หรือจะพลาดจากคุณอันใหญ่ ..

คนมีศาสนา กับ คนถือ(แบก)ศาสนา ไม่เหมือนกันนะ
คนมีศาสนา จะน้อมเอาคำสอนมาปฏิบัติ --> ผลคือ ลดละ
คนถือ(แบก)ศาสนา ชอบฟัง อ่าน --> ผลคือ ติดดี แข่งดี และจะเที่ยวเอากระบองแห่งความดีนี้ไปตีกระบานคนอื่น(สายตา คำพูด กริยา ฯ)
และยังมีอีกพวกคือ อ้างศาสนา --> ผลคือ เบียดเบียน

ดี-เลว อยู่ที่สำนึก ไม่เกี่ยวกับศาสนา

แล้วศาสนาจำเป็นไหม
ถ้าแค่อาศัยอยู่กับโลก --> ไม่จำเป็น
ถ้าอยากเข้าถึงความจริง --> จำเป็น

ทีนี้ไอ้ที่ว่าเข้าถึงความจริงเป็นยังไง .. --> ลองเข้ามาพิสูจน์เถิด(พระศาสดาว่าไว้อย่างนี้)

เบื้องต้น ศรัทธาเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเรายังไม่สามารถรู้ตามพระองค์ได้
เบื้องต่อมา ถ้าเห็นตามพระองค์ได้บ้างแล้ว(ลงมือพิสูจน์ ลงมือปฏิบัติ) ตอนนี้ ศรัทธาไม่จำเป็นแล้ว ..

ทีนี้คนส่วนใหญ่จะหยุดอยู่แค่ศรัทธา เมื่อไม่ได้น้อมนำคำสอนเข้าสู่ใจ(ไม่ได้ปฏิบัติ)ปัญญาก็ไม่เกิด
ศรัทธาที่ขาดปัญญา ก็จะกลายเป็นงมงาย คนที่ไม่รู้จักศาสนา ก็จะว่า พวกนับถือศาสนาก็คือพวกงมงาย

มีแต่คนที่น้อมนำคำสอนมาปฏิบัติจนเห็นความจริงตามได้บ้าง(แม้เพียงเล็กน้อย)
คนกลุ่มนี้เท่านั้น ที่จะรู้และเข้าใจว่า มันยากเพียงไร มันเกิดขึ้นอยากเพียงไร ฯ ที่จะได้พบเจอสิ่งนี้ ..
ธรรมสังเวชที่เกิดกับผู้เห็นความจริง(แม้เพียงเล็กน้อย) .. ก็ได้แต่มอง บุคคลผู้ไม่มีโอกาศ หรือ ตัดโอกาศตัวเอง ด้วยความสงสารเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่