Sushi Dai @ Tsukiji Fish Market 23 Dec 2014
พามารู้จักร้าน ซูชิขั้นเทพ
รายการนี้เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 20ปี ขึ้นไป
...เมื่อนึกถึงซูชิหรือชาวบ้านเรียกข้าวปั้นแปะหน้า ต้องนึกถึงที่นี่ครับ ร้านซูชิได ที่ตลาดปลาสึกิจิ โตเกียว
...ว่ากันว่า เป็นร้านซูชิที่สดมากกก (เพราะอยู่ที่ตลาดปลา) อร่อยมากกก และเข้าคิวนานมากกก ชีวิตนี้ต้องเอาลิ้นมาสัมผัสก่อนตาย
.
.
...ผมใช้รถไฟฟ้าใต้เมืองสายสีบรอนซ์เงิน มาที่สถานี สึกิจิ ตอนเวลาประมาณตีห้ากว่าๆ สายลมหนาวยามเช้าของปลายเดือนธันวาคม พัดผ่านเข้าช่องบันไดทางขึ้นมาบนถนน ของสถานีสึกิจิ ช่างเย็นยะเยือกดุจดั่งกำลังยืนอยู่ท่ามกลางหิมะก็มิปาน ผมขึ้นมายืนบนถนนเสมือนหนึ่งผู้ซึ่งไม่เคยยลโฉมโลกนี้มาก่อนเลย ทั้งสบสน ผู้คนมากมายที่ยุ่งอยู่กับกิจวัตรประจำวันของพวกเขา ทันใดนั้น ด้านหน้าของผม ก็ปรากฏหญิงรูปโฉมสะคราญนางหนึ่ง นุ่งกายด้วยชุดสีขาวประดับด้วยลายลูกไม้ ชายกระโปรงพลัดปลิวไปตามสายลมเหมันต์ประดุจดั่งกำลังชมดอกไม้งามโน้มเอนไปตามสายลม แต่ท่าทางที่ดูรีบร้อนของนางทำให้ผมคิดขึ้นในใจว่า นางต้องกำลังค้นหาสถานที่สำคัญบริเวณแห่งนี้เป็นแน่แท้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเดินตามสตรีนางนั้นไป โดยไม่ลังเลใจ
....ตึก ตึก ตึก เสียงจังหวะส้นเท้ากระทบพื้นของนางทำให้รู้เลยว่า ต้องรีบเร่งไปให้ถึงก่อนชั่วธูปหมดดอกเป็นแน่ ผมเดินตามสตรีนางนี้เข้ามาในตลาดปลา ในซอยเกือบสุดท้าย ดวงอาทิตย์ยังไม่ปรากฏกายให้พวกเราเห็นแต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ผมก็มาถึงร้านขายข้าวปั้นในตำนาน ผมรู้ทันทีเลยว่าต้องใช่ เพราะจากจำนวนผู้คนที่ฝ่าฟันกับสายลมหนาวมายืนรอหน้าร้าน เรียงเป็นระเบียบแถวยาวจนสุดสายตา ผมจึงตัดสินใจยืนรอต่อหลังสุด ด้วยความปลื้มปีติยินดีจนทำให้ผมลืมสตรีนางนั้น ซึ่งได้อันตรธานหายลับไปกับสายลมเหมันต์นั้นแล้ว
....เด็กหญิงสาวชาวพื้นเมืองหัวเราะเริงร่าท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นยามเช้าก็พอบรรเทาความเหน็บหนาวในการรอคอยลิ้มรสซูชิในตำนานช่วงเหมันตฤดูให้ผ่านพ้นไปได้....
...เวลาสามชั่วยามกับหนึ่งชั่วหม้อข้าวเดือด การรอคอยอันแสนยาวนานได้สิ้นสุดลง ในที่สุดผมก็จะได้ลิ้มรสสุดยอดซูชิในตำนาน ว่ากันว่าเมื่อได้สัมผัสที่ลิ้น ประหนึ่งได้จุมพิตยอดประทุมถันของลิ้มเซียนยี้ หญิงงดงามหยาดเยิ้มราวเทพธิดาจำแลงลงมา
...บรรยากาศในร้านอันแสนอบอุ่น การตกแต่งประดับประดาที่เรียบง่ายเสมือนกับไม่เคยทอดทิ้งความเป็นพื้นเมืองของชาวโตเกียวไปเลย
..วัตถุดิบอันสดใหม่ ถูกบรรจงคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า ราวกับว่ายังมีลมหายใจที่สั่นระรัวแฝงอยู่
...ชาร้อน... หญิงชราชาวพื้นเมืองยกมาให้ได้ลิ้มรสถึงชาเขียวแท้ที่ถูกคัดสรรปรุงแต่งมาอย่างลงตัว เพื่อทำให้ร่างกายที่ทนกับความหนาวจากด้านนอกได้อบอุ่นลง
....ชายหนุ่มใจดีสามคน ในมือมีข้าวเหนียวพื้นเมืองปั้นเป็นลักษณะรี พอดีคำ ละเมียดหยิบชิ้นเนื้อปลาที่หั่นเตรียมไว้แล้ว บรรจงวางลงบนข้าวปั้นนั้น ชิ้นเนื้อปลาที่ยังสดใหม่เหมือนมีชีวิต ประหนึ่งว่ากำลังจะกระโดดลงมาจากข้าวปั้นนั้น ก็มิปาน
..."โดโสะ" ชายผู้หนึ่งเอ่ยปากพร้อมกับวางซูชิในตำนาน ไว้ตรงหน้าผม ข้าวปั้นที่แน่นเหนียว เมล็ดข้าวเรียวสะสวย ชิ้นเนื้อปลาที่เฉือนมาได้สัดส่วนโค้งเว้วเข้ากับรูปร่างลักษณะรีของข้าวปั้น สอดแทรกด้วยวาซาบิที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ตัดกับความหวานของเนื้อปลา ทำให้ผมนึกถึงความงามและท่าทางอันเย้ายวนชวนหลงใหลแต่แฝงด้วยความอำมหิตของสตรีนางหนึ่งนามว่า ลี้มกโช้ว (ปรากฏในนิยายของกิมย้ง) เลือดร้อนของชายฉกรรจ์ไม่สามารถควบคุมได้ จนอยากที่จะสัมผัสความรู้สึกนั้นแต่โดยไว
............หลังจากได้ลิ้มรส......... ความรู้สึกของผมขณะนั้นเหมือนได้เสพเสน่หาอยู่กับหญิงงามปานเทพธิดา เคล้าคลึงแนบเนื้ออันนุ่มละมุน ประกอบกลิ่นกายอันหอมหวนราวดอกไม้พึ่งแย้มผลิบาน คลุกเคล้าไปกับเสียงครางครวญอันสั่นระรัวของนาง และหลับตาลงแนบกายจนผ่านพ้นเหมันตทิวากาล............................................> <
จบ.
ปล.ขออภัยหากผิดพลาดประการใดและรูปไม่สวย(ผมเป็นวิศวกรเคยจับแต่ประแจกับค้อน)
[CR] sushi dai @ tokyo
พามารู้จักร้าน ซูชิขั้นเทพ
รายการนี้เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 20ปี ขึ้นไป
...เมื่อนึกถึงซูชิหรือชาวบ้านเรียกข้าวปั้นแปะหน้า ต้องนึกถึงที่นี่ครับ ร้านซูชิได ที่ตลาดปลาสึกิจิ โตเกียว
...ว่ากันว่า เป็นร้านซูชิที่สดมากกก (เพราะอยู่ที่ตลาดปลา) อร่อยมากกก และเข้าคิวนานมากกก ชีวิตนี้ต้องเอาลิ้นมาสัมผัสก่อนตาย
.
.
...ผมใช้รถไฟฟ้าใต้เมืองสายสีบรอนซ์เงิน มาที่สถานี สึกิจิ ตอนเวลาประมาณตีห้ากว่าๆ สายลมหนาวยามเช้าของปลายเดือนธันวาคม พัดผ่านเข้าช่องบันไดทางขึ้นมาบนถนน ของสถานีสึกิจิ ช่างเย็นยะเยือกดุจดั่งกำลังยืนอยู่ท่ามกลางหิมะก็มิปาน ผมขึ้นมายืนบนถนนเสมือนหนึ่งผู้ซึ่งไม่เคยยลโฉมโลกนี้มาก่อนเลย ทั้งสบสน ผู้คนมากมายที่ยุ่งอยู่กับกิจวัตรประจำวันของพวกเขา ทันใดนั้น ด้านหน้าของผม ก็ปรากฏหญิงรูปโฉมสะคราญนางหนึ่ง นุ่งกายด้วยชุดสีขาวประดับด้วยลายลูกไม้ ชายกระโปรงพลัดปลิวไปตามสายลมเหมันต์ประดุจดั่งกำลังชมดอกไม้งามโน้มเอนไปตามสายลม แต่ท่าทางที่ดูรีบร้อนของนางทำให้ผมคิดขึ้นในใจว่า นางต้องกำลังค้นหาสถานที่สำคัญบริเวณแห่งนี้เป็นแน่แท้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเดินตามสตรีนางนั้นไป โดยไม่ลังเลใจ
....ตึก ตึก ตึก เสียงจังหวะส้นเท้ากระทบพื้นของนางทำให้รู้เลยว่า ต้องรีบเร่งไปให้ถึงก่อนชั่วธูปหมดดอกเป็นแน่ ผมเดินตามสตรีนางนี้เข้ามาในตลาดปลา ในซอยเกือบสุดท้าย ดวงอาทิตย์ยังไม่ปรากฏกายให้พวกเราเห็นแต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ผมก็มาถึงร้านขายข้าวปั้นในตำนาน ผมรู้ทันทีเลยว่าต้องใช่ เพราะจากจำนวนผู้คนที่ฝ่าฟันกับสายลมหนาวมายืนรอหน้าร้าน เรียงเป็นระเบียบแถวยาวจนสุดสายตา ผมจึงตัดสินใจยืนรอต่อหลังสุด ด้วยความปลื้มปีติยินดีจนทำให้ผมลืมสตรีนางนั้น ซึ่งได้อันตรธานหายลับไปกับสายลมเหมันต์นั้นแล้ว
....เด็กหญิงสาวชาวพื้นเมืองหัวเราะเริงร่าท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นยามเช้าก็พอบรรเทาความเหน็บหนาวในการรอคอยลิ้มรสซูชิในตำนานช่วงเหมันตฤดูให้ผ่านพ้นไปได้....
...เวลาสามชั่วยามกับหนึ่งชั่วหม้อข้าวเดือด การรอคอยอันแสนยาวนานได้สิ้นสุดลง ในที่สุดผมก็จะได้ลิ้มรสสุดยอดซูชิในตำนาน ว่ากันว่าเมื่อได้สัมผัสที่ลิ้น ประหนึ่งได้จุมพิตยอดประทุมถันของลิ้มเซียนยี้ หญิงงดงามหยาดเยิ้มราวเทพธิดาจำแลงลงมา
...บรรยากาศในร้านอันแสนอบอุ่น การตกแต่งประดับประดาที่เรียบง่ายเสมือนกับไม่เคยทอดทิ้งความเป็นพื้นเมืองของชาวโตเกียวไปเลย
..วัตถุดิบอันสดใหม่ ถูกบรรจงคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า ราวกับว่ายังมีลมหายใจที่สั่นระรัวแฝงอยู่
...ชาร้อน... หญิงชราชาวพื้นเมืองยกมาให้ได้ลิ้มรสถึงชาเขียวแท้ที่ถูกคัดสรรปรุงแต่งมาอย่างลงตัว เพื่อทำให้ร่างกายที่ทนกับความหนาวจากด้านนอกได้อบอุ่นลง
....ชายหนุ่มใจดีสามคน ในมือมีข้าวเหนียวพื้นเมืองปั้นเป็นลักษณะรี พอดีคำ ละเมียดหยิบชิ้นเนื้อปลาที่หั่นเตรียมไว้แล้ว บรรจงวางลงบนข้าวปั้นนั้น ชิ้นเนื้อปลาที่ยังสดใหม่เหมือนมีชีวิต ประหนึ่งว่ากำลังจะกระโดดลงมาจากข้าวปั้นนั้น ก็มิปาน
..."โดโสะ" ชายผู้หนึ่งเอ่ยปากพร้อมกับวางซูชิในตำนาน ไว้ตรงหน้าผม ข้าวปั้นที่แน่นเหนียว เมล็ดข้าวเรียวสะสวย ชิ้นเนื้อปลาที่เฉือนมาได้สัดส่วนโค้งเว้วเข้ากับรูปร่างลักษณะรีของข้าวปั้น สอดแทรกด้วยวาซาบิที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ตัดกับความหวานของเนื้อปลา ทำให้ผมนึกถึงความงามและท่าทางอันเย้ายวนชวนหลงใหลแต่แฝงด้วยความอำมหิตของสตรีนางหนึ่งนามว่า ลี้มกโช้ว (ปรากฏในนิยายของกิมย้ง) เลือดร้อนของชายฉกรรจ์ไม่สามารถควบคุมได้ จนอยากที่จะสัมผัสความรู้สึกนั้นแต่โดยไว
............หลังจากได้ลิ้มรส......... ความรู้สึกของผมขณะนั้นเหมือนได้เสพเสน่หาอยู่กับหญิงงามปานเทพธิดา เคล้าคลึงแนบเนื้ออันนุ่มละมุน ประกอบกลิ่นกายอันหอมหวนราวดอกไม้พึ่งแย้มผลิบาน คลุกเคล้าไปกับเสียงครางครวญอันสั่นระรัวของนาง และหลับตาลงแนบกายจนผ่านพ้นเหมันตทิวากาล............................................> <
จบ.
ปล.ขออภัยหากผิดพลาดประการใดและรูปไม่สวย(ผมเป็นวิศวกรเคยจับแต่ประแจกับค้อน)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น