ่ายเงินค่ากาแฟ แล้วบึ่งรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กกะทัดรัดที่เช่ามา ขับเอื่อยๆไปตามทางให้ลมเย็นๆปะทะใบหน้า....
เกาะเสม็ด….คนคงเยอะเกินไป และหมั่นไส้คนที่พากันจูงมือเดินไปเป็นคู่
เกาะล้าน....คนคงไปกองกันอยู่บนนั้นเป็นล้านสมชื่อเกาะ
หัวหิน....ต่างกับสองที่ข้างบนตรงไหนหรือ? คนค่อนประเทศไทยคงจะไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่นเป็นแน่
………………
……………..
………………
สังขละบุรีสิ....ใช่แล้วสังขละบุรี ใครจะนิยมไปสังขละบุรีช่วงนี้ล่ะ ช่วงนี้ฝนน่าจะตกบ่อยๆ คงไม่ค่อยมีใครไป
หลังจากตัดสินใจแน่วแน่และมุ่งมั่นแล้วว่าจุดหมายปลายทางที่จะพาหัวใจดวงเล็กๆดวงนี้ไปพักพิงคือที่ไหน
ก็เริ่มหาข้อมูลเรื่องการเดินทาง และที่พัก หมายมั่นว่าจะหาที่พักที่ได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ และได้บรรยากาศของป่าเขาลำเนาไพร ไม่ต้องอาศัยแอร์คอนดิชชั่น แล้วเราก็เจอที่หนึ่งที่ตรงใจ “ชื่นใจเฮาส์” ซึ่งมันท้าทายตรงที่ว่า ที่นี่ไม่รับจองห้อง
ถ้าอยากจะมีโอกาสได้นอนที่นี่น่ะเหรอ....เธอต้องเสี่ยงดวงวัดใจ เดินไปถามเจ้าข้องในวันที่เธอจะเข้าไปพักนั่นแหละว่า
“พี่คะ ห้องพักยังเหลืออยู่มั้ยคะ”
เฮ้ย!!นี่มันที่พักในฝันชัดๆ เหมาะกับอารมณ์ศิลปินที่มีอยู่อย่างท่วมท้นตอนนี้ยิ่งนัก
เลือกที่พักได้แล้ว...ต่อไปเรื่องเดินทาง จะไปสังขละฯ อย่างไรดี? เดินทางอย่างไรให้ประหยัดเวลา ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า
‘ไปนอนได้แค่คืนเดียว เพราะไม่ได้เตรีมการณ์ไว้ล่วงหน้า และยังมีอีกสองชีวิตที่เราต้องทิ้งไว้ที่ห้องให้หุงหาอาหารเอง สองคืนนานเกินไป เราทิ้งสองชีวิตนั้นไว้ไม่ได้’
แน่นอนว่า ‘รถตู้’ ตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด
ที่พักพร้อม เรื่องการเดินทางสบายหายห่วง เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน และแวะทำธุระกับเพื่อนเล็กน้อยเสร็จสรรพเรียบร้อย
เรารีบกลับห้องมาเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมอุปกรณ์ยังชีพทุกอย่างที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ส่วนสูงเพียงร้อยห้าสิบต้นๆ ซึ่งต้องเดินทางไปต่างถิ่นเพียงคนเดียวพึงจะมี จัดแจงเตรียมอาหารให้สองชีวิตน้อยๆที่ต้องทิ้งไว้ที่ห้อง 2 วัน แล้วอาบน้ำนอน
นอน......
นอน......
นอน.....
นอนไม่หลับ....กระสับกระส่าย พลิกไปพลิกมาจนตีสองโดยประมาณ จึงข่มตาหลับลงได้
ตึ่ง ตึ๊ง ตึง ตึ่ง ตึ๊ง เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในมือถือดังขึ้น เราหยิบมือถือขึ้นมาดูอย่างงัวเงีย
ตีสาม.....เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีสาม เพราะตั้งใจว่าจะไปให้ทันขึ้นรถตู้เที่ยวไม่เกินตีห้า เพื่อที่ว่าจะได้ไปถึงสังขละบุรีก่อน 11 โมง และสามารถเข้าไปนอนที่ ‘ชื่นใจเฮาส์’ ได้อย่างสบายอุราฟ้าบันเทิง
อาบน้ำแต่งตัว สะพายเป้ กระเป๋ากล้องและบอกลาลูกน้อยทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วก็ออกเดินทางไปขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต รถตู้จอดอยู่ที่ชานชาลาที่เก้า เศษสามส่วนสี่.....เพื่อนเล่นเหรอ รถตู้จอดอยู่ที่ชาลาที่สี่เศษสามส่วนเก้า
เอาจริงๆแล้ว...รถตู้จอดอยู่ที่ชานชาลาที่ 2 หมายเลข 206 เราเดินไปถึงก็ขอซื้อตั๋ว “ไปเมืองกาญฯค่ะพี่” จากนั้นควักเงินในกระเป๋าตามจำนวนที่พี่คนขับสุดเท่ห์บอก “120 บาทครับ”
....รถเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาตอนเกือบๆตีห้า หัวใจดวงน้อยๆเต้นเป็นจังหวะแทงโก้ด้วยความตื่นเต้น
ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา เราหยิบมือถือขึ้นมา เสียบหูฟัง แล้วเปิดเพลงดังของศิลปินวงโปรดเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของนักเดินทางที่มีอยู่ในตัวให้ตื่นขึ้นมา “ออกไปมองฟ้าแล้วน้ำที่กว้างใหญ่....”
การเดินทางในฝันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น