หากชีวิตคุณกำลังประสบปัญหา กำลังเครียด ต้องการกำลังใจ หรืออยู่ในช่วงที่ไม่มีความสุข ขอให้คุณอยู่ให้ห่างหนังเรื่องนี้เอาไว้จะดีที่สุด
Confession หนังของผู้กำกับ Tetsuya Nakashima จาก Memories of Matsuko ที่เราชื่นชอบและหลงรัก เราเคยหดหู่สุดๆมาแล้วหลังจากดู Memories of Matsuko จบ และพอเห็นหน้าหนังของ Confessions สิ่งที่เรากังวลมากๆก็คือ หนังมันจะหดหู่หนักกว่าเดิมหรือเปล่า และพอเราดูไปได้ประมาณ 30 นาที เราแทบจะอยากปิดไม่ดูต่อละ มันทำได้ถึงอารมณ์มากๆ
พล็อตเรื่องที่ถือว่าสุดโต่งเรื่องนี้ เราไม่รู้เลยว่าจะได้เจออะไรในหนังเรื่องนี้ และสิ่งที่เราเจอ มันก็เกินคาดเดาจริงๆ นี่เป็นหนังที่สร้างความประหลาดใจให้ผมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง หนังเริ่มเรื่องด้วยตัวละครอย่างคุณครู Yuko Moriguchi ออกมาพูดหน้าห้องกับเด็กในชั้นเรียน ว่าเธอกำลังจะลาออก แล้วเธอก็ค่อยๆเล่าเหตุผลว่า ทำไมเธอถึงต้องลาออก ผมฟังเธอพูดจนจบ จากนั้นผมอึ้งไปหมดเลย ประกอบกับดนตรีประกอบก็ขึ้นมาส่งอารมณ์สุดๆ และจากนั้นมหากาพย์การแก้แค้นก็เริ่มขึ้น
การลำดับภาพของหนังเรื่องนี้ทำได้ดีมาก แม้ว่าหนังจะไม่ได้เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง การตัดสลับเหตุการณ์ในอดีต เหตุการณ์ในความคิดของตัวละคร และการตัดไปมาระหว่างเรื่องหลายๆตัวละคร แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรางงกับเรื่องราวแต่อย่างใด และต้องชม ด้วยการลำดับภาพและเล่าเรื่องแบบนี้ ยิ่งส่งให้หนังทวีความน่าสนใจและน่าติดตามยิ่งขึ้นไปอีก
เพลงประกอบของหนัง มันเข้ากับเรื่องมากๆ บางเพลงให้อารมณ์ล่องลอย ถวิลหา บางเพลงให้อารมณ์หม่นหดหู่ บางเพลงให้อารมณ์ถึงความหวัง
งานภาพ ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบ หลายๆฉากที่ตัดภาพเหตุการณ์เร็วๆ แสงฟุ้งๆ (ผมไม่รู้เรียกว่าเทคนิคอะไร) หรือภาพฝนตรงกระทบพื้นหรือเท้าที่เหยียบย่ำสายฝน มันสวยงามมากและมันมักจะมาถูกจังหวะอารมณ์ของหนังด้วย
ตัวละครที่น่าสนใจสำหรับผม คือ Shuya Watanabe หนังค่อนข้างเล่าเรื่อง Shuya ให้เป็นตัวเด่น ซึ่งที่มาของตัวละครมันมาจากปัญหาครอบครัวอย่างแท้จริง พ่อแม่ที่เลิกกัน มักจะสร้างปัญหาให้เด็กแทบจะทุกคน บางคนที่อาจไม่แสดงออกว่ามีปัญหาอะไร แต่ผมเชื่อว่าลึกๆทุกคนมีปัญหาด้านจิตใจทั้งนั้น อยู่ที่ใครจะกลบฝังมันไว้ได้มิดชิดกว่าเท่านั้นเอง
พอเลิกกับพ่อ แม่ก็ทิ้ง Shuya ไป ซึ่ง Shuya รักแม่มาก อยากกลับไปเจอแม่อีกครั้ง อยากพิสูจน์ตัวเองให้แม่เห็นว่าตัวเองมีความสามารถ ซึ่งเป็นที่มาของการกระทำที่เลวร้ายทั้งหลาย หนังอาจจะเล่าที่มาว่าสิ่งที่ Shuya ทำ เกิดจากต้องการให้แม่ยอมรับ ต้องการกลับไปเจอแม่ แต่ส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่า Shuya มีความต้องการเกินไปกว่าแค่การพบหน้าแม่แล้ว Shuya ต้องการได้รับความสนใจ ต้องการให้คนยอมรับ ผมเชื่อว่าแม้เรื่องราวจะจบลงที่แม่กลับมาอยู่ด้วยกันกับ Shuya และยอมรับในตัวของ Shuya แต่ผลสุดท้าย ผมคิดว่า Shuya ก็ต้องตัดสินใจทำอะไรที่ร้ายแรงอยู่ดี บาดแผลที่มันถูกทำให้เกิดขึ้นแล้ว ผมเชื่อว่ามันไม่มีทางหายไป มันแค่ลืมไปในบางช่วงเวลา เมื่อเรากลับมาเห็นบาดแผลนั้น เราก็จะเจ็บขึ้นมาทุกครั้ง
เราเห็นภาพสังคมญี่ปุ่นจากหนังเรื่องนี้มันน่ากลัวมาก และนี่คงเป็นเรื่องที่ผู้เขียนบทเรื่องนี้ ต้องการสื่อสารและตั้งคำถามไปยังคนในสังคม ไม่ใช่แค่หนังเรื่องนี้ เราเคยเห็นมาแล้วจาก Tokyo Sonata, All About Lily Chou-Chou หรือจากการ์ตูนสุดฮิตอย่าง 20th Century Boys ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่ประเด็นเรื่องครอบครัว มันคือเรื่องของสังคมภาคใหญ่เลย เพราะเราดูอย่างเหตุการณ์ใน 20th Century Boys มันดูเหมือนจะเล็กน้อยมาก แต่เด็กก็ไม่มีทางออกในการแก้ปัญหา แม้ว่าในหนังหรือการ์ตูนจะค่อนข้างดูโอเวอร์เกินความจริงอยู่บ้าง แต่ผมก็เชื่อว่าเหตุการณ์ประมาณแบบนี้ ต้องเกิดขึ้นจริงที่ญี่ปุ่นแน่ๆ แต่เราอาจจะไม่ค่อยทราบข่าวเท่านั้นเอง
แต่หนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีแต่มุมหดหู่เลวร้ายไปซะทั้งหมด เพราะซีนเล็กๆของตัวละครอย่างเด็กสาว Mizuki Kitahara ที่เกิดความรู้สึกดีๆขึ้นกับ Shuya แม้จะเป็นเพียงความรู้สึกเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม แต่ผมว่ามันบริสุทธิ์มาก มันโรแมนติกมากนะถ้าคิดในมุมของ Mizuki แต่ละซีนที่เป็นภาพความสัมพันธ์ของ Mizuki กับ Shuya มันสวยงามมาก ส่วนตัวผมเชื่อว่า ในทุกช่วงเวลาที่เราประสบพบเจอปัญหาหนักๆในชีวิตและเราคิดว่าคงไม่มีใครในโลกเข้าใจเราอีกแล้ว ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันจะมีคนคนหนึ่งที่เป็นคนที่เข้าใจเราอย่างแท้จริง พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราอย่างเต็มใจและบริสุทธิ์ใจ ขอแค่เราเปิดใจให้เค้าเข้ามา ผมเชื่อว่ามันจะเป็นพลังผลักดันให้เราต่อสู้และจะสามารถผ่านทุกปัญหาไปได้แน่นอน
https://www.facebook.com/MyOwnPrivateFilm/
Confessions – คำสารภาพที่เจ็บปวดรวดร้าว หดหู่ หม่นหมองที่สุด
Confession หนังของผู้กำกับ Tetsuya Nakashima จาก Memories of Matsuko ที่เราชื่นชอบและหลงรัก เราเคยหดหู่สุดๆมาแล้วหลังจากดู Memories of Matsuko จบ และพอเห็นหน้าหนังของ Confessions สิ่งที่เรากังวลมากๆก็คือ หนังมันจะหดหู่หนักกว่าเดิมหรือเปล่า และพอเราดูไปได้ประมาณ 30 นาที เราแทบจะอยากปิดไม่ดูต่อละ มันทำได้ถึงอารมณ์มากๆ
พล็อตเรื่องที่ถือว่าสุดโต่งเรื่องนี้ เราไม่รู้เลยว่าจะได้เจออะไรในหนังเรื่องนี้ และสิ่งที่เราเจอ มันก็เกินคาดเดาจริงๆ นี่เป็นหนังที่สร้างความประหลาดใจให้ผมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง หนังเริ่มเรื่องด้วยตัวละครอย่างคุณครู Yuko Moriguchi ออกมาพูดหน้าห้องกับเด็กในชั้นเรียน ว่าเธอกำลังจะลาออก แล้วเธอก็ค่อยๆเล่าเหตุผลว่า ทำไมเธอถึงต้องลาออก ผมฟังเธอพูดจนจบ จากนั้นผมอึ้งไปหมดเลย ประกอบกับดนตรีประกอบก็ขึ้นมาส่งอารมณ์สุดๆ และจากนั้นมหากาพย์การแก้แค้นก็เริ่มขึ้น
การลำดับภาพของหนังเรื่องนี้ทำได้ดีมาก แม้ว่าหนังจะไม่ได้เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง การตัดสลับเหตุการณ์ในอดีต เหตุการณ์ในความคิดของตัวละคร และการตัดไปมาระหว่างเรื่องหลายๆตัวละคร แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรางงกับเรื่องราวแต่อย่างใด และต้องชม ด้วยการลำดับภาพและเล่าเรื่องแบบนี้ ยิ่งส่งให้หนังทวีความน่าสนใจและน่าติดตามยิ่งขึ้นไปอีก
เพลงประกอบของหนัง มันเข้ากับเรื่องมากๆ บางเพลงให้อารมณ์ล่องลอย ถวิลหา บางเพลงให้อารมณ์หม่นหดหู่ บางเพลงให้อารมณ์ถึงความหวัง
งานภาพ ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบ หลายๆฉากที่ตัดภาพเหตุการณ์เร็วๆ แสงฟุ้งๆ (ผมไม่รู้เรียกว่าเทคนิคอะไร) หรือภาพฝนตรงกระทบพื้นหรือเท้าที่เหยียบย่ำสายฝน มันสวยงามมากและมันมักจะมาถูกจังหวะอารมณ์ของหนังด้วย
ตัวละครที่น่าสนใจสำหรับผม คือ Shuya Watanabe หนังค่อนข้างเล่าเรื่อง Shuya ให้เป็นตัวเด่น ซึ่งที่มาของตัวละครมันมาจากปัญหาครอบครัวอย่างแท้จริง พ่อแม่ที่เลิกกัน มักจะสร้างปัญหาให้เด็กแทบจะทุกคน บางคนที่อาจไม่แสดงออกว่ามีปัญหาอะไร แต่ผมเชื่อว่าลึกๆทุกคนมีปัญหาด้านจิตใจทั้งนั้น อยู่ที่ใครจะกลบฝังมันไว้ได้มิดชิดกว่าเท่านั้นเอง
พอเลิกกับพ่อ แม่ก็ทิ้ง Shuya ไป ซึ่ง Shuya รักแม่มาก อยากกลับไปเจอแม่อีกครั้ง อยากพิสูจน์ตัวเองให้แม่เห็นว่าตัวเองมีความสามารถ ซึ่งเป็นที่มาของการกระทำที่เลวร้ายทั้งหลาย หนังอาจจะเล่าที่มาว่าสิ่งที่ Shuya ทำ เกิดจากต้องการให้แม่ยอมรับ ต้องการกลับไปเจอแม่ แต่ส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่า Shuya มีความต้องการเกินไปกว่าแค่การพบหน้าแม่แล้ว Shuya ต้องการได้รับความสนใจ ต้องการให้คนยอมรับ ผมเชื่อว่าแม้เรื่องราวจะจบลงที่แม่กลับมาอยู่ด้วยกันกับ Shuya และยอมรับในตัวของ Shuya แต่ผลสุดท้าย ผมคิดว่า Shuya ก็ต้องตัดสินใจทำอะไรที่ร้ายแรงอยู่ดี บาดแผลที่มันถูกทำให้เกิดขึ้นแล้ว ผมเชื่อว่ามันไม่มีทางหายไป มันแค่ลืมไปในบางช่วงเวลา เมื่อเรากลับมาเห็นบาดแผลนั้น เราก็จะเจ็บขึ้นมาทุกครั้ง
เราเห็นภาพสังคมญี่ปุ่นจากหนังเรื่องนี้มันน่ากลัวมาก และนี่คงเป็นเรื่องที่ผู้เขียนบทเรื่องนี้ ต้องการสื่อสารและตั้งคำถามไปยังคนในสังคม ไม่ใช่แค่หนังเรื่องนี้ เราเคยเห็นมาแล้วจาก Tokyo Sonata, All About Lily Chou-Chou หรือจากการ์ตูนสุดฮิตอย่าง 20th Century Boys ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่ประเด็นเรื่องครอบครัว มันคือเรื่องของสังคมภาคใหญ่เลย เพราะเราดูอย่างเหตุการณ์ใน 20th Century Boys มันดูเหมือนจะเล็กน้อยมาก แต่เด็กก็ไม่มีทางออกในการแก้ปัญหา แม้ว่าในหนังหรือการ์ตูนจะค่อนข้างดูโอเวอร์เกินความจริงอยู่บ้าง แต่ผมก็เชื่อว่าเหตุการณ์ประมาณแบบนี้ ต้องเกิดขึ้นจริงที่ญี่ปุ่นแน่ๆ แต่เราอาจจะไม่ค่อยทราบข่าวเท่านั้นเอง
แต่หนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีแต่มุมหดหู่เลวร้ายไปซะทั้งหมด เพราะซีนเล็กๆของตัวละครอย่างเด็กสาว Mizuki Kitahara ที่เกิดความรู้สึกดีๆขึ้นกับ Shuya แม้จะเป็นเพียงความรู้สึกเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม แต่ผมว่ามันบริสุทธิ์มาก มันโรแมนติกมากนะถ้าคิดในมุมของ Mizuki แต่ละซีนที่เป็นภาพความสัมพันธ์ของ Mizuki กับ Shuya มันสวยงามมาก ส่วนตัวผมเชื่อว่า ในทุกช่วงเวลาที่เราประสบพบเจอปัญหาหนักๆในชีวิตและเราคิดว่าคงไม่มีใครในโลกเข้าใจเราอีกแล้ว ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันจะมีคนคนหนึ่งที่เป็นคนที่เข้าใจเราอย่างแท้จริง พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราอย่างเต็มใจและบริสุทธิ์ใจ ขอแค่เราเปิดใจให้เค้าเข้ามา ผมเชื่อว่ามันจะเป็นพลังผลักดันให้เราต่อสู้และจะสามารถผ่านทุกปัญหาไปได้แน่นอน
https://www.facebook.com/MyOwnPrivateFilm/