พาเม่าไปเที่ยวทะเลกัน

ช่วงนี้เม่าอาจจะติดหุ้นกัน ทำให้บางบริษัทเห็นว่า จะให้ผู้ร่วมลงทุน

เครียดอีกไม่ได้แล้ว เลยจะพาไปผ่อนคลายที่ทะเลในต่างประเทศ  

ไปเจอ น้ำเย็น ใสใส  อากาศไม่ร้อน   เหมาะแก่การปักหลักอาศัย

เม่าไม่ต้องกังวลนะครับ หลับให้สบาย ให้เราดูแลคุณเอง








แถม บทความให้อ่าน จากเฮียหยุ่น  เอาไปอ่านขณะนั่งที่เก้าอี้ ริมหาดให้สบาย



แหล่งหลบภาษี (tax havens)ระดับโลกอยู่ไหน? โปรดติดตาม

ถ้าอยากรู้ว่าทำไมธนาคารสวิสที่ชื่อ UBS AG สาขาที่สิงคโปร์ยังไม่ตอบคำถามเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท Ample Rich ของทักษิณ ชินวัตรและลูกเมียที่หมู่เกาะ British Virgin Island (BVI) ตามคำขอของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำอันเป็นการสร้างความเสียหายต่อรัฐ
(คตส.), ก็ติดตามรายการ “ชีพจรโลกกับสุทธิชัย หยุ่น” เวลา ๔ ทุ่มทางช่อง ๙ อสมท. คืนนี้ครับ

เพราะเราไปเจาะลึกถึงหมู่เกาะและประเทศต่าง ๆ ที่ทำให้นักธุรกิจทั้งหลายมาจดทะเบียนบริษัทของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี และเพื่อไม่ต้องตอบคำถามของประชาชนและรัฐบาลของตัวเอง

รายการคืนนี้จะย้อนไปวิเคราะห์ที่มาที่ไปของคำว่า “Swiss bank accounts” หรือ “บัญชีธนาคารสวิส” ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องอื้อฉาวเพราะนักการเมืองหลายประเทศที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงและฉ้อฉลเงินทองของประชาชนนั้นมักจะแอบไปฝากเงินเหล่านั้นในธนาคารสวิสฯ เพื่อปิดบังซ่อนเร้นอาชญกรรมต่อประเทศของตัวเอง...และโยกย้ายเงินผิดกฎหมายเหล่านั้นไป “ฟอก” ในที่ต่าง ๆ

ตัวอย่างที่เกรียวกราวมากในเอเชียคืออดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอสแห่งฟิลิบปินส์ที่ถูกประชาชนโค่นล้ม และเมื่อสอบสวนกันอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็พบว่าเขาเอาเงินที่โกงจากประชาชนไปฝากไว้ที่ธนาคารสวิสฯนั่นแหละ

คณะกรรมการสอบสวนของฟิลิบปินส์ต้องกดดันรัฐบาลสวิสเซอร์แลนด์อย่างหนักและต่อเนื่องจึงสามารถเจาะเข้าไปถึงบัญชี “นิรนาม” เหล่านั้น และเมื่อสวิสเซอร์แลนด์ถูกกล่าวหาว่าช่วยนักการเมืองฉ้อฉลก่ออาชญกรรมต่อประเทศตัวเอง, ถือเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” ในการกระทำความผิดได้, รัฐบาลสวิสฯจึงยอมแก้กฎหมายหลายประเด็นเพื่อบังคับให้ระบบธนาคารของตัวเองต้องเปิดเผยข้อมูลและร่วมมือกับการสอบสวนการกระทำที่ผิดกฎหมายของ “ลูกค้า” เหล่านี้

ต่อมา, หลายประเทศรวมทั้งเกาะแก่งหลายแห่งเช่น BVI ในทะเลแครีเบียนหรือ Bermuda ก็กลายเป็นที่ที่บริษัทและนักธุรกิจจากหลายประเทศที่ต้องการจะหา “ที่พักพิงภาษี” หลบมาจดทะเบียนและทำธุรกิจผ่าน (ทางกระดาษ) ที่นั่น

ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้, สิงคโปร์ก็ปรับเปลี่ยนกฎหมายของตัวเองเพื่อจะทำตัวเป็น
“สวิสเซอร์แลนด์” สำหรับเอเชีย...นั่นคือให้สิทธิ์ผู้มาฝากเงินหรือลงทุนในบางประเภทเปิด “บัญชีปิด” ที่ไม่ต้องตอบคำถามของใครและไม่ต้องเปิดเผยให้สาธารณชนรู้ ...เพราะสิงคโปร์รู้ว่าบริการอย่างนี้จะเป็นที่ต้องการของนักธุรกิจและนักการเมืองในเอเซียที่มีปัญหากับรัฐบาลของตัวเองหรือสามารถถูกสอบสวนไปถึงต้นตอของแหล่งเงินได้...จึงเปิดบริการเช่นนี้เพื่อทำให้ตัวเองเป็น “ศูนย์กลางการเงิน” ในทุก ๆ ด้านเพราะรู้ว่าประเทศอื่นที่มีกลไกการตรวจสอบเรื่องเงินทองเข้มข้นก็ไม่สามารถเสนอบริการอย่างนี้มาแข่งกับตัวเองได้

ตั้งแต่มีเรื่องการขายหุ้นชินคอร์ปจากตระกูลของอดีตนายกฯทักษิณ, มีชื่อ Ample Rich ที่ไปจดทะเบียนที่หมู่เกาะ BVI และมีคำประกาศของที่ปรึกษาด้านกฎหมายของทักษิณที่บอกนักข่าวว่า “วันนี้, ผมไม่ได้รับมอบหมายมาพูดเรื่องจริยธรรม”  (เมื่อถูกถามเรื่องทำไมคุณทักษิณและครอบครัวไม่เสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียวในเมื่อขายหุ้นให้เทมาเส็กของสิงคโปร์ได้เงินมาตั้ง ๗๓,๐๐๐ ล้านบาท) คนไทยก็สงสัยว่าคำว่า “tax haven” หรือ “ที่พักหลบภาษี” นั้นมันคืออะไรกันแน่? เขาทำได้อย่างไร? ถ้านักการเมืองไทยแอบเอาเงินที่ได้มาอย่างน่าสงสัยไปฝากที่นั่นโดยที่เราตรวจสอบไม่ถึง, เรามีวิธีการจะเรียกร้องให้เขาเปิดเผยข้อมูลได้หรือไม่?

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบสำหรับคนไทยทั้งประเทศที่ยังมีความสงสัยคลางแคลงว่าพวกเกาะแก่งหลบและเลี่ยงภาษีเหล่านี้, มันอยู่ที่ไหนและมีกฎกติกามารยาทอย่างไร?


เครดิส ที่มา http://www.oknation.net/blog/black/2007/06/25/entry-1

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่