ความเห็นผิด ๒ ประการ คือ
๑.สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่ามีตัวตนสืบต่อไว้เรื่อยไป ไม่สูญหาย อันเป็นความเชื่อว่าตายแล้วยังมีตัวตนเกิดขึ้นมาใหม่เพื่อรับผลกรรมเก่า รวมทั้งความเชื่อเรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า และเรื่องเทวดา นางฟ้า ผี เปรต เป็นต้น
๒.อุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ คือไม่มีตัวตนใดๆเลย ไม่มีบาป ไม่มีบุญ ตายแล้วดับสูญหรือไม่เกิดอีก เช่น ความเชื่อว่าพระอรหันต์ตายแล้วดับสูญหรือไม่เกิดอีก
สรุป ความเชื่อที่ว่าคนมีกิเลสตายไปจะยังเกิดใหม่เพื่อมารับผลกรรมเก่านั้นเป็นความเห็นผิดพวกสัสสตทิฏฐิ ส่วนความเชื่อที่ว่าพระอรหันต์ตายแล้วดับสูญก็เป็นความเห็นผิดพวกอุจเฉททิฏฐิ จะต้องเป็นความเห็นว่ามันไม่มีตัวตนที่แท้จริง (อนัตตา) จึงไม่มีเรื่องตายแล้วเกิดหรือตายแล้วสูญ จึงจะเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า และเป็นความเห็นที่ถูกต้องหรือสัมมาทิฏฐิ ที่เป็นหัวใจของปัญญาในอริยมรรคของอริยสัจ ๔
ความเชื่อว่าพระอรหันต์ตายแล้วสูญเป็นความเห็นผิด
๑.สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่ามีตัวตนสืบต่อไว้เรื่อยไป ไม่สูญหาย อันเป็นความเชื่อว่าตายแล้วยังมีตัวตนเกิดขึ้นมาใหม่เพื่อรับผลกรรมเก่า รวมทั้งความเชื่อเรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า และเรื่องเทวดา นางฟ้า ผี เปรต เป็นต้น
๒.อุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ คือไม่มีตัวตนใดๆเลย ไม่มีบาป ไม่มีบุญ ตายแล้วดับสูญหรือไม่เกิดอีก เช่น ความเชื่อว่าพระอรหันต์ตายแล้วดับสูญหรือไม่เกิดอีก
สรุป ความเชื่อที่ว่าคนมีกิเลสตายไปจะยังเกิดใหม่เพื่อมารับผลกรรมเก่านั้นเป็นความเห็นผิดพวกสัสสตทิฏฐิ ส่วนความเชื่อที่ว่าพระอรหันต์ตายแล้วดับสูญก็เป็นความเห็นผิดพวกอุจเฉททิฏฐิ จะต้องเป็นความเห็นว่ามันไม่มีตัวตนที่แท้จริง (อนัตตา) จึงไม่มีเรื่องตายแล้วเกิดหรือตายแล้วสูญ จึงจะเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า และเป็นความเห็นที่ถูกต้องหรือสัมมาทิฏฐิ ที่เป็นหัวใจของปัญญาในอริยมรรคของอริยสัจ ๔