คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
สำหรับผมมองว่าไร้สาระครับ บาปกรรม ความเชื่อ ฯลฯ ผมก็เลิกนับถือศาสนาแล้วเช่นกัน
ใครอยากทำแท้งก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ คนพูดไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตเรา
ส่วนตัวรู้จักรุ่นน้องที่ท้องกับผู้ชายที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ถ้าตอนนั้นตัดสินใจเก็บไว้ก็คงเรียนไม่จบ ต้องมาเลี้ยงลูกเองโดยผู้ชายไม่สนใจ
น้องคนนั้นตัดสินใจทำแท้ง แม้แต่พ่อแม่เข้าก็ไม่รู้ว่าท้อง สุดท้ายเวลาผ่านไป มีแฟนใหม่ เรียนจบป.ตรี ม.ดัง มีงานการที่ดีทำ ไม่เห็นมันจะตกต่ำตรงไหน
ส่วนพวกเบี่ยงประเด็นให้ป้องกันๆ อันนี้รู้ทั้งโลกครับ ถ้าไม่ใช่ควายก็รู้ว่าป้องกันดีที่สุด แต่ในเมื่อท้องแล้ว ก็ต้องตัดสินใจครับ
อธิบายเพิ่มเติม ที่ว่าไร้สาระคือพวกความเชื่อนะครับที่ไร้สาระ แน่นอนว่าการทำแท้งไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่การเก็บเด็กไว้ขณะตนเองไม่พร้อม จะเรียกว่าเป็นเรื่องสาระประโยชน์คงไม่ใช่
ที่มันทำไม่ได้ก็คือกฎหมายมันห้ามครับ เหตุผลง่ายๆแค่นี้เอง เพราะคนออกกฎหมายคิดว่ามันไม่เหมาะสม (ซึ่งบางประเทศก็อาจมองว่าเหมาะสม)
ฆ๋าคนผิดไหม เท่าที่ถูกปลูกฝังมาผิดแน่นอนครับ แต่นิยามของตัวอ่อน 3-5 เดือน นับว่าเป็นมนุษย์หรือไม่อันนี้แล้วแต่มุมมอง สำหรับผมมองว่าเป็นตัวอ่อนของสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์ แต่ยังไม่นับเป็นประชากร จะให้มองว่าเป็นคนสมบูรณ์แบบแล้วก็คงไม่ใช่
บางคนทำแล้วชีวิตตกต่ำ บางคนรุ่งเรือง มันก็แค่เหตุบังเอิญครับ ยังไม่นับว่าถ้าคนที่ตัดสินใจไม่ทำ แล้วเลี้ยงลูกอย่างลำบาก ถ้าย้อนไปตัดสินใจทำในวันนั้น ชีวิตเขาจะดีกว่านี้ไหม?
มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่พวกที่มาห้ามก็ไม่ได้ออกเงินช่วยเลี้ยงลูกซักบาท ฉะนั้นเจ้าตัวควรมีสิทธิ์ตัดสินใจเอง แต่ในเมื่อมันมีกฎหมายและศีลธรรมมากรอง คนที่เกรงกลัวก็อาจไม่ทำ แล้วไปวัดดวงชีวิตเอาข้างหน้า
และย้ำอีกครั้งเรื่องป้องกัน แน่นอนว่ามันดีกว่า จะรณรงค์ลดโอกาสท้องอะไรก็ว่าไป แต่เคสนี้เราคุยกันถึงว่าถ้าพลาดแล้ว การตัดสินใจทำแท้งนั้น มันผิดมากมายแค่ไหน
ใครอยากทำแท้งก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ คนพูดไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตเรา
ส่วนตัวรู้จักรุ่นน้องที่ท้องกับผู้ชายที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ถ้าตอนนั้นตัดสินใจเก็บไว้ก็คงเรียนไม่จบ ต้องมาเลี้ยงลูกเองโดยผู้ชายไม่สนใจ
น้องคนนั้นตัดสินใจทำแท้ง แม้แต่พ่อแม่เข้าก็ไม่รู้ว่าท้อง สุดท้ายเวลาผ่านไป มีแฟนใหม่ เรียนจบป.ตรี ม.ดัง มีงานการที่ดีทำ ไม่เห็นมันจะตกต่ำตรงไหน
ส่วนพวกเบี่ยงประเด็นให้ป้องกันๆ อันนี้รู้ทั้งโลกครับ ถ้าไม่ใช่ควายก็รู้ว่าป้องกันดีที่สุด แต่ในเมื่อท้องแล้ว ก็ต้องตัดสินใจครับ
อธิบายเพิ่มเติม ที่ว่าไร้สาระคือพวกความเชื่อนะครับที่ไร้สาระ แน่นอนว่าการทำแท้งไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่การเก็บเด็กไว้ขณะตนเองไม่พร้อม จะเรียกว่าเป็นเรื่องสาระประโยชน์คงไม่ใช่
ที่มันทำไม่ได้ก็คือกฎหมายมันห้ามครับ เหตุผลง่ายๆแค่นี้เอง เพราะคนออกกฎหมายคิดว่ามันไม่เหมาะสม (ซึ่งบางประเทศก็อาจมองว่าเหมาะสม)
ฆ๋าคนผิดไหม เท่าที่ถูกปลูกฝังมาผิดแน่นอนครับ แต่นิยามของตัวอ่อน 3-5 เดือน นับว่าเป็นมนุษย์หรือไม่อันนี้แล้วแต่มุมมอง สำหรับผมมองว่าเป็นตัวอ่อนของสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์ แต่ยังไม่นับเป็นประชากร จะให้มองว่าเป็นคนสมบูรณ์แบบแล้วก็คงไม่ใช่
บางคนทำแล้วชีวิตตกต่ำ บางคนรุ่งเรือง มันก็แค่เหตุบังเอิญครับ ยังไม่นับว่าถ้าคนที่ตัดสินใจไม่ทำ แล้วเลี้ยงลูกอย่างลำบาก ถ้าย้อนไปตัดสินใจทำในวันนั้น ชีวิตเขาจะดีกว่านี้ไหม?
มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่พวกที่มาห้ามก็ไม่ได้ออกเงินช่วยเลี้ยงลูกซักบาท ฉะนั้นเจ้าตัวควรมีสิทธิ์ตัดสินใจเอง แต่ในเมื่อมันมีกฎหมายและศีลธรรมมากรอง คนที่เกรงกลัวก็อาจไม่ทำ แล้วไปวัดดวงชีวิตเอาข้างหน้า
และย้ำอีกครั้งเรื่องป้องกัน แน่นอนว่ามันดีกว่า จะรณรงค์ลดโอกาสท้องอะไรก็ว่าไป แต่เคสนี้เราคุยกันถึงว่าถ้าพลาดแล้ว การตัดสินใจทำแท้งนั้น มันผิดมากมายแค่ไหน
ความคิดเห็นที่ 24
เราเคยถามครูว่า อสุจิเป็นล้านๆตัวตายทำไมไม่บาป
แต่อสุจิ1ตัว เล็ดรอดมาเข้าไปอยู่ในรังไข่ได้ ถ้าทำให้อสุจิตัวนั้นตาย ทำไมบาปโครตๆๆๆๆๆๆๆ
ครูไม่ตอบแต่ด่าเราว่าถามอะไรโง่ๆ ถ้าคนคิดแบบเธอทั้งโลก คงตกนรกกันหมด
แล้วเราก้ไม่คุยกับครูคนนั้นอีกเลย แต่การตอบกลับของครูครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า อย่าตั้งคำถามกับความเชื่อ
ถ้าอากาศมีจริง ทำไมผีจะไม่มีจริง ไป ไปซื้อหัวหมูกับไข่ต้มมาไหว้ต้นไม้เดี๋ยวนี้ ลบหลู่เดี๋ยวโดนผีดึงหัวหรอก
แต่อสุจิ1ตัว เล็ดรอดมาเข้าไปอยู่ในรังไข่ได้ ถ้าทำให้อสุจิตัวนั้นตาย ทำไมบาปโครตๆๆๆๆๆๆๆ
ครูไม่ตอบแต่ด่าเราว่าถามอะไรโง่ๆ ถ้าคนคิดแบบเธอทั้งโลก คงตกนรกกันหมด
แล้วเราก้ไม่คุยกับครูคนนั้นอีกเลย แต่การตอบกลับของครูครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า อย่าตั้งคำถามกับความเชื่อ
ถ้าอากาศมีจริง ทำไมผีจะไม่มีจริง ไป ไปซื้อหัวหมูกับไข่ต้มมาไหว้ต้นไม้เดี๋ยวนี้ ลบหลู่เดี๋ยวโดนผีดึงหัวหรอก
ความคิดเห็นที่ 44
เราอาจจะมาช้าไป จขกท อาจจะไม่ได้กลับมาอ่านนะคะ
ในฐานะที่เราผ่านเรื่องทำนองนี้มาเเล้ว
เราเอาลูกไว้ค่ะ เพราะอะไร ? จะชี้เเจงดังนี้ค่ะ เหตุผลเราบางข้ออาจเป็นนามธรรมไปสักหน่อยนะคะ
1. เราเป็นสัตว์โลกค่ะ เเละเรายังไม่เคยเห็นสัตว์โลก(ที่ปกติ)ชนิดใด ที่ฆ่าลูกของตัวเองได้ ดังนั้นเราจึงไม่ทำ
2. เราไม่ได้คิดว่าการเลี้ยงเด็กต้องมีเงินมากมาย เพราะเห็นได้จากปัจจุบันที่สังคมเป็นสังคมวัตถุนิยม คนไม่ได้ดีไปกว่าเดิมค่ะ
3. เราคิดว่าโดยธรรมชาติของสัตว์ทุกชนิด รวมไปถึงคน ไม่มีใครเลือกได้ ว่าจะไม่ให้คนนั้นคนนี้เกิดขึ้นมา
การสืบพันธุ์ การมีลูกเป็นเรื่องธรรมชาติ เพียงเเต่ 50 ปี ให้หลัง พอมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
มนุษย์ก็คิดว่าตัวเองดีเลิศ สามารถกำหนดได้ว่าใครจะได้เกิด ใครจะไม่ได้เกิด
4. เรารักลูกมากกว่าตัวเอง เเละเราไม่ได้คิดว่า การมีลูกจะทำให้เราไม่มีอนาคต หรือเป็นขยะสังคม เพราะคนทุกคนมีค่าในตัวเองทั้งนั้น
จขกท หรือท่านอื่น อาจจะคิดว่าเราโลกสวย มีปัจจัยพร้อม จะไปรู้เรื่องได้ไง
คนอื่นเขาลำบากมากกว่า เดือดร้อนมากกว่า เหตุผลทำเเท้งของเขาดีกว่าเรา
เราจะไม่ตัดสินคนอื่นนะคะ เขาจะทำอะไรเรื่องของเขา เป็นทางเดินทางเลือกของเขา ชีวิตเขา ไม่ใช่ชีวิตเรา
เพียงเเต่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราตอนท้อง มีเรื่องราวดังนี้
1. เลิกกับเเฟนเเล้ว เเฟนกำลังจะเเต่งงาน ดังนั้นเราเป็นซิงเกิลมัมตั้งเเต่รู้ว่าท้องค่ะ
(รู้ตัวช้าด้วยส่วนหนึ่ง เพราะประจำเดือนที่มาบ้างไม่มาบ้าง หายไปเป็นปีเลยก็มี เรารู้ตัวว่าท้องตอน 5 เดือนค่ะ)
ครอบครัวอื่นเขาไปตรวจครรภ์กันเป็นคู่ เราไปคนเดียวตลอด เเม้กระทั่งคลอด
2. กำลังจะได้งานที่เงินเดือนดีมาก ได้ใช้ชีวิตในต่างประเทศ เเต่ไปตรวจร่างกายก็รู้ว่าท้อง เลยไม่ได้งานนั้น
(ตอนท้องจนกระทั่งคลอด กลายเป็นคนตกงาน ยังดีที่พอมีเงินเก็บบ้าง)
3. พ่อแม่เเละญาติ ไม่มีใครอยากให้เอาไว้ค่ะ มีเเต่คนบอกให้ไปทำเเท้ง
4. งานเดิมที่เคยทำ เเม้รายได้ดีเเค่ไหน ก็ทำต่อไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่งานสุจริต ไม่อยากให้ลูกโตมาอยู่ในสังคมนั้น
ทุกวันนี้ลูกเรา 6 ขวบ หน้าที่การงานเราไม่ถือว่าดีมาก เเต่อยู่ได้
เลี้ยงลูกทุกวันมีความสุขค่ะ ไม่ได้ใช้เงินเยอะ ไม่ได้ส่งให้เรียนโรงเรียนที่ดีมากมาย
เเต่เราเชื่อว่าเราสามารถเลี้ยงเขาให้เป็นคนดีได้เเน่ๆ
เราไม่ได้บอกว่าเราเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้เเก่ตัวเอง
เเต่เราเลือกทางเดินที่เราจะไม่เสียใจกับมัน มันเป็นทางที่เราอยากเดินไปมากที่สุด
เราจะไม่บอกว่าทำเเท้งบาป ทำเเท้งมันคือการฆ่าคน เพราะเราเชื่อว่าทุกคนต่างมีเหตุผลของตนเอง
เราเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้ เเต่เรามีความคิดเห็นของเรา ที่ไม่ไปตัดสินใคร เเม้จะไม่เห็นด้วย เเต่ก็เคารพการตัดสินใจของเขา
เท่านี้เราว่า มันก็คือสังคมที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งเเล้วนะคะ
ปล. ขอมาอีดิทเพิ่มนะคะ
เราคบเเฟนมา 4 ปี เรารู้เรื่องการคุมกำเนิดอย่างดี ตอนที่เราท้อง เราฉีดยาคุม เเละใส่ถุงยางค่ะ
ดังนั้นจะบอกว่า เพราะเราไม่รู้จักคุมกำเนิด มันเป็นไปไม่ได้เเน่
เเต่การคุมกำเนิดทุกวิธีนั้น ไม่มีวิธีไหนที่ได้ผล 100% ค่ะ อันนี้ถามคุณหมอมาเเล้ว
ในฐานะที่เราผ่านเรื่องทำนองนี้มาเเล้ว
เราเอาลูกไว้ค่ะ เพราะอะไร ? จะชี้เเจงดังนี้ค่ะ เหตุผลเราบางข้ออาจเป็นนามธรรมไปสักหน่อยนะคะ
1. เราเป็นสัตว์โลกค่ะ เเละเรายังไม่เคยเห็นสัตว์โลก(ที่ปกติ)ชนิดใด ที่ฆ่าลูกของตัวเองได้ ดังนั้นเราจึงไม่ทำ
2. เราไม่ได้คิดว่าการเลี้ยงเด็กต้องมีเงินมากมาย เพราะเห็นได้จากปัจจุบันที่สังคมเป็นสังคมวัตถุนิยม คนไม่ได้ดีไปกว่าเดิมค่ะ
3. เราคิดว่าโดยธรรมชาติของสัตว์ทุกชนิด รวมไปถึงคน ไม่มีใครเลือกได้ ว่าจะไม่ให้คนนั้นคนนี้เกิดขึ้นมา
การสืบพันธุ์ การมีลูกเป็นเรื่องธรรมชาติ เพียงเเต่ 50 ปี ให้หลัง พอมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
มนุษย์ก็คิดว่าตัวเองดีเลิศ สามารถกำหนดได้ว่าใครจะได้เกิด ใครจะไม่ได้เกิด
4. เรารักลูกมากกว่าตัวเอง เเละเราไม่ได้คิดว่า การมีลูกจะทำให้เราไม่มีอนาคต หรือเป็นขยะสังคม เพราะคนทุกคนมีค่าในตัวเองทั้งนั้น
จขกท หรือท่านอื่น อาจจะคิดว่าเราโลกสวย มีปัจจัยพร้อม จะไปรู้เรื่องได้ไง
คนอื่นเขาลำบากมากกว่า เดือดร้อนมากกว่า เหตุผลทำเเท้งของเขาดีกว่าเรา
เราจะไม่ตัดสินคนอื่นนะคะ เขาจะทำอะไรเรื่องของเขา เป็นทางเดินทางเลือกของเขา ชีวิตเขา ไม่ใช่ชีวิตเรา
เพียงเเต่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราตอนท้อง มีเรื่องราวดังนี้
1. เลิกกับเเฟนเเล้ว เเฟนกำลังจะเเต่งงาน ดังนั้นเราเป็นซิงเกิลมัมตั้งเเต่รู้ว่าท้องค่ะ
(รู้ตัวช้าด้วยส่วนหนึ่ง เพราะประจำเดือนที่มาบ้างไม่มาบ้าง หายไปเป็นปีเลยก็มี เรารู้ตัวว่าท้องตอน 5 เดือนค่ะ)
ครอบครัวอื่นเขาไปตรวจครรภ์กันเป็นคู่ เราไปคนเดียวตลอด เเม้กระทั่งคลอด
2. กำลังจะได้งานที่เงินเดือนดีมาก ได้ใช้ชีวิตในต่างประเทศ เเต่ไปตรวจร่างกายก็รู้ว่าท้อง เลยไม่ได้งานนั้น
(ตอนท้องจนกระทั่งคลอด กลายเป็นคนตกงาน ยังดีที่พอมีเงินเก็บบ้าง)
3. พ่อแม่เเละญาติ ไม่มีใครอยากให้เอาไว้ค่ะ มีเเต่คนบอกให้ไปทำเเท้ง
4. งานเดิมที่เคยทำ เเม้รายได้ดีเเค่ไหน ก็ทำต่อไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่งานสุจริต ไม่อยากให้ลูกโตมาอยู่ในสังคมนั้น
ทุกวันนี้ลูกเรา 6 ขวบ หน้าที่การงานเราไม่ถือว่าดีมาก เเต่อยู่ได้
เลี้ยงลูกทุกวันมีความสุขค่ะ ไม่ได้ใช้เงินเยอะ ไม่ได้ส่งให้เรียนโรงเรียนที่ดีมากมาย
เเต่เราเชื่อว่าเราสามารถเลี้ยงเขาให้เป็นคนดีได้เเน่ๆ
เราไม่ได้บอกว่าเราเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้เเก่ตัวเอง
เเต่เราเลือกทางเดินที่เราจะไม่เสียใจกับมัน มันเป็นทางที่เราอยากเดินไปมากที่สุด
เราจะไม่บอกว่าทำเเท้งบาป ทำเเท้งมันคือการฆ่าคน เพราะเราเชื่อว่าทุกคนต่างมีเหตุผลของตนเอง
เราเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้ เเต่เรามีความคิดเห็นของเรา ที่ไม่ไปตัดสินใคร เเม้จะไม่เห็นด้วย เเต่ก็เคารพการตัดสินใจของเขา
เท่านี้เราว่า มันก็คือสังคมที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งเเล้วนะคะ
ปล. ขอมาอีดิทเพิ่มนะคะ
เราคบเเฟนมา 4 ปี เรารู้เรื่องการคุมกำเนิดอย่างดี ตอนที่เราท้อง เราฉีดยาคุม เเละใส่ถุงยางค่ะ
ดังนั้นจะบอกว่า เพราะเราไม่รู้จักคุมกำเนิด มันเป็นไปไม่ได้เเน่
เเต่การคุมกำเนิดทุกวิธีนั้น ไม่มีวิธีไหนที่ได้ผล 100% ค่ะ อันนี้ถามคุณหมอมาเเล้ว
ความคิดเห็นที่ 21
เราเป็นผู้หญิงคนนึงที่เห็นด้วยกับการทำแท้งเมื่อไม่พร้อมมีบุตรค่ะ
ส่วนตัว อายุ 22 ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
และมองว่าถ้าคนไม่พร้อม ไม่ว่าจะด้านการเงิน ปัญญาในการเลี้ยงดูบุตร จิตสำนึกของคนเป็นแม่ ฯลฯ
เมื่อเด็กเกิดออกมา ส่วนใหญ่โอกาสในการมีปัญหานั้นเยอะกว่าเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่พร้อม (พ่อแม่มีปัญญาอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี)
เมื่อเด็กมีปัญหา ไปสร้างปัญหาให้สังคม ฉุดให้สังคมต่ำลงอีก ไม่ได้ช่วยยกระดับสังคมแต่อย่างใด
เราจึงมองว่า หากไม่พร้อม ก็อย่ามีลูกค่ะ เลี้ยงเด็กคนนึงไม่ง่ายเลย
ดูจากกระทู้ที่คนมาตั้งว่าเจอเด็กแย่ๆก็ได้ อันนี้พ่อแม่มีเงิน แต่ไม่มีปัญญาอบรมสั่งสอน
ยิ่งถ้าไม่มีเงินด้วย ต้องทำงานงกๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปสั่งสอนลูกคะ
ส่วนใหญ่ที่เราเห็นคนท้องไม่พร้อมแล้วปล่อยให้เด็กเกิดมานี่
เด็กมีปัญหาแทบทุกคน ไม่ได้อยู่กับแม่บ้าง (พ่อทิ้งแม่ไปนานแล้ว) ต้องให้ตายายเลี้ยง
ขาดความอบอุ่น ไปหาอบายมุข สร้างความเดือดร้อน
แต่คนที่ทำแท้งก็ก้าวเดินต่อไปตามปกติ เรียน ทำงาน มีแฟน แต่งงาน ครอบครัวอบอุ่น จึงมีลูก
ส่วนตัว อายุ 22 ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
และมองว่าถ้าคนไม่พร้อม ไม่ว่าจะด้านการเงิน ปัญญาในการเลี้ยงดูบุตร จิตสำนึกของคนเป็นแม่ ฯลฯ
เมื่อเด็กเกิดออกมา ส่วนใหญ่โอกาสในการมีปัญหานั้นเยอะกว่าเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่พร้อม (พ่อแม่มีปัญญาอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี)
เมื่อเด็กมีปัญหา ไปสร้างปัญหาให้สังคม ฉุดให้สังคมต่ำลงอีก ไม่ได้ช่วยยกระดับสังคมแต่อย่างใด
เราจึงมองว่า หากไม่พร้อม ก็อย่ามีลูกค่ะ เลี้ยงเด็กคนนึงไม่ง่ายเลย
ดูจากกระทู้ที่คนมาตั้งว่าเจอเด็กแย่ๆก็ได้ อันนี้พ่อแม่มีเงิน แต่ไม่มีปัญญาอบรมสั่งสอน
ยิ่งถ้าไม่มีเงินด้วย ต้องทำงานงกๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปสั่งสอนลูกคะ
ส่วนใหญ่ที่เราเห็นคนท้องไม่พร้อมแล้วปล่อยให้เด็กเกิดมานี่
เด็กมีปัญหาแทบทุกคน ไม่ได้อยู่กับแม่บ้าง (พ่อทิ้งแม่ไปนานแล้ว) ต้องให้ตายายเลี้ยง
ขาดความอบอุ่น ไปหาอบายมุข สร้างความเดือดร้อน
แต่คนที่ทำแท้งก็ก้าวเดินต่อไปตามปกติ เรียน ทำงาน มีแฟน แต่งงาน ครอบครัวอบอุ่น จึงมีลูก
แสดงความคิดเห็น
(สงสัย)ทำไมถึงทำแท้งไม่ได้คะ
แค่สงสัยน่ะค่ะ ว่าทำไมมีกระทู้ท้องไม่พร้อม จะต้องมีคนบอกว่าห้ามทำแท้งเด็ดขาด มันบาป จะกลายเป็นคนเลว ทำอะไรก็ไม่เจริญ หมามันยังรักลูกเลย
เรื่องบาปไม่บาปเป็นเรื่องของศาสนา ขอไม่กล่าวถึง แต่เรื่องทำอะไรก็ไม่เจริญ อยากรู้ว่ามันเป็นเหตุเป็นผลแค่ไหนค่ะ คือเคยเห็นหรือยังไง หรือแค่ฟังเค้าเล่าต่อๆกันมา(หรือบางที มันอาจเกี่ยวกับเหตุผลทางศาสนา)
คำว่าหมามันยังรักลูกก็เหมือนกัน เราว่าจะให้ผู้หญิงทุกคนที่พึ่งรู้ตัวว่าท้อง มีอาการแค่ประจำเดือนไม่มา รู้สึกรักมันยากน่ะค่ะ
คือนอกจากเหตุผลทางศาสนาแล้ว มันยังมีเหตุผลอื่นๆเหรอคะ เช่น เพื่อมนุษยธรรม ความรับผิดชอบ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ หรือคนที่ตอบแบบนั้น แค่ถูกเลี้ยงมาในสังคมที่ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้ง เลยตอบว่ายังไงก็ห้ามทำ โดยไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากกว่านั้น
คนที่จะทำแท้งน่ะมีเหตุผล(ของตัวเอง)อยู่แล้ว แต่อยากรู้ว่าคนที่ห้ามน่ะ มีเหตุผลอะไรที่เป็นรูปธรรม นอกจากเหตุผลข้างบนมั้ยคะ คือรู้สึกว่ามันควรmake senseกว่านี้ค่ะ
โดยส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าการเลือกว่าจะทำแท้งหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัว แต่รู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่เห็นข่าวผู้หญิงไปทำแท้ง เพราะรู้ว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายแน่ๆ
รู้ก็เพราะ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าตัวเองท้อง คงเก็บไว้มั้งคะ
ไม่ใช่เพราะว่าลูกเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆหรืออะไรหรอก มันแค่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเรา แต่ก็ไม่ดีที่สุดอยู่ดี
17/5/2558 Editเพิ่ม
มีความเห็นว่าเคยคิดแบบจขกท. คือถ้าไม่พร้อม ทำแท้งไปก็จบ เราไม่ได้คิดอย่างนั้นค่ะ หรือจะพูดให้ถูก ไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ คิดแค่ว่าอยากเคารพความรู้สึกและการตัดสินใจของผู้หญิงที่ต้องท้อง(และต้องคลอดถ้าเก็บเด็กไว้)เท่านั้น
คือตอนที่เราไปอยู่ต่างปนะเทศน่ะ ที่นั่นเป็นประเทศที่มีประวัติการทำแท้งมายาวนาน ในสมัยก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแอบๆ แถมศาสนาพุทธของเขาก็ไม่เหมือนเรา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ทำให้เวลามีปัญหาท้องไม่พร้อมขึ้นมา จะมีแต่คนเชียร์ให้ไปทำแท้งค่ะ
แต่คำว่าท้องไม่พร้อมของเขา มันต่างกับไทยมาก แค่โดนผู้ชายทิ้ง เป็นพนักงานจบใหม่ อายสังคม บลาๆก็พอแล้วที่จะทำแท้ง
คือรู้สึกว่า ไม่มีใครให้ความสำคัญกับความรู้สึกผู้หญิงเลย และต่อให้ผู้หญิงไปทำแท้งแล้วเสียใจทีหลัง ก็ไม่มีใครช่วยอยู่ดี
ในทางกลับกัน ในไทยต่อให้ผู้หญิงจะยากจน วุฒิภาวะต่ำ มีลูกมาแล้ว20คน ก็จะมีแต่คนบอกให้เก็บเด็กไว้ ที่เหมือนกันคือไม่มีใครให้ความสำคัญกับความรู้สึกและชีวิตหลังจากนั้นของเจ้าตัวเลย ไม่ได้มาช่วยส่งเสียลูก
เราเลยคิดว่า ในเมื่อไม่ว่าจะเลือกอะไร ก็ไม่มีใครมารับผิดชอบอยู่แล้ว งั้นก็อยากให้เลือกทางที่เจ้าตัวคิดว่าดีที่สุด เราไม่กล้าคิดต่อมากกว่านั้น ไม่กล้าเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปวัดใคร ว่าไม่รับผิดชอบ หรือดีแล้วมีเด็กทั้งที่ไม่พร้อม ไม่สร้างภาระให้สังคม
เพราะคนเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรในอนาคต ได้แต่ตัดสินในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุด ดังนั้นเราจะเคารพการตัดสินใจ ณ ตอนนั้นของเจ้าตัว
เคยถามคนของประเทศนั้นนะคะ ว่าทำไมการที่เพิ่งเรียจบใหม่ หรืออายสังคมเป็นเหตุผลที่ควรทำแท้ง เค้าก็บอกว่าในเมื่อมันจริง ต่อให้คลอดเด็กออกมาก็เป็นทุกข์ทั้งแม่ทั้งลูก แค่คลอดเพราะสงสารน่ะ มันเห็นแก่ตัว[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมต้องเหมารวมขนาดนั้น ยังกับว่าทุกคนจะเป็นแบบนั้น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอกลับไทย ก็ได้เห็นตรรกะแบบตรงข้าม คือถ้าแกทำแท้ง แกไม่เจริญแน่ แกมันฆาตกร
เราเลยอดสงสัยไม่ได้ว่า เป็นไปได้มั้ยว่ามีผู้หญิงส่วนหนึ่งในไทยที่เป็นอย่างตรงข้ามกับผู้หญิงในประเทศที่เราเคยอยู่ กล่าวคือ ทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว ยอมคลอดลูก ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงยังไง รู้แค่ว่าพอไปปรึกษาใคร ก็มีแต่คนบอกให้ทำอย่างนั้น
แล้วก็อยากรู้ว่าคนไทยมีเหตุผลอะไรถึงได้ต่อต้านการทำแท้ง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนตัวแล้ว ถ้ามีคนมาปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม เราคงไม่ออกความเห็นอะไร แต่จะเคารพความเห็นของเค้าค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องที่เค้าต้องแบกรับไป
แต่ถ้าเราสนับสนุนทางเลือกอันใดอันหนึ่ง ก็คงจะมีส่วนรับผิดชอบต่อไปค่ะ(ถ้าเค้าเลือกจะเก็บไว้ จะพยายามsupportตรงนั้น ถ้าทำแท้งแล้วเสียใจ ปวดใจทีหลัง จะคอยรับฟังและปลอบใจ)
***มีบางความเห็นที่เอารูปเด็กที่ถูกทำแท้งมาลง ขอบอกว่าเราเคยเห็นมาหมดแล้วค่ะ เคยเห็นคลิปที่ตัวอ่อนหนีจากอุปกรณ์ทำแท้งด้วยซ้ำ ที่โหดกว่านี้คือ มีกรณีหนึ่งในอเมริกาที่ผู้หญิงทำแท้งทั้งที่อายุครรถ์มากแล้ว ปรากฏว่าเด็กรอดค่ะ ตอนนี้เธอเป็นผู้สนับสนุนpro-lifeคนหนึ่ง เคยดูรายการที่เธอไปออกแล้วก็สงสาร[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ก็เพราะตัวเองก็เข้าใจคนที่ท้องไม่พร้อม แล้วเคยเห็นเหมือนกันว่าการมีลูกตอนไม่พร้อมมันเป็นยังไง เลยได้แต่บอกว่าอยากเคารพการตัดสินใจของเจ้าตัวค่ะ
เอาเป็นว่าเราได้คำตอบแล้วค่ะ สุดท้ายมันก็เป็นเพราะศาสนาแหละ แล้วก็มีความคิดที่ว่าผู้หญิงควรรักนวลสงวนตัวมาเกี่ยวด้วย
ที่เราคิดและศึกษาเกี่ยวกับปัญหาทำแท้งมาก ไม่ใช่เพราะประสบการณ์ที่เกิดกับตัวอย่างเดียว เพราะเราเป็นผู้หญิง และมีโอกาสเจอกับปัญหานี้ไปจนถึงวัยหมดประจำเดือนน่ะค่ะ และหลังจากที่คิดและไตร่ตรองดูแล้ว ก็ได้ข้อสรุปแบบข้างบน
***ส่วนท่านที่เอารูปตัวอ่อนทำแท้งมาใส่ กรุณาใส่spoilด้วย เราน่ะเฉยๆ แต่มันไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน
18/5/2558Editอีกรอบ
มีทั้งคนด่า และคนถามคำถาม จึงขอตอบมา ณ ที่นี้ค่ะ
1.ลองโดนทำแท้งดูเองสิ
ก็ไม่รู้สิคะ ยังไม่เคยโดนทำแท้ง เช่นเดียวกับที่ยังไม่เคยตาย(หรือเคยแต่จำไม่ได้)
แต่ถ้าภพภูมิตามความเชื่อของศาสนามีจริง เราคิดว่าถ้าตัวเองโดนทำแท้ง จะไม่จองเวรต่อพ่อแม่หรอกค่ะ ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะมันเสียเวลา ไปหาพ่อแม่ใหม่ที่พร้อม***(ขออธิบายทีหลังว่ามันคืออะไร)ที่จะดูแลเราดีกว่า
2.ความคิดว่าถ้ามีโดยไม่พร้อม สุดท้ายจะเป็นภาระสังคมของจขกท.น่ารังเกียจ
เราไม่เคยพูดเลยนะคะว่าเด็กที่เกิดมาโดยที่แม่ไม่พร้อมจะเป็นแบบนั้น สงสัยพอมีหลายความเห็นที่เขียนอย่างนั้นเข้า คนอ่านก็ตาลาย คิดว่าเราเขียนอะไรแบบนั้น
เราเข้าใจนะว่ามันมีความเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง กล่าวคือ เด็กที่เกิดมาโดยไม่พร้อมจะโตขึ้นมาเป็นคนดีและปัญหาสังคม การที่พ่อแม่ที่ไม่พร้อมยอมลำบาก หาเงินงกๆเลี้ยงลูก สามารถสร้างได้ทั้งเด็กที่ยากจนและใฝ่ดี หรือเด็กที่พ่อแม่ดูแลไม่เพียงพอ ขาดความอบอุ่นได้ทั้งนั้น
แล้วมันก็เป็นไปได้ว่าเด็กในท้องจะโตมาเป็นนักธุรกิจใหญ่ หมอ ผู้ค้นพบอะไรใหม่ๆ เช่นเดียวกับที่จะโตมาเป็นมหาโจร
ตัวเราเอง เคยเห็นทั้งแบบเริ่มแย่แต่จบดี และเริ่มแย่แถมจบแบบหายนะมาแล้ว
อนาคตเป็นอะไรที่ไม่สามารถหยั่งรู้ได้ค่ะ สิ่งเดียวที่เรารู้คือ ผู้หญิงที่อุ้มท้องอยู่ได้ทำการตัดสินใจ และมันเป็นสิ่งเดียวที่แน่นอนในเวลานั้น แถมมันเป็นชีวิตเค้า แค่นั้นแหละค่ะ
3.แล้วเมื่อไหร่จะพร้อม
ง่ายๆนะคะ เมื่อคนที่ท้องคิดว่าตัวเองพร้อมค่ะ
ถ้าเด็กอายุ18 การศึกษาม.3 ผู้ชายทิ้ง อยากเก็บไว้ เราก็จะสนับสนุนให้ทำอย่างนั้น
ถ้าผู้หญิงอายุ30 ฐานะดี ผู้ชายอยากรับผิดชอบ แต่เจ้าตัวไม่อยากเก็บไว้ ยังอยากทำงานต่อ เราก็ไม่ว่าอะไร
เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ต้องอุ้มท้อง9เดือน รับมือกับอาการแพ้ท้อง เข้าห้องคลอด หาเงินเลี้ยงลูก หรือแอบๆไปทำแท้งมันคือตัวคนที่ท้องไงคะ
ปัญหานี้มันสีเทาจริงๆ ไม่กล้าตัดสินว่าควรไม่ควร
อีกอย่าง พอคนเราได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง สิ่งที่ตามมาคือ ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตามมา
4.ก่อนที่จะเปิดให้มีการทำแท้งเสรี สอนการคุมกำเนิดให้ดีกว่านี้ดีกว่า
เห็นด้วยอย่างมากค่ะ
อันที่จริง เราไม่ได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากให้มีการเปิดให้ทำแท้งเสรี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอกจากสอนการคุมกำเนิด อยากให้มีการปรับปรุงสถานสงเคราะห์เด็กและทัศนคติเกี่ยวกับการรับบุตรบุญธรรมค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5.แล้วไม่คิดถึงปัญหาด้านร่างกายหรือจิตใจที่จะตามมาหลังจากทำแท้งเหรอ
เพราะรู้ว่ามีโอกาสเป็นอย่างนั้น ถึงได้หดหู่ไงคะเวลาได้ยินข่าวหรือเจออะไรเกี่ยวกับการทำแท้ง ยังไงก็มีแต่ผู้หญิงที่ต้องรับตรงนี้ไป
แต่บางคนเค้าก็อาจจนปัญญาจริงๆ เลยยอมรับความเสี่บง
ยังอดคิดไม่ได้ว่าถ้าคนเป็นแบบม้าน้ำก็ดี เพราะผู้ชายก็ต้องช่วยอุ้มท้อง
6.อื่นๆ
จริงๆแล้วจขกท.ท้องใช่ไหม
ไม่ได้ท้องค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีปัญญาไปเรียนถึงเมื่องนอก แต่คิดได้แค่นี้
เรื่องวุฒิการศึกษาของเราเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เอาศีล5มาด่ายังดีซะกว่า
เป็นเพราะจขกท.ไม่มีศาสนา ถึงคิดอะไรโหดร้ายแบบนี้ได้
นี่ก็เรื่องส่วนตัวของเรา
คนเรามีสิทธฺิ์ที่จะนับถือหรือไม่นับถืออะไรเลย เราเองก็ไม่เคยว่าใครว่า การที่เชื่อเรื่องบาปกรรมมันไร้สาระ บ้าบอคอแตก ดังนั้น เคารพสิทธิ์ในความเชื่อของเราด้วย
จะโหดร้ายหรือไม่โหดร้าย มันแล้วแต่มุมมอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
19/5/2558 มีข้อสงสัยค่ะ
มีหลายความเห็นที่บอกว่าพวกที่อยากมีอะไรกันโดยที่ไม่ป้องกันมันมักง่าย ไร้สมอง ควรที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง
และในเมื่อสองคนที่ก่อให้เกิดการท้องเป็นตัวต้นเหตุ ควรรับผิดชอบกันเอง ตรรกะที่ว่าอยากบอกให้เก็บไว้ คุณก็ต้องช่วยเลี้ยงไม่ถูกต้อง
เราสงสัยอย่างหนึ่ง ว่าการที่โยนความรับผิดชอบไปให้คนที่มักง่าย ไร้สมอง อย่างที่หลายคนเรียกแบบนี้เนี่ย มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก เพราะแค่ควบคุมระบบอวัยวะสืบพันธุ์ สองคนนี้ยังทำไม่ได้เลย
ถ้าเป็นเรา เราไม่คิดหรอกว่าพ่อแม่เด็กควรรับผิดชอบอะไรยังไง แต่กลัวเด็กโดนเลี้ยงแบบละเลย หรือโดนทารุณมากกว่า แล้วก็จะไม่ไปกดดันให้สองคนนั่นรับผิดชอบ แต่จะพยายามคิดว่ามีปู่ย่าตายายที่พอจะช่วยดูเด็กมั้ยมากกว่า(ถ้าเค้าไม่เลือกที่จะทำแท้ง) ไม่ก็พยายามหาพ่อแม่บุญธรรมให้ไปเลย
พูดตรงๆนะคะ คนที่มันไม่รับผิดชอบแม้แต่ตัวเอง(ตามนิยามของหลายคน) คิดว่าคงไม่รับผิดชอบเด็กค่ะ ต่อให้สังคมคิดว่าควรทำ