ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/33657392/
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/33665166/



ตอนที่ 3 ปี 201-210

เล่าปี่มุ่งสู่เกงจิ๋ว ปะทุสงครามแดนใต้ ซุนกวนผงาดที่กังตั๋ง จิวยี่คว้าชัยที่เซ็กเพ็ก

ค.ศ. 201
- เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย และจูล่งก็ได้มาพบกัน แล้วพากันอพยพลงใต้ไปพึ่งพิง เล่าเปี่ยว แห่งแคว้นเกงจิ๋ว ซึ่งเป็นแคว้นขนาดใหญ่ทางภาคกลางและภาคใต้ โดยทางเล่าเปียวจึงให้เล่าปี่พักอยู่ที่เมืองซินเอี๋ย หัวเมืองทางเหนือของแคว้น
- อ้วนเสี้ยวพ่ายศึกต่อโจโฉที่กัวต๋อ จึงถอนกำลังกลับไปสู่แคว้นกิจิ๋วทางตอนเหนือและมีอาการล้มป่วยลง ฝ่ายโจโฉรุกข้ามแม่น้ำฮวงโหยึดเมืองเย่ของอ้วนเสี้ยวได้ พร้อมรวมกำลังรุกแดนเหนือต่อไป
- ซุนกวนครองกังตั๋งต่อจากพี่ชาย โดยมีจิวยี่เป็นผู้ดูแลด้านกองทัพ และเตียวเจียวดูแลด้านกิจการภายใน

ค.ศ. 202
- อ้วนเสี้ยวป่วยอยู่ที่กิจิ๋วอยู่นานจนเสียชีวิตลงโดยที่ยังไม่ได้แต่งตั้งให้บุตรชายคนใดสืบทอดงานต่อ ตอนนั้นอ้วนเสี้ยวมีบุตรชายสามคน ด้วยเหตุนี้ทั้งสามคนจึงแก่งแย่งกันเพื่อเป็นใหญ่
- เกียงอุย ผู้ที่ภายหลังได้เป็นทายาททางการทหารของขงเบ้ง เกิดปีนี้

ค.ศ. 203
- อ้วนถำบุตรชายคนโตแตกคอกับน้องชาย จึงมาขอสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ การทำศึกรุกไล่ทางเหนือของโจโฉไม่ได้รวดเร็วเร่งรีบนักเพราะต้องคอยบริหารบ้านเมืองภายใต้อำนาจของพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปด้วย
- ซุนกวนออกศึกครั้งแรกด้วยการยกทัพบุกเมืองกังแฮ หัวเมืองเกงจิ๋ว ที่ซึ่งหองจอ ผู้สังหารบิดาคอยเฝ้าอยู่ ผลการรบของซุนกวนไม่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งขุนศึกเล่งโฉยังถูกแม่ทัพกำเหลงของฝ่ายหองจอฆ่าตายอีกด้วย
- จูกัดเก๊ก บุตรชายของจูกัดกิ๋น พี่ชายของขงเบ้งที่ทำงานเป็นขุนนางในกังตั๋ง เกิดปีนี้

ค.ศ. 204
- โจโฉประกาศงดเว้นเก็บภาษีในอาณาเขตแถบลุ่มแม่น้ำฮวงโห เพราะเป็นสมรภูมิรบกับอ้วนเสี้ยวมานาน ทำให้ได้ใจปวงประชาอย่างมาก
- อ้วนฮี อ้วนซง ลูกชายคนรองกับคนเล็กของอ้วนเสี้ยว ยกทัพมารบกับโจโฉแต่ก็พ่ายแพ้อย่างง่ายดายอีก จึงแตกทัพหนีข้ามเขตกำแพงเมืองจีนไปพึ่งพิงพวกวูหวน ซึ่งเป็นชนเผ่านอกด่าน

ค.ศ. 205
- อ้วนถำหักหลังโจโฉและจัดทัพมารบ แต่ก็พ่ายแพ้และถูกประหารชีวิต ได้ไปพบพ่อก่อนน้องชายที่หนีไปแล้ว
- โจโฉบุกเข้ายึดกิจิ๋วได้สำเร็จ โจผีบุตรชายได้ทางเอียนซี อดีตภรรยาของอ้วนฮีมาเป็นภรรยาของตน โดยโจผีนั้นมีกาเซี่ยงเป็นที่ปรึกษาคู่กาย

ค.ศ. 206
- โจโฉยกทัพรุกคืบข้ามกำแพงเมืองจีนบุกดินแดนของเผ่าวูหวน โดยมีเตียวเลี้ยวและกุยแกนำกำลังทัพหลัก เป็นการรบที่ยืดเยื้อและยาวนานมากด้วยภูมิประเทศอันแห้งแล้งทุรกันดาร

ค.ศ. 207
- ทัพโจโฉรบชนะเผ่าวูหวนได้สำเร็จ สองพี่น้องตระกูลอ้วนหนีไปพึ่งพิงกองซุนของทางตะวันออกเฉียงเหนืออีก
- จากการตรากตรำในสนามรบที่ทุรกันดาร กุยแกเสนาธิการเอกจึงล้มป่วยหนักและเสียชีวิต ท่ามกลางความเสียใจของทุก ๆ คนเพราะกุยแกมีอายุเพียง 37 ปีเท่านั้น ถือเป็นการจากไปก่อนวัยอันควรอย่างมาก
- แต่ก่อนตายกุยแกได้วางแผนให้โจโฉทำทีไม่ต้องรุกไล่สองพี่น้องตระกูลอ้วน เพราะสุดท้ายแล้วกองซุนของจะระแวงและด้วยความที่ไม่อยากเป็นศัตรูกับโจโฉ จะสังหารสองพี่น้องตระกูลอ้วนแล้วสวามิภักดิ์ต่อโจโฉเอง ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ตระกูลอ้วนจึงถึงกาลอวสานลง ณ ที่นี้
- อีกคำแนะนำหนึ่งที่กุยแกมอบให้โจโฉก่อนตายคือ บัณฑิตสาวซัวบุ้นกีที่ตกเป็นชายาของหัวหน้าเผ่าซยงหนูที่นอกด่าน ควรให้โจโฉส่งทรัพย์สินไปไถ่ตัวนางกลับมาด้วย โจโฉรู้จักนางดีว่าเป็นยอดกวีหญิงที่มีฝีมือ จึงตัดสินใจทำตามทันที
- กล่าวถึงเล่าปี่ที่อยู่เกงจิ๋ว ได้ยินชื่อเสียงของขงเบ้ง จากซินแสสุมาเต๊กโช และชีซีเพื่อนร่วมสำนัก เขาจึงได้ไปชักชวนขงเบ้งมาร่วมงานจากการเข้าพบสามครั้งที่ดอยหลงจงและได้คุยถูกคอกันเรื่องอุดมการณ์แผ่นดิน
- ในวรรณกรรมได้แต่งเรื่องเพิ่มให้ขงเบ้งเผาทัพแฮหัวตุ้นของฝ่ายโจโฉที่ทุ่งพกบ๋อง และไขน้ำท่วมทัพโจหยินที่แปะโห เพื่อให้ขงเบ้งได้แสดงฝีมือวางอุบายสงคราม แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
- เล่าเสี้ยน หรือ อาเต๊า ลูกชายคนสำคัญของเล่าปี่ที่ภายหลังได้เป็นฮ่องเต้แห่งจ๊กก๊ก เกิดปีนี้

ค.ศ. 208
- ซุนกวนยกทัพบุกกังแฮอีกครั้ง คราวนี้กำเหลงทหารเอกของหองจอกลับแปรพักตร์มาเป็นกำลังของซุนกวนแทน เนื่องจากโดนดูถูกติดต่อกันมานาน เนื่องจากกำเหลงเคยเป็นโจรสลัดมาก่อนจึงถือว่ามีปูมหลังที่ไม่ดี ด้วยเหตุนี้ทัพซุนกวนจึงเอากำจัดหองจอ ล้างแค้นให้บิดาได้สำเร็จ
- ในเวลานั้น เล่ากี๋บุตรชายคนโตของเล่าเปียวจึงขอนำกำลังทหารไปกอบกู้สถานการณ์กังแฮ เมื่อยกทัพไปถึงก็ปรากฏข่าวว่าเล่าเปียวเสียชีวิตแล้ว และอำนาจเบ็ดเสร็จในเมืองตกเป็นของ เล่าจ๋อง น้องชายต่างมารดา ซึ่งมีชัวมอขุนนางใหญ่เป็นผู้อุ้มชูตำแหน่งนี้ เท่ากับว่าสถานการณ์ในเกงจิ๋วกำลังแตกออกเป็นสองฝ่าย
- โจโฉเตรียมการมุ่งหน้าลงใต้ ช่วงกลางปีได้สั่งประหารชีวิต ขงหยง ทายาทของขงจื๊อซึ่งเป็นขุนนางใหญ่ในราชสำนักข้อหายุยงพระเจ้าเหี้ยนเต้ วีรกรรมครั้งนี้แม้จะเป็นการลงโทษขุนนางเพ็ดทูลตามปกติ แต่ด้วยขงหยงเป็นทายาทของขงจื๊อ จึงทำให้ผู้คนสายหยู (ลัทธิขงจื๊อ) รังเกียจโจโฉอย่างมาก แม้แต่ซุนฮก เสนาธิการคู่ใจของโจโฉตั้งแต่ยุคบุกเบิก ซึ่งตอนนี้ได้เป็นราชเลขาของฮ่องเต้แล้ว ก็ยังแสดงความไม่สบายใจต่อการประหารขงหยงอีกด้วย
- นอกจากนี้ โจโฉยังได้สั่งลงโทษหมอเทวดา ฮัวโต๋ เนื่องจากบ่ายเบี่ยงที่จะทำการรักษาอาการปวดหัวของโจโฉด้วยการอ้างว่าครอบครัวป่วย เมื่อถูกพบว่าเป็นเรื่องโกหก ฮัวโต๋จึงต้องตายในคุกไปอีกคน ในวรรณกรรมยกเหตุการณ์นี้ไปไว้ในปี ค.ศ. 219 และยังมีวีรกรรมได้ไปผ่าแขนขูดพิษให้กวนอูด้วยซึ่งในความเป็นจริงฮัวโต๋เสียชีวิตไปก่อนแล้ว การบ่ายเบี่ยงของฮัวโต๋เชื่อว่ามาจากการที่ตนเองนับถือหยู และต่อต้านโจโฉด้วยนั่นเอง
- การกรีทาทัพลงใต้ของโจโฉดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เมื่อผ่านเกงจิ๋ว ทางฝ่ายเล่าจ๋องก็ยอมจำนนอย่างง่ายดาย ทำให้เล่าปี่ซึ่งต่อต้านโจโฉอยู่นั้นจำต้องหลบหนีผ่านทุ่งเตียงปันแทบเอาชีวิตไม่รอด จูล่งต้องฝ่าทัพโจโฉไปช่วยชีวิตอาเต๊าที่พลัดหลงอยู่กลางสนามรบ และพวกเล่าปี่ก็พากันอพยพข้ามลำน้ำไปพึ่งพิงเล่ากี๋ที่เมืองกังแฮซึ่งห่างไปจากเส้นทางการบุกของโจโฉ
- โจโฉแต่งตั้งให้เล่าจ๋องมีตำแหน่งขุนนางที่ขึ้นตรงต่อราชวงศ์ฮั่นสืบไป ตรงข้ามกับในวรรณกรรมที่แต่งเรื่องให้โจโฉสั่งประหารเล่าจ๋องอย่างเหี้ยมโหด จึงสื่อได้ว่าความจริงแล้วโจโฉมีเมตตาต่อข้าศึกที่ยอมจำนนมากกว่าในวรรณกรรมอย่างมาก
- ชีซีเพื่อนร่วมสำนักของขงเบ้งถูกบีบให้เข้าร่วมฝ่ายโจโฉในช่วงเดียวกัน เพราะมารดาของเขาถูกฝ่ายโจโฉกุมตัวได้ช่วงข้ามทุ่งเตียงปัน ในวรรณกรรมเขียนให้ตัวเขาไปหาโจโฉตั้งแต่ก่อนเล่าปี่ได้พบกับขงเบ้ง
- เล่าปี่ให้ขงเบ้งเดินทางไปกังตั๋งเพื่อขอเป็นพันธมิตรกับซุนกวน ชวนให้ร่วมรับมือการบุกของโจโฉ ซุนกวนจึงปรึกษากับจิวยี่ ซึ่งฝ่ายจิวยี่นั้นคำนวณแล้วสามารถเอาชนะโจโฉได้ ทางซุนกวนจึงตอบรับฝ่ายเล่าปี่และประกาศทำศึกกับโจโฉ
- โจโฉตั้งทัพเรือที่อูหลิม จิวยี่ตั้งทัพที่เซ็กเพ็ก เกิดการปะทะกันดุเดือด แต่ปัจจัยหลักของความเสียเปรียบของทัพโจโฉมาจากโรคระบาดร้ายแรงที่ฝั่งอูหลิม ทำให้เสียกำลังรบไปมาก ฝ่ายจิวยี่จึงใช้แผนเผาทัพเรือได้สำเร็จ โจโฉจึงต้องถอยทัพกลับเกงจิ๋ว ในวรรณกรรมเขียนให้ขงเบ้งมีส่วนร่วมกับการวางแผนทำลายทัพโจโฉอย่างซับซ้อนหลายครั้ง แต่ไม่เป็นความจริง การรบและวางแผนทั้งหมดเป็นผลงานของจิวยี่เพียงฝ่ายเดียว ความเป็นจริงแล้วขงเบ้งไม่ได้อยู่ที่แนวรบในเซ็กเพ็กเลยแม้แต่น้อย
- ในวรรณกรรมได้แต่งเติมการจัดทัพลอบโจมตีโจโฉขณะถอยทัพโดยฝ่ายเล่าปี่อีกด้วย ซึ่งมีฉากที่กวนอูทดแทนบุญคุณโจโฉที่ดูแลเมื่อตอนรบกับอ้วนเสี้ยวด้วยการปล่อยให้โจโฉรอดไปได้ ทำให้ได้รับการยกย่องว่ากวนอูมีความกตัญญูและซื้อสัตย์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด
- ในปีนี้ ซัวบุ้นกี้ กวีหญิงที่โจโฉไถ่ตัวกลับมาจากนอกด่านเดินทางถึงเมืองหลวง โจโฉจัดแจงให้นางได้มีครอบครัวใหม่ ใช้ชีวิตอย่างสงบ ผลงานกวีของหญิงผู้นี้ได้ตกทอดมาถึงปัจจุบัน มีมูลค่าทางวรรณกรรมจีนอย่างยิ่ง
- ในปีเดียวกันนี้ สุมาอี้ บัณฑิตหนุ่มที่แกล้งป่วยบ่ายเบี่ยงการเข้าทำงานกับโจโฉมาตลอดหลายปี จำต้องเข้ารับราชการกับโจโฉ ด้วยเพราะฝ่ายโจโฉออกคำสั่งให้มารายงานตัวอย่างเด็ดขาด คนผู้นี้ในเวลาต่อไปจะฉายแววเป็นยอดเสนาธิการและแม่ทัพคนสำคัญอีกผู้หนึ่งของยุคนี้
- สุมาสู บุตรชายคนโตของสุมาอี้ เกิดในปีนี้เช่นกัน

ค.ศ. 209
- โจโฉถอนกำลังกลับเมืองหลวง โดยให้เตียวเลี้ยวคุมกำลังที่เมืองหับป๋า หัวเมืองสำคัญทางตะวันออก และให้ขุนพลคนอื่น ๆ ดูแลเมืองเกงจิ๋วต่อไป
- จิวยี่ยกทัพตีชิงแคว้นเกงจิ๋วได้สำเร็จ ฝ่ายเล่าปี่เจรจาขอให้สิทธิ์การเป็นพันธมิตรในการใช้เกงจิ๋วเป็นที่พักพิงชั่วคราว ฝ่ายจิวยี่ไม่ยอม แต่ซุนกวนอยากรักษาสภาพพันธมิตรไว้ต่อจึงตกลงข้อเสนอนี้ ในวรรณกรรมเขียนให้ผลงานยึดเกงจิ๋วเป็นอุบายของขงเบ้งซึ่งไม่เป็นความจริง
- ฝ่ายเล่าปี่ได้ขุนพลในเกงจิ๋วเพิ่มมาสองคน คือฮองตง กับ อุยเอี๋ยน ฮองตงเป็น
- ซุนกวนยกน้องสาวให้แต่งงานกับเล่าปี่เพื่อเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน ในวรรณกรรมแต่งเติมให้เป็นเหตุทางการเมืองและมีการวางแผนจะลอบสังหารเล่าปี่ด้วยแต่ล้มเหลว
- บังทองเพื่อนร่วมสำนักเล่าปี่ถูกปลดออกจากราชการในกังตั๋ง โลซกขุนนางของซุนกวนจึงแนะนำให้เขาไปทำงานกับเล่าปี่ ขงเบ้งทราบว่าเพื่อนร่วมสำนักมาสมัครงานจึงแนะนำด้วยเช่นกัน เล่าปี่จึงรับบังทองเป็นที่ปรึกษาอีกคนหนึ่ง

ค.ศ. 210
- โจโฉกลับแดนเหนือแล้วก็ใช้เมืองเย่ หัวเมืองใหญ่ของอ้วนเสี้ยวแต่เดิมเป็นฐานทัพใหม่ของตน ด้วยการสร้างปราสาทนกยูงสำริดขนาดมหึมาให้ครอบครัวและคนสนิทอยู่อาศัยอย่างเป็นสุข เพราะเมืองนี้ไม่อยู่ติดชายแดนอาณาเขตด้านใดเลย
- ฝ่ายเล่าปี่อ้างกับซุนกวนว่าจะคืนแคว้นเกงจิ๋วให้เมื่อชิงเมืองเสฉวนทางตะวันตกมาเป็นฐานกำลังใหม่ได้เสียก่อน แต่เวลาผ่านมาร่วมปีแล้วเล่าปี่ยังไม่แสดงท่าทีจะยกทัพไปเสียที จิวยี่จึงตัดสินใจขอซุนกวนยกทัพขยายดินแดนต่อไปยังเสฉวนด้วยตัวเองทั้งที่กำลังป่วยอยู่
- อาการป่วยจิวยี่ทรุดหนักลงจนเสียชีวิตในช่วงปลายปี ฝากฝังให้โลซกสืบทอดตำแหน่งต่อ จิวยี่นี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ เพราะเขาเพิ่งมีอายุเพียง 35 ปีเท่านั้น ด้วยความสามารถแล้วหากมีชีวิตยืนยาวก็จะเป็นกำลังสำคัญให้กับซุนกวนได้อีกมากมาย ในวรรณกรรมเขียนให้จิวยี่ริษยาและพยายามทำลายขงเบ้ง จึงเสียรู้จนต้องกระอักเลือดตาย ซึ่งไม่เป็นความจริงและเป็นการดูหมิ่นเกียรติประวัติของจิวยี่ตัวจริงอย่างมาก

ติดตามต่อตอน 4 นะครับ
https://www.facebook.com/threekingdomhappyfamily