เราอยากจะมาบอกกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ในเรื่องของการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนะคะ
เริ่มแรก ตาของเราเสียชีวิต ก่อนหน้าได้โอนที่ดินเป็นชื่อยายหมดแล้ว ทรัพย์สินมีเพียงเงินในธนาคาร ไม่ได้ทำพินัยกรรมอะไรเลย
แรกๆครอบครัวเราไม่รุ้ นึกว่าโอนเป็นชื่อยายได้ พอไปถึงธ. เค้าไม่ให้เบิกคะ เค้าจะเอาใบคำสั่งศาลเป็นผจก.มรดกก่อน
ด้วยความที่ครอบครัวเราชนบท ไม่ค่อยรุ้เรื่องกฎหมาย ก็ไปถามทนาย(เป็นเพื่อนพ่อ) เค้าบอกค่าธรรมเนียม 10,000 นึง นิไม่เอาค่าแรงเลยนะ เพื่อนช่วยเพื่อน (เรากะนึกในใจ แพงไปป่าว) เราก็บอกพ่อยังไม่ต้องตกลงนะ ไอ้เราก็ไปเสริทหาตามเน็ต พอมีข้อมูลตรงนี้การร้องขอไม่ยาก ค่าธรรมเนียมไม่ถึง 2000 ด้วยซ้ำ จึงบอกครอบครัวว่า เดี๋ยวลูกจัดการเอง (แบบไม่ค่อยมั่นใจนะ55) เราเสียดายตังค์ส่วนนั้นด้วยแหละ
วันแรก
ไปศาล ไปประชาสัมพันธ์ เค้าบอกมี 2 วิธี 1.จ้างทนาย 2.ไปอัยการ(เค้ามีทนายปรึกษาให้ฟรี) เราเลือกอย่างที่ 2 คะ
พอถึงอัยการ ก็ปรึกษา และขอเอกสารที่ต้องใช้ร้องขอเป็นผจก.มรดกคะ
ตา : เจ้ามรดก (ผุ้เสียชีวิต)
ยาย : ผู้ร้องขอเป็นผจก.มรดก
เอกสารที่ต้องเตรียม
1.ใบมรณบัตร (ตา)
2.สำเนาทะเบียนบ้าน (ตา /ยาย /ลูกทุกคน)
3.สำเนาบัตรประชาชน (ตา/ยาย/ลูกทุกคน)
4.สำเนาในสมรส(ตา-ยาย)
5.กรณีมีพินัยกรรม ก็เอามาด้วยคะ ไม่มีไม่เป็นไร
6.เอกสารแสดงทรัพย์สินของเจ้าของมรดก เช่น สำเนาบัญชี โฉนด
7.กรณี พ่อ-แม่ ของตา เสียชีวิตแล้ว ก็เอาสำเนาใบมรณบัติของ พ่อ-แม่ตาด้วยคะ
ขอเล่านิดนึง *อันนี้ เป็นเอกสารที่หายากที่สุด เพราะมันอยู่สมัยก่อนนู้นแล้ว แต่ต้องหามาให้ได้คะ ตาเราอยุ่คนละอำเภอกับยาย ขับรถหาญาติพี่น้องกันไปๆมาๆเลย ไม่รุ้เอกสารอยุ่ที่ใคร พอถามครบหมด เอกสารหายไปไหนแล้วไม่รุ้ ต้องไปขอใบรับร้องที่อำเภออีก วุ่นวายมากกกก 555+
8.เอกสารยื่นคำร้องขอเป็นผจก.มรดก (อัยการทำให้)
9.ลำดับเครือญาติ (อัยการทำให้) แต่แนะนำเราเขียนคร่าวๆให้เขาก่อนก็ได้คะ จะได้สะดวกขึ้น 555+
*กรณี ลูกคนใดคนนึงเสียชีวิตแล้ว ก็เอาใบมรณบัตรกับทายาทคนนั้นมาเช็นต์ยินยอมนะคะ
พอเอกสารครบ นัดกันไปยื่นที่อัยการได้เลยคะ เตรียมญาติไปให้ครบนะคะ ไปเซ็นต์วันนั้นเลยเผื่อเอกสารไรมีปัญหา แล้วเขาจะตรวจเอกสารทุกอย่าง ถี่ถ้วนมากคะ
ถ้าเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย รอศาลนัดคะ ค่าธรรมเนียมของเรา 1300 ค่ะ รวมหมดแล้ว
#แต่ของเรามีปัญหาอีกแล้วสิคะ ชื่อพ่อของตาในใบมรณบัตร ไม่ตรงกับสำเนาทะเบียนบ้านที่ตาเคยแจ้งคะ แค่สะกดผิดกันนิดเดียวเอง
ไปอำเภออีกแล้วค่ะ ไปขอใบรับรองว่าเป็นบุคคลเดียวกัน แล้วก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดคะ ทางอำเภอขอพยานบุคคลมายืนยัน ก็นัดมาอีกที พอถึงวันนัด ก็ไปรับเอาพยานต่างอำเภอมาอีกอำเภอ ยุ่งๆกันนิดๆค่ะ 555+ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ตอนนิ รอหมายเรียกศาลอยุ่คะ เขาบอก ต้องติดประกาศไว้ก่อน น่าจะ 1-2 เดือนคะ
ยังไงฝากเพื่อนๆที่จะดำเนินเรื่องร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเอง ก็เตรียมเอกสารมาให้ครบนะคะ จะได้ไม่เสียเวลามาก อย่าลืมเอกสารตัวจริงต้องมีตอนมาขึ้นศาลนะคะ
ผิดพลาดประการใดขอภัยด้วยนะ
ขอให้โชคดีค๊าาาาา ^^
"ไปร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเอง"โดยไม่จ้างทนาย
เริ่มแรก ตาของเราเสียชีวิต ก่อนหน้าได้โอนที่ดินเป็นชื่อยายหมดแล้ว ทรัพย์สินมีเพียงเงินในธนาคาร ไม่ได้ทำพินัยกรรมอะไรเลย
แรกๆครอบครัวเราไม่รุ้ นึกว่าโอนเป็นชื่อยายได้ พอไปถึงธ. เค้าไม่ให้เบิกคะ เค้าจะเอาใบคำสั่งศาลเป็นผจก.มรดกก่อน
ด้วยความที่ครอบครัวเราชนบท ไม่ค่อยรุ้เรื่องกฎหมาย ก็ไปถามทนาย(เป็นเพื่อนพ่อ) เค้าบอกค่าธรรมเนียม 10,000 นึง นิไม่เอาค่าแรงเลยนะ เพื่อนช่วยเพื่อน (เรากะนึกในใจ แพงไปป่าว) เราก็บอกพ่อยังไม่ต้องตกลงนะ ไอ้เราก็ไปเสริทหาตามเน็ต พอมีข้อมูลตรงนี้การร้องขอไม่ยาก ค่าธรรมเนียมไม่ถึง 2000 ด้วยซ้ำ จึงบอกครอบครัวว่า เดี๋ยวลูกจัดการเอง (แบบไม่ค่อยมั่นใจนะ55) เราเสียดายตังค์ส่วนนั้นด้วยแหละ
วันแรก
ไปศาล ไปประชาสัมพันธ์ เค้าบอกมี 2 วิธี 1.จ้างทนาย 2.ไปอัยการ(เค้ามีทนายปรึกษาให้ฟรี) เราเลือกอย่างที่ 2 คะ
พอถึงอัยการ ก็ปรึกษา และขอเอกสารที่ต้องใช้ร้องขอเป็นผจก.มรดกคะ
ตา : เจ้ามรดก (ผุ้เสียชีวิต)
ยาย : ผู้ร้องขอเป็นผจก.มรดก
เอกสารที่ต้องเตรียม
1.ใบมรณบัตร (ตา)
2.สำเนาทะเบียนบ้าน (ตา /ยาย /ลูกทุกคน)
3.สำเนาบัตรประชาชน (ตา/ยาย/ลูกทุกคน)
4.สำเนาในสมรส(ตา-ยาย)
5.กรณีมีพินัยกรรม ก็เอามาด้วยคะ ไม่มีไม่เป็นไร
6.เอกสารแสดงทรัพย์สินของเจ้าของมรดก เช่น สำเนาบัญชี โฉนด
7.กรณี พ่อ-แม่ ของตา เสียชีวิตแล้ว ก็เอาสำเนาใบมรณบัติของ พ่อ-แม่ตาด้วยคะ
ขอเล่านิดนึง *อันนี้ เป็นเอกสารที่หายากที่สุด เพราะมันอยู่สมัยก่อนนู้นแล้ว แต่ต้องหามาให้ได้คะ ตาเราอยุ่คนละอำเภอกับยาย ขับรถหาญาติพี่น้องกันไปๆมาๆเลย ไม่รุ้เอกสารอยุ่ที่ใคร พอถามครบหมด เอกสารหายไปไหนแล้วไม่รุ้ ต้องไปขอใบรับร้องที่อำเภออีก วุ่นวายมากกกก 555+
8.เอกสารยื่นคำร้องขอเป็นผจก.มรดก (อัยการทำให้)
9.ลำดับเครือญาติ (อัยการทำให้) แต่แนะนำเราเขียนคร่าวๆให้เขาก่อนก็ได้คะ จะได้สะดวกขึ้น 555+
*กรณี ลูกคนใดคนนึงเสียชีวิตแล้ว ก็เอาใบมรณบัตรกับทายาทคนนั้นมาเช็นต์ยินยอมนะคะ
พอเอกสารครบ นัดกันไปยื่นที่อัยการได้เลยคะ เตรียมญาติไปให้ครบนะคะ ไปเซ็นต์วันนั้นเลยเผื่อเอกสารไรมีปัญหา แล้วเขาจะตรวจเอกสารทุกอย่าง ถี่ถ้วนมากคะ
ถ้าเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย รอศาลนัดคะ ค่าธรรมเนียมของเรา 1300 ค่ะ รวมหมดแล้ว
#แต่ของเรามีปัญหาอีกแล้วสิคะ ชื่อพ่อของตาในใบมรณบัตร ไม่ตรงกับสำเนาทะเบียนบ้านที่ตาเคยแจ้งคะ แค่สะกดผิดกันนิดเดียวเอง
ไปอำเภออีกแล้วค่ะ ไปขอใบรับรองว่าเป็นบุคคลเดียวกัน แล้วก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดคะ ทางอำเภอขอพยานบุคคลมายืนยัน ก็นัดมาอีกที พอถึงวันนัด ก็ไปรับเอาพยานต่างอำเภอมาอีกอำเภอ ยุ่งๆกันนิดๆค่ะ 555+ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ตอนนิ รอหมายเรียกศาลอยุ่คะ เขาบอก ต้องติดประกาศไว้ก่อน น่าจะ 1-2 เดือนคะ
ยังไงฝากเพื่อนๆที่จะดำเนินเรื่องร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเอง ก็เตรียมเอกสารมาให้ครบนะคะ จะได้ไม่เสียเวลามาก อย่าลืมเอกสารตัวจริงต้องมีตอนมาขึ้นศาลนะคะ
ผิดพลาดประการใดขอภัยด้วยนะ
ขอให้โชคดีค๊าาาาา ^^