เนื้อเรื่องย่อ : เมื่อสาวน้อยผู้หลงไหลในอนาคตอันกว้างไกลและอวกาศกันแสนลึกลับ ได้พบกับ 'เข็มกลัด' อันหนึ่ง ที่ได้แสดงให้เธอเห็นภาพของดินแดนแห่งอนาคตที่เรียกว่า 'Tomorrowland' ... และได้ค้นพบว่าโลกที่เรารู้จักกำลังล่มสลาย! นางนี่แหละคือตัวแปรที่ช่วยโลกไว้ให้ได้
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงตัวหนัง .. ขอปรบมือดังๆให้กับนางเอกสาวของเรื่องอย่าง Britt Robertson ในบทบาทของสาวน้อยสมองใสวัยขบถ Casey Newton ได้อย่างเหมาะเหม็งมากๆ ด้วยความที่นางพกลูกกรี๊ดมาเต็มลำคอชนิดไม่ห่วงสวย อีกทั้งเสียงหัวเราะที่ดูซุกซนสมกับเป็นวัยอยากรู้อยากเห็นที่ตัวละครมีอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ตัวละครของนางนั้นมีส่วนรวมกับตัวหนังได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ซึ่งด้วยความที่ธีมของเรื่องนั้นอยู่ที่ 'ความตื่นตาในเทคโนโลยี', การแสดงออกเหล่านี้จึงถือเป็นความดีงามและลงตัวเป็นที่สุด อีกทั้งหลายๆฉากที่เคซี่กับแฟรงค์ปะทะคารมกันทีไรก็ยังคู่คี่สูสีลงตัวกันอย่างปฏิเสธไม่ได้
ถึงแม้สาวน้อยจะเด่นโดดเหนือใครไปแล้ว แต่ตัวละครรุ่นเก๋าอย่าง Frank Walker (George Clooney) ก็ยังไว้ลายให้เราได้ชื่นชมเป็นระยะๆ ถึงแม้จะน่าเสียดายว่าบทบาทป๋าแกจะไปค่อยหลากหลายเท่าไหร่ (เพราะเสียความเด่นให้วัยเด็กไปเสียมาก) แต่เมื่อจับคู่กับคู่นางอย่าง Athena (Raffey Cassidy) ก็ให้ความรู้สึกเคมีลงตัวกันอย่างแปลกๆ .. ถึงแม้อายุอานามจะห่างกันไกลลิบแต่ฉากไดอะลอคทั้งหลายของทั้งคู่ก็ดูเข้าขากันมาก
สิ่งที่โดดเด่นของ Tomorrowland ก็คงหนีไม่พ้นการออกแบบฉากที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในโลกอนาคตที่ผู้กำกับสรรหาเอาของเล่นต่างๆมาใส่ไว้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ถึงแม้มันจะไม่ได้ตื่นตาอะไรมากมายก็เถอะ และการเล่นใช้มุมกล้องที่สวยงามก็ช่วยเติมเต็มภาพบนจอได้ (หรืออาจจะเป็นเฉพาะผู้เขียนไปชมในโรง IMAX มาด้วยรึเปล่า?) แต่ส่วนที่น่าเสียคือตัวหนังเองให้ความสำคัญกับ 'คน' ในยุคสมัยต่างๆน้อยมาก (ทั้งอดีต-อนาคต) ซึ่งโดยปกติแล้วจุดเด่นของหนังแนวล้ำยุคทำนองนี้ส่วนหนึ่งก็จะเป็นลักษณะวิถีชีวิตของคนในยุคนั้นหรือแฟชั่นการใช้ชีวิตแบบ Hunger's Game เป็นต้น
.. จุดด้อยหลักๆที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของ Tomorrowland ก็คงเป็น 'การเล่าเรื่อง' ที่ผู้กำกับเลือกใช้, ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเรื่องด้วยอารัมภบทที่ยาวนานเยิ่นเย้อ แถมพยายามสอดแทรกมุกที่มัน 'ไม่ขำ' มาในหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังกินเวลาในการเล่าเรื่องราวในอดีตของทั้งสองตัวละครให้เท่าๆกันอีก ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้หนังกว่า 70% จะวนเวียนอยู่กับที่มาที่ไปของตัวละครจนไม่ได้พาผู้ชมไปไหนไกล .. ซึ่งก็โชคดีที่ได้ตัวละครที่มีเสน่ห์มากอบกู้สถานการณ์ไว้ ไม่งั้นคงจะน่าเบื่อกว่านี้มาก
แต่จุดที่เลวร้ายจริงๆคือพล็อตไคลแม็กซ์ที่มันกิงก่องแก้วมากๆ ผู้เขียนก็ยังแอบสงสัยว่าจะมีวิธีเล่าเรื่องในหนังแบบอื่นที่ดีกว่านี้มั้ย นอกจากการให้ตัวละครมา 'พ่นข้อมูล' ใส่เราตรงๆเหมือนนั่งเลกเชอร์ในห้องเรียนชนิดไม่ต้องตีความต่อหรืออ่านความนัยใดๆ แถมตัวหนังก็ยังอุตส่าห์โยงมาเรื่องภาวะโลกร้อนได้อย่างทุลักทุเลทั้งๆที่มันอาจจะมีความวินาศสันตะโรที่ดู make sense มากกว่านี้ .. ซึ่งในจุดนี้ก็แอบเข้าใจว่ามันเป็นหนังที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น 'หนังเด็ก' ผู้สร้างเลยพยายามจะทำให้มันเรียบง่ายเข้าใจง่ายเข้าไว้ แต่ก็ยังอุตส่าห์ลักลั่นด้วยการใช้ศัพท์แสงที่มันยากๆเข้ามา เรียกได้ว่าเฟลทั้งเด็กและผู้ใหญ่กันเลยแหละ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยก็คงเป็นการ 'แซว' หนังรุ่นพี่เกี่ยวกับวิกฤตการโลกอย่าง Terminator ได้พอหอมปากหอมคอ (ไอ้หุ่นตัวร้ายที่มาตามล่านางเอกนี่ถอดแบบอาโนลด์มาเลย) หรือว่ามุกที่อ้างอิงถึงเอดิสันกับเทสล่าก็เช่นกัน.
"Tomorrowland เป็นหนังเด็กอีกเรื่องที่มีพล็อตใหญ่โตน่าสนใจ แต่ขาดการเล่าเรื่องที่ราบรื่นพอที่จะประคองตัวให้ไปตลอดรอดฝั่งได้ กระนั้นก็นับว่าโชคดีที่ได้นักแสดงที่มีเสน่ห์มาทดแทนจุดด้อยไปได้ อีกทั้งการที่มี climax ที่ดูเล็กจ้อยไม่สมกับเสกลหนังเอาเสียเลย และการสื่อสารที่เข้าไม่ถึงทั้งวัยผู้ใหญ่และวัยเด็ก ก็นับว่าคงเป็นหนังอาถรรพ์ของดิสนี่ย์ ที่ดับเกือบสนิทในช่วงกลางปีนี่เอง"
คะแนนความเห็นส่วนตัว : 7/10
You want to see Tomorrowland? by Kanok Jayz Hunhaboon
ติดตามรีวิวย้อนหลังได้ที่ :
https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=1
Movie Review : Tomorrowland - อนาคตที่ไปไม่สุดทาง
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงตัวหนัง .. ขอปรบมือดังๆให้กับนางเอกสาวของเรื่องอย่าง Britt Robertson ในบทบาทของสาวน้อยสมองใสวัยขบถ Casey Newton ได้อย่างเหมาะเหม็งมากๆ ด้วยความที่นางพกลูกกรี๊ดมาเต็มลำคอชนิดไม่ห่วงสวย อีกทั้งเสียงหัวเราะที่ดูซุกซนสมกับเป็นวัยอยากรู้อยากเห็นที่ตัวละครมีอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ตัวละครของนางนั้นมีส่วนรวมกับตัวหนังได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ซึ่งด้วยความที่ธีมของเรื่องนั้นอยู่ที่ 'ความตื่นตาในเทคโนโลยี', การแสดงออกเหล่านี้จึงถือเป็นความดีงามและลงตัวเป็นที่สุด อีกทั้งหลายๆฉากที่เคซี่กับแฟรงค์ปะทะคารมกันทีไรก็ยังคู่คี่สูสีลงตัวกันอย่างปฏิเสธไม่ได้
ถึงแม้สาวน้อยจะเด่นโดดเหนือใครไปแล้ว แต่ตัวละครรุ่นเก๋าอย่าง Frank Walker (George Clooney) ก็ยังไว้ลายให้เราได้ชื่นชมเป็นระยะๆ ถึงแม้จะน่าเสียดายว่าบทบาทป๋าแกจะไปค่อยหลากหลายเท่าไหร่ (เพราะเสียความเด่นให้วัยเด็กไปเสียมาก) แต่เมื่อจับคู่กับคู่นางอย่าง Athena (Raffey Cassidy) ก็ให้ความรู้สึกเคมีลงตัวกันอย่างแปลกๆ .. ถึงแม้อายุอานามจะห่างกันไกลลิบแต่ฉากไดอะลอคทั้งหลายของทั้งคู่ก็ดูเข้าขากันมาก
สิ่งที่โดดเด่นของ Tomorrowland ก็คงหนีไม่พ้นการออกแบบฉากที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในโลกอนาคตที่ผู้กำกับสรรหาเอาของเล่นต่างๆมาใส่ไว้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ถึงแม้มันจะไม่ได้ตื่นตาอะไรมากมายก็เถอะ และการเล่นใช้มุมกล้องที่สวยงามก็ช่วยเติมเต็มภาพบนจอได้ (หรืออาจจะเป็นเฉพาะผู้เขียนไปชมในโรง IMAX มาด้วยรึเปล่า?) แต่ส่วนที่น่าเสียคือตัวหนังเองให้ความสำคัญกับ 'คน' ในยุคสมัยต่างๆน้อยมาก (ทั้งอดีต-อนาคต) ซึ่งโดยปกติแล้วจุดเด่นของหนังแนวล้ำยุคทำนองนี้ส่วนหนึ่งก็จะเป็นลักษณะวิถีชีวิตของคนในยุคนั้นหรือแฟชั่นการใช้ชีวิตแบบ Hunger's Game เป็นต้น
.. จุดด้อยหลักๆที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของ Tomorrowland ก็คงเป็น 'การเล่าเรื่อง' ที่ผู้กำกับเลือกใช้, ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเรื่องด้วยอารัมภบทที่ยาวนานเยิ่นเย้อ แถมพยายามสอดแทรกมุกที่มัน 'ไม่ขำ' มาในหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังกินเวลาในการเล่าเรื่องราวในอดีตของทั้งสองตัวละครให้เท่าๆกันอีก ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้หนังกว่า 70% จะวนเวียนอยู่กับที่มาที่ไปของตัวละครจนไม่ได้พาผู้ชมไปไหนไกล .. ซึ่งก็โชคดีที่ได้ตัวละครที่มีเสน่ห์มากอบกู้สถานการณ์ไว้ ไม่งั้นคงจะน่าเบื่อกว่านี้มาก
แต่จุดที่เลวร้ายจริงๆคือพล็อตไคลแม็กซ์ที่มันกิงก่องแก้วมากๆ ผู้เขียนก็ยังแอบสงสัยว่าจะมีวิธีเล่าเรื่องในหนังแบบอื่นที่ดีกว่านี้มั้ย นอกจากการให้ตัวละครมา 'พ่นข้อมูล' ใส่เราตรงๆเหมือนนั่งเลกเชอร์ในห้องเรียนชนิดไม่ต้องตีความต่อหรืออ่านความนัยใดๆ แถมตัวหนังก็ยังอุตส่าห์โยงมาเรื่องภาวะโลกร้อนได้อย่างทุลักทุเลทั้งๆที่มันอาจจะมีความวินาศสันตะโรที่ดู make sense มากกว่านี้ .. ซึ่งในจุดนี้ก็แอบเข้าใจว่ามันเป็นหนังที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น 'หนังเด็ก' ผู้สร้างเลยพยายามจะทำให้มันเรียบง่ายเข้าใจง่ายเข้าไว้ แต่ก็ยังอุตส่าห์ลักลั่นด้วยการใช้ศัพท์แสงที่มันยากๆเข้ามา เรียกได้ว่าเฟลทั้งเด็กและผู้ใหญ่กันเลยแหละ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยก็คงเป็นการ 'แซว' หนังรุ่นพี่เกี่ยวกับวิกฤตการโลกอย่าง Terminator ได้พอหอมปากหอมคอ (ไอ้หุ่นตัวร้ายที่มาตามล่านางเอกนี่ถอดแบบอาโนลด์มาเลย) หรือว่ามุกที่อ้างอิงถึงเอดิสันกับเทสล่าก็เช่นกัน.
"Tomorrowland เป็นหนังเด็กอีกเรื่องที่มีพล็อตใหญ่โตน่าสนใจ แต่ขาดการเล่าเรื่องที่ราบรื่นพอที่จะประคองตัวให้ไปตลอดรอดฝั่งได้ กระนั้นก็นับว่าโชคดีที่ได้นักแสดงที่มีเสน่ห์มาทดแทนจุดด้อยไปได้ อีกทั้งการที่มี climax ที่ดูเล็กจ้อยไม่สมกับเสกลหนังเอาเสียเลย และการสื่อสารที่เข้าไม่ถึงทั้งวัยผู้ใหญ่และวัยเด็ก ก็นับว่าคงเป็นหนังอาถรรพ์ของดิสนี่ย์ ที่ดับเกือบสนิทในช่วงกลางปีนี่เอง"
คะแนนความเห็นส่วนตัว : 7/10
You want to see Tomorrowland? by Kanok Jayz Hunhaboon
ติดตามรีวิวย้อนหลังได้ที่ : https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=1