เผาตำราทิ้งเถอะครับ

.....ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเรียนในภาควิชารัฐศาสตร์เล่มหนึ่ง และผมได้หยิบยกเนื้อหาในตำราเล่มนี้บางส่วน เอามาลงให้อ่านกัน ผมสรุปโดยวิจารณญาณของตัวเองว่า “เผาตำราทิ้งเถอะครับ” เพราะสิ่งที่เอาไปสอนนักศึกษาภาควิชารัฐสาสตร์ กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ได้เป็นกับที่เขียนไว้ในตำราเลย เพราะกฏหมายและรัฐธรรมนูญที่ร่างกันอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่ามองจากมุมไหน ก็ไม่เห็นเหมือนที่ตำราบอกว่า ระบอบประชาธิปไตยนั้นอยู่บนรากฐานหลักการสำคัญข้อใดเลย

     ในหนังสือเนื้อหาตอนหนึ่งบอกว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยในปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันโดยสากลทั่วไปว่า ระบอบประชาธิปไตยนั้นอยู่บนรากฐานหลักการสำคัญ ดังนี้

         หลักอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ภายใต้หลักการนี้เป็นการยอมรับว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดในการปกครองรัฐ ประชาชนจะแสดงออกซึ่งการเป็นเจ้าของอำนาจโดยใช้อำนาจเลือกตัวแทนของตนไปทำหน้าที่ใช้อำนาจปกครองโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง การกำหนดตัวผู้ปกครองจึงเป็นอำนาจอธิปไตยของประชาชนไม่ใช่อำนาจอธิปไตยของผู้ปกครอง ดังนั้นการใช้อำนาจขององค์กรของรัฐฝ่ายปกครองจึงถูกกำหนดไว้โดยกฎหมายอย่างชัดแจ้งและส่งผลให้กฎหมายเป็นเครื่องกำหนดการใช้อำนาจของผู้ปกครอง

     แต่ความเป็นจริงปรากฏว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

        หลักเสรีภาพ หลักการนี้มีความสำคัญในรัฐเสรีประชาธิปไตยเป็นอย่างยิ่งจนมีคำกล่าวไว้ว่า “ประเทศใดไม่มีหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนประเทศนั้นไม่มีรัฐธรรมนูญ” ภายใต้หลักการนี้รัฐเสรีประชาธิปไตยต่างยอมรับหลักความอิสระของปัจเจกบุคคลในการพัฒนาบุคลิกภาพของตนได้ตามที่ใจปรารถนา ดังนั้นประชาชนทุกคนย่อมสามารถกระทำการหรืองดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ตนต้องการได้ตราบเท่าที่การกระทำนั้นไม่ละเมิดต่อเสรีภาพของบุคคลอื่นหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะที่รัฐมุ่งประสงค์คุ้มครอง

     แล้วหลักเสรีภาพตอนนี้อยู่ที่ใด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

        หลักความเสมอภาค เป็นหลักการพื้นฐานของรัฐเสรีประชาธิปไตยที่ยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนเมื่อเกิดมาย่อมมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันในฐานะที่เป็นมนุษย์ การยอมรับในสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิดและไม่อาจพรากไปจากความเป็นมนุษย์ได้นั้น เช่น สิทธิในชีวิต ร่างกาย เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการนับถือศาสนา สิทธิเสรีภาพประเภทนี้ไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนจากความเป็นมนุษย์ได้ ในรัฐเสรีประชาธิปไตยจึงถือว่าบุคคลมีความเสมอภาคที่จะได้รับการรับรองและคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

        เสมอภาคตรงไหน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

     หลักเสียงข้างมาก ภายในรัฐเสรีประชาธิปไตยความคิดเห็นเพื่อตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจมีความเห็นที่หลากหลายถือเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งแนวคิดเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนนั้นถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนทุกคนไม่สามารถแยกออกมาเป็นของคนบางส่วนได้ ดังนั้นเพื่อให้การใช้อำนาจปกครองในระบอบประชาธิปไตยสะท้อนต่อผลประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด การตัดสินใจของรัฐจึงต้องถือเอาเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์เพื่อสะท้อนถึงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่
    
     เสียงช้างมากอันใด เมื่อ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

     หลักการปกครองโดยกฎหมาย หรือหลักนิติรัฐ ซึ่งเป็นหลักการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของราษฎรเป็นสำคัญ ภายใต้หลักการนี้หน่วยงานของรัฐฝ่ายปกครองจะใช้อำนาจของตนจำกัดสิทธิเสรีภาพของราษฎรได้ต่อเมื่อมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจจำกัดสิทธิเสรีภาพของราษฎรไว้อย่างชัดแจ้งเท่านั้น หากไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจใดไว้เจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครองย่อมไม่มีอำนาจที่จะกระทำการได้ หลักการปกครองโดยกฎหมายจึงเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของราษฎรให้ได้รับความคุ้มครอง เพราะหากรัฐประสงค์จะจำกัดสิทธิเสรีภาพใดของราษฎร รัฐจะกระทำได้ต่อเมื่อมีกฎหมายออกมาจำกัดสิทธิเสรีภาพเช่นว่านั้นเท่านั้น

         ความหมายของคำว่า “นิติรัฐ”  คือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

    จากที่กล่าวมาข้างต้นพอสรุปได้ว่า สาระสำคัญของนิติรัฐอยู่ที่การประกันสิทธิเสรีภาพของราษฎรจากการใช้อำนาจตามอำเภอใจ ดังนี้
    1.ในรัฐนั้นกฎหมายจะต้องอยู่เหนือสิ่งใดทั้งหมด การกระทำต่างๆ ในทางปกครองต้องเป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากหลักประกันสิทธิและเสรีภาพของราษฎรอยู่ที่กฎหมาย ในความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรของรัฐกับราษฎรนั้น การสั่งการให้ราษฎรกระทำการหรือละเว้นกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด จะกระทำได้ต่อเมื่อมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้อำนาจไว้อย่างชัดแจ้ง และจะต้องใช้อำนาจนั้นภายในกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้

    2.ขอบเขตแห่งอำนาจหน้าที่ของรัฐที่กำหนดไว้ตามกฎหมายจะต้องกำหนดไว้แน่นอน บรรดากฎหมายที่ให้อำนาจแก่องค์กรของรัฐในอันที่จะล่วงล้ำสิทธิและเสรีภาพของราษฎรนั้นจะต้องมีข้อความที่ระบุให้อำนาจนั้นไว้อย่างชัดเจนว่าให้องค์กรของรัฐองค์กรใดมีอำนาจล่วงล้ำสิทธิและเสรีภาพของราษฎรได้ในกรณีใด ภายในขอบเขตอย่างใด  และไม่เกินขอบเขตแห่งความจำเป็นเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์สาธารณะ

         3.การควบคุมมิให้การกระทำขององค์กรของรัฐขัดต่อกฎหมาย ตุลาการผู้ทำหน้าที่ควบคุมจะต้องมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดีจากองค์กรฝ่ายบริหารและองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ  กล่าวคือ ในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมตรวจสอบการกระทำทางปกครองนั้น องค์กรตุลาการไม่จำต้องฟังคำสั่งคำบัญชาจากองค์กรอื่นใด ทั้งนี้ เพื่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างแท้จริง

     นิติรัฐอันใด เมื่อ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

     แล้วเราจะสอนลูกหลานเราไปทำไม ในเมื่อสิ่งที่สอนไม่สามารถปฏิบัติได้จริง

     ผมจึงยืนยันคำเดิมว่า “เผาตำราทิ้งเถอะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20
เหตุการณ์ในบ้านเรานี้เกินตำราที่เคยมีมาจะบรรยายได้เลยครับ

ละเมิดหลักการทุกอย่าง เอาแต่หลักku  คนที่มีหน้าที่ตีความกฎ
หมาย  ก็ตีความกฎหมายแบบไร้ยางอาย  ไม่เกรงกลัวความรู้สึก
ของประชาชน  ถือว่าพวกของตนมีอำนาจนอกระบบคุมบ้านคุม
เมืองอยู่   ดังนั้นตีความกฎหมายไปเลื่อนเปื้อนอย่างไรก็ได้ ให้
ฝ่ายให้พวกของตนได้เปรียบ ทำลายฝ่ายตรงข้าม ทั้งๆที่ขัดต่อ
หลักการยุติธรรม หรือ ทำลายหลักการประชาธิปไตย

สักวันหนึ่ง เมื่อคนพวกนี้หมดอำนาจลง   คงถูกจารึกในตำราที่
จะมีขึ้นในอนาคตว่า จริงๆแล้วคนพวกนี้คือใครและเป็นอย่างไร
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ก้านบัวบอกลึกตื้น             ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน           ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน     ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ    บอกร้ายแสลงดิน

ความยาวของก้านบัว บ่งบอกความลึกของน้ำ
มารยาทชี้ให้เห็นถึง ชาติตระกูล  การอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว
คำพูดโชว์ ความฉลาด หรือโง่ ของผู้พูด หรือพิมพ์
หญ้าที่แห้งโรยรา ส่อถึงความไม่อุดมของดิน
สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล
เสียดายเข้ามาแสดงความเห็นในลำดับที่ 2 ไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่