งานนี้ เจพีหม้อแก มีเอี่ยวอีกแล้ว
รัฐบาลสหรัฐสั่งปรับสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก 5 แห่ง รวมกันเกือบ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากความผิดฐานสมคบคิดกันปั่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐกับเงินยูโรในตลาดโลก วันพฤหัสที่ 21 พฤษภาคม 2558 เวลา 8:36 น. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่านางลอเรตตา ลินช์ รมว.กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แถลงเรื่องการสั่งปรับสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก 5 แห่ง ได้แก่ บาร์เคลย์ส เจพีมอร์แกน เชส ซิตีกรุ๊ป ยูบีเอส และรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ รวมกันสูงถึง 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 192,090 ล้านบาท ) ในจำนวนนี้เป็นการเรียกเก็บจากธนาคารบาร์เคลย์สมากที่สุด 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 80,880 ล้านบาท ) จากความผิดร่วมกันในข้อหาละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดและการกีดกันทางการค้า ขณะที่ธนาคารยูบีเอส สถาบันการเงินรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ชำระค่าปรับป็นเงิน 203 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6,841 ล้านบาท ) ฐานเจตนาตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ใช้ในการอ้างอิง ทั้งนี้ บทลงโทษดังกล่าวถือเป็นการสั่งปรับเงินต่อสถาบันการเงิน ซึ่งกระทำความผิดในคดีอาญาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ โดยเป็นการบรรลุข้อตกลงยอมความนอกศาลระหว่างผู้บริหารของธนาคารทั้ง 5 แห่ง ร่วมกับรัฐบาลสหรัฐ อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำการสืบสวนร่วมกันและพบว่า ระหว่างปี 2551-2555 ธนาคารทั้ง 5 แห่งสมคบคิดกับตรึงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับสกุลเงินยูโร โดยการปั่นราคาเพื่อเก็งกำไรเกิดขึ้นเกือบทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาที ก่อนและหลังเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลอนดอน นอกจากนี้ รัฐบาลวอชิงตันยังลงโทษแบงก์ ออฟ อเมริกา ด้วยการสั่งปรับเป็นเงินมูลค่า 205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6,908.5 ล้านบาท ) ฐานเจตนาปั่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสกุลอื่น“
อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/foreign/322657
สหรัฐปรับอ่วม 5 แบงก์ใหญ่ปั่นอัตราแลกเปลี่ยน
รัฐบาลสหรัฐสั่งปรับสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก 5 แห่ง รวมกันเกือบ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากความผิดฐานสมคบคิดกันปั่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐกับเงินยูโรในตลาดโลก วันพฤหัสที่ 21 พฤษภาคม 2558 เวลา 8:36 น. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่านางลอเรตตา ลินช์ รมว.กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แถลงเรื่องการสั่งปรับสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก 5 แห่ง ได้แก่ บาร์เคลย์ส เจพีมอร์แกน เชส ซิตีกรุ๊ป ยูบีเอส และรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ รวมกันสูงถึง 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 192,090 ล้านบาท ) ในจำนวนนี้เป็นการเรียกเก็บจากธนาคารบาร์เคลย์สมากที่สุด 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 80,880 ล้านบาท ) จากความผิดร่วมกันในข้อหาละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดและการกีดกันทางการค้า ขณะที่ธนาคารยูบีเอส สถาบันการเงินรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ชำระค่าปรับป็นเงิน 203 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6,841 ล้านบาท ) ฐานเจตนาตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ใช้ในการอ้างอิง ทั้งนี้ บทลงโทษดังกล่าวถือเป็นการสั่งปรับเงินต่อสถาบันการเงิน ซึ่งกระทำความผิดในคดีอาญาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ โดยเป็นการบรรลุข้อตกลงยอมความนอกศาลระหว่างผู้บริหารของธนาคารทั้ง 5 แห่ง ร่วมกับรัฐบาลสหรัฐ อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำการสืบสวนร่วมกันและพบว่า ระหว่างปี 2551-2555 ธนาคารทั้ง 5 แห่งสมคบคิดกับตรึงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับสกุลเงินยูโร โดยการปั่นราคาเพื่อเก็งกำไรเกิดขึ้นเกือบทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาที ก่อนและหลังเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลอนดอน นอกจากนี้ รัฐบาลวอชิงตันยังลงโทษแบงก์ ออฟ อเมริกา ด้วยการสั่งปรับเป็นเงินมูลค่า 205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6,908.5 ล้านบาท ) ฐานเจตนาปั่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสกุลอื่น“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/322657