ตำรวจไซเบอร์ ช่วยติดตามอายัดเงิน 1.9 ล้าน หลังแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงผู้เสียหายโอนเงิน 2 ล้านบาท

วันนี้ (5 ก.พ.2568) ผู้เสียหายถูกขบวนการคอลเซนเตอร์หลอกลวง เดินทางเข้าพบ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หลังถูกขบวนการคอลเซนเตอร์หลอกให้โอนเงินจำนวน 2 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ก่อนที่คดีจะถูกโอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจไซเบอร์

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้สูงอายุได้ไปแจ้งความไว้เมื่อวัน 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ถูกกลุ่มคอลเซนเตอร์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกระทรวงการคลังหลอก หลังเกิดเหตุได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนและติดตามเงินของผู้เสียหายโดยได้ให้ทีมประสานงานกับธนาคารเพื่อตรวจสอบและระงับธุรกรรมต่อจากที่ทาง ตำรวจท้องที่ทำไว้ โดยพบว่าขบวนการคอลเซนเตอร์มีการโอนเงิน 2-3 ทอด ไปถึงธนาคารปลายทาง แต่เบื้องต้นทางตำรวจร่วมกับธนาคารสามารถระงับเงินที่ธนาคารปลายทางได้ แต่อาจจะถูกหักค่าธรรมเนียม 200 บาท และขั้นตอนต่อไปก็จะทำหมายอายัดเพื่อนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย ส่วนการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า หรือผู้ร่วมกันกระทำความผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มคอลเซนเตอร์ที่หลอกลวงผู้เสียหายพบว่า ได้มีการโทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง และแจ้งว่าผู้เสียหายมียอดเงินซื้อสลากออมสิน เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ มี 4 ล้านบาท และหากไม่ทำให้ถูกต้องหรือทำให้เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่า 2 ล้านบาท จะถูกเก็บภาษี โดยมีการล่อลวงให้ผู้เสียหายโหลดแอปพลิเคชันธนาคารมาไว้ในโทรศัพท์มือถือจากนั้นก็สอนให้ผู้เสียหายเข้าไปใน แอปพลิเคชันของธนาคารและทำธุรกรรมรวมถึงสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนจะดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท