คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
3. ตอบไม่ได้ ผลไม่ได้บอกชัดเจน
ไม่รู้ว่าเจอเม็ดเลือดแดง หรือเจอแค่ positive occult blood (เป็นการตรวจทางเคมี ไม่ได้เห็นเม็ดเลือดแดงโดยตรง)
และถึงแม้จะรู้ว่าเป็นอย่างไหน ก็ยังบอกสาเหตุไม่ได้อยู่ดี คนที่มีหน้าที่บอกสาเหตุคือ แพทย์
อย่างไรก็ตาม เขาให้ตรวจซ้ำ เพราะต้องการให้แน่ใจว่ามีเลือดออกจริงหรือไม่
เวลาไปตรวจ ในนั้นไม่ได้บอกไว้ แต่สิ่งที่ควรทำคือ
- ถ้าตรวจปัสสาวะอย่างเดียว ไม่ต้องงดน้ำอาหารไป จะได้ไม่ขาดน้ำ เพราะขาดน้ำมากๆมีผลต่อผลตรวจปัสสาวะบางอย่างเพี้ยนได้
(แต่ถ้าต้องตรวจเลือดบางอย่างแล้วต้องอดอาหาร ก็อีกเรื่องหนึ่ง ฉะนั้นควรสอบถามทางรพ.ก่อนว่าจะให้งดน้ำงดอาหารหรือไม่อย่างไร ... ถามคนที่รู้เรื่องหน่อยนะ เพราะจนท.รพ.บางคนก็เกินจะทนไหว ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย)
- อย่าไปตรวจช่วงที่มีการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และหากออกกำลังกายประจำ ก็งดสักหลายวันก่อนไปตรวจก็ดี
เพราะถ้ามีปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ myoglobulin อาจออกไปกับปัสสาวะ ทำให้เกิด false positve ของการตรวจ urinary occult blood ได้
4.1 เพิ่มเติมจากที่บอกในนั้นนิดคือ...
งดอาหารที่มี trans fat ด้วย
trans fat แย่กว่าทุกตัวที่เขาแนะนำให้คุณงด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมส่วนใหญ่ถึงไม่ยอมแนะนำให้งดกัน เฮ้อ - -*
ส่วน trans fat คืออะไร ลองหาข้อมูลดูนะครับ ข้อมูลหาง่ายมาก หรือไม่ก็ถ้าไปพบแพทย์ ก็ถามเขาเอาก็ได้
แล้วก็ถามเขาเลยไปถึง interesterified fat ไปด้วยเลยก็ดี (อันนี้หลังเขาอาจไม่รู้จักก็ได้นะ 555)
สาเหตุที่ทำให้ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ ถ้าจะให้สรุปง่ายๆก็มี 2 ส่วนประกอบกัน
- พันธุกรรม ... สำคัญที่สุด แต่...แก้ไข เปลี่ยนแปลง ทำอะไรกับมันไม่ได้
ที่ต้องพูดถึงเพราะอย่างที่บอก มันสำคัญมาก ข้อ 4.2 จะมีผลมากน้อยแค่ไหน ขึ้นกับพันธุกรรมแต่ละคนด้วย
- การใช้ชีวิต อันหมายความรวมถึงคร่าวๆก็คือ อาหารที่กิน และ กิจวัตรประจำวัน(+ออกกำลังกาย)
ที่สิ่งอยากจะย้ำคือ....
พันธุกรรมมีตั้งแต่เกิดจนตาย + อาหารต้องกินไปตลอดชีวิต
ร่างกายผลิต cholesterol / triglyceride / HDL / LDL เองในร่างกายจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น
ฉะนั้น ถ้าจะควบคุมระดับต่างๆเหล่านี้ผ่านทางการควบคุมอาหาร จะเป็นเรื่องที่ "ต้องทำตลอดชีวิต" ไม่ใช่ทำเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
ในอีกทางหนึ่ง....ถ้าเลือกกินยา
ยาจะได้ผลต่อเมื่อกินอยู่ เมื่อหยุดยา ผลของยาจะหายไป
ถ้าไม่ปรับนิสัยการรับประทานอาหรและกิจวัตรประจำวัน แล้วเลือกกินยาอย่างเดียว ก็ต้องกินไปเรื่อยๆเช่นกัน
4.2 SGPT ถ้าให้เรียกง่ายๆก็คือ เอนไซม์ ซึ่งบ่งบอกว่าถ้ามันสูง = ตับกำลังโดนทำลาย (อักเสบ)
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตับอักเสบได้มีเยอะมากๆ ไม่อาจสรุปได้ว่าจากอะไร
ผู้ที่อาจจะ (แค่อาจจะ) บอกได้คือ แพทย์
โดยแพทย์จะต้องซักประวัติเพิ่มเติม และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง
เพราะไม่มีการตรวจโยงโดยตรงจากการที่ตับอักเสบย้อนกลับไปขึ้นไปหาสาเหตุ
วิธีการที่ปกติทำกันก็คือ นั่งไล่รายชื่อสาเหตุหลักๆที่พบบ่อยๆ แล้วดูว่ามีอะไรบ้างที่พบในคนๆนั้น (บางอย่างได้จากประวัติ บางอย่างต้องตรวจเลือด บางอย่างต้องตรวจพิเศษอื่นๆ)
แล้วอนุมานเอาว่า....สิ่งนั้นๆน่าจะทำให้ตับอักเสบ
เช่น อาหารที่กิน (หลักๆก็คือ Lกฮ) / ยา / สารเคมี / ไวรัสตับอักเสบชนิดต่างๆ (อันนี้ต้องตรวจเลือดถึงรู้วา่เป็นหรือไม่) / ไขมันพอกตับ (fatty liver, อันนี้ต้อง ultrasound ถึงจะพบ) / ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ฯลฯ
อนึ่ง...
ค่า SGPT ผิดปกติแค่เล็กน้อย อาจจะมีตับอักเสบเล็กน้อยจริง หรือจริงๆอาจไม่เป็นอะไรเลยก็ได้
ไม่อาจตอบได้ชัดเจน เนื่องจาก ค่าปกติ คือ ค่าปกติของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่สำหรับทุกคน
บางคนจะมีค่าซึ่งเบี่ยงไปจากปกตินิดหน่อย โดยไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยก้ได้
การจะบอกว่าเป็นแบบใด ต้องอาศัยประวัติค่อนข้างเยอะมาพิจารณาประกอบ ไม่ใช่เพียงแค่การดูค่าที่ตรวจพบเพียงครั้งเดียว
ไม่รู้ว่าเจอเม็ดเลือดแดง หรือเจอแค่ positive occult blood (เป็นการตรวจทางเคมี ไม่ได้เห็นเม็ดเลือดแดงโดยตรง)
และถึงแม้จะรู้ว่าเป็นอย่างไหน ก็ยังบอกสาเหตุไม่ได้อยู่ดี คนที่มีหน้าที่บอกสาเหตุคือ แพทย์
อย่างไรก็ตาม เขาให้ตรวจซ้ำ เพราะต้องการให้แน่ใจว่ามีเลือดออกจริงหรือไม่
เวลาไปตรวจ ในนั้นไม่ได้บอกไว้ แต่สิ่งที่ควรทำคือ
- ถ้าตรวจปัสสาวะอย่างเดียว ไม่ต้องงดน้ำอาหารไป จะได้ไม่ขาดน้ำ เพราะขาดน้ำมากๆมีผลต่อผลตรวจปัสสาวะบางอย่างเพี้ยนได้
(แต่ถ้าต้องตรวจเลือดบางอย่างแล้วต้องอดอาหาร ก็อีกเรื่องหนึ่ง ฉะนั้นควรสอบถามทางรพ.ก่อนว่าจะให้งดน้ำงดอาหารหรือไม่อย่างไร ... ถามคนที่รู้เรื่องหน่อยนะ เพราะจนท.รพ.บางคนก็เกินจะทนไหว ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย)
- อย่าไปตรวจช่วงที่มีการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และหากออกกำลังกายประจำ ก็งดสักหลายวันก่อนไปตรวจก็ดี
เพราะถ้ามีปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ myoglobulin อาจออกไปกับปัสสาวะ ทำให้เกิด false positve ของการตรวจ urinary occult blood ได้
4.1 เพิ่มเติมจากที่บอกในนั้นนิดคือ...
งดอาหารที่มี trans fat ด้วย
trans fat แย่กว่าทุกตัวที่เขาแนะนำให้คุณงด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมส่วนใหญ่ถึงไม่ยอมแนะนำให้งดกัน เฮ้อ - -*
ส่วน trans fat คืออะไร ลองหาข้อมูลดูนะครับ ข้อมูลหาง่ายมาก หรือไม่ก็ถ้าไปพบแพทย์ ก็ถามเขาเอาก็ได้
แล้วก็ถามเขาเลยไปถึง interesterified fat ไปด้วยเลยก็ดี (อันนี้หลังเขาอาจไม่รู้จักก็ได้นะ 555)
สาเหตุที่ทำให้ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ ถ้าจะให้สรุปง่ายๆก็มี 2 ส่วนประกอบกัน
- พันธุกรรม ... สำคัญที่สุด แต่...แก้ไข เปลี่ยนแปลง ทำอะไรกับมันไม่ได้
ที่ต้องพูดถึงเพราะอย่างที่บอก มันสำคัญมาก ข้อ 4.2 จะมีผลมากน้อยแค่ไหน ขึ้นกับพันธุกรรมแต่ละคนด้วย
- การใช้ชีวิต อันหมายความรวมถึงคร่าวๆก็คือ อาหารที่กิน และ กิจวัตรประจำวัน(+ออกกำลังกาย)
ที่สิ่งอยากจะย้ำคือ....
พันธุกรรมมีตั้งแต่เกิดจนตาย + อาหารต้องกินไปตลอดชีวิต
ร่างกายผลิต cholesterol / triglyceride / HDL / LDL เองในร่างกายจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น
ฉะนั้น ถ้าจะควบคุมระดับต่างๆเหล่านี้ผ่านทางการควบคุมอาหาร จะเป็นเรื่องที่ "ต้องทำตลอดชีวิต" ไม่ใช่ทำเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
ในอีกทางหนึ่ง....ถ้าเลือกกินยา
ยาจะได้ผลต่อเมื่อกินอยู่ เมื่อหยุดยา ผลของยาจะหายไป
ถ้าไม่ปรับนิสัยการรับประทานอาหรและกิจวัตรประจำวัน แล้วเลือกกินยาอย่างเดียว ก็ต้องกินไปเรื่อยๆเช่นกัน
4.2 SGPT ถ้าให้เรียกง่ายๆก็คือ เอนไซม์ ซึ่งบ่งบอกว่าถ้ามันสูง = ตับกำลังโดนทำลาย (อักเสบ)
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตับอักเสบได้มีเยอะมากๆ ไม่อาจสรุปได้ว่าจากอะไร
ผู้ที่อาจจะ (แค่อาจจะ) บอกได้คือ แพทย์
โดยแพทย์จะต้องซักประวัติเพิ่มเติม และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง
เพราะไม่มีการตรวจโยงโดยตรงจากการที่ตับอักเสบย้อนกลับไปขึ้นไปหาสาเหตุ
วิธีการที่ปกติทำกันก็คือ นั่งไล่รายชื่อสาเหตุหลักๆที่พบบ่อยๆ แล้วดูว่ามีอะไรบ้างที่พบในคนๆนั้น (บางอย่างได้จากประวัติ บางอย่างต้องตรวจเลือด บางอย่างต้องตรวจพิเศษอื่นๆ)
แล้วอนุมานเอาว่า....สิ่งนั้นๆน่าจะทำให้ตับอักเสบ
เช่น อาหารที่กิน (หลักๆก็คือ Lกฮ) / ยา / สารเคมี / ไวรัสตับอักเสบชนิดต่างๆ (อันนี้ต้องตรวจเลือดถึงรู้วา่เป็นหรือไม่) / ไขมันพอกตับ (fatty liver, อันนี้ต้อง ultrasound ถึงจะพบ) / ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ฯลฯ
อนึ่ง...
ค่า SGPT ผิดปกติแค่เล็กน้อย อาจจะมีตับอักเสบเล็กน้อยจริง หรือจริงๆอาจไม่เป็นอะไรเลยก็ได้
ไม่อาจตอบได้ชัดเจน เนื่องจาก ค่าปกติ คือ ค่าปกติของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่สำหรับทุกคน
บางคนจะมีค่าซึ่งเบี่ยงไปจากปกตินิดหน่อย โดยไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยก้ได้
การจะบอกว่าเป็นแบบใด ต้องอาศัยประวัติค่อนข้างเยอะมาพิจารณาประกอบ ไม่ใช่เพียงแค่การดูค่าที่ตรวจพบเพียงครั้งเดียว
แสดงความคิดเห็น
ผลตรวจร่างกายพบเลือดในปัสสาวะ ไขมัน LDL สูง ตับ SGPT ผิดปกติเล็กน้อย เกิดจากอะไรได้บ้างครับ
ปกติผมชอบกินพวกน้ำอัดลม กับ สั่งเบอร์เกอร์มากินตอนดึกๆ แล้วก็ไก่ทอด
ตอนนี้เริ่มลดพวกของหวานกับน้ำอัดลมบ้างแล้วครับ
น้ำหนักตอนตรวจ 78 ครับ ตอนนี้ 73 - 75 แล้ว
อยากรู้ว่า ตรวจพบฉี่มีเลือดเกิดจากสาเหตุใดได้บ้างครับ
ขอบคุณครับ