หะดีษ เล่าจากอะบีอัดดัรดาอ์(ร.ด.)ว่าท่านนบี(ซ.ล.)ได้กล่าวว่า "ในวันกิยามะห์ จะไม่มีสื่งใดมีน้ำหนักบนตาชั่งของผู้ศรัทธายิ่งกว่าความมีมารยาทที่ดีงาม และแท้จริงอัลลอฮ.ทรงกริ้วโกรธคนที่หยาบคายและพูดคำหยาบคาย" ติรมีซี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้มีมารยาทที่ดีงามเถิดเพราะในวันพิพากษานั้นมารยาทที่ดีงามจะเป็นตัวเพิ่มน้ำหนักบนตาชั่งด้านความดี และการมีมารยาทที่ดีจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของอิสลามสามารถเผยแพร่ออกไปให้ผู้อื่นเห็นได้โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย ดังนั้นน้ำหนักในผลบุญแห่งความดีจึงมีมาก ส่วนที่นบีสอนให้หลีกห่างเลย ก็คือเรื่องของความหยาบคายทั้งคำพูดและการกระทำ มันเป็นตัวทำลายภาพลักษณ์ที่ดีงามของอิสลาม และที่สำคัญในวันพิพากษานั้นความหยาบคายจะทำให้ขาดทุนอย่างมากเพราะอัลลอฮ.นั้นทรงรังเกียจและกริ้วโกรธผู้ที่หยาบคายหรือผู้ชอบพูดคำหยาบคาย ดังนั้นพวกเราจะต้องออกห่างในพฤติกรรมที่หยาบคาย และคำพูดที่หยาบคาย เพราะมันจะทำให้เราพบกับหายนะในวันพิพากษาน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.
"ในวันกิยามะห์ จะไม่มีสื่งใดมีน้ำหนักบนตาชั่งของผู้ศรัทธายิ่งกว่าความมีมารยาทที่ดีงาม และแท้จริงอัลลอฮ.ทรงกริ้วโกรธคนที่
หะดีษ เล่าจากอะบีอัดดัรดาอ์(ร.ด.)ว่าท่านนบี(ซ.ล.)ได้กล่าวว่า "ในวันกิยามะห์ จะไม่มีสื่งใดมีน้ำหนักบนตาชั่งของผู้ศรัทธายิ่งกว่าความมีมารยาทที่ดีงาม และแท้จริงอัลลอฮ.ทรงกริ้วโกรธคนที่หยาบคายและพูดคำหยาบคาย" ติรมีซี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้มีมารยาทที่ดีงามเถิดเพราะในวันพิพากษานั้นมารยาทที่ดีงามจะเป็นตัวเพิ่มน้ำหนักบนตาชั่งด้านความดี และการมีมารยาทที่ดีจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของอิสลามสามารถเผยแพร่ออกไปให้ผู้อื่นเห็นได้โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย ดังนั้นน้ำหนักในผลบุญแห่งความดีจึงมีมาก ส่วนที่นบีสอนให้หลีกห่างเลย ก็คือเรื่องของความหยาบคายทั้งคำพูดและการกระทำ มันเป็นตัวทำลายภาพลักษณ์ที่ดีงามของอิสลาม และที่สำคัญในวันพิพากษานั้นความหยาบคายจะทำให้ขาดทุนอย่างมากเพราะอัลลอฮ.นั้นทรงรังเกียจและกริ้วโกรธผู้ที่หยาบคายหรือผู้ชอบพูดคำหยาบคาย ดังนั้นพวกเราจะต้องออกห่างในพฤติกรรมที่หยาบคาย และคำพูดที่หยาบคาย เพราะมันจะทำให้เราพบกับหายนะในวันพิพากษาน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.