ตอนอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/33560601 <<<กำเนิดศรีธนญชัย
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/33580675 <<<เด็กเจ้าปัญญา
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/33597502 <<<ศรีธนญชัยเข้าวัง
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/33614758 <<< ศรีธนญชัยแต่งเมีย
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/33631507 <<< ประลองธรรม
ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/33647569 <<< ถูกขังที่เมืองจีน
ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/33659957 <<< เป็นเจ้าเมืองใต้
ตอนที่ 8 http://ppantip.com/topic/33679115 <<< ประลองปัญญา
ตอนที่ 9 http://ppantip.com/topic/33695370 <<< คนเก่งแห่งกรุงศรี
ตอนที่10 http://ppantip.com/topic/33715372 <<< อวสานศรีธนญชัย
http://ppantip.com/topic/33745551
ตอนที่ 9. คนเก่งแห่งกรุงศรี ฯ
9.1 แข่งชนไก่
ข่าวชื่อเสียง ปราดเปรื่อง เลื่องลือไกล ศรีธนญชัย คนเก่ง แห่งกรุงศรี ฯ
เมืองน้อยใหญ่ ยอมรับ ปัญญามี ล้นชั่วดี มากข่าว เล่าโจษจัน
วันหนึ่งนัก ชนไก่ มาลายู ยินข่าวรู้ เดินทางมา ท้าแข่งขัน
ศรีธนญชัย ถูกบังคับ รับพนัน ด้วยท้านั้น ไร้อาสา ท้าชิงชน
ก่อนแข่งขัน หาอุบาย ให้บ่าวไพร่ หานกใหญ่ แกร่งกล้า มาฝึกฝน
นำซากสัตว์ ให้กิน ทุกวันวน จัดแต่งขน หงอนเดือย ให้สมจริง
ถึงวันแขก ปล่อยไก่ ไปกลางลาน โก่งคอขาน คึกคัก รับโห่วิ่ง
ฝ่ายไก่ปลอม หิวหนัก ปล่อยดักยิง คล้ายผีสิง พุ่งจิกตา ฆ่าไก่กิน
สงสารไก่ มาลายู ไม่รู้ตัว โก่งคอขัน ชั่วครา กายาดิ้น
คนท้าแข่ง โอดโอย โวยได้ยิน เห็นไก่สิ้น ต่อหน้า ว่าถูกลวง
ร้องไม่ใช่ ไก่แท้ แต่เป็นนก เล่นสกปรก ขี้โกงเรา เข้าติดบ่วง
ศรีธนญชัย ด้านว่า ไม่ได้ลวง มีทั้งปวง เดือยหงอน ขนเต็มตัว
ทั้งสองเถียง เรื่องไก่ ไม่จบสิ้น เจ้าแผ่นดิน รอมชอม ยอมปวดหัว
ไกล่เกลี่ยให้ ปรองดอง เลิกหมองมัว เสมอทั่ว ไม่มีแพ้ แน่พอกัน
แต่อย่างไร นักชนไก่ ไกลแดนคิด รู้สึกผิด พ่ายแพ้ ในวันนั้น
ต้องเสียไก่ ใจม้วย ด้วยพนัน ทั้งเสียขวัญ เสียที ศรีธนญชัย
………………………………………….
ข้อคิด - บุคคล แม้มากด้วยกำลังความสามารถ หากฮึกเหิม หลงตัว และประมาท แล้ว ทำให้พ่ายแพ้ถึงแก่เสียชีวิตได้ ด้วยสติปัญญาของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเหนือกว่า
9.2 ม้าหลังกระดาน
ไม่นานนัก ต่างด้าว เข้าขอท้า ต้องการม้า สูงสี่ศอก บอกหาให้
กำหนดมี หลังกระดาน ไม่เหมือนใคร สิบชั่งให้ รางวัล พลันหามา
ศรีธนญชัย ไม่รอช้า หาช่างไม้ จัดสร้างม้า สูงใหญ่ ไว้ตรงหน้า
สูงสี่ศอก หลังกระดาน ตามวาจา ถูกต่อว่า เรื่องม้านั่ง หวังหลอกกัน
ข้าไม่ได้ ต้องการ ม้านั่งไม้ เล่นตลก หรืออย่างไร ให้ม้านั่น
ทำเช่นนี้ ต้องชดใช้ ให้เงินกัน เถียงดังลั่น ศรีธนญชัย ไม่ยอมแพ้
คนต่างด้าว นำความ ขึ้นฟ้องศาล กล่าวให้การ ม้ากระดาน ข้าทำแน่
ด้วยไม่สั่ง มีชีวิต คิดตรองแล ต้องการแค่ สี่ศอกสั่ง หลังกระดาน
เมื่อจัดหา ม้าให้ ตามประสงค์ ตามตกลง กล่าวหา ว่าหน้าด้าน
ข้าขี้โกง อย่างไร ให้รายงาน เจ้าหน้าที่ ของศาล นิ่งฟังคำ
ถามต่างด้าว สั่งเช่นนั้น จริงหรือไม่ ตอบว่าใช้ คำยืน ยากกลืนกล้ำ
ต้องจำใจ แพ้พ่าย ร้ายระกำ เจ็บอายจำ เพิ่มค่าปรับ นับสั่นมือ
เสียสิบชั่ง ปรับห้าชั่ง นั่งหน้าเศร้า ซวยกว่าเก่า โอ้ชีวา ตาหูอื้อ
ช่างร้ายเหลือ จริงข่าว เขาเล่าลือ ขอจำชื่อ ชั่วชีวี ศรีธนญชัย
…………………………………….
ข้อคิด - คำพูดและพยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญ เป็นกติกาที่มนุษย์กำหนดขึ้น เพื่อดำรงไว้ซึ่ง ความดี ความถูกต้องและยุติธรรม แต่บางครั้ง... คำพูดและพยานหลักฐาน กลับกลายเป็นหนทาง ให้คนชั่วใช้นำประโยชน์ใส่ตน ไร้ความถูกต้องยุติธรรม ไม่เป็นดังมุ่งหมาย
9.3 ดำน้ำสานตะกร้า
ถึงวันหนึ่ง ชาวเขา เชี่ยวชำนาญ เรื่องจักสาน เดินทาง เข้าเฝ้าไหว้
ขอท้าแข่ง สานตะกร้า ได้เร็วไว กำหนดให้ ดำน้ำ สานหวายมี
เจ้าแผ่นดิน เรียกเฝ้า เข้าประชุม เล่าเรื่องกลุ้ม หาช่าง ในกรุงศรีฯ
ผู้เชี่ยวชาญ จักสาน ฝีมือดี รางวัลมี ท้าเดิมพัน กันมากมาย
บอกเงื่อนไข เหล่าช่าง ต่างเงียบกริบ บ้างซุบซิบ ก้มยิ้มขำ ทำไม่ได้
สิ้นหนทาง หันพักตร์ ทักใกล้กาย สะดุ้งเฮือก ใจหาย คล้ายแกล้งกัน
ศรีธนญชัย กราบทูล เช่นเคยกล่าว ข้าพระพุทธเจ้า ไม่มี ฝีมือนั้น
เริ่มประโยค โบกพระหัตถ์ เลิกพูดกัน คำท้านั้น ขอสั่งเจ้า เข้าชิงชัย
ห้ามปฏิเสธ ไร้ข้ออ้าง ทางใดสิ้น ตรัสได้ยิน ลงโทษแน่ แพ้ไม่ได้
หัวจะหลุด จากบ่า ทุกคราไป ทุกข์ถอนใจ ก่ายหน้าผาก ยากหลับตา
และคืนนั้น สั่งบ่าว นำเรือออก กำชับบอก เรือลำเล็ก หาให้ข้า
ลากเรือเล็ก ล่องไป กลางธารา หน้าตำหนัก แพแข่งท้า คว้ารางวัล
สั่งคว่ำเรือ เอาไม้ปัก หลักหัวท้าย จมเรือหาย มั่นแข็งแรง แฝงน้ำนั้น
เอาเชือกผูก หัวท้ายเรือ เพื่อพนัน ซ่อนตะกร้า มัดพัน กันหลุดลอย
เจ้าอยู่หัว เสด็จมา หน้าแพจัด หายใจขัด ข่มตื่นเต้น เป็นไม่น้อย
ประทับนั่ง เห็นผู้ท้า มายืนคอย ถือหวายห้อย ข้างกาย สบายใจ
ถึงเวลา นำหวาย เหน็บติดเอว กระโดดเร็ว ดำน้ำ กระจายไหว
ศรีธนญชัย กระโดด ตามลงไป นำหวายได้ เงียบหาย ใต้น้ำเย็น
มินานนัก ศรีธนญชัย ก่อนใครโผล่ ลั่นเสียงโห่ ไม่เชื่อตา ตะกร้าเห็น
สานเรียบร้อย สวยงาม ยากเชื่อเป็น ตะลึงเห็น พอหทัย นั่งใกล้องค์
หลายอึดใจ ชาวเขา โผล่เหนือน้ำ ตะกร้าทำ ชูสูงโก้ โอ้อวดส่ง
แต่คนเงียบ ราวป่าช้า น่าแปลกงง เดินลิ่วตรง มั่นใจว่า ชนะชัย
เห็นตกใจ ศรีธนญชัย ใยขึ้นก่อน เอนตัวนอน รออยู่ ก่อนกูได้
ไม่อยากเชื่อ ก็ต้องเชื่อ ไม่เข้าใจ ช้าเกินไป เสียทรัพย์ กับพนัน
เจ้าอยู่หัว สงสัย ใคร่อยากรู้ ตะกร้าอยู่ ตรงหน้า ว่าสานนั้น
เอ็งร่ำเรียน จากไหน เมื่อไหร่กัน บอกเร็วพลัน ให้รู้แจ้ง กระจ่างใจ
ศรีธนญชัย จึงก้ม กราบทูลว่า ซ่อนตะกร้า ใต้เรือคว่ำ ทำหลักไว้
ชนชาวเขา รีบเร่ง เรื่องสานไว สังเกตไร้ จึงแพ้พ่าย ได้รางวัล
คนเชี่ยวชาญ เรียนน้อย ด้อยศึกษา ไม่พิจารณา ถ้วนเห็น เป็นเช่นนั้น
ย่อมแพ้พ่าย ภัยซุก ทุกข์อนันต์ ตัวข้านั้น เลิศศึกษา ปัญญาดี
แต่คนเรา เรียนมาก ยากรู้ครบ ถ้วนเจนจบ พบภัย ไม่อาจหนี
ต้องอาศัย ร่มบุญ บารมี บริวารดี เคียงกาย ได้พึ่งพา
เช่นพระองค์ เหนือเกล้า เจ้ายิ่งใหญ่ มีศรีธนญชัย รับใช้ ไว้ตรงหน้า
มั่นภักดี เฝ้ารับใช้ ใต้บาทา ถ้อยวาจา ประจบนัก รักลืมชัง
…………………………….
ข้อคิด - บุคคล แม้เชี่ยวชาญงานด้านใดหนึ่งเป็นเลิศ เนื่องจากได้อดทนฝึกฝนเวลานาน และกระทำซ้ำอยู่เสมอด้วยเป็นอาชีพ หากมีเพียงกำลังกาย แต่ขาดการศึกษา
ส่งเสริมเป็นเกราะคุ้มภัยให้แล้ว ความเชี่ยวชาญนั้นก็ให้ประโยชน์แก่ตนไม่เต็มที่ เป็นเพียง
บันไดให้เขาปีนขึ้นไปคว้าดวงดาว และเป็นเหยื่อคนชั่วได้ตลอดเวลา
9.4 ขอลูกทำลูก
วันหนึ่ง ศรีธนญชัย ไปเยี่ยมเพื่อน แวะขึ้นเรือน ไต่ถาม ถึงความหลัง
ด้วยสนิท รับราชการ มาด้วยกัน เนิ่นนานวัน ไม่ได้พบ ประสบเลย
ลูกเมียนำ สำรับ กับข้าวปลา ทั้งสุรา ให้ลิ้มลอง ไม่ต้องเอ่ย
เห็นลูกสาว งามตา น่าชมเชย อยากเป็นเขย เสียจริง นิ่งมองตาม
ท่านขุนมี ลูกสาว คนเดียวหรือ เพื่อนตอบอือ ไม่คิดไกล ให้ซักถาม
น่าอิจฉา จริงนะ พูดต่อความ ใจลอยตาม สาวสวย ด้วยต้องตา
กระผมนี้ ก็มี ลูกคนหนึ่ง ไม่ได้พึ่ง อาศัย ไกลจากข้า
ถูกขอเป็น ลูกบุตรธรรม ไม่นานมา เพื่อนตอบว่า ได้ยินข่าว เล่าโจษจัน
ท่านก็หา ลูกใหม่ ใยกังวล ประสบผล สมหวัง ฟังเช่นนั้น
ศรีธนญชัย เอ่ยปาก ไม่รอวัน เช่นนั้นฉัน ขอพูด ไม่ปิดความ
ถ้าจะขอ ลูกท่าน ไปทำลูก ข้าคิดถูก ผิดไหม ใคร่ขอถาม
ก็ไม่ผิด เพื่อนตอบ แต่ไม่งาม ด้วยควรถาม ความเห็น เป็นเช่นไร
ตัวกระผม กับท่าน กาลคบหา เนิ่นนานมา จะรังเกียจ คงไม่ใช่
เหตุอยู่พร้อม ไม่เคย แยกแต่ไร ต้องจากไกล หนักจิต ขอคิดตรอง
จึงถามเมีย ลูกสาว เล่าปรึกษา เจ้าจะว่า เช่นไร ไม่ขัดข้อง
ลูกย้อนถาม ความเห็น พ่อคิดมอง พ่อไตร่ตรอง เห็นงาม ตามวาจา
ถ้าเป็นบุตร บุญธรรม คำขอไว้ ทรัพย์คงได้ มากมาย ในภายหน้า
เมื่อพ่อแม่ บุญธรรม เฒ่าชรา มีลูกยา เป็นทายาท อยู่ลำพัง
ศรีธนญชัย ได้สาวน้อย ไปวันนั้น ผ่านคืนวัน เพื่อนได้ข่าว เศร้าผิดหวัง
เรื่องชาวบ้าน เล่ารู้ เข้าหูดัง เหมือนฟ้าพัง ผ่าลง ตรงหัวใจ
เมียคนเล็ก ศรีธนญชัย ตั้งครรภ์แล้ว นินทาแว่ว เป็นจริง สิ้นสงสัย
ไม่อยากพบ สนทนา พูดจาใด ฟ้องเรื่องไป ศาลหลวง เรื่องลวงกัน
ศรีธนญชัย ให้การ ขอลูกสาว บอกเรื่องราว ขอทำลูก ถูกไหมนั่น
ตอนนี้ได้ ทำลูก อยู่ในครรภ์ พูดปดกัน ทำไม่ลง แต่อย่างใด
ไม่ได้ขอ ลูกเป็น บุตรบุญธรรม แม้สักคำ ไม่ได้เอ่ย เลยจำได้
คิดแต่อยาก เป็นเขย เอ่ยในใจ จึงขอไป ทำลูก ถูกต้องความ
คนในศาล ได้ฟัง นั่งหัวเราะ พูดเย้ยเยอะ อับอาย ร้ายถูกหยาม
ศาลไกล่เกลี่ย ปรองดอง ให้ยอมความ ปล่อยเลยตาม เพื่อลูกหลาน กาลต่อไป.
.............................................................
ข้อคิด – ไม่ว่าในยุคใดสมัยใด “ชีวิตครอบครัว” ไม่มีพ่อแม่คนใดต้องการให้ลูกสาว
ต้องตกเป็นเมียน้อย ไม่มีผู้หญิงคนไหนคาดหวังต้องการเป็นเมียน้อย และไม่มีผู้หญิงคนไหนต้องการเป็นเมียหลวง มีเพียงผู้ชายส่วนใหญ่ ที่ต้องการมีทั้งเมียน้อย และ เมียหลวงในเวลาเดียวกัน
วันพุธหน้าพบกับ ตอนที่ 10 (ตอนจบ) ขอบคุณครับผม ><"
#บทกวีเรื่อง...ศรีธนญชัย ตอนที่ 9#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมืองน้อยใหญ่ ยอมรับ ปัญญามี ล้นชั่วดี มากข่าว เล่าโจษจัน
วันหนึ่งนัก ชนไก่ มาลายู ยินข่าวรู้ เดินทางมา ท้าแข่งขัน
ศรีธนญชัย ถูกบังคับ รับพนัน ด้วยท้านั้น ไร้อาสา ท้าชิงชน
ก่อนแข่งขัน หาอุบาย ให้บ่าวไพร่ หานกใหญ่ แกร่งกล้า มาฝึกฝน
นำซากสัตว์ ให้กิน ทุกวันวน จัดแต่งขน หงอนเดือย ให้สมจริง
ถึงวันแขก ปล่อยไก่ ไปกลางลาน โก่งคอขาน คึกคัก รับโห่วิ่ง
ฝ่ายไก่ปลอม หิวหนัก ปล่อยดักยิง คล้ายผีสิง พุ่งจิกตา ฆ่าไก่กิน
สงสารไก่ มาลายู ไม่รู้ตัว โก่งคอขัน ชั่วครา กายาดิ้น
คนท้าแข่ง โอดโอย โวยได้ยิน เห็นไก่สิ้น ต่อหน้า ว่าถูกลวง
ร้องไม่ใช่ ไก่แท้ แต่เป็นนก เล่นสกปรก ขี้โกงเรา เข้าติดบ่วง
ศรีธนญชัย ด้านว่า ไม่ได้ลวง มีทั้งปวง เดือยหงอน ขนเต็มตัว
ทั้งสองเถียง เรื่องไก่ ไม่จบสิ้น เจ้าแผ่นดิน รอมชอม ยอมปวดหัว
ไกล่เกลี่ยให้ ปรองดอง เลิกหมองมัว เสมอทั่ว ไม่มีแพ้ แน่พอกัน
แต่อย่างไร นักชนไก่ ไกลแดนคิด รู้สึกผิด พ่ายแพ้ ในวันนั้น
ต้องเสียไก่ ใจม้วย ด้วยพนัน ทั้งเสียขวัญ เสียที ศรีธนญชัย
ข้อคิด - บุคคล แม้มากด้วยกำลังความสามารถ หากฮึกเหิม หลงตัว และประมาท แล้ว ทำให้พ่ายแพ้ถึงแก่เสียชีวิตได้ ด้วยสติปัญญาของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเหนือกว่า
กำหนดมี หลังกระดาน ไม่เหมือนใคร สิบชั่งให้ รางวัล พลันหามา
ศรีธนญชัย ไม่รอช้า หาช่างไม้ จัดสร้างม้า สูงใหญ่ ไว้ตรงหน้า
สูงสี่ศอก หลังกระดาน ตามวาจา ถูกต่อว่า เรื่องม้านั่ง หวังหลอกกัน
ข้าไม่ได้ ต้องการ ม้านั่งไม้ เล่นตลก หรืออย่างไร ให้ม้านั่น
ทำเช่นนี้ ต้องชดใช้ ให้เงินกัน เถียงดังลั่น ศรีธนญชัย ไม่ยอมแพ้
คนต่างด้าว นำความ ขึ้นฟ้องศาล กล่าวให้การ ม้ากระดาน ข้าทำแน่
ด้วยไม่สั่ง มีชีวิต คิดตรองแล ต้องการแค่ สี่ศอกสั่ง หลังกระดาน
เมื่อจัดหา ม้าให้ ตามประสงค์ ตามตกลง กล่าวหา ว่าหน้าด้าน
ข้าขี้โกง อย่างไร ให้รายงาน เจ้าหน้าที่ ของศาล นิ่งฟังคำ
ถามต่างด้าว สั่งเช่นนั้น จริงหรือไม่ ตอบว่าใช้ คำยืน ยากกลืนกล้ำ
ต้องจำใจ แพ้พ่าย ร้ายระกำ เจ็บอายจำ เพิ่มค่าปรับ นับสั่นมือ
เสียสิบชั่ง ปรับห้าชั่ง นั่งหน้าเศร้า ซวยกว่าเก่า โอ้ชีวา ตาหูอื้อ
ช่างร้ายเหลือ จริงข่าว เขาเล่าลือ ขอจำชื่อ ชั่วชีวี ศรีธนญชัย
ข้อคิด - คำพูดและพยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญ เป็นกติกาที่มนุษย์กำหนดขึ้น เพื่อดำรงไว้ซึ่ง ความดี ความถูกต้องและยุติธรรม แต่บางครั้ง... คำพูดและพยานหลักฐาน กลับกลายเป็นหนทาง ให้คนชั่วใช้นำประโยชน์ใส่ตน ไร้ความถูกต้องยุติธรรม ไม่เป็นดังมุ่งหมาย
ขอท้าแข่ง สานตะกร้า ได้เร็วไว กำหนดให้ ดำน้ำ สานหวายมี
เจ้าแผ่นดิน เรียกเฝ้า เข้าประชุม เล่าเรื่องกลุ้ม หาช่าง ในกรุงศรีฯ
ผู้เชี่ยวชาญ จักสาน ฝีมือดี รางวัลมี ท้าเดิมพัน กันมากมาย
บอกเงื่อนไข เหล่าช่าง ต่างเงียบกริบ บ้างซุบซิบ ก้มยิ้มขำ ทำไม่ได้
สิ้นหนทาง หันพักตร์ ทักใกล้กาย สะดุ้งเฮือก ใจหาย คล้ายแกล้งกัน
ศรีธนญชัย กราบทูล เช่นเคยกล่าว ข้าพระพุทธเจ้า ไม่มี ฝีมือนั้น
เริ่มประโยค โบกพระหัตถ์ เลิกพูดกัน คำท้านั้น ขอสั่งเจ้า เข้าชิงชัย
ห้ามปฏิเสธ ไร้ข้ออ้าง ทางใดสิ้น ตรัสได้ยิน ลงโทษแน่ แพ้ไม่ได้
หัวจะหลุด จากบ่า ทุกคราไป ทุกข์ถอนใจ ก่ายหน้าผาก ยากหลับตา
และคืนนั้น สั่งบ่าว นำเรือออก กำชับบอก เรือลำเล็ก หาให้ข้า
ลากเรือเล็ก ล่องไป กลางธารา หน้าตำหนัก แพแข่งท้า คว้ารางวัล
สั่งคว่ำเรือ เอาไม้ปัก หลักหัวท้าย จมเรือหาย มั่นแข็งแรง แฝงน้ำนั้น
เอาเชือกผูก หัวท้ายเรือ เพื่อพนัน ซ่อนตะกร้า มัดพัน กันหลุดลอย
เจ้าอยู่หัว เสด็จมา หน้าแพจัด หายใจขัด ข่มตื่นเต้น เป็นไม่น้อย
ประทับนั่ง เห็นผู้ท้า มายืนคอย ถือหวายห้อย ข้างกาย สบายใจ
ถึงเวลา นำหวาย เหน็บติดเอว กระโดดเร็ว ดำน้ำ กระจายไหว
ศรีธนญชัย กระโดด ตามลงไป นำหวายได้ เงียบหาย ใต้น้ำเย็น
มินานนัก ศรีธนญชัย ก่อนใครโผล่ ลั่นเสียงโห่ ไม่เชื่อตา ตะกร้าเห็น
สานเรียบร้อย สวยงาม ยากเชื่อเป็น ตะลึงเห็น พอหทัย นั่งใกล้องค์
หลายอึดใจ ชาวเขา โผล่เหนือน้ำ ตะกร้าทำ ชูสูงโก้ โอ้อวดส่ง
แต่คนเงียบ ราวป่าช้า น่าแปลกงง เดินลิ่วตรง มั่นใจว่า ชนะชัย
เห็นตกใจ ศรีธนญชัย ใยขึ้นก่อน เอนตัวนอน รออยู่ ก่อนกูได้
ไม่อยากเชื่อ ก็ต้องเชื่อ ไม่เข้าใจ ช้าเกินไป เสียทรัพย์ กับพนัน
เจ้าอยู่หัว สงสัย ใคร่อยากรู้ ตะกร้าอยู่ ตรงหน้า ว่าสานนั้น
เอ็งร่ำเรียน จากไหน เมื่อไหร่กัน บอกเร็วพลัน ให้รู้แจ้ง กระจ่างใจ
ศรีธนญชัย จึงก้ม กราบทูลว่า ซ่อนตะกร้า ใต้เรือคว่ำ ทำหลักไว้
ชนชาวเขา รีบเร่ง เรื่องสานไว สังเกตไร้ จึงแพ้พ่าย ได้รางวัล
คนเชี่ยวชาญ เรียนน้อย ด้อยศึกษา ไม่พิจารณา ถ้วนเห็น เป็นเช่นนั้น
ย่อมแพ้พ่าย ภัยซุก ทุกข์อนันต์ ตัวข้านั้น เลิศศึกษา ปัญญาดี
แต่คนเรา เรียนมาก ยากรู้ครบ ถ้วนเจนจบ พบภัย ไม่อาจหนี
ต้องอาศัย ร่มบุญ บารมี บริวารดี เคียงกาย ได้พึ่งพา
เช่นพระองค์ เหนือเกล้า เจ้ายิ่งใหญ่ มีศรีธนญชัย รับใช้ ไว้ตรงหน้า
มั่นภักดี เฝ้ารับใช้ ใต้บาทา ถ้อยวาจา ประจบนัก รักลืมชัง
ข้อคิด - บุคคล แม้เชี่ยวชาญงานด้านใดหนึ่งเป็นเลิศ เนื่องจากได้อดทนฝึกฝนเวลานาน และกระทำซ้ำอยู่เสมอด้วยเป็นอาชีพ หากมีเพียงกำลังกาย แต่ขาดการศึกษา
ส่งเสริมเป็นเกราะคุ้มภัยให้แล้ว ความเชี่ยวชาญนั้นก็ให้ประโยชน์แก่ตนไม่เต็มที่ เป็นเพียง
บันไดให้เขาปีนขึ้นไปคว้าดวงดาว และเป็นเหยื่อคนชั่วได้ตลอดเวลา
ด้วยสนิท รับราชการ มาด้วยกัน เนิ่นนานวัน ไม่ได้พบ ประสบเลย
ลูกเมียนำ สำรับ กับข้าวปลา ทั้งสุรา ให้ลิ้มลอง ไม่ต้องเอ่ย
เห็นลูกสาว งามตา น่าชมเชย อยากเป็นเขย เสียจริง นิ่งมองตาม
ท่านขุนมี ลูกสาว คนเดียวหรือ เพื่อนตอบอือ ไม่คิดไกล ให้ซักถาม
น่าอิจฉา จริงนะ พูดต่อความ ใจลอยตาม สาวสวย ด้วยต้องตา
กระผมนี้ ก็มี ลูกคนหนึ่ง ไม่ได้พึ่ง อาศัย ไกลจากข้า
ถูกขอเป็น ลูกบุตรธรรม ไม่นานมา เพื่อนตอบว่า ได้ยินข่าว เล่าโจษจัน
ท่านก็หา ลูกใหม่ ใยกังวล ประสบผล สมหวัง ฟังเช่นนั้น
ศรีธนญชัย เอ่ยปาก ไม่รอวัน เช่นนั้นฉัน ขอพูด ไม่ปิดความ
ถ้าจะขอ ลูกท่าน ไปทำลูก ข้าคิดถูก ผิดไหม ใคร่ขอถาม
ก็ไม่ผิด เพื่อนตอบ แต่ไม่งาม ด้วยควรถาม ความเห็น เป็นเช่นไร
ตัวกระผม กับท่าน กาลคบหา เนิ่นนานมา จะรังเกียจ คงไม่ใช่
เหตุอยู่พร้อม ไม่เคย แยกแต่ไร ต้องจากไกล หนักจิต ขอคิดตรอง
จึงถามเมีย ลูกสาว เล่าปรึกษา เจ้าจะว่า เช่นไร ไม่ขัดข้อง
ลูกย้อนถาม ความเห็น พ่อคิดมอง พ่อไตร่ตรอง เห็นงาม ตามวาจา
ถ้าเป็นบุตร บุญธรรม คำขอไว้ ทรัพย์คงได้ มากมาย ในภายหน้า
เมื่อพ่อแม่ บุญธรรม เฒ่าชรา มีลูกยา เป็นทายาท อยู่ลำพัง
ศรีธนญชัย ได้สาวน้อย ไปวันนั้น ผ่านคืนวัน เพื่อนได้ข่าว เศร้าผิดหวัง
เรื่องชาวบ้าน เล่ารู้ เข้าหูดัง เหมือนฟ้าพัง ผ่าลง ตรงหัวใจ
เมียคนเล็ก ศรีธนญชัย ตั้งครรภ์แล้ว นินทาแว่ว เป็นจริง สิ้นสงสัย
ไม่อยากพบ สนทนา พูดจาใด ฟ้องเรื่องไป ศาลหลวง เรื่องลวงกัน
ศรีธนญชัย ให้การ ขอลูกสาว บอกเรื่องราว ขอทำลูก ถูกไหมนั่น
ตอนนี้ได้ ทำลูก อยู่ในครรภ์ พูดปดกัน ทำไม่ลง แต่อย่างใด
ไม่ได้ขอ ลูกเป็น บุตรบุญธรรม แม้สักคำ ไม่ได้เอ่ย เลยจำได้
คิดแต่อยาก เป็นเขย เอ่ยในใจ จึงขอไป ทำลูก ถูกต้องความ
คนในศาล ได้ฟัง นั่งหัวเราะ พูดเย้ยเยอะ อับอาย ร้ายถูกหยาม
ศาลไกล่เกลี่ย ปรองดอง ให้ยอมความ ปล่อยเลยตาม เพื่อลูกหลาน กาลต่อไป.
ข้อคิด – ไม่ว่าในยุคใดสมัยใด “ชีวิตครอบครัว” ไม่มีพ่อแม่คนใดต้องการให้ลูกสาว
ต้องตกเป็นเมียน้อย ไม่มีผู้หญิงคนไหนคาดหวังต้องการเป็นเมียน้อย และไม่มีผู้หญิงคนไหนต้องการเป็นเมียหลวง มีเพียงผู้ชายส่วนใหญ่ ที่ต้องการมีทั้งเมียน้อย และ เมียหลวงในเวลาเดียวกัน
วันพุธหน้าพบกับ ตอนที่ 10 (ตอนจบ) ขอบคุณครับผม ><"